บทที่ 27 ข้าจะทำให้มันรู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ!!
บทที่ 27 ข้าจะทำให้มันรู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ!!
การแสดงออกของซ่งหยูนั้นยากที่จะสังเกตได้จากใบหน้าของเขา.. แต่จิตใต้สำนึกในมหาสมุทรแห่งจิตนั้นสามารถเปลี่ยนแปลงไปตามอารมณ์ได้ สำหรับซ่งหยูในขณะนี้นั้นมหาสมุทรแห่งจิตสำนึกของเขา
กำลังแผ่คลื่นที่ยิ่งใหญ่ ทำให้ผืนฟ้าแตกออกจากกันเป็นสองเสี่ยง จากนั้นก็ปรากฏกองทัพมม้าที่ห่อหุ้มไปด้วยเกราะโลหะ และทหารเดินเท้าเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการทำสงครามที่ยิ่งใหญ่!
ทำให้เห็นว่าตอนนี้เขาก็กำลังหื่นกระหายในการสู้รบเช่นเดียวกัน หากแม้การต่อสู้ในครั้งนี้เขาจะเป็นรองในการต่อสู้ทั้งทางด้านยุทธธาเมธี และศาสตราวุธก็ตามที! การกระหายในชัยชนะและความปรารถนาที่จะพิสูจน์ความแข็งแกร่งของตัวเอง แต่สิ่งเหล่านี้ทั้งหมดไม่สามารถมองเห็นได้บนใบหน้าของเขาได้!
"เจ้าคิดได้ถูกต้องแล้ว!"
ซินหวงยกย่องเขา"ตอนนี้จิตใจของเจ้านั้นราวกับเป็นสายเลือดนักสู้แห่งชนเผ่าสวรรค์! ก้าวต่อไปของเจ้าแม้จะมีความยากลำบากสักเพียงใด หากในตัวเจ้ามีสายเลือดนักสู้ของชนเผ่าสวรรค์ ซึ่งพร้อมที่จะเผชิญหน้าต่อ
ผยัญตรายใดๆที่จะเข้ามาก็ตาม เพียงแต่เจ้าไม่มีความเกรงกลัวและหวั่นไหวใดๆ เจ้าก็จะสามารถผ่านพ้นมันไปได้ไม่ยาก!"
ซ่งหยูก้าวไปข้างหน้าเพื่อเผชิญหน้ากับชุ่ยเฉิงอี้ ขณะนั้นได้เกิดสายฟ้าฟาดโหมกระหน่ำอยู่รอบตัวเขา
และปรากฏร่างของมังกรม้วนรอบตัว เขากล่าวด้วยเสียงอันสงบว่า"ข้านามว่าซ่งหยูแห่งตระกูลซ่ง ขอรับคำท้าเจ้า!"
ยอมรับคำท้าเช่นนั้นหรือ?
ชุ่ยเฉินอี้งงงวยกับคำกล่าวของซ่งหยู ซึ่งตามสถานการณ์นั้นเขาต่างหากที่จะเป็นผู้สั่งสอนให้ชายตระกูลซ่งผู้นี้ได้รู้ทีี่จักต่ำที่สูง....รู้ว่าสวรรค์และโลกนั้นแตกต่างกันอย่างไร แล้วมันจะกลายเป็นความท้าทายได้อย่างไรกัน?"
การต่อสู้ระหว่างผู้ที่อ่อนแอกับผู้ที่แข็งแกร่งจะถูกเรียกว่าเป็นความท้าทายได้อย่างไร? เพราะฉะนั้นตอนนี้เขากลายเป็นผู้ท้าชิงเช่นนั้นหรือ?
"มันน่าตลกสิ้นดี! นี่คงเป็นครั้งแรกที่มีคนกล้าพูดกับข้าเช่นนี้! เจ้าทะนงตัวเองว่าการบ่มเพาะของเจ้าสูงส่ง! งั้นก็ดี...ถ้าเช่นนั้นข้าจะให้เพียงเทคนิคการบ่มเพาะร่างกายเท่านั้นในการเอาชนะเจ้าเพียงสามกระบวนท่าเท่านั้น!
ใบหน้าของชุ่ยเฉิงอี้ยังคงเรียบเฉย เขายิ้มด้วยมุมปากเล็กน้อย จากนั้นก็ปรากฏคลื่นขนาดใหญ่ขึ้นอยู่ใต้ฝ่าเท้าของเขาหมุนวนและยกร่างเขาขึ้นหมุนกลางอากาศ ทันใดนั้นก็เกิดคลื่นขนาดใหญ่ซัดไปทางที่ซ่งหยูยืนอยู่ ขณะที่กำปั้นของเขาก็พุ่งตรงไปที่ใบหน้าของซ่งหยูเช่นกัน!
เมื่อพลังทั้งหมดใส่ไปในกำปั้นทำให้เกิดกระแสคลื่นขนาดใหญ่ระเบิดขึ้นภายใต้เบื้องหลังของร่างเทพเจ้าแห่งสายน้ำ!
กำปั้นของเขาที่รวบรวมไปด้วยพลังความแรงของกระแสคลื่นสูงนับร้อยเมตรกำลังพุ่งตรงไปยังซ่งหยู!
จากนั้นก็ปรากฏร่างของมังกรพันอยู่รอบร่างของซ่งหยู และหมุนตัวเป็นเกลียว มันส่งเสียงคำรามเพื่อแสดงถึงพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่! ซ่งหยูมีพลังจิตที่แข็งแกร่งขึ้นเมื่อจิตใจของเขาสามารถหลอมเข้ากับร่างของมังกรได้ ราวกับว่าเขาได้เป็นมังกรในร่างมนุษย์ ดวงตาของมังกรที่มีสีแดงดั่งเลือดมองดูดุดัน และโหดเหี้ยมความปรารถนาของมันตอนนี้คือการฆ่าเท่านั้น!
กล้ามเนื้อของเขาปูดบวมขึ้นมา เส้นเอ็นต่างๆสั่นสะเทือนราวกับว่ามันกำลังสูบฉีดเลือดอย่างแรงเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการต่อสู้ที่กำลังจะเกิดขึ้น!
ไม่เพียงเท่านั้นขณะนี้เลือดได้สูบฉีดภายเข้าสู่ร่างกายของเขาอย่างรวดเร็วนั้น และมีการผสานพลังปราณเข้าไปในกระแสเลือดด้วยจนทำให้การไหลเวียนภายในเส้นเลือดของเขานั้นมีเสียงดังมากจนทุกคนต่างก็ได้ยิน!
ซ่งหยูมิได้หลบจากการโจมตีด้วยกำปั้นของชุ่ยเฉินอี้แต่อย่างใด..... จากนั้นซ่งหยูในร่างของมังกรก็กำลังจะส่งกำปั้นกลับไปหาเขาเช่นกัน!
ใบหน้าของเหล่าฝูงชนเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ระดับของกระแสคลื่นที่สูงและรุนแรงนั้นทำให้ร่างมังกรม้วนตัวหลบได้ทัน!
จากความแข็งแกร่งของทั้งสองนั้นยากที่จะมีศิษย์คนใดสามารถเข้าถึงได้!
ทั้งสองคนเปรียบดั่งสองเทพแห่งสงครามที่กำลังต่อสู้กันในการต่อสู้ที่โหดร้ายและไร้ซึ่งความปราณี การต่อสู้โดยใช้กล้ามเนื้อปะทะกันอย่างรุนแรงจนยากที่จะจิจตนาการต่อได้!
ปัง! ปัง! ปัง!
ชายสองคนต่างเข้าจู่โจมพร้อมกัน....ร่างของเทพเจ้าแห่งสายน้ำของชุ่ยเฉิงอี้นั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมากหมัดของเขาที่ปะทะเข้ากับร่างมังกรของซ่งหยูทำให้เกิดเสียงระเบิดดังสะนั่น"ตู้มม!"
และในที่สุดเขาก็สามารถล้มร่างมังกรของซ่งหยูจนกระเด็นไถลไปกับพื้นอย่างแรง กำปั้นของเขาช่างน่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก ราวกับว่ามีหัวปีศาจแฝงอยู่ในกำปั้นจึงทำให้มันทรงพลังอำนาจอย่างเหลือเชื่อ!
ซ่งหยูใช้จิตวิญญาณบังคับให้เกิดฟ้าร้อง ฟ้าผ่าเสียงดังกึกก้องกัมปนาทไปทั่วบริเวณ
สำหรับรูปแบบฟ้าร้อง ฟ้าผ่าของซ่งหยูนั้นเขาไม่ได้นำมาหลอมรวมกับร่างมังกร เนื่องจากเขายังเคยชินกับการใช้ความแรงของดาบอัสนีในฤดูใบไม้ผลิ (เกิดจากฟ้าที่ผ่าครั้งแรกของฤดูไม้ไม้ผลิจะมีความอานุภาพที่ร้ายแรงที่สุด!) เพื่อป้องกันกำปั้นของชุ่ยเฉิงอี้!
แต่ด้วยอำนาจฤทธานุภาพที่ร้ายแรง และความแข็งแกร่งของเทพเจ้าแห่งสายน้ำของชุ่ยเฉิงอี้นั้นมีมากเกินไป โดยดาบอัสนีในฤดูใบไม้ผลิไม่สามารถที่จะเจาะข้ามผ่านมันไปได้ และชุ่ยเฉิงอี้นั้นสามารถหลบหลีกกำปั้นของเขาได้ทุกครั้ง!
ทันใดนั้น!
กำปั้นที่ทรงพลังของชุ่ยเฉินอี้ก็กระแทกลงบนร่างของซ่งหยูเสียงดังสนั่น!
"พลั๊ก!"
ด้วยความแข็งแกร่งของเทพเจ้าแห่งสายน้ำที่ชุ่ยเฉิงอี้นั้นสามารถผสานเข้ากับร่างกาย และจิตวิญญาณทำให้รางกายเขานั้นแข็งราวกับกำแพงภูเขาที่ไม่มีอะไรจะสามารถเจาะทะลุผ่านมันไปได้!
ในขณะเดียวกันซ่งหยูก็ทะลวงกำปั้นเขาไปอีกครั้งที่ร่างของชุ่ยเฉิงอี้ สำหรับกำปั้นครั้งที่สองนี้ก็ไม่เป็นผล
มันไม่สามารถเจาะผ่านกำแพงภูเขาได้แม้แต่น้อย จากนั้นซ่งหยูก็ปล่อยพลังกำปั้นอีกนับไม่ถ้วนเพื่อทะลวงกำแพงภูเขา แต่ทว่า.....ดูเหมือนว่าชุ่ยเฉิงอี้นั้นไม่ได้สะทกสะท้านหรือแม้แต่ถอยแม้เพียงก้าวเดียว!
จากนั้นก็เกิดเกล็ดปลาจำนวนมากมาปกคลุมไปทั่วร่างของชุ่ยเฉิงอี้ ซึ่งเขาสามารถตั้งรับและป้องกันกำปั้นของซ่งหยูได้ทุกครั้ง นับว่าความเชี่ยวชาญในการตั้งรับของนั้นนั้นเป็นเลิศยิ่งนัก!
หลังจากที่ซ่งหยูได้กางกรงเล็บมังกรออกและทะลวงกำปั้นอีกหลายต่อหลายครั้ง พร้อมกับเสียงคำรามของมังกรที่แสดงถึงพลังอำนาจทุบไปที่ร่างของชุ่ยเฉิงอี้เข้าอย่างแรง จนเสียงดังกึกก้องกัมปนาทไปทั่วบริเวณ
"ปัง! ปัง! "
เมื่อสิ้นเสียงนั้นก็ปรากฏร่างก็เทพเจ้าแห่งสายน้ำที่ถูกเจาะทะลุจนเป็นรูกลวง เผยให้เห็นถึงชุ่ยเฉิงอี้ที่อยู่ภายในร่างของเทพเจ้าแห่งสายน้ำ!
เนื่องจากเทพเจ้าแห่งสายน้ำภายในร่างของชุ่ยเฉิงอี้นั้นไม่มีเลือดเนื้อและกระดูก ทั้งหมดล้วนถูกสร้างขึ้นด้วยจิตวิญญาณทั้งสิ้น ดังนั้นจึงไม่มีกายเนื้อที่จะสามารถทำลายได้!
นี่หาใช่เคล็ดวิชาการบ่มเพาะทางร่างกายไม่! หากแต่เป็นการนำเอาพลังอำนาจของเทพเจ้าแห่งสายน้ำผ่านจิตวิญญาณของเขา ทำให้ความแข็งแกร่งของเขานั้นกระจายตัวในทันทีเมื่อมีการถูกกระแทกดั่งเช่นการเอากำปั้นกระแทกไปที่สายน้ำ สิ่งที่ได้คือความว่างเปล่าเมื่อสายน้ำน้ำกระจายตัวตามแรงกระแทกเหล่านั้น!
ในขณะที่การบ่มเพาะของซ่งหยูนั้นทำให้ร่างกายของเขาแข็งแกร่งขึ้น และความแข็งแกร่งนี้ยังคงเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าเขาจะไม่ได้อาศัยร่างของมังกรก็ตามที......
นี่คือความแตกต่างของการบ่มเพาะทางด้านร่างกายและจิตวิญญาณนั่นเอง!
ดั้งนั้นการปลูกฝังในการบ่มเพาะนั้นจะเผยให้เห็นถึงเทคนิคการในต่อสู้แบบแนบประชิดทางด้านร่างกาย
ดั่งเช่นเทพเจ้าแห่งสายน้ำ ด้วยเคล็ดวิชาการต่อสู้เช่นนี้จะแสดงให้เห็นถึงทักษะการหลบหลีกและการตั้งรับมากกว่าจะเป็นผู้โจมตีเพื่อให้คู่ต่อสู้นั้นไขว้เขวนั่นเอง
จากนั้นซ่งหยูก็เป็นฝ่ายระเบิดกำปั้นไปที่ชุ่ยเฉิงอี้ในขณะที่เขายังไม่ทันตั้งตัวและยังไม่สามารถตั้งรับได้!
ทั้งสองสลับกันแลกหมัด จากนั้น....ซ่งหยูก็เกิดพลาดท่าโดนกำปั้นของชุ่ยเฉิงอี้เข้าไปอย่างแรงจนทำให้มีเลือดไหลออกมาจากปากของซ่งหยู และเขาต้องถอยหลังอีกสองก้าวในการตั้งรับหมัดของเทพเจ้าแห่งสายน้ำเพื่อลดการกระแทกของร่างกาย
จากนั้นเศษหินและแผ่นปูนก็ระเบิดออกมาจากใต้ฝ่าเท้าของซ่งหยูขณะที่เขากำลังพยุงตัวลุกขึ้น!
และจากการปะทะกันชุ่ยเฉิงอี้เองก็ได้รับบาดเจ็บส่งเสียงครวญครางเช่นกันหลังจากมีเลือดไหลออกจากปากเช่นเดียวกัน!
ในที่สุดซ่งก็หยูสามารถทะลวงร่างของเทพเจ้าแห่งสายน้ำจนร่างของชุ่ยเฉิงอี้จนได้รับบาดเจ็บ!
ตอนนี้เทพเจ้าแห่งสายน้ำในร่างกายของเขาไม่มีอำนาจและความแข็งแกร่งมากพอ เมื่อเขาได้รับบาดเจ็บจากการปะทะกับร่างมังกรของซ่งหยู อย่างไรก็ตามร่างกายที่มีความแข็งแกร่งกว่าเหล่าศิษย์ลานบนทั่วไปนั้นจึงเป็นเหตุผลที่เขาไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัสมากนัก!
"เจ้าแข็งแกร่งจริงๆ ... "
ชุ่ยเฉิงอี้สูดลมหายใจเข้าอย่างแรง....เขานับว่าเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์โดดเด่นมากของตระกูลชุ่ยถู และคนในตระกูลต่างให้ความสำคัญกับเขามาก โดยให้เขาอาบน้ำในอ่างสมุนไพรจิตวิญญาณที่มีประสิทธิภาพ
และเพื่อให้พลังของยาซึมเข้าไปในร่างกายเขาเพื่อช่วยในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับร่างกาย
นอกจากนั้นยังมีหมอผีของชนเผ่าได้ใช้เลือดของสัตว์ร้ายที่หายากวาดสัญลักษณ์ลงไปบนเสาสัญลักษณ์ของเขาทำให้ร่างกายของเขาแข็งแกร่งยิ่งขึ้น!
เมื่อเขาเข้ามายังนิกายกระบี่เทพมังกรฟ้าแล้วชุ่ยเฉินอี้เขาได้ใช้ยาเม็ดจิตวิญญาณในการสร้างฐานรากของความแข็งแกร่งมาตั้งแต่วัยเด็ก!
แต่ตอนนี้เขาได้รับบาดเจ็บ!
พลังของซ่งหยูเกินความคาดหมายของเขา ร่างมังกรที่พันอยู่รอบกายซ่งหยูนั้นอยู่ในระดับพลังที่สูงมากจนยากที่จะต้านทานได้ อีกทั้งดาบอัสนีในฤดูใบไม้ผลิที่เขาสามารถบังคับสายฟ้าผ่ายังมีอานุภาพที่ร้ายแรง
แม้ว่าจะทำอันตรายเขาไม่ได้มากนัก แต่สิ่งที่ทำร้ายเขาได้ตอนนี้ก็คือ ความน่าสะพรึงกลัวของซ่งหยูนั่นเอง!
ด้วยอานุภาพของแรงระเบิดที่สามารถเจาะผ่านร่างกายของเทพเจ้าแห่งสายน้ำ!
ด้วยพลังที่รุนแรงของซ่งหยูที่เกินความคาดหมายของเขาแล้ว! ฉะนั้นแล้วพลังอำนาจของเทพเจ้าแห่งสายน้ำจะมีเพียงใดกัน? จากที่เขาได้ปะทะกับซ่งหยูมาสองครั้งมันอาจจะทำให้อวัยวะภายในเขาได้รับบาดเจ็บ แม้จะไม่รุนแรงนักก็ตาม........
เฉพาะผู้พิทักษ์แห่งนิกายฯเท่านั้นที่จะสามารถปลูกฝังร่างกายให้อยู่ในระดับของพวกเขาในตอนนี้!
ซ่งหยูเช็ดเลือดที่ออกมากมุมปากเขาและกล่าวว่า"ท่านสามารถปล่อยพลังที่ท่านมีทั้งหมดมาได้เลย!"
"ถ้าเช่นนั้นเรามาต่อสู้กันอีกครั้ง!"
ชุ่ยเฉินอี้หายใจเข้าลึกๆด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึมในขณะที่หางปลาของเขาแกว่งไปมา จากนั้นก็ปรากฏสายธารน้ำไหลลงมาจากท้องฟ้าแล้วยกร่างของเขาขึ้นกลางอากาศ........
จากนั้นก็ปรากฏทะเลสาบอยู่กลางอากาศขณะที่ชุ่ยเฉิงอี้ลอยตัวอยู่กลางทะเลสาบด้วยท่าทางที่สง่างามในขณะที่เขากำลังเตรียมจะโจมตีซ่งหยู.........
ซึ่งเขากำลังซุ่มฝึกทักษะที่แข็งแกร่งที่สุดและเป็นความลับที่เขาเตรียมจะใช้ในช่วงสิ้นปีนี้
ดังนั้นเขาจะใช้เคล็ดวิชาลับนี้ถล่มซ่งหยูให้สิ้นชื่อ!
ซ่งหยูยกคิ้วขึ้นเพื่อเตรียมความพร้อม ชุ่ยเฉิงอี้เหลือบไปเห็นร่างอีกสองสามคนออกมาจากอีกมุมหนึ่ง
เขาทำเป็นชายตามองมาที่ซ่งหยู ....จากนั้นเขาก็หันไปมองรอบๆ หันหลังกลับไป
และเดินออกไปอย่างช้าๆและกล่าวอย่างเย็นชาว่า"เรื่องในวันนี้ข้าขอยุติไว้ชั่วคราวก็แล้วกัน! เราจะต่อสู้กันอีกครั้งเมื่อถึงวันประลองปลายปีนี้!"
ซ่งหยูกระพริบตาเล็กน้อยและเดินไปยังทิศทางที่เขาจ้องมอง ขาเห็นเงาของคนบางกลุ่มเดินลงมาจากหุบเขาไปยังลานด้านบน.....
ซึ่งคนเหล่านั้นมีพลังไม่ด้อยไปกว่าชุ่ยเฉิงอี้แต่อย่างใด พวกเขาอาจจะเป็นเหล่าศิษย์นอกที่เข้าฝึกการบ่มเพาะภายในห้องโถงภายในนิกายฯ! ซ่งหยูสังสัยว่าพวกเขามาจากตระกูลใด? ดูจากปฏิกิริยาของชุ่ยเฉิงอี้เมื่อสักครู่ คนเหล่านี้น่าจะมาจากสิบตระกูลที่ยิ่งใหญ่และพวกเขาก็มีอิทธิพลมากด้วย...
ที่แท้ชุ่ยเฉิงอี้ไม่ต้องการให้คนเหล่านั้นเห็นเคล็ดวิชาลับของตนเองที่กำลังจะต่อสู้กับซ่งหยู มิเช่นนั้นพวกเขาอาจจะนำไปหาจุดบกพร่องเพื่อเอาชนะเขาได้นั่นเอง!
"น่ากลัวยิ่งนัก ... "
ร่างของซ่งหยูสั่น จากนั้นเขาก็กระอักเลือดออกมาอีกครั้ง แสดงว่าอวัยวะภายในเขาได้รับบาดเจ็บ
เขาคิดว่า"สิบตระกูลใหญ่นั้นทั้งหมดล้วนมีความชำนาญและเทคนิคพิเศษ เสาสัญลักษณ์ที่ได้รับการสืบทอดมาจากบรรพบุรุษนั้นย่อมแข็งแกร่งกว่าตระกูลธรรมดาทั่วไป ชุ่ยเฉิงอี้คนนี้นับว่ามีความแข็งแกร่งยิ่งนัก เขาสามารถเข้าถึงระดับนี้ได้โดยไม่ต้องใช้เทคนิคใดๆเข้าช่วยในการบ่มเพาะของเขา...ข้านับว่ายังห่างไกลกับเขายิ่งนัก!
เนื่องจากชุ่ยเฉิงอี้นั้นได้แช่ตัวอยู่ในอ่างสมุนไพรจิตวิญญาณตั้งแต่เขายังเป็นเด็กแล้วเท่ากับเขาสามารถปลูกฝังการบ่มเพาะเพียงไม่กี่เดือนก่อนที่เขาจะเข้าสู่นิกายฯ ซึ่งเขาก็ใช้เวลาเพียงห้าถึงหกปีเท่านั้น ก่อนที่เขาจะสำเร็จได้ถึงขั้นนี้!
ยังมีเหล่าศิษลานบนอยู่เพียงไม่กี่คน และชุ่ยเฉิงอี้นั้นนับเป็นหนึ่งในนั้น...ที่อยู่ในกลุ่มของชนชั้นสูงของหนึ่งในสิบตระกูลใหญ่!
ซึ่งแต่ละคนนั้นดิ้นรนขวนขวายในการประลองเพื่อเป็นที่หมายตาของผู้อาวุโสในนิกายฯเพื่อช่วยเปิดโอกาสให้สามารถเข้าไปในห้องโถงแห่งจิตวิญญาณ ซึ่งพวกเขาจะไปเพียงตัวเปล่าเท่านั้นโดยไม่พกแม้เสาสัญลักษณ์เข้าไป เนื่องจากพวกเขามั่นใจในทักษะอันแข็งแกร่งของพวกเขาเป็นอย่างยิ่ง!
ซ่งหยูเดินไปหาหลานหยู เฉิงฉาน และคนอื่นๆ พลางคิดว่า
" สองเดือน! ข้ามีเวลาอีกสองเดือนเท่านั้น!
อีกสองเดือนเท่านั้นจะได้รู้เสียทีว่าระหว่างชนชั้นสูงแห่งตระกูลที่ยิ่งใหญ่ กับข้า....ใครที่จะเป็นผู้ที่อยู่เหนือฝูงชนในวันนั้นกันแน่?
เขากล่าวอย่างเงียบๆว่า"กับคนที่อยู่สูงเหนือคนอื่นๆเช่นนี้.....หากข้าไม่สั่งสอนให้เขารู้จักเห็นคนอื่นอยู่ในสายตาเสียบ้าง.....แล้วใครที่จะทำได้!
---------------------------------------------------------
"ซ่งหยู แห่งตระกูลซ่ง นี่คืออาวุธจิตวิญญาณของเจ้าที่ข้าได้รับปากไว้!"
อาจารย์ปู่เห็นซ่งหยูพอดีจึงเรียกให้มาหาเขา ....เขาเอาอาวุธจิตวิญญาณออกมาวางไว้ด้านหน้าของซ่งหยูเขายิ้มและกล่าวว่า"ข้าใช้เวลาในการสร้างมันทั้งสองชิ้นนี้ภายในเวลายี่สิบวัน ข้ารู้สึกเหนื่อยมาก....แล้วเจ้าพอใจมันหรือไม่?
..............................................................................................................................