บทที่ 32 เจ้า 7 (1) [อ่านฟรี]
บทที่ 32 เจ้า 7 (1)
คาร์ลออกจากลานฝึกซ้อมพร้อมกับเชวฮัน
“ฮันส์..รอน....จัดการพาสองคนที่อยู่ด้านในออกมาที”
คาร์ลได้สั่งให้ฮันส์และรอนที่รออยู่ด้านนอกทางเข้าลานฝึกซ้อมชั้นใต้ดินให้พาโรสลินและล็อกออกมาจากด้านในและจัดการดูแลความสะดวกของทั้งสองให้เรียบร้อย ขณะที่คาร์ลมุ่งหน้ากลับไปยังห้องของตนพร้อมกับเชวฮันทันที โต๊ะที่ถูกวางอาหารเย็นชืดที่ถูกจัดเตรียมไว้ก่อนหน้านี้ได้อยู่ตรงหน้าระหว่างพวกเขาทั้งสองคนแล้ว ก่อนที่คาร์ลจะเริ่มพูดขึ้น
“เล่าให้ข้าฟังที”
“ขอรับ...”
ทั้งสองสามารถเข้าใจกันได้ในทันทีโดยไม่ต้องมีการเกริ่นนำใดๆ เชวฮันยืดตัวขึ้นเล็กน้อยและเริ่มพูด
“ทุกอย่างเป็นไปด้วยดีจนกระทั่งกระผมได้พบกับโรสลิน”
“..เล่าต่อไป..”
“กระผมมาถึงเมืองที่ท่านคาร์ลได้บอกเอาไว้ เมื่อไปถึงที่นั่นก็ได้พบกับสมาคมพ่อค้ากลุ่มหนึ่งที่มุ่งหน้าไปยังเมืองหลวงตามที่ท่านคาร์ลได้อธิบายเอาไว้ มันเป็นเพียงแค่กลุ่มพ่อค้าเล็กๆที่มีคนเพียงห้าคนจนไม่อาจเรียกได้ว่ากลุ่มสมาคมพ่อค้าได้”
หากเรียกว่ากลุ่มพ่อค้าขนาดเล็กจะสามารถอธิบายได้ชัดเจนกว่ากลุ่มสมาคมพ่อค้าเสียอีก
“พวกเขาได้จัดหาทหารรับจ้างสองนายเพื่อคอยคุ้มกันพวกเขามันย่อมเป็นเช่นนั้นเพราะผู้คุ้มกันของพวกเขาได้รับบาดเจ็บ”
ตามเนื้อหาในนิยาย เชวฮันและโรสลินจะกลายเป็นทหารรับจ้างสองนายนั่น
“และนั่นทำให้กระผมได้พบกับโรสลินตามที่ท่านคาร์ลได้บอกเอาไว้”
อาณาจักรเบร็คอยู่ทางฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของอาณาจักรโรมัน ตอนแรกโรสลินต้องการออกจากอาณาจักรเบร็คเพื่อมุ่งหน้าไปยังหอคอยพลังเวทย์ที่อยู่ในอาณาจักรวิปเปอร์ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของอาณาจักรโรมัน ก่อนที่จะมีคนพยายามลอบสังหารเธอขณะที่เดินทางผ่านอาณาจักรโรมันไป
เธอซ่อนทักษะการใช้พลังเวทย์ของเธอเกือบครึ่งหนึ่งเอาไว้และรอเวลาสำคัญในการหลบหนีก่อนที่เธอจะสามารถใช้ทักษะทั้งหมดที่เธอมีหลบหนีจากอันตรายมาได้ เธอคิดว่ามันคงจะเป็นเรื่องที่ดูฉลาดกว่าหากจะมุ่งหน้าไปยังเมืองหลวงของอาณาจักรโรมันเพื่อหาข้อมูลบ้างส่วนจากสมาคมพ่อค้าแทนที่จะกลับไปยังอาณาจักรเบร็คโดยที่เธอไม่รู้อะไรเกี่ยวกับคนร้ายที่พยามลอบสังหารเธอเลย
‘และเมื่อถึงเวลานั้นเธอจะเป็นสาเหตุของสถานการณ์บางอย่างเมื่อเดินทางกลับไปถึงอาณาจักรเบร็ค’
เชวฮันได้เล่าถึงการพบกันระหว่างเขากับโรสลินที่เป็นทหารรับจ้างของกลุ่มพ่อค้าต่อไปเรื่อยๆ
“เธอกำลังมุ่งหน้าไปยังเมืองหลวงและตั้งแต่ที่เรามุ่งหน้าไปยังเมืองหลวงด้วยกันเราก็ค่อนข้างที่จะเป็นมิตรต่อกันมากขึ้น”
‘ห๊ะ?’
“หืม?....เป็นมิตรเช่นนั้นหรือ?”
“ใช่...”
เชวฮันพูดขึ้นด้วยท่าทางที่ดูเก้อเขินเล็กน้อย
“กระผมไม่ใช้คนที่จะเริ่มพูดคุยกับคนอื่นได้ถ้าหากพวกเขาไม่พูดกับกระผมก่อนแต่...กระผมคิดว่าพวกเราน่าจะเป็นเพื่อนกันได้”
“ไม่จริงน่า....เจ้าต้องทำตัวตามปกติเหมือนที่เคยทำสิ”
คาร์ลมีสีหน้าเป็นกังวล ในนิยายเรื่องนี้ทั้งเชวฮันและโรสลินจะไม่ได้เข้าใกล้กันจนกว่าพวกเขาจะได้พบกับล็อก โรสลินกลายเป็นคนระวังตัวหลังจากที่โดนลอบสังหารจึงทำให้เธอไม่ค่อยเป็นมิตรกับใครเช่นเดียวกับเชวฮันหลังจากเกิดเหตุการณ์สังหารหมู่ในหมู่บ้านแฮร์ริสเขาจึงกลายเป็นคนที่ไม่น่าจะเป็นมิตรกับใครได้อีก
เชวฮันพยักหน้าตอบรับกับคำพูดของคาร์ลก่อนที่จะยิ้มออกมาและพูดเพิ่มเติม
“มันไม่ได้เป็นสิ่งที่กระผมมักจะทำแต่กระผมต้องการทำในสิ่งที่มันถูกต้องเพราะนี่เป็นวิธีของกระผมที่จ่ายเงินคืนท่านได้”
เฮ้อ......คาร์ลถอนหายใจออกมาและส่ายศีรษะของตนเบาๆ
เชวฮันดูเหมือนจะคาดหวังว่าเขาสามารถจัดการมันได้อย่างดีก่อนที่เขาจะพูดต่อด้วยท่าทางที่เคร่งขรึมขึ้น
“กลุ่มคนพวกนั้นวางแผนที่จะพักในหมู่บ้านที่ท่านคาร์ลกล่าวไว้ว่ากระผมจะได้พบกับล็อกและจะพักอยู่ที่นั่น2-3 วันก่อนออกเดินทางต่อ”
นั่นคือเรื่องจริงที่ว่ากลุ่มพ่อค้าเล็กๆ5คนนั่นถูกก่อตั้งขึ้นจากคนที่ได้รับความช่วยเหลือจากเผ่าหมาป่าสีน้ำเงินและผู้คุ้มกันที่ได้รับบาดเจ็บก็เป็นนักรบผู้คุ้มกันจากเผ่าหมาป่าสีน้ำเงินจริงๆ
พ่อค้าได้จงใจที่จะเลือกใช้เส้นทางที่ห่างไกลจากเมืองพัซเซิลไปยังเมืองหลวงเพื่อส่งมอบสิ่งของที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวันให้แก่ชาวเผ่าหมาป่าสีน้ำเงินและได้รับสุมนไพรหายากเป็นของแลกเปลี่ยน
แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องที่ยากลำบากเช่นเดียวกับการเสียเวลามากยิ่งขึ้นหากต้องเดินทางลึกเข้าไปในภูเขาซึ่งเป็นที่อยู่ของเผ่าหมาป่าสีน้ำเงิน นั่นเป็นเหตุผลที่พวกเขาได้นัดพบกันที่หมู่บ้านเล็กๆที่อยู่ด้านล่างของภูเขาแทน ในตอนนี้พ่อค้าคนนี้มีอายุได้ 60 ปีและเขาได้เป็นหุ้นส่วนกับเผ่าหมาป่าสีน้ำเงินมาได้สามสิบปีแล้ว
“แต่มีบางอย่างเกิดขึ้น..เมื่อเรามาถึงหมู่บ้านเล็กๆแห่งนี้แล้ว”
คาร์ลเริ่มตื่นตัวเมื่อได้ยินเชวฮันเอ่ยขึ้น เรื่องที่สำคัญจะเริ่มตั้งแต่ตรงนี้สินะ?
“ทันทีที่เราเดินทางถึงหมู่บ้าน...กระผมจึงได้ทราบว่าผู้คุ้มกันเป็นสัตว์อสูรของเผ่าหมาป่าสีน้ำเงินและกระผมก็ได้รู้ว่าพวกเขากำลังวางแผนที่จะไปพบกับสมาชิกของเผ่าหมาป่าสีน้ำเงินเพื่อทำการค้าด้วยกันซึ่งก็เป็นหมู่บ้านเดียวกับที่ท่านคาร์ลได้บอกเอาไว้”
คาร์ลพยักหน้าให้กับคำพูดของเชวฮัน เขารู้ว่าว่าเชวฮันเป็นคนที่เข้าใจอะไรๆได้ง่ายมาก
“นั่นเป็นเหตุผลที่กระผมเชื่อว่า..จำเป็นที่จะต้องติดตามสมาชิกของเผ่าหมาป่าสีน้ำเงินเข้าไปในหมู่บ้านเพื่อตามหาล็อกให้เจอให้ได้”
‘แต่สมาชิกของเผ่าหมาป่าสีน้ำเงินก็ไม่มีใครปรากฏตัวขึ้น’
“แต่...ไม่มีใครปรากฏตัวขึ้นเพื่อทำการค้าสักคนเมื่อเรื่องเป็นเช่นนี้แล้วพ่อค้าจึงได้ขอให้เราช่วยพวกเขาเพิ่มเติม”
คาร์ลนึกถึงคำขอที่พวกเขาจะได้รับ
‘เข้าไปในหมู่บ้านของเผ่าหมาป่าสีน้ำเงินพร้อมกับผู้คุ้มกันจากเผ่าที่ได้รับบาดเจ็บ’
“เหล่าพ่อค้าขอให้พวกเราเข้าไปในหมู่บ้านของเผ่าหมาป่าสีน้ำเงินพร้อมกับผู้คุ้มกันที่ได้รับบาดเจ็บ”
“แล้วเจ้าก็เห็นด้วยเช่นนั้นหรือ?”
“ใช่...ทั้งกระผมและโรสลินต่างคิดเช่นเดียวกัน”
มันยังคงเป็นเรื่องราวเช่นเดียวกับในนิยายเพียงแต่อาจมีบางอย่างที่เปลี่ยนไปได้?
ในนิยายเรื่อง ‘กำเนิดวีรบุรุษ’ เชวฮันและโรสลินได้เดินทางเข้ามาถึงหมู่บ้านของเผ่าหมาป่าสีน้ำเงินพร้อมกับนักรบผู้คุ้มกันของเผ่า ก่อนที่จะเห็นเพียงหมู่บ้านที่ถูกทำลายพร้อมกับนักฆ่าจากองค์กรลับที่พยายามจะออกไปจากหมู่บ้าน เชวฮันได้เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับหมู่บ้านแฮร์ริสและเริ่มโจมตีพวกเขาทันที พร้อมๆกับที่นักรบผู้คุ้มกันของเผ่าจะเกิดการคลุ้มคลั่งและเริ่มสังหารเหล่านักฆ่าทันที เขาได้รับบาดเจ็บมากขึ้นจากการต่อสู้ในครั้งนี้และจบลงด้วยความตาย
‘และนั่นทำให้โรสลินเห็นความแข็งแกร่งของเชวฮัน’
โรสลินผู้ซ่อนความแข็งแกร่งของตนและปลอมตัวเป็นเพียงนักเวทย์ขั้นต้นเท่านั้น เธอได้รับรู้ถึงความแข็งแกร่งของเชวฮันและขอให้เขากลับไปยังอาณาจักรเบร็คเป็นเพื่อนเธอให้ได้ แน่นอนว่าค่าตอบแทนที่เธอเสนอให้เขานั้นเป็นจำนวนมาก
‘ทั้งสองคนได้พบกับล็อกที่ซ่อนตัวอยู่ในหมู่บ้านที่ถูกทำลายอย่างราบคาบนี้’
‘ล็อก’เด็กชายหมาป่าที่แสนขี้ขลาดเขายังคงซ่อนตัวอยู่ในจุดที่หัวหน้าเผ่าได้บอกกับเขาไว้จนกระทั่งเชวฮันหาเขาพบ บุคลิกที่สำคัญของล็อกนั้นเขาเป็นคนที่ขี้ขลาด อ่อนแอและเชื่องช้า เรียกได้ว่าตัวละครของล็อกเป็นตัวละครที่ทำให้นักอ่านรู้สึกหงุดหงิดและรำคาญได้ง่ายมาก
อย่างไรก็ตามความสามารถที่แท้จริงและความแข็งแรงของร่ายกายของเขาก็ถูกจัดให้เป็นผู้แข็งแกร่งในห้าอันดับแรกของนิยายเรื่องนี้หลังจากที่เขาผ่านการกลายร่างเป็นครั้งแรกแล้ว
“ท่านคาร์ล....”
“อะไร?”
‘แต่ทำไมเวลาการกลายร่างของเขาถึงได้เกิดเร็วกว่าในนิยายถึงหนึ่งปี?’
“...ที่นั่น..ข้าเห็นบางอย่างที่ข้ารู้สึกคุ้นเคย”
“เจ้าเห็นอะไร?”
เชวฮันพยักหน้าให้กับคำถามของคาร์ล อาหารที่เย็นชืดถูกวางไว้ตรงหน้าของพวกเขาแต่มันอาจจะร้อนขึ้นได้อย่างอัตโนมัติจากบรรยากาศที่เริ่มคุกรุ่นของพวกเขาในตอนนี้ ก่อนที่เชวฮันจะเริ่มพูดต่อ
“ดาวสีแดงและดาวสีขาวห้าดวง”
คาร์ลตัวแข็งทื่อไปทันที เขารู้สึกได้ว่าหัวใจได้หล่นไปกองแทบเท้าแล้ว เชวฮันกล่าวว่าเขาได้พบกับทีมนักฆ่าที่เป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการขององค์กรลับในเผ่าหมาป่าสีน้ำเงินนั่น คาร์ลไม่เข้าใจในเรื่องนี้นัก..ทำไมนิยายเรื่องนี้จึงให้เผ่าหมาป่าสีน้ำเงินเป็นเป้าหมายของการถูกลอบสังหารได้
เชวฮันมองไปยังท่าทางที่แข็งกระด้างของคาร์ลและนึกถึงอดีตที่ผ่านมาชั่วครู่ เขาเริ่มกำหมