ตอนที่แล้วบทที่ 34  นิ่งเข้าไว้  1 (1) [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 35 นิ่งเข้าไว้ 2 (1) [อ่านฟรี]

บทที่ 34  นิ่งเข้าไว้  1 (2) [อ่านฟรี]


บทที่ 34  นิ่งเข้าไว้  1 (2)

ออนและฮงไม่ได้อยู่ที่นั่นเพื่อคอยดูแลล็อกแต่เพื่อศึกษาหาวิธีการที่จะลงมือฆ่าศัตรูที่แข็งแกร่งกว่าพวกมันในอนาคตให้ได้ต่างหาก

“แต่ล็อกดูผ่อนคลายและสบายใจขึ้นที่มีลูกแมวน่ารักๆสองตัวอยู่กับเขาด้วย”

“.....ข้าคิดว่านั่นเป็นเรื่องที่ดี”

คาร์ลไม่ต้องการบอกความจริงเรื่องที่ออนและฮงมีเจตนาเช่นนั้นแก่เชวฮันและล็อก  เชวฮันตรวจสอบรอบๆห้องเพื่อให้แน่ใจว่ามังกรดำไม่ได้อยู่ในห้องนี้ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่เบาลงกว่าเดิม

“กระผมไม่ได้บอกล็อกหรือแม้แต่โรสลิน..ว่ากระผมพาทั้งสองกลับมาด้วยเพราะท่านคาร์ลสั่งให้ทำเช่นนั้น”

“เยี่ยมมาก”

“ข้าจะบอกแก่เจ้า...ว่าข้าจะเก็บมันไว้เป็นความลับเช่นกัน”

เชวฮันได้แสดงออกถึงความเชื่อถือและมั่นใจในตัวของคาร์ล บางทีอาจเป็นผลมาจากคำสาบานของเมื่อวานนี้ แต่เชวฮันไม่รู้ว่าคำพูดนั้นมันอาจจะเป็นเพียงแค่การเสแสร้งและเขาอาจไม่รู้ว่ามันอาจจะเป็นเพียงคำพูดที่ใช้ยกย่องและสนับสนุนคนเพียงหนึ่งคนในคณะมากกว่าคนๆอื่นได้เช่นกัน

พระเจ้าแห่งความตายจะทำตามคำพูดของคาร์ลและหากจะให้เขาอธิบายมัน..นั่นก็เพราะเขาเป็นคนหนึ่งที่วางชีวิตไว้บนเส้นทางแห่งความตายแล้ว

‘นั่นเป็นเหตุผลที่เหล่าขุนนางใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์ในการเตรียมคำพูดเมื่อพวกเขาจะทำการสาบานต่อพระเจ้าแห่งความตาย พวกเขาจะเฉลี่ยเอาคำพูดจากสิบหน้ากระดาษนั่นมากล่าวคำสาบาน’

คาร์ลคิดว่าเขาจะได้ใช้เชวฮันในอนาคตข้างหน้าก่อนที่จะเริ่มพูดกับเชวฮันซึ่งดูเหมือนจะเชื่อถือเขาจากใจจริงๆ

“เชวฮัน..เจ้าบอกว่าจะลงมือฆ่านักเวทย์ที่ดื่มเลือดคนนั้นหากเจ้าพบกับเขาอีกครั้งใช่หรือไม่?”

“ใช่”

คาร์ลพยักหน้าตอบรับเมื่อได้ฟังคำตอบจากเชวฮันที่ยืนยันอย่างหนักแน่นโดยไม่มีความลังเลใดๆ

“แล้วข้าจะบอกแก่เจ้าว่าจะหาคนคนนั้นได้อย่างไร”

การจ้องมองของเชวฮันเริ่มเปลี่ยนไปแต่คาร์ลยังคงมีท่าทางเช่นเดิม

“แน่นอน..ว่าเราจะต้องป้องกันเหตุการณ์น่ากลัวที่จะเกิดก่อนเป็นอย่างแรก”

ท่าทางของเชวฮันดูเหมือนจะขอให้คาร์ลบอกเขาทันทีแต่ในขณะที่จะเอ่ยปากพูดกับคาร์ลก็ได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้นพร้อมกับเสียงของฮันส์ที่ลอดเข้ามาให้ได้ยิน

“นายน้อย...กระผมได้พาท่านโรสลินมาแล้วขอรับ”

คาร์ลพยักหน้าให้กับเชวฮันและลุกขึ้นจากเก้าอี้ เชวฮันลุกขึ้นจากเก้าอี้อย่างเงียบๆและเดินไปเปิดประตู  ฮันส์และโรสลินเดินผ่านประตูที่ถูกเปิดเอาไว้เข้ามาในห้อง ฮันส์ไม่ได้เข้ามาไกลจากประตูมากนักและเอ่ยสิ่งที่เขาต้องการพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

“นายน้อย...ท่านโรสลิน...โปรดแจ้งให้เราทราบหากท่านต้องการสิ่งใดเพิ่มเติม”

ก่อนที่ฮันส์จะโค้งคำนับและก้าวออกจากห้องไปและเชวฮันก็จะตามหลังเขาออกไปเช่นกัน

“โรสลิน...เดี๋ยวข้าไปอยู่กับล็อกนะ”

“ตกลง”

เมื่อคนทั้งคู่ได้ออกไปจากห้องของคาร์ลแล้วทำให้ในตอนนี้มีเพียงคาร์ลและโรสลินเท่านั้นที่อยู่ภายในห้องดูเหมือนว่าโรสลินจะมีท่าทางสบายๆไม่มีท่าทีเย็นชามากนัก

“ขอบคุณสำหรับคำเชิญ....นายน้อยคาร์ล”

“ไม่เป็นไรหรอก....ท่านโรสลิน”

คาร์ลชี้ไปที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามของเขาและเริ่มพูด

“มีหลายเรื่องที่เราอาจจะได้คุยกัน”

“นายน้อย...ข้าขอเดาว่าท่านไม่ชอบอะไรที่มันอ้อมค้อมใช่หรือไม่?”

โรสลินเริ่มยิ้มออกมาขณะที่เธอเอ่ยถามคาร์ลก่อนที่คาร์ลจะมองออกไปทางหน้าต่างที่เปิดโล่งและพูดขึ้น

“เข้ามา...”

โรสลินรีบหันไปมองรอบๆห้องโดยทันทีก่อนที่เธอจะเห็นใบไม้ลอยเข้ามาในห้อง เธอไม่สามารถระงับอาการตัวสั่นของตนลงได้

อย่างไรก็ตามเธอสามารถคิดถึงสิ่งที่ควรจะเป็นด้วยการใช้เหตุผลต่างๆกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ เธอคิดถึงเรื่องนี้ตลอดทั้งคืนพร้อมๆกับดูแลล็อกไปด้วย พลังเวทย์ที่สามารถสร้างโล่ป้องกันได้สามชั้นและความสามารถในการที่จะทำเช่นนั้นได้มีเพียงคำตอบเดียวเท่านั้น

เธอขยับตัวออกจากการจ้องมองไปยังใบไม้ที่ลอยไปตามเส้นทางต่างๆภายในห้องและหันมามองคาร์ลพร้อมกับเอ่ยถามในทันที

“มังกร..นั่นคือท่านมังกรใช่หรือไม่?”

นักเวทย์มักเคารพและศรัทธาในตัวมังกร...การแสดงออกของเธอถูกแสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเป็นเช่นนั้น คาร์ลเริ่มยิ้มหยันเมื่อเริ่มพูดกับใบไม้ที่ลอยไปมาอยู่ในห้อง

“แนะนำตัวเจ้าหน่อยสิ”

ทันใดนั้นเองใบไม้ก็ลอยไปหยุดอยู่บนโต๊ะหรืออาจเป็นหยุดอยู่ต่อหน้าสเต็กมากกว่า ถ้าหากเจาะจงที่จะจ้องมองมันเป็นพิเศษก็จะเห็นว่ามันได้กลายเป็นมังกรดำ มันได้คลายเวทย์ล่องหนออกไปแล้ว

“ฮึก...”

โรสลินไม่สามารถแม้แต่จะหายใจออกมาได้เพราะเธอกำลังตกใจ แม้ว่าเธอจะรู้ว่าใบไม้ที่ลอยอยู่นั่นกำลังจะกลายเป็นมังกรแต่ก็อดรู้สึกตกใจไม่ได้อยู่ดี มันมีมังกรจำนวนประมาณ 20 ตัวที่ดำรงชีวิตอยู่ทั้งในทวีปตะวันตกและตะวันออกรวมกัน แต่การดำรงอยู่ดังกล่าวก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าเธอในตอนนี้แล้ว

พวกเขาขึ้นชื่อว่าไม่ชอบออกจากอาณาเขตและถ้ำที่อยู่ของตนพวกเขาสนุกสนานและเพลิดเพลินไปกับการใช้ชีวิตได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจมากที่สุดในโลก มังกรคือราชาทั้งของนักเวทย์และธรรมชาติ

พวกเขายังมีชีวิตที่รักความสันโดษ แม้ว่าจะได้รับการยืนยันว่ามีมังกรประมาณ 20 ตัวในโลกแต่พวกเขาก็มีสีสันที่ต่างกันออกไปและในเรื่องของบุคลิกท่าทาง นิสัยและลักษณะเฉพาะตัวก็แตกต่างกันอีกด้วย นักเวทย์จากหอคอยพลังเวทย์ต่างพบว่าสิ่งนี้คือสิ่งที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง ทำไมพวกเขาถึงได้แตกต่างกันเช่นนั้นแม้ว่าจะเกิดมาจากพ่อแม่เดียวกัน?

มีเพียงหนึ่งคำอธิบายที่สามารถอธิบายในสิ่งนี้ให้เข้าใจได้

‘มังกรเป็นสัตว์ที่มีความทระนงในตนเองและต้องการจะแตกต่างจากสิ่งอื่น’

ในขณะที่พวกเขามีชีวิตอยู่พวกเขามีความต้องการที่จะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่ซ้ำกับสิ่งใดๆ แม้แต่เผ่าพันธุ์มังกรของพวกเขาเองก็ไม่ปรารถนาที่จะมีลักษณะที่ซ้ำกับมังกรตัวอื่นเช่นกัน

และสิ่งมีชีวิตที่ดำรงชีพอยู่เช่นนั้นก็อยู่ตรงหน้าโรสลินในตอนนี้แล้ว

มันเป็นเพียงมังกรตัวเล็กๆแต่พลังเวทย์ที่เธอได้สัมผัสและสายตาที่เฉียบคมของมันสามารถบอกโรสลินได้ว่ามังกรตัวนี้ไม่เหมือนกับมังกรตัวอื่น

มังกรดำมองไปที่โรสลินเพียงเล็กน้อยก่อนที่จะหันหน้าหนีไปจากเธอ โรสลินไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรดีเมื่อเห็นท่าทางแบบนั้นของมังกร หลังจากนั้นมังกรก็ขยับไปอยู่ด้านหน้าของสเต็กและเริ่มพูดออกมา

“ข้าหิว.......”

“เชิญ....เจ้าสามารถกินมันได้”

คาร์ลส่ายศีรษะของตนเบาๆเมื่อตอบคำถามนั้นแก่มังกรก่อนที่จะเชิญให้โรสลินนั่งลงตรงเก้าอี้ของเธอ

“เราก็ควรจะทานอาหารของเราได้แล้วเช่นกัน”

“อ่า...ใช่.....ใช่เราควรกินได้แล้ว”

โรสลินมีสีหน้าที่ว่างเปล่าขณะที่นั่งลง เธอได้เห็นมังกรน้อยที่กำลังกินสเต็กที่วางอยู่ตรงหน้าเธอในขณะที่คาร์ลซึ่งแต่งตัวดูดีกว่าทุกวันเพราะต้องไปเข้าร่วมการประชุมพบปะกับขุนนางทางฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือก็กำลังทานซุปที่ถูกทำขึ้นด้วยความประณีตอยู่

ไม่มีใครที่หอคอยพลังเวทย์จะเชื่อเธออย่างแน่นอนหากเธอบอกเรื่องนี้กับพวกเขา

อย่างไรก็ตามโรสลินเชื่อในสิ่งที่ปรากฏต่อสายตาของเธอเช่นเดียวกับส่วนที่เหลือของประสาทสัมผัสทั้งห้าของตัวเธอเอง ทุกสิ่งในธรรมชาติสามารถจะสัมผัสได้จากการใช้ประสาทสัมผัสทั้งห้าของตัวพวกเขาเอง

“....มันเป็นสิ่งที่มหัศจรรย์มากที่นักเวทย์เช่นข้าได้เห็นภาพนี้.....มังกรอยู่ร่วมกับมนุษย์”

โรสลินเชื่อในภาพที่ปรากฏต่อสายตาตนเองและเลือกที่จะเปิดเผยมันออกไปด้วยความซื่อตรง คาร์ลไม่ได้สนใจที่ตอบอะไรออกไปแต่มังกรดำหยุดชะงักกับการกินสเต็กเพื่อหันไปมองโรสลินก่อนที่จะหันศีรษะไปมองคาร์ล

มันเป็นใบหน้าของสัตว์จำพวกสัตว์เลื้อยคลานแต่สามารถมีสีหน้าการแสดงออกที่มองเห็นได้อย่างชัดเจน มังกรดำเริ่มขมวดคิ้วมุ่นเมื่อมองไปยังคาร์ลที่กำลังกินซุปอยู่และเอ่ยออกมาทันที

“อ่อนแอมาก....เขาไม่ได้มีดีไปกว่ามดเลย...นั่นคือเหตุผล”

“แน่นอนอยู่แล้ว”

ทั้งคาร์ลและมังกรดำต่างเห็นพ้องต้องกันกับสิ่งที่มังกรเอ่ย โรสลินเฝ้าดูสิ่งนี้ด้วยความสนใจก่อนจะพยักหน้าของเธอช้าๆ

“การที่ข้าได้ทานอาหารร่วมกับนายน้อยคาร์ลและท่านมังกร...ถือว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่ง”

โรสลินเริ่มผ่อนคลายลงขณะที่ยกส้อมของเธอขึ้นมาถือไว้ด้วยท่วงท่างดงาม ขณะที่คาร์ลยังคงทานซุปต่อไปเรื่อยๆ

‘เธอเป็นคนที่มีความกล้าหาญจริงๆ’

หากเป็นนักเวทย์คนอื่นอาจจะตัวสั่นไม่หยุดและก็คงเอ่ยชื่นชมยกย่องมังกรไปแล้วในตอนนี้ ก่อนที่พวกเขาจะขอให้มังกรสอนเกี่ยวกับการใช้พลังเวทย์เล็กๆน้อยๆให้กับพวกเขา ความมหัศจรรย์ของมังกรคือสิ่งที่จะทำให้นักเวทย์ในดินแดนต่างๆบ้าคลั่งได้โดยง่าย

คาร์ลเริ่มพูดกับโรสลินที่กำลังเริ่มทานอาหารด้วยสลัดเป็นจานแรก

“ท่านสามารถพักอยู่ที่นี่ได้นานเพียงใดก็ได้...ตามที่ท่านต้องการได้เลย”

“นายน้อยคาร์ล.......”

“ว่าอย่างไร?”

“ข้ามีสามเรื่องที่อยากจะรู้แต่หนึ่งในนั้นข้าได้รับคำตอบแล้ว...ดังนั้นจึงมีอีกสองเรื่องที่ข้ายังไม่รู้...ข้าจะขอถามท่านได้หรือไม่?”

“เชิญถามมาเถิด...”

