ตอนที่แล้วตอนที่ 9 : ซ้อนแผน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 11 : อำนาจของตระกูลเฟิง

ตอนที่ 10 : ไม่คิดว่าเป็นเขา


ยี่สิบวันต่อมา ในที่สุดนางก็มองเห็นเมืองหลวงอยู่ลิบ ๆ

เฟิงหยูเฮงรู้สึกผ่อนคลาย ในที่สุดนางก็มาถึงเมืองหลวง นั่นหมายความว่านางใกล้จะมาถึงตระกูลเฟิงแล้ว การรักษาปลอดภัยในเมืองหลวงจะเข้มงวดมากขึ้น

รถม้าหยุดอยู่นอกประตูเมืองหลวง เหยาซื่อเปิดผ้าม่านออกและมองออกไปข้างนอก นางอดร่ำไห้ออกมามิได้

เฟิงหยูเฮงปัดฝุ่นออกจากเสื้อผ้าของนางและหันไปปลอบโยนมารดาของนาง "ท่านแม่ไม่ต้องเป็นห่วง เราจะไปถึงคฤหาสน์ตระกูลเฟิงในไม่ช้า เราต้องแจ้งท่านพ่อเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับคนขับรถม้า ให้ท่านพ่อช่วยเราหาตัวผู้ที่ต้องรับผิดชอบ"

เฟิงจื่อหรูกำกำปั้นเล็ก ๆ ชูมือขึ้น "ท่านพ่อจะต้องลงโทษคนเลวอย่างแน่นอน!"

แม่นมซันยิ้มและพยักหน้าเป็นเชิงเห็นด้วย

"คนขับรถม้าที่ตระกูลเฟิงส่งมา นายท่านน่าจะตรวจสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วน"

เหยาซื่อโบกมือนาง "เราไม่สามารถทำอย่างนั้นได้ เราเพิ่งกลับมา ดังนั้นเราจึงไม่ควรสร้างปัญหาให้กับท่านพ่อของเจ้า สำหรับเรา การได้กลับมาที่ตระกูลเฟิงถือว่าเป็นความโชคดีแล้ว สำหรับคนขับรถม้า... เราจะบอกว่าเขาตกรถม้าเสียชีวิตไป อย่างอื่นเราจะยังไม่พูดถึง"

"ถ้าคนขับรถม้าเป็นคนร้ายจริง ๆ เราก็ถือว่าโชคดีมาก แต่ข้ากังวลว่าเขาจะไม่ใช่คนขับรถม้าธรรมดา"คำพูดของเฟิงหยูเฮง ทำให้มารดาและแม่นมซันขมวดคิ้วขึ้น

ในความเป็นจริง ทุกคนพิจารณาถึงความเป็นไปได้ แต่เฉพาะเฟิงหยูเฮงที่เป็นเด็กอายุ 12 ปี แม่นมซันซึ่งเป็นบ่าวมีความสุขและปลาบปลื้มว่าครอบครัวของนางจะมีชีวิตที่ดีขึ้นได้ แม้ว่าเหยาซื่อไม่ได้คาดหวังอะไรจากตระกูลเฟิง แต่นางหวังว่าอนาคตของพวกนางจะปลอดภัยมากขึ้น เรื่องของคนขับรถม้าคือหนามยอกอก เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาพวกนางจะไม่เอ่ยเรื่องนี้ขึ้นมา หากต้องการจะหลอกศัตรูให้ตายใจ พวกนางต้องหลอกตัวเองก่อน

"ท่านแม่ เมื่อความอดทนของคนเรามันถึงที่สุดแล้ว ก็ไม่สามารถอดทนต่อไปได้อีก   การหนีไม่ใช่วิธีที่ถูกต้อง ข้าจะปกป้องและดูแลท่านแม่เอง" เฟิงหยูเฮงอยากให้มารดาของนางเปลี่ยนแปลงตัวเอง แต่นางรู้ว่านางไม่อาจจะรีบร้อนได้

นางเงยหน้าขึ้นมองไปตามถนน สิ่งที่นางเห็นคือฝูงชนที่วุ่นวาย พวกเขาเดินไปตามเส้นทางเดียวกัน ราวกับมีงานรื่นเริง พวกเขาค่อย ๆ เดินไปที่ประตูเมือง

มันน่าจะมีเหตุผลที่ทำให้ชาวเมืองมาชุมนุมกัน รถม้าของเฟิงหยูเฮงติดอยู่ในกลุ่มฝูงชน ภายในเมืองมีเสียงแตรประกาศชัยชนะ เสียงโห่ร้องดังกึกก้อง ชาวเมืองกลุ่มใหญ่เดินออกจากเมืองไปตามเส้นทางนี้ มีทั้งคนเดินเท้าและรถม้าที่วิ่งบนถนน

บางคนถือตระกร้าใส่ดอกไม้ บางคนก็ถืออาหาร บางคนถือจอกสุรา และบางคนอุ้มเด็ก บางคนหมอบลงคำนับขบวนแห่

เฟิงหยูเฮงมองไปที่ขบวนแห่ แต่มุมมองจากด้านหลังถูกปิด รถม้าถูกประดับประดาด้วยดอกไม้กลายเป็นศูนย์กลางของการคุ้มกัน รถม้าถูกล้อมรอบด้วยม่านสีน้ำเงินทั้งสี่ด้าน มีเจ้าหน้าที่ 4 นายประจำการอยู่แต่ละมุมของรถม้า

ชาวเมืองพากันมายืนรอต้อนรับ นางได้ยินเสียงเซ็งแซ่จากผู้คนนับไม่ถ้วน

"องค์ชายเก้าได้รับชัยชนะจากศึกครั้งนี้เร็วกว่ากำหนดถึง 2 ปี พระองค์เป็นเทพเจ้าแห่งสงครามของเราอย่างแท้จริง!"

"ข้าน้อยจงรักภักดีองค์ชายเก้า ขอพระองค์ทรงพระเจริญ"

ทุกคนในพื้นที่คุกเข่าลงอย่างพร้อมเพรียง พวกเขาไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น ชาวเมืองต่างพากันดีใจที่องค์ชายเก้ากลับมาพร้อมกับชัยชนะในศึกสงคราม ดังนั้นพวกเขาจึงโห่ร้องสรรเสริญ มีคนจำนวนมากที่มอบสุราให้กับเจ้าหน้าที่ในขบวน

คนทั่วไปคุ้นเคยกับเรื่องนี้ พวกเขารู้ว่าข้อบังคับทางทหารเข้มงวดมาก เฟิงหยูเฮงพบว่าตลอดขบวนอันยิ่งใหญ่นี้ไม่มีการเฉลิมฉลอง ทำไมใบหน้าของทหารกองหน้าถึงได้เคร่งเครียดเช่นนั้น

อย่างไรก็ตาม องค์ชายเก้าได้รับชัยชนะในสงคราม นั่นเป็นความจริงที่นางได้รับการยืนยันตลอดทาง โรงเตี๊ยมทุกแห่งต่างแสดงความดีใจ ข่าวดีถูกประกาศไปทุกหนทุกแห่ง

งานรื่นเริงครั้งนี้ดูไม่ค่อยรื่นเริงสักเท่าไหร่ ต้องมีอะไรเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

นางมองไปที่ขบวนรถม้าอีกครั้ง คราวนี้นางตรวจสอบอย่างละเอียดมากยิ่งขึ้น ด้วยความบังเอิญ ลมพัดผ้าม่านที่หน้าต่าง ทำให้ผ้าม่านเปิดเล็กน้อยขณะที่รถม้าแล่นผ่าน ทำให้เห็นภายในได้

ด้านในมีบุรุษหนุ่มที่สวมหน้ากากทองคำปกคลุมจากหน้าผากถึงใต้จมูก ระหว่างคิ้วมีช่องว่างเล็ก ๆ สวมชุดสีม่วง

เฟิงหยูเฮงยืนขึ้นบนรถของนาง นางจ้องมองที่หน้าต่าง เนื่องจากลมพัดผ้าม่านเปิดออกแล้วปล่อยให้มันเปิดเผยให้เห็นผู้ที่อยู่ข้างใน ลมพัดต่อไปเรื่อย ๆ นางรู้สึกหายใจติดขัด

ทั้งสามคนที่นั่งอยู่ในรถก็ออกมาดู เมื่อเห็นนางเป็นเช่นนี้ พวกเขาคิดว่านี่เป็นปฏิกิริยาปกติและไม่ได้สอบถามเพิ่มเติม แต่เมื่อเฟิงหยูเฮงเห็นดอกบัวสีม่วง หัวใจนางก็เต้นไม่เป็นจังหวะ ใช่ เขาจริง ๆ ด้วย!

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด