ตอนที่ 38: การวินิจฉัยและการรักษาจื่อหรู
ที่เรือนขจี ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น เมื่อบางคนมีความสุข ก็ต้องมีบางคนที่ผิดหวังเป็นเรื่องธรรมดา เช่นเฟิงเฟินได
แม้ว่าเฟิงหยูเฮงสัญญากับว่าจะมอบผ้าเช็ดหน้าที่ทำจากสมบัติทั้งห้าให้นางในตอนเช้า แต่นางรู้สึกไม่พอใจ เมื่อเห็นชีวิตของเฟิงหยูเฮงดีขึ้นมากกว่านาง เห็นได้ชัดหลังจากที่องค์ชายเก้ามอบของหมั้นให้ นางรู้สึกไม่มีความสุขมากกว่าเดิม
นอกจากเฟิงเซียงหรูซึ่งเป็นพี่สาวที่อายุใกล้เคียงกับนาง นางยังมีพี่สาวอีก 2 คน คนหนึ่งเป็นถึงบุตรีของฮูหยินใหญ่และเป็นสาวงามที่สุดในเมืองหลวง ส่วนอีกคนเป็นถึงว่าที่พระชายาขององค์ชายเก้า แล้วนางล่ะ?
เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ เอียงคอมองขณะที่นางเฝ้าดูฮันชิแต่งหน้าในห้องของนาง ฮันชิรอเฟิงจินหยวนที่จะมาหา นางโกรธมาก นางวิ่งไปหามารดาและกรีดร้องออกมา "ท่านแม่มัวแต่แต่งหน้าทั้งวัน ทำไมท่านแม่ไม่คิดถึงข้าบ้างเจ้าคะ?"
มือของฮันชิสั่นและหน้าของนางมืดครึ้มลง บุตรสาวของนางเป็นแบบนี้เสมอ นางมักจะสูญเสียการควบคุมอารมณ์ของนางและบินเข้าสู่ความโกรธ นี่ไม่ใช่เรื่องแปลก
ในความเป็นจริงฮันชิเข้าใจ หลังจากที่เฟิงหยูเฮงถูกเรียกกลับมา เฟิงเฟินไดไม่สามารถจัดการนางได้ แต่ถึงแม้ว่านางไม่สามารถจัดการได้ แล้วสิ่งที่ทำได้?
"มารดาของนางก็เป็นเพียงอนุ เจ้าจะให้ข้าคิดแผนการอะไร?"
"มารดาของเฉินหยูเดิมก็เป็นอนุอีกด้วย" เฟิงเฟินไดไม่เคยเข้าใจเรื่องนี้เลย "ทำไมพวกนางจึงสามารถเลื่อนจากอนุเป็นฮูหยินใหญ่ได้ แต่ท่านแม่ไม่สามารถทำได้? ท่านแม่ก็เป็นอนุเช่นกัน ทำไมจึงไม่ได้เลื่อนตำแหน่งล่ะ ข้าถึงยังเป็นเพียงบุตรีของอนุในตระกูลนี้ ?"
"บุตรีของอนุคืออะไร?" ฮันชิเอ่ย ดวงตาของนางแดง "แม้จะเป็นบุตรีของอนุนั้น แต่ก็เป็นลูกหลานของตระกูลเฟิง! ท่านพ่อของเจ้าเป็นเสนาบดีฝ่ายซ้าย แม้ว่าเจ้าจะเป็นบุตรีของอนุ ก็ไม่มีใครกล้าที่จะทำร้ายเจ้า?"
"แต่ก็ยังไม่มีใครปฏิบัติดี ๆ กับข้า!" เฟิงเฟินไดนั่งอยู่บนเก้าอี้ด้วยความโกรธ แล้วก็โกรธฮันชิด้วย "เป็นไปได้หรือไม่ว่าท่านแม่ไม่รู้จักทัศนคติของฮูหยินผู้เฒ่าที่มีต่อข้า? เป็นไปได้หรือไม่ที่ท่านแม่ไม่รู้ว่าฮูหยินใหญ่ไม่ห่วงใยข้าหรือเซียงหรูเลย เป็นไปได้หรือไม่ที่ท่านแม่ไม่รู้ว่าเฉินหยูนั้นเหมือนจะเป็นคนดี แต่จริง ๆ นางมีจิตใจที่ชั่วร้ายและโหดเหี้ยม?"
ฮันชิรีบเดินไปปิดปากของเฟิงเฟินไดอย่างรวดเร็วด้วยความกลัว "เจ้าพูดอะไร? จะต้องให้ข้าบอกเจ้าสักกี่ครั้ง ทุกคนสามารถถูกว่าร้ายได้นอกจากพี่สาวคนโตของเจ้า เจ้าต้องการที่จะเอาชนะพวกนางจริง ๆ! "
"พวกเขาดีทุกอย่าง! แล้วข้าควรทำอย่างไร? ข้าควรทำอย่างไร?" เฟินไดเริ่มกรีดร้อง "ข้าก็มีทุกอย่างเหมือนที่เฟิงหยูเฮงมี ! ท่านแม่สามารถหาสามีเช่นนี้ให้ข้าได้หรือไม่ "
ฮันชิทำอะไรไม่ได้ "เจ้าอายุเท่าไหร่? อายุของเจ้ายังไม่ถึงวัยที่เราจะพูดเรื่องแต่งงาน"
"เมื่อข้าถึงวัย แล้วจะมีใครล่ะ?" ดวงตาของเฟิงเฟินไดแดงก่ำ "ทุกวันนี้ท่านแม่เอาแต่แต่งหน้า ทำสวย และเกาะแจอยู่กับท่านพ่อ แล้วผลที่ได้คืออะไร ถ้าท่านแม่ให้กำเนิดบุตรชายได้ ตอนแรกมีเพียงพี่ชายที่ไร้ความสามารถ แต่ตอนนี้จื่อหรูกลับมาแล้ว เราจะเหลือความหวังอะไรได้อีกเจ้าคะ!"
ในที่สุดคำพูดของเฟิงเฟินไดก็ทำให้ฮันชิเงียบ นางเอามือลูบที่ท้องของนางเบา ๆ น้ำตาที่ไหลออกมาเลอะเครื่องสำอางที่ทาอยู่บนหน้า
บุตรชาย? ไม่ใช่ว่านางไม่ต้องการบุตรชาย แต่ในคฤหาสน์นี้ถ้าเฉินซื่อมีบุตรชายอยู่แล้ว สำหรับนางและอันชิ ไม่มีใครอยากมีบุตรชาย
เมื่อปีที่แล้วที่นางตั้งครรภ์ นางดื่มยาบำรุงและจบลงด้วยการแท้งบุตร หมอบอกว่าทารกในครรภ์เป็นเพศชาย หลังจากนั้นนางค้นพบความลับที่ว่าหมอที่ดูแลนางเป็นคนที่เฉินซื่อซื้อตัวให้ นางพูดเรื่องนี้กับเฟิงจินหยวนแล้วแต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น หลังจากนั้นเฟิงจินหยวนได้รับมอบหยกซึ่งถูกค้นพบโดยน้องชายของเฉินซื่อ
เฉินซื่อมีสิ่งของให้เฟิงจินหยวน แต่สำหรับฮันชิ นางไม่มีอะไรนอกจากความงามที่ร่วงโรยลงไปทุกวัน
ในคืนนั้น ตระกูลเฟิงมีหลายคนที่นอนไม่หลับ เฟิงเฟินไดไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ แต่เฉินซื่อก็ไม่ได้ดีกว่านางสักเท่าไหร่
ของขวัญที่องค์ชายเก้ามอบให้ นางไม่ได้ครอบครองเลยสักชิ้น ทำให้นางรู้สึกไม่สบายใจ
เฟิงเฉินหยูที่นั่งข้าง ๆ คอยเกลี้ยกล่อมนาง แต่ขณะที่นางพูด นางไม่รู้สึกตัวเองว่าอยากปรองดองกัน "ถ้าเป็นอย่างอื่นก็คงจะดี แต่คิดถึงสมบัติทั้งห้านี้..."
เฉินซื่อจะไม่เข้าใจความหมายคำพูดของเฟิงเฉินหยูได้อย่างไร นางถอนหายใจ "เฉินหยูลูกรักของข้า เจ้าเป็นสาวงามที่สุดในเมืองหลวง สมบัติทั้งห้าต้องอยู่กับเจ้าเพื่อแสดงให้เห็นถึงคุณค่าที่แท้จริงของพวกมัน"
เฉินหยูถอนหายใจเบา ๆ "แต่ในอนาคตนางจะเป็นพระชายาขององค์ชายเก้า ซึ่งเป็นองค์ชายที่ฮ่องเต้ทรงโปรดปรานมากที่สุด"
"องค์ชายเก้างั้นหรือ?" เฉินซื่อถาม "ไม่ใช่ว่าเจ้าไม่รู้จัก ท่านพ่อของเจ้าต้องการที่จะส่งผ่านการแต่งงานนี้ให้กับเจ้า แต่ไม่ได้คาดหวังว่าองค์ชายเก้าจะได้รับบาดเจ็บ องค์ชายที่ไม่มีความหวังในการให้กำเนิดทายาทก็ไม่มีความหวังที่จะได้ครองบัลลังก์ ไม่ว่าเฟิงหยูเฮงจะเป็นใคร เจ้าไม่จำเป็นต้องให้ความสำคัญ ถึงอย่างไรนางก็ต้องคำนับเจ้าในอนาคตอยู่แล้ว"
ใบหน้าของเฉินหยูหงุดหงิดและกล่าว "ท่านแม่"
แต่แล้วเฉินซื่อก็ทำให้เฟิงเฉินหยูยิ้มแย้มแจ่มใส นางจับมือของเฉินหยูและกล่าวว่า "เมื่อเจ้าแต่งงาน ในอนาคตก็จะเป็นฮองเฮา"
"แต่พวกเขายังต้องการที่จะแต่งงานกับข้าหรือไม่? เพราะข้าเป็นเพียงบุตรีคนต่อมาของฮูหยินใหญ่"
"ใครกล้าที่จะพูดว่าเจ้าเป็นบุตรีคนต่อมาของฮูหยินใหญ่ ?" เฉินซื่อพ่นลมหายใจหยาบและพูดลอดไรฟันว่า "ไม่ว่าอย่างไร เฟิงหยูเฮงยังต้องพึ่งพาตระกูลสำหรับการแต่งงานใช่หรือไม่? หลายสิ่งหลายอย่างอาจเกิดขึ้นได้ในช่วง 3 ปี ไม่ต้องห่วง ผ้าพวกนั้นจะตกเป็นของเจ้าไม่ช้าก็เร็ว และมีเพียงเจ้าเท่านั้นที่เหมาะกับการสวมใส่สิ่งของราคาแพงเหล่านั้น"
ความเฉลียวฉลาดของเฟิงเฉินหยูไม่เปลี่ยน แต่ดวงตาของนางเปล่งประกาย
…
เรือนขจี
เฟิงหยูเฮงนอนหลับสนิทมาก แต่ก็ได้ยินเสียงเคาะประตูเบา ๆ นางก็ตื่นขึ้นมาทันที นางได้ยินเสียงเรียกออกมาอย่างรีบร้อน "คุณหนูรอง ตื่นเจ้าค่ะ?"
นางขมวดคิ้วและใจสั่น นางรู้ว่าต้องมีบางอย่างต้องเกิดขึ้น นางตอบอย่างรวดเร็วว่า "ข้าตื่นแล้ว"
วังซวนเข้ามาและเริ่มพูด "คุณหนูรองไปดูคุณชายน้อยเจ้าค่ะ คุณชายน้อยป่วย"
เฟิงหยูเฮงรู้สึกประหลาดใจ เขาดูสบายดีก่อนเข้านอน เขาเล่นรอบ ๆ เรือนกับหวงซวนก่อนเข้านอน จู่ ๆ เขาจะป่วยได้อย่างไร?
ขณะที่เฟิงหยูเฮงเดินตามวังซวนไปที่ห้องของเฟิงจื่อหรู นางก็ไม่ได้มีเวลาเปลี่ยนเสื้อผ้านาน นางคว้าเสื้อและหยิบมันขึ้นมาสวม
เมื่อพวกนางมาถึง ใบหน้าของเด็กชายตัวน้อยขาวซีด เขานอนอยู่และอาเจียนตลอด เหยาซื่อนั่งอยู่ข้าง ๆ นางร้องไห้ไม่หยุด แม่นมซันคอยลูบหลังให้เฟิงจื่อหรู แต่ไม่มีสัญญาณอะไรดีขึ้นมา
เมื่อเห็นเฟิงหยูเฮงมาถึง หวงซวนพูดกับเฟิงหยูเฮงในขณะที่ถืออ่างไว้ "คุณชายน้อยป่วยหลังจากที่นอนได้ไม่นาน เดิมทีวังซวนกับข้าอยู่ที่สวน เมื่อแม่นมซันออกมาเรียกพวกข้า นางบอกว่าคุณชายน้อยจื่อหรูไม่สบาย และพาเราเข้าไปข้างใน ตอนนั้นคุณชายน้อยอาเจียนออกมาเยอะมากเจ้าค่ะ "
แม่นมซันเสริมว่า "คุณชายน้อยมีอาการท้องเสียก่อนนอนเจ้าค่ะ"
เฟิงหยูเฮงพยักหน้าและนั่งลงข้างเตียง นางเอื้อมมือไปที่ข้อมือของเขาและก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก "ไม่เป็นไรมากเจ้าค่ะ"
เหยาซื่อโล่งใจเมื่อเฟิงหยูเฮงพูดแบบนั้น จากนั้นนางก็ถามว่า "แล้วจื่อหรูป่วยเป็นอะไร?"
เฟิงหยูเฮงยิ้มอย่างขมขื่นพลางกล่าวว่า "เราใช้ชีวิตอยู่บนภูเขาและไม่เคยแตะต้องน้ำมัน เมื่อคืนวานทุกอย่างมันเยิ้ม และจื่อหรูไม่เคยกินอะไรแบบนี้มาตั้งแต่เล็กจนถึงตอนนี้ การที่ร่างกายมีการตอบสนองเช่นนี้เป็นปกติ"
เหย้าซื่องงงวย "แล้วทำไมเราถึงไม่เป็นล่ะ? เมื่อเราอยู่บนภูเขา เรายังไม่กินน้ำมัน?"
เฟิงหยูเฮงช่วยดูแลเฟิงจื่อหรู ขณะที่อธิบายให้เหยาซื่อ "แต่เราเคยกินมันก่อนหน้านี้ในขณะที่เราอยู่ตระกูลเฟิง! เมื่อเราออกจากเมืองหลวง จื่อหรูอายุแค่ 3 ขวบ จื่อหรูไม่ได้ทานบ่อย"
เหย้าซื่อเข้าใจในที่สุด "แล้วเราต้องเรียกหมอหรือไม่?"
หยูเฮงจับมือนางไว้ "ไม่จำเป็น เดี่ยวจะเดือดร้อนทั้งตระกูล ถ้าเขายังไม่ดีขึ้นในตอนเช้า เราค่อยเรียกหมอมาเจ้าค่ะ"
เหยาซื่อเชื่อเฟิงหยูเฟิงจริง ๆ นางเชื่ออย่างแท้จริงว่าเฟิงหยูเฮงชอบไปขลุกอยู่กับท่านตาของนาง ดังนั้นนางจึงได้วินิจฉัยโรคเป็นเรื่องปกติ
"แม่นมซันช่วยพาท่านแม่กลับไปพักผ่อน" เฟิงหยูเฮงต้องให้คนออกไปก่อน "หวงซวนไปทำงานต่อที่ลานเถอะ วังซวนไปต้มน้ำให้ข้าหน่อย"
แม้ว่าเหยาซื่อไม่ต้องการออกไป แต่มองไปที่แววตาของเฟิงหยูเฮง นางก็พยักหน้าและเดินออกไปพร้อมกับแม่นมซัน นางรู้ว่าบุตรีโตแล้วและอยากจะทำอะไรหลายอย่างด้วยตัวนางเอง ในเมื่อเป็นเช่นนั้น นางก็จะช่วยเหลือบุตรีของนาง
เมื่อเห็นทุกคนออกไป เฟิงหยูเฮงกดเบา ๆ ที่ข้อมือของเฟิงจื่อหรู เฟิงจื่อหรูไม่สนใจนาง นางเข้าไปที่ร้านขายยาของนาง นางมองไปรอบ ๆ เพื่อหายา และนางเจอยา เม็ดยาปฏิชีวนะบางตัวที่ใช้สำหรับเด็กเพื่อรักษาปัญหาในลำไส้
ปล่อยเด็กชายไว้บนเตียง นางลุกขึ้นยืนและเดินไปที่โต๊ะ เทยาบางส่วนลงในถ้วยชา นางเก็บกระเป๋าไว้ในร้านขายยา
ไม่นานหลังจากนั้น วังซวนได้นำน้ำที่ต้มมา นางเทน้ำใส่ถ้วยยาและส่งให้จื่อหรูดื่มหลังจากที่น้ำร้อนน้อยลง
วังซวนมองถ้วยยาและสูดดม นางรู้ว่ามันไม่ได้มีกลิ่นขม และพบว่ามันมีกลิ่นหอมหวาน ๆ นางอยากจะถามว่าเป็นยาชนิดใดและคุณหนูรองมีมันได้อย่างไร แต่นางระลึกถึงสิ่งที่องค์ชายเก้าได้ให้คำแนะนำแก่ตัวนางเองไว้ว่า "อย่าสอบถามรายละเอียดในเรื่องของคุณหนูรองตระกูลเฟิง ไม่ว่านางจะทำอะไรเพียงแค่สังเกตก็พอแล้ว ห้ามถามมากเกินไป ห้ามไม่ให้พูดถึงสิ่งที่นางทำกับคนอื่น ๆ " วังซวนเก็บความอยากรู้อยากเห็นของนางและช่วยเฟิงหยูเฮงดูแลเฟิงจื่อหรูต่อ
เฟิงจื่อหรูดื่มยาและหลังจากนั้นไม่นานก็หยุดอาเจียน ไม่นานหลังจากนั้นการหายใจของเขาก็มั่นคงขึ้นในขณะที่เขาหลับไป
วังซวนลอบถอนใจเมื่อเห็นการทำงานของยา
เฟิงหยูเฮงเห็นว่าวังซวนไม่ได้ถาม นางจึงไม่อธิบาย นอกเหนือจากนี้ ในอนาคตนางจะต้องใกล้ชิดกับเจ้านายของตัวเอง หากนางอยากรู้อยากเห็นทุกอย่างและต้องคอยอธิบายทุกอย่างให้นางรู้ เฟิงหยูเฮงกังวลว่านางอาจบ้า
เรื่องของเรือนขจี ทำให้พวกเขาต้องเตรียมรับมือทั้งคืน เช้าวันรุ่งขึ้นข่าวอาการป่วยของเฟิงจื่อหรูก็ไปถึงหูของเฉินซื่อ
เฟิงหยูเฮงเห็นม่านซีแอบมอง นางรู้เช่นกัน ว่าเป็นแม่นมซันที่ลุกขึ้นแต่เช้าเพื่อกระจายข่าว นางไม่ได้ติดตามเรื่องนี้อีกต่อไป เมื่อวานเฉินซื่อโกรธมาก และในที่สุดก็จะต้องระบายออกมา ดูเหมือนว่าฉากเปิดตัวเพิ่งปรากฏตัว นางต้องการจะดูว่าอีกฝ่ายจะใช้วิธีการใด
เมื่อหมอหลวงมาถึง เฉินซื่ออยู่กับอันชิ ฮันชิ และยายจาว ซึ่งฮูหยินผู้เฒ่าส่งมา
ตลอดเวลาที่เฉินซื่อเข้ามาในเรือนขจี สายตาของนางไม่เคยละไปจากหีบของหมั้นเลย ความโลภของนางเป็นที่ประจักษ์มาก แม้ว่านางต้องการปกปิดมันก็เป็นไปไม่ได้
หวงซวนคำนับแล้วก็กล่าวต้อนรับพวกเขาดัง ๆ ว่า "ท่านฮูหยิน โปรดเข้ามาข้างในเจ้าค่ะ"
เฉินซื่อรู้สึกหงุดหงิดและโบกผ้าเช็ดหน้า ก่อนที่จะพาร่างอ้วน ๆ เดินไปที่ห้องของเฟิงจื่อหรู นางมองตรงไปข้างหน้าแล้วก็ลังเลเล็กน้อย
ฮันชิตามเฉินซื่อเข้าไป เมื่อเห็นแบบนั้นนางจึงกลับออกมาข้างนอก อันชิและยายจาวอยู่ข้างหน้า และถามคำถามกับหมอสองสามข้อ