เรื่องแรกอาจจะเกี่ยวกับมังกร คาร์ลได้ตัดสินใจที่จะเปิดเผยการมีตัวตนของมังกรต่อโรสลินหลังจากใคร่ครวญมาเป็นเวลานาน เขารู้สึกว่ามันอาจจะเป็นประโยชน์ต่อเขาได้ในอนาคตและเขารู้สึกเหมือนกับว่าสามารถคาดเดากับคำถามที่เหลืออีกสองข้อได้เช่นกัน

“นี่คือสองสิ่งที่ข้าอยากจะรู้เกี่ยวกับมัน”

โรสลินเอ่ยถามคำถามของเธออย่างใจเย็นและเปิดเผยจริงใจ

“มันจะไม่เป็นไรจริงๆเช่นนั้นหรือที่ท่านอนุญาตให้ใครก็ไม่รู้พักอยู่ที่บ้านท่านเช่นนี้? ถึงแม้ว่าข้าจะเป็นนักเวทย์ก็ตาม...แต่ในฐานะที่ท่านเป็นชนชั้นสูง...ท่านจะต้องรู้สึกไม่ดีกับการที่จะเกี่ยวข้องกับคนแปลกหน้าเช่นนี้”

คาร์ลสามารถตอบคำถามนี้ได้อย่างง่ายดาย

“นั่นถือว่าเป็นเรื่องที่ดีเพราะเชวฮันเป็นคนที่พาท่านมา”

คาร์ลหันไปมองมังกรดำที่กำลังกินสเต็กในจานอยู่ ก่อนที่จะหันกลับไปมองโรสลินและเอ่ยต่อ

“และกระผมยังมีเด็กคนนี้”

มังกรดำไม่ได้เอ่ยอะไรออกมากับสิ่งที่คาร์ลพูดขึ้นแต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นมังกรก็กระพือปีกของตนหนึ่งครั้งก่อนจะก้มลงไปกินสเต็กในจานและเริ่มกินสเต็กด้วยความเร็วที่มากกกว่าเดิม โรสลินมองไปที่มังกรครู่ใหญ่ก่อนที่จะย้ายดวงตาสีแดงของเธอกลับมาที่คาร์ลซึ่งกำลังทานสเต็กปลาแซลมอนอยู่

“.....ข้าเข้าใจแล้ว...และนี่จะเป็นคำถามที่สามของข้า”

คาร์ลหยุดการทานสเต็กปลาแซลมอนเอาไว้ก่อนและเงยหน้าขึ้นมองโรสลิน ดวงตาของคนทั้งคู่สบกันชั่วขณะและทำให้คาร์ลสามารถมองเห็นตาดำที่เป็นสีแดงของเธอได้ เดิมทีโรสลินเปลี่ยนตาดำของเธอจากสีแดงเป็นสีดำด้วยพลังเวทย์ของเธอเมื่อมุ่งหน้าเข้าสู่เมืองหลวงและทำสิ่งเดียวกันกับสีผมของเธอด้วย อย่างไรก็ตามกรณีดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นในตอนนี้

โรสลินเอ่ยถามคาร์ลต่อทันที

“ทำไมท่านต้องพูดกับข้าด้วยความนอบน้อมเช่นนั้นทั้งๆที่ท่านเป็นคนจากชนชั้นสูง?”

คาร์ลยกแก้วไวน์ขาวที่ตั้งไว้ข้างสเต็กปลาแซลมอนขึ้นจิบช้าๆ ก่อนจะเอ่ยตอบโรสลิน

“ผมสีแดง ดวงตาสีแดงและเป็นนักเวทย์จากนั้นยังมีชื่อที่เปิดเผยตัวตนได้ชัดเจนว่า..โรสลิน”

มันเป็นเรื่องแปลกที่จะแกล้งทำเป็นว่าไม่รู้จักคนที่เปิดเผยตัวเองได้อย่างชัดเจนเช่นนี้ได้

คาร์ลเริ่มยิ้มเต็มใบหน้าพร้อมๆกับที่เอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง

“องค์หญิง...ไม่ใช่ว่าจะต้องเป็นพระองค์หรือพะยะค่ะที่จะต้องหยุดพูดด้วยความนอบน้อมต่อหม่อมฉันเช่นนั้น?”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด