ตอนที่แล้วตอนที่ 164 ญาติพี่น้องจอมเอาแต่ใจ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 166 ปัญหา

ตอนที่ 165 เดาซิว่าพวกเราเห็นใคร?


"ทำไมเจ้าต้องทำตัวเอะอะขนาดนั้นด้วยเล่า? เจ้ามีก้นที่งดงาม แต่ข้าไม่อาจสัมผัสมันได้?" จางฮวาเหลียนที่เป็นญาติคนโต เขาดูไม่พอใจเป็นอย่างมาก นั่นเป็นเพราะการสัมผัสก้นของคนอื่นมันเป็นกิริยาที่ต่ำต้อย แม้ว่าเขาจะคิดว่าตัวเองเป็นผู้ชายเจ้าชู้ แต่เขาไม่ควรทำแบบนั้นในที่สาธารณะเช่นนี้

"เจ้าไม่คิดจะขอโทษลูกพี่ลูกน้องของข้าหน่อยรึ?" ถงหยวนญาติคนรองกล่าวออกมาด้วยความหยิ่งยโส "พวกข้าเป็นลูกค้าที่ทรงเกียรติมากที่สุดของศาลาบุปผางามของเจ้า! เจ้ารู้หรือไม่ว่าพวกข้าเป็นใคร? บรรดาผู้คนที่เข้ามาในลานด้านข้างได้ล้วนอยู่ในระดับแก่นแท้จิตวิญญาณ หนึ่งคำพูดจากพวกข้า มันสามารถทำให้ครอบครัวของเจ้าต้องตาย!"

สาวใช้ทั้งดูโกรธเกรี้ยวและดูอึดอัดใจ อย่างไรก็ตาม นางเป็นเพียงแค่สาวใช้ที่มีอำนาจอันน้อยนิดเท่านั้น มันเห็นได้ชัดว่านางเป็นผู้เสียหาย แต่ด้วยคำพูดของพวกมันราวกับว่านางเป็นฝ่ายผิด

ป้าทั้งสองคนดูไม่สนใจ ในสายตาของพวกนาง สาวใช้เทียบไม่ได้แม้แต่เส้นผมของลูกของพวกนาง ดังนั้นถ้าลูกชายของพวกนางจับก้นนางแล้วมันจะทำไม?  ยิ่งไปกว่านั้น ไม่ใช่ว่าผู้หญิงที่อยู่ที่นี่ทุกคนล้วนขายตัวของตัวเองหรอกหรือ?

"ปล่อยนางไปเถอะ!" เจียงเฟยหยานกล่าวขึ้นมา ในฐานะผู้หญิงจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่นางจะเห็นอกเห็นใจสาวใช้ อย่างไรก็ตาม คนที่ได้รับประโยชน์มากที่สุดคือญาติของนางเอง

"เฟยหยาน เจ้ากำลังจะได้เป็นเจ้าสาวของตระกูลใหญ่ในอนาคตและกำลังจะมีสถานะที่สูงส่งมาก เจ้าไม่จำเป็นต้องเห็นอกเห็นใจโสเภณีอย่างนาง!" ป้าหนึ่งกล่าวกับเจียงเฟยหยานด้วยน้ำเสียงเชิงสั่นสอน

"ถูกต้องแล้วเฟยหยาน เจ้าห้ามทำตัวใจดีเกินไป เจ้าจะต้องเรียนรู้ที่จะไร้ความปรานีในแบบของเจ้า" ป้าสองกล่าวต่อ พ่อแม่ของเจียงเฟยหยานยังคงนิ่งเงียบอยู่ จากเท่าที่ดูแล้วทั้งพ่อและแม่ของนางไม่ค่อยมีอำนาจมากเท่าไหร่นักภายในตระกูลเจียง และพ่อของนางไม่อาจเปรียบเทียบกับพี่สาวของเขาทั้งสองคนได้ที่แต่งงานกับคนนอกตระกูล

ความจริงมันเป็นเช่นนั้น หัวหน้าตระกูลเจียงในปัจจุบันเป็นยายของเจียงเฟยหยาน และนางรู้สึกซาบซึ้งมากกับลูกสาวทั้งสองคนของนางที่ได้แต่งงานกับคนนอกตระกูลเพราะพวกนางทั้งคู่ต่างได้สามีที่เป็นสมาชิกของตระกูลชั้นกลาง แม้ว่าสามีของพวกนางจะไม่ได้มีความสำคัญมากนักในตระกูลของพวกเขาเอง แต่มันทำให้ตระกูลเจียงของพวกนางยังได้รับประโยชน์จากการคุ้มครองและอิทธิพลของตระกูลพวกเขาจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่พวกเขาจะทำตัวหยิ่งยโส

ทุกครั้งที่พวกเขากลับไปยังบ้านพ่อแม่ พวกเขาจะเดินวางมาดอยู่ด้านหน้า และเมื่อเวลาผ่านไป พ่อแม่ของเจียงเฟยหยางเริ่มพูดน้อยลงและปล่อยให้พวกป้าทั้งสองพูดตามเท่าที่ต้องการ

ครั้งนี้ แผนแต่งงานของเจียงเฟยหยางกับตระกูลชั้นกลางเป็นฝีมือของป้าทั้งสองคน ในสายตาของพวกนางนี่นับว่าเป็นผลดีต่อตัวเจียงเฟยหยางเอง

อย่างไรก็ตาม จิงหวู่จื้อนั้นเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เขาสามารถจองลานด้านข้างของศาลาบุปผางามได้ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่ทัศนคติของป้าทั้งสองคนจะเปลี่ยนไปและพวกนางได้เริ่มแก้ไขความสัมพันธ์กับพ่อของเจี่ยงเฟยหยานเพื่อที่จะมีตำแหน่งสูงขึ้นผ่านความช่วยเหลือของจิงหวู่จื้อในอนาคต

สาวใช้ร้องไห้ออกมาจากคำพูดที่รุนแรงของป้าทั้งสองคน แต่โชคร้ายที่ศาลาบุปผางามนั้นมีกฎเป็นของตัวเอง นางจึงไม่กล้าที่จะปกปิดใบหน้าและปล่อยมันไว้ทั้งอย่างนั้น

เมื่อจางฮวาเหลียนเห็นเช่นนั้นเขาจึงกล่าวออกไปอย่างฮึกเหิมว่า "มานั่งข้างข้า และรินไวน์ให้ข้าสักแก้ว"

"ฮึ่ม!" หลิงฮันลุกขึ้นยืน เขารู้ว่าสมาชิกของตระกูลเจียงเป็นคนที่หยิ่งยโสและทนงตัว แต่เขาไม่เคยคิดเลยว่าพวกมันทั้งสองคนจะทำพฤติกรรมน่ารังเกียจในที่โจ่งแจ้งแบบนี้ เขาเดินเข้าไปหาสาวใช้คนนั้นแล้วมอบสัญญาณเงินตราให้กับนางพร้อมกับกล่าวว่า "ข้าต้องขอโทษเจ้าจริงๆ นี่เป็นคำขอโทษเล็กๆน้อยๆสำหรับข้า ถึงแม้ว่ามันจะไม่สามารถลบล้างความอัปยศของเจ้าได้ แต่ได้โปรดรับมันไว้ด้วยเถอะ"

สาวใช้คนนั้นจ้องมองไปที่สัญญาณเงินตราและแสดงอาการตกตะลึงออกมา มันเป็นสัญญาณเงินตราที่มีมูลค่าหนึ่งหมื่นเหรียญเงิน!

ต้องเข้าใจก่อนว่านางเป็นเพียงแค่สาวใช้ที่อยู่ระดับหลอมกายาขั้น 7 เท่านั้น จำนวนเงินที่นางสามารถได้รับมากที่สุดในหนึ่งเดือนนั้นมีประมาณสามร้อยเหรียญเงิน แม้ว่าจำนวนเงินที่นางได้ถือว่าค่อนข้างมากทีเดียว แต่เมื่อเทียบกับหนึ่งหมื่นเหรียญเงินที่นางได้รับจากหลิงฮันแล้ว มันแตกต่างกันมาก

"นายท่าน ข้าไม่กล้ารับ!" นางกล่าวด้วยความเขินอาย

"รับมันไว้!" หลิงฮันกล่าวพร้อมกับรอยยิ้ม เขาโบกมือและพูดว่า "พวกเราไม่ต้องการบริการของพวกเจ้าอีกต่อไป พวกเจ้าทุกคนไปได้แล้ว!"

"เจ้าค่ะ นายท่าน!" สาวใช้ทั้งแปดคนโค้งคำนับแล้วจากไป พวกนางรู้ดีว่าเจ้านายตัวจริงของที่นี่คือหลิงฮัน และพวกนางทุกคนจ้องมองไปที่หลิงฮันด้วยความกตัญญูในสายตาของพวกนาง เมื่อดวงตาของพวกนางกวาดสายตาไปมองที่สมาชิกตระกูลเจียง มันกลับเต็มไปด้วยความรังเกียจและดูถูกในสายตาของพวกนาง

"ใครอนุญาตให้เจ้าออกไป? พวกเจ้าทุกคนต้องอยู่ที่นี่!" จางฮวาเหลียนกล่าวออกมาทันที

"ถูกต้อง พวกเจ้ากล้าดียังไงถึงจะออกไป?" ถงหยวนลุกขึ้นยืน เขาวางแผนที่จะหยุดไม่ให้พวกนางจากไป

เมื่อเห็นเช่นนั้น จิงหวู่จื้จึงรีบลุกขึ้นยืนและกล่าวให้ถงหยวนกลับไปนั่งที่ของตัวเองว่า "พี่รอง ปล่อยพวกนางไปเถิด" เขาเกรงว่าหลิงฮันจะรู้สึกไม่พอใจ ถ้าถงหยวนกล้าที่จะล้ำเส้นหลิงฮันและสร้างความเดือดร้อนให้กับเขา มันอาจทำให้หลิงฮันโกรธเกรี้ยวขึ้นมาได้

ป้าทั้งสองคนจากตระกูลเจียงกำลังจะพูดอะไรบางอย่างออกมา แต่เมื่อพวกนางเห็นจิงหวู่จื้อพูดออกมาเช่นนั้นเพื่อยุติปัญหา พวกนางจึงทำได้เพียงเก็บความโกรธไว้ในใจ ตอนนี้พวกนางไม่กล้าที่จะทำตัวรุกรานจิงหวู่จื้อ นั่นเป็นเพราะ เขาเป็นชายที่สามารถจองลานด้านข้างของศาลาบุปผางามได้

"หวู่จื้อ ป้าสองไม่ได้อยากตำหนิเจ้าหรอก แต่ว่าถึงเจ้าจะใจดีต่อสหายเพราะเจ้ามีความซื่อสัตย์ต่อสหาย แต่ถึงอย่างไรสหายก็ยังถือว่าเป็นคนนอกอยู่ดี แล้วพวกเราจะเชื่อถือมันเท่ากับคนของพวกเราเองได้อย่างไร!" ป้าสองกล่าวพาดพิงหลิงฮัน

"ถูกต้อง เจ้าลองมองมันดู เจ้าเชิญสหายของเจ้ามา แล้วดูสิ่งที่มันทำสิ? มันกลับพาเด็กสาวที่ดูสกปรกมาด้วย นางดูเหมือนกับว่าทั้งชีวิตไม่เคยกินอะไรมาก่อน มันเป็นเรื่องที่น่าอายแค่ไหน คำแนะนำของข้าคือ...เจ้าควรตัดความสัมพันธ์กับคนอย่างมัน!" ป้าหนึ่งกล่าวออกมาเช่นกัน

พวกนางทั้งสองคนไม่ได้พูดเสียงเบา มันเป็นเสียงที่ดังฟังชัดพอที่หลิงฮันจะได้ยินคำพูดของพวกนาง

จิงหวู่จื้อรู้สึกหวาดกลัว ตัดความสัมพันธ์กับคนอย่างหลิงฮัน? ถ้าเขาไม่ได้เป็นสหายกับคนอย่างหลิงฮัน แล้วพวกเขาทุกคนจะได้นั่งรับประทานอาหารค่ำอยู่ที่นี่ได้อย่างไร? เขาขโมยภาพลักษณ์ของหลิงฮันมาและเมื่อเขาเห็นว่าหลิงฮันไม่ได้แสดงความโกรธเกรี้ยวออกมา มันจึงทำให้เขารู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมาก ถึงกระนั้น เขาก็ไม่กล้าที่จะปล่อยให้ป้าปากร้ายทั้งสองคนพูดต่อและรีบกล่าวออกมาอย่างรวดเร็วว่า "เอาล่ะ เอาล่ะ ทุกคนได้โปรดเพลิดเพลินกับอาหารและเครื่องดื่มของตัวเองเถิด! ท่านลุง ท่านป้า ได้โปรดให้ข้าได้ดื่มอวยพรให้พวกท่านด้วยเถิด"

จากนั้นจิงหวู่จื้อได้ซดหมดแก้วของเขา

หลิงฮันรู้ว่าจิงหวู่จื้อกำลังขอโทษด้วยวิธีนี้ เขายิ้งออกมาอย่างใจเย็น งานเลี้ยงอาหารค่ำในค่ำคืนนี้เพื่อตอบแทนความโปรดปรานของจิงหวู่จื้อที่มีต่อเขาในก่อนหน้านี้ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่เขาจะไม่แสดงความโกรธออกมาโดยง่าย แต่ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับว่าป้าทั้งสองคนจากตระกูลเจียงยังอยากแสวงหาความตายของตัวเองอีกหรือไม่

หลังจากที่ดื่มไวน์ไปหลายแล้ว พวกเขาทุกคนเริ่มมึนเมาเล็กน้อยป้าหนึ่งลุกขึ้นยืนและพูดกับป้าสองว่า "พวกเราไม่เคยมาที่ลานด้านข้างมาก่อน พวกเราไปเดินเล่นกันเถอะ ใครจะไปรู้บางทีพวกเราอาจเจอกับบุคคลสำคัญก็เป็นได้ ถ้าพวกเราได้เป็นสหายกับพวกเขา มันอาจทำให้อนาคตของพวกเรารุ่งโรจน์ขึ้น!"

"ใช่แล้ว ใช่แล้ว!" ป้าสองรีบลุกขึ้นยืนเช่นกัน

ป้าทั้งสองคนเอนตัวเข้าหากันและเดินออกไป อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นชั่วครู่ พวกนางก็เดินกลับมาพร้อมกับสีหน้าที่สดใส "ลองเดาซิเมื่อกี้พวกเราเห็นใคร?"

โดยไม่รอคำตอบ พวกนางทั้งสองคนตอบคำถามของตัวเอง "ปรมาจารย์หยวนชู่หยวน! พวกเจ้ารู้หรือไม่ว่าปรมาจารย์หยวนชู่คือใคร? เขาเป็นนักปรุงยาระดับดำขั้นกลางเชียวนะ! สถานะของเขาสูงส่งพอที่จะทำให้พวกเจ้าทุกคนต้องหวาดกลัวต่อความตาย!

สมาชิกของตระกูลเจียงเกิดความรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา นั่นคือนักปรุงยาระดับดำขั้นกลางที่พวกนางกำลังพูดถึงอยู่ คนอย่างเขาเป็นดั่งภูเขาที่พวกเขาทำได้เพียงแค่เงยหน้ามองขึ้นไปเท่านั้น

"ฮวาเหลียน หยวนเอ๋อ มากับข้าเร็วเข้า พวกเราจะไปทักทายปรมาจารย์หยวนชู่กัน ใครจะไปรู้ว่าหากปรมาจารย์หยวนชู่มีความสุข เขาอาจปรุงเม็ดยาให้พวกเราก็เป็นได้ เมื่อถึงเวลานั้น มันจะเป็นเรื่องที่ง่ายดายสำหรับพวกเจ้ามากที่จะทะลวงผ่านระดับรวมธาตุ" ป้าหนึ่งกล่าวด้วยความตื่นเต้น นั่นคือเหตุผลที่พวกป้าทั้งสองรีบร้อนกลับมาหาพวกเขา

"นั่นจะไม่ใช่เรื่องที่เหมาะสมใช่หรือไม่? ปรมาจารย์หยวนชู่เป็นคนที่มีสถานะสูงส่งมาก ถ้าพวกเราผลีผลามเข้าไปรบกวนเขา มันอาจทำให้ปรมาจารย์หยวนชู่โกรธได้" จิงหวู่จื้อกล่าวอย่างเร่งรีบ หลิงฮันไม่ได้โมโหเพื่อจิงหวู่จื้อ แต่ปรมาจารย์หยวนชู่คือใครน่ะหรือ? เขาเป็นคนที่จะไม่มีทางไว้หน้าจิงหวู่จื้อและตระกูลเจียง

"หึ่ม ตอนนี้สถานะทางสังคมของพวกเราเองก็สูงขึ้นแล้ว พวกเราแค่จะขอให้เขาปรุงยาให้แค่นั้นเอง!" ป้าสองกล่าวอย่างใจเย็น

พวกนางทั้งสองโง่เง่ายิ่งนัก!

จิงหวู่จื้อสาปแช่งอยู่ในใจ จู่ๆเขาก็รู้สึกอยากจะพุ่งเข้าตบคนโง่สองคนนั่นอย่างไม่อาจควบคุมได้

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด