ตอนที่ 36: การมาเยือนของอันชิ
ม่านซีมองไปที่เปาถังและพูดอย่างไม่เต็มใจว่า "ข้าไม่ได้กลัวคุณหนูรอง แต่ข้ากลัวองค์ชายเก้า เจ้าอยู่ที่นี่ไม่ได้ออกไปข้างเมื่อเช้า เจ้าจึงไม่รู้เรื่อง เมื่อกินข้าวเสร็จเจ้าลองออกไปข้างนอก ไปถามใครดูก็ได้ พวกเขาไม่กลัวเรื่องที่อาจเกี่ยวพันถึงองค์ชายเก้า"
เมื่อนางพูดเช่นนั้น เปาถังก็ไม่สงสัยอะไร ตั้งแต่มาถึงเรือนขจี พวกเขากินอาหารไม่อิ่ม เมื่อเห็นอาหารอร่อยตรงหน้า เปาถังเริ่มน้ำลายเริ่มไหล เว้นเสียแต่นางกังวลเกี่ยวกับการรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้กับฮูหยินใหญ่ แม้ว่าฮูหยินใหญ่ได้มอบหมายงานนี้ให้กับแม่นมลี เนื่องจากนางอยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน ก็เห็นได้ชัดว่านางยังมีหน้าที่รับผิดชอบอยู่ด้วย ฮูหยินใหญ่อาจไม่ถาม แต่สำหรับนาง การที่จะไม่พูดอะไรเลยก็จะเป็นความผิดของนาง
บ่ายวันนั้น เหยาซื่อชวนเฟิงจื่อหรูพักผ่อนกลางวัน หวงซวนอยู่ที่ลานกับแม่นมซันเพื่อรับหีบของหมั้น
เมื่อคืนเฟิงหยูเฮงนอนไม่หลับทำให้นางรู้สึกง่วง ตอนแรกนางต้องการนอนพักผ่อน ขณะที่กำลังจะนอน วังซวนเดินเข้ามาและกระซิบบอกว่า "คุณหนูรอง ฮูหยินสามกับคุณหนูสามมาเจ้าค่ะ"
เฟิงหยูเฮงและเหยาซื่อจะออกไปรับพวกเขา แต่พบว่าอันชิและเฟิงเซียงหรูมาถึงห้องแล้ว
เมื่อคิดย้อนกลับ เหยาซื่อและอันชิมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ปีนั้นอันชิแต่งเข้ามาตระกูลเฟิง นางต้องทนทุกข์ทรมานอย่างมากกับการข่มขู่จากเฉินซื่อ แต่อันชิไม่ใช่คนที่ชอบแข่งขันชิงดีชิงเด่น ถ้านางอดทนได้นางก็อดทน โชคดีที่เฉินซื่อเป็นเพียงฮูหยินรองในเวลานั้น เนื่องจากเหยาซื่อเป็นฮูหยินใหญ่ นางไม่สามารถทำอะไรได้มาก
เมื่อเห็นเฟิงหยูเฮงและเหยาซื่อเข้ามาในห้อง อันชิและเฟิงเซียงหรูรีบลุกขึ้น และโค้งคำนับ "พี่สาว" เมื่อนางเงยหน้าขึ้น ตาของนางกลายเป็นสีแดง
เหยาซื่อถอนหายใจ นางจับมือของอันชิ พวกนางเงียบกันไปชั่วขณะหนึ่ง
เฟิงหยูเฮงไม่ต้องการที่จะเห็นฉากเศร้าแบบนั้น นางรีบบอกเหยาซื่อ "ท่านแม่ ให้แม่สามและน้องสามนั่งก่อนเจ้าค่ะ จะได้พูดคุยกันสะดวกมากขึ้น"
อันชิหันไปทางเฟิงหยูเฮง "คารวะ คุณหนูรอง"
เฟิงหยูเฮงรีบห้ามอันชิ "แม่สามอย่าทำแบบนี้เจ้าค่ะ ที่นี่ไม่มีกฎเกณฑ์ใด ๆ ท่านอาวุโสกว่าข้า อย่าทำแบบนี้เจ้าค่ะ"
อันชิเป็นคนใจร้อน "ข้าเป็นฮูหยินสาม ข้าจะอาวุโสกว่าได้อย่างไร คุณหนูรองยกย่องข้ามากเกินไป ต่อหน้าคุณหนูรอง ข้าก็ไม่แตกต่างจากบ่าวรับใช้"
"ข้าหวังว่าแม่สามจะไม่ทำอย่างนั้น" เฟิงหยูเฮงหยุดและนั่งลง
แม่นมซันชงชามารับแขก กลิ่นของชาหอมฟุ้งเต็มห้อง เฟิงเซียงหรูจึงกล่าวว่า "นี่ชาอะไร? มันหอมมาก!"
อันชิยิ้ม "มันต้องเป็นหนึ่งในชาที่องค์ชายเก้ามอบให้แน่นอน ตระกูลเฟิงไม่มีชาที่มีคุณภาพสูงเช่นนี้"
เฟิงหยูเฮงยักไหล่ "ถึงจะมี แต่ก็คงมาไม่ถึงเรือนขจีเจ้าค่ะ"
อันชิถอนหายใจ "เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ตระกูลเฟิงนั้นช่างอุกอาจเสียจริงในการจัดการเรื่องดังกล่าวเช่นนี้ แต่คุณหนูรองเพิ่งกลับมาที่ตระกูลเฟิง คุณหนูรองไม่ควรสร้างศัตรูเพิ่มเจ้าค่ะ"
เฟิงหยูเฮงรู้ว่าอันชิทำเพื่อนาง นางพยักหน้าและขอบคุณ แต่นางก็ส่ายหัว "นับตั้งแต่เราเคาะประตูหลักของตระกูลเฟิง จำนวนศัตรูก็มีนับไม่ถ้วน เราไม่จำเป็นต้องกระตุ้นพวกเขา"
อันชิเอ่ยว่า "ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาตอนที่พวกท่านไม่ได้อยู่ที่ตระกูลเฟิง เฉินซื่อก็เปลี่ยนบ่าวรับใช้จำนวนมาก แม้แต่แม่นมซันก็ถูกส่งไปที่ลานด้านนอกเพื่อทำงานหนัก หลังจากที่ได้รับข่าวว่าองค์ชายเก้ากลับมา พวกเขาจึงส่งคนไปรับพวกท่านกลับมา"
เหยาซื่อรู้สึกสงสารแม่นมซัน นางรู้สึกไม่สบายใจอีกครั้ง
เฟิงหยูเฮงไม่ได้รู้สึกแบบนั้น นางลุกขึ้นยืนและเดินกลับไปที่ห้อง นางเอากล่องเครื่องประดับออกมา นางหยิบต่างหูรูปดอกท้อออกมา นางเดินกลับมาข้างนอก และส่งต่างหูให้กับเฟิงเซียงหรู "ข้าพึ่งกลับมาที่ตระกูลเฟิง และก่อนหน้านี้ข้าไม่มีของมีค่าอะไร โชคดีที่ได้รับของหมั้นจากองค์ชายเก้า ข้ามอบสิ่งนี้ให้น้องสามเป็นของขวัญ!"
เฟิงเซียงหรูตกใจทันทีที่ได้เห็นต่างหูรูปดอกท้อสีชมพูอ่อน ไม่มีใครรู้ว่าต่างหูนี้ทำจากวัสดุประเภทใด มันดูเหมือนหยก แต่นางรู้สึกว่ามันไม่ใช่หยก นางไม่สามารถบอกได้ แต่นางรู้สึกว่านี่เป็นสิ่งที่สวยงามกว่าสิ่งที่นางเคยเห็นมาก่อน
เด็กหญิงกรีดร้องออกมาด้วยความดีใจ "มันสวยมาก!"
อันชิมอง นางรู้สึกตกใจมากทีเดียว "เด็กโง่ อย่ามัวแต่ตกตะลึงอยู่สิ เจ้ารีบขอบคุณคุณหนูรองเร็วสิ วัสดุที่ใช้หายากมาก นี่คือโรสควอทซ์ที่หายากมาก! "
ในยุคนี้ยังมีไม่มาก ในทางของการทำเหมืองแร่ควอทซ์ แต่ค่าของผลึกเป็นสิ่งที่ได้รับการยอมรับจากเจ้านาย ปัจจุบันมีผลึกขาวมากที่สุด รองลงมาคือผลึกสีเหลือง สำหรับโรสควอรทซ์ และอเมทิสต์ แม้กระทั่งฮ่องเต้ยังไม่สามารถหาได้ให้ยิ่งเป็นงานฝีมือยิ่งน้อยมาก มันเป็นวัสถุดิบซึ่งช่างฝีมือชั้นยอดเท่านั้นที่จะกล้าทำ
เมื่อได้ยินว่าเป็นโรสควอตซ์เท่านั้น เซียงหรูทราบถึงคุณค่าของต่างหูคู่นี้ นางรีบโค้งคำนับต่อเฟิงหยูเฮงอย่างรวดเร็ว "ขอบคุณพี่รองมากเจ้าค่ะ"
เฟิงหยูเฮงยิ้มและประคองเฟิงเซียงหรูลุกขึ้น "เจ้าไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ ไม่ต้องกังวลเมื่อข้าบอกว่าจะให้ผ้าเช็ดหน้าแก่เฟินไดแล้ว ข้าจะลืมของเจ้าได้อย่างไร เมื่อข้าตัดเสื้อผ้า ผ้าบางส่วนก็น่าจะเหลืออยู่ ข้าจะเอาไปทำรองเท้าเก็บไว้สำหรับเจ้าตอนแต่งงาน ดีหรือไม่? "
โดยไม่ต้องรอให้เฟิงเซียงหรูตอบ อันชิเป็นคนแรกที่ตอบ "คุณหนูรอง!" แม้ว่านางจะเป็นคนไม่ยินดียินร้าย แต่ในเวลานี้นางไม่รู้ว่าจะพูดอะไร ก่อนหน้านี้ที่ลานด้านหน้า เฟิงหยูเฮงกล่าวว่านางจะเก็บวัสดุสำหรับเฟิงเซียงหรูและเฟิงเฟินไดเพื่อทำผ้าเช็ดหน้า นั่นคือสิ่งที่กระตุ้นความอิจฉาของผู้อื่น ถ้าเฟิงเซียงหรูสวมรองเท้าปักที่ทำจากสมบัติทั้งห้า เมื่อแต่งงานแล้วจะไม่สำคัญว่าใครเป็นบิดา มารดาของเจ้าบ่าว พวกเขาย่อมยกย่องนาง
"แม่สาม" เฟิงหยูเฮงยิ้ม "ถึงแม้ว่าอาเฮงจะไม่อยู่ 3 ปี แต่ข้าก็ยังไม่ลืมช่วงวัยเด็กของเรา ปีนั้นเมื่อท่านแม่ตั้งครรภ์จื่อหรู เฉินซื่อก็แอบเปลี่ยนยาบำรุงกำลังอย่างลับ ๆ และเป็นแม่สามที่เห็นและลอบนำบอกท่านแม่ข้า ทำให้ท่านแม่ทานยาบำรุงที่ปลอดภัย ข้าจำได้ว่าเป็นหนี้บุญคุณที่ไม่เคยลืมเจ้าค่ะ"
อันชิถอนหายใจ นางไม่ได้คาดหวังว่าการกระทำดังกล่าวในอดีตจะส่งผลในทางเช่นนั้น นางเป็นฮูหยินสามและเดิมไม่ได้มุ่งมั่นอะไร ความหวังทั้งหมดของนางได้รับมอบให้กับบุตรีของนาง เซียงหรูก็เป็นบุตรีของฮูหยินสาม นางอาจจะแต่งงานกับบุตรของฮูหยินใหญ่หรือนางอาจจะแต่งงานกับบุตรของฮูหยินรอง ทั้งสองวิธีไม่สามารถเปรียบเทียบกับบุตรีของฮูหยินใหญ่ได้ นางคิดถึงสถานะของนางและไม่เกี่ยวกับคนอื่น โชคดีที่นางมีสินเดิมเป็นร้านค้าจากครอบครัวมารดาของนาง หลายปีที่ผ่านมา นางช่วยประหยัดเงินได้มากขึ้นเพื่อช่วยเซียงหรูในอนาคต แต่ไม่ว่าเงินเก็บจะมากเพียงใดก็ไม่อาจเทียบได้กับรองเท้าปักที่เฟิงหยูเฮงสัญญาไว้!
"ขอบคุณคุณหนูรองมากเจ้าค่ะ" อันชิรู้สึกขอบคุณจริง ๆ ทันใดนั้นนางก็นึกถึงบางสิ่งบางอย่าง และรีบหันไปถามเหยาซื่อ "ท่านพี่หลังจากที่ท่านกลับมาที่เมืองหลวง ท่านได้ไปที่ร้านสมุนไพรบ้างหรือไม่เจ้าคะ?"
เหยาซื่อจ้องมองอย่างไม่เต็มใจและส่ายหน้า "ข้าไม่ได้ไป หลังจากที่กลับมาที่เมืองหลวงแล้ว เราก็ตรงมาที่คฤหาสน์ทันที ไม่ได้แวะที่อื่นเลย"
อันชิกล่าวว่า "ถ้างั้นคงจะดีที่สุด ถ้าท่านพี่เดินทางไปดูร้านสมุนไพร เมื่อไม่กี่วันก่อนเมื่อข้าไปดูแลร้านค้าของข้า ข้าเห็นว่าเจ้าของร้านสมุนไพรเปลี่ยนคน"
เหยาซื่อตกใจ "เทียนป๋อไม่ได้อยู่ที่นั่นแล้วหรือ?"
"ข้าเดินเข้าไปดูใกล้ ๆ แต่ข้าไม่เห็นเทียนป๋อ เจ้าของร้านคนปัจจุบันเป็นคนหนุ่มสาว"
เหยาซื่อเห็นว่าเฟิงหยูเฮงงุนงง นางจึงอธิบายให้ว่า "ร้านสมุนไพรในเมืองหลวงเป็นสินเดิมจากตระกูลของแม่ เมื่อแม่แต่งงานกับคนตระกูลเฟิง ตอนนั้นเจ้ายังเด็กและไม่สนใจเรื่องนี้ นอกจากนี้..." เหยาซื่อส่ายหน้า "ถึงแม้ว่ามันจะเป็นสินเดิมของข้าตั้งแต่ข้าแต่งงานเข้าตระกูลเฟิง พวกเขายังไม่ได้บอกข้าเกี่ยวกับเรื่องนี้"
อันชิพูดออกมาว่า"ถ้าข้าจำไม่ผิด ท่านพี่บอกว่าร้านค้านี้เป็นสินเดิมของท่านที่ได้ส่งมอบให้ฮูหยินผู้เฒ่าในวันที่ท่านพี่แต่งงานเข้ามาในตระกูล?"
"ใช่" เหยาซื่อพยักหน้า "วันที่ข้าแต่งงานเข้ามาในตระกูล ทุกอย่างที่เป็นของข้าต้องมอบให้ฮูหยินผู้เฒ่า ในวันที่สองเมื่อทุกอย่างส่งกลับมาให้ข้า โฉนดที่ร้านก็หายไป ท่านฮูหยินผู้เฒ่าบอกว่าตั้งแต่ข้าแต่งงานเข้ามาในตระกูลเฟิง สิ่งเหล่านี้จะถูกจัดการโดยคนของตระกูลเฟิง นางบอกด้วยว่าตระกูลเฟิงจะยุติธรรมกับข้า"
เฟิงหยูเฮงหัวเราะ "ท่านแม่เชื่อนางหรือเจ้าคะ?"
"หากข้าไม่เชื่อนาง แล้วจะให้ข้าทำอย่างไร?" เหยาซื่อกล่าว
"ถูกต้อง!" อันชิกล่าว "เมื่อลูกสะใภ้เข้ามาในตระกูลเฟิงแล้ว ก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลสามี"
"ผลกำไรจากร้านค้า ตระกูลเฟิงเคยให้ท่านแม่หรือไม่เจ้าค่ะ?" เฟิงหยูเฮงเอ่ยถามต่ออีกครา
เหยาซื่อส่ายหัว "ไม่ให้ พวกเขาบอกเสมอว่าร้านค้าขาดทุน และตระกูลเฟิงต้องใช้จ่ายเงินจำนวนมากเพื่อให้ร้านค้าอยู่รอด"
เฟิงหยูเฮงครุ่นคิดถึงสิ่งที่อันชิกล่าวแล้วถามว่า "ข้าได้ยินแม่สามพูดว่าไปดูแลร้านของท่าน เป็นร้านของท่านเองหรือเจ้าคะ?"
อันชิพยักหน้า "ถูกต้อง ท่านพ่อท่านแม่ให้สินเดิมข้าเป็นร้านค้า 2 ร้าน แต่ร้านค้าของข้าไม่อาจเทียบกับของตระกูลเหยาได้ ร้านค้าของข้าจึงไม่อยู่ในสายตาของตระกูลเฟิง นั่นคือวิธีที่ข้าสามารถเก็บรักษาไว้ได้"
"แม่สามนี่เป็นกฏของราชวงศ์ต้าชุนหรือไม่เจ้าคะ?" เฟิงหยูเฮงเอ่ยถาม
อันชิส่ายหัวว่า "นี่จะเป็นได้อย่างไร ไม่เพียงแต่นี่ไม่ใช่กฏ แต่ต้าชุนช่วยให้ผู้หญิงที่แต่งงานแล้วสามารถดูแลร้านค้าในตระกูลได้ สะใภ้สามารถขอไปดูแลร้านค้าซึ่งเป็นสินเดิมของพวกเขาได้ และครอบครัวของสามีไม่มีเหตุผลที่จะห้าม"
"ถ้าอย่างนั้นตระกูลเฟิงไม่ทำตามกฏของราชวงศ์ต้าชุน" นางไม่ลังเลที่จะพูดแบบนี้
อันชิเปิดปากของนางขึ้นเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร หลังจากผ่านไปหลายปีแล้วนางจะรู้ได้อย่างไรว่าหน้าตาของตระกูลเฟิงเป็นอย่างไร
เฟิงหยูเฮงปลอบโยนเหยาซื่อ "ท่านแม่ไม่ต้องกังวล มันเป็นของเรา ไม่ช้าก็เร็วมันจะถูกส่งกลับมาให้เรา"
อันชิเห็นด้วย "วันนี้เห็นได้ชัดว่าองค์ชายเก้าเฝ้าสังเกตดูอยู่รอบ ๆ แต่ดูเหมือนว่าพระองค์จริงใจต่อคุณหนูรองมาก ๆ ข้าเชื่อมั่นว่าองค์ชายเก้าจะอยู่ใกล้ ๆ ไม่มีใครพยายามขัดขวางความคิดของเจ้าได้" แล้วนางก็เปลี่ยนเรื่องพูด "เมื่อวานนี้เซียงหรูมาที่นี่คนเดียวและกลับมารายงานสถานการณ์ ตอนแรกข้าเตรียมเงินไว้และต้องการนำมาเป็นของขวัญให้ในวันนี้ ไม่สำคัญว่ามันจะมากหรือน้อย แต่อย่างน้อยก็จะเป็นประโยชน์สำหรับสถานการณ์แบบนี้ ข้าไม่ได้คาดหวังว่าก่อนที่ข้าจะมอบให้เจ้า องค์ชายเก้าจะส่งของหมั้นมาให้เสียก่อน" อันชิพูดขณะหยิบถุงเงินเล็ก ๆ ออกมา "เงินจำนวนเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสิ่งที่องค์ชายเก้าให้ ทำให้ข้ารู้สึกละอายใจที่จะนำมันออกมา แต่ของขวัญที่องค์ชายเก้าได้ให้ไว้เป็นตั๋วแลกเงิน และกำลังจะมีงานก่อสร้างที่เรือนของเจ้า ดังนั้นเงินนี้อาจเป็นประโยชน์ในการจัดการกับบ่าวรับใช้ โปรดรับไว้ด้วย !"
เฟิงหยูเฮงสามารถบอกได้ว่าอันชิเป็นคนที่จริงใจมาก ดังนั้นนั้นนางจึงไม่อิดเอื้อนและรับถุงเงินไว้ "ขอบคุณแม่สามมาก ๆ เจ้าค่ะ ข้าควรจะออกไปเพื่อแลกตั๋วแลกเงินบางส่วนเป็นเงินบ้าง แต่ท่านมอบให้เราในเวลาเช่นนี้ เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมมากเจ้าค่ะ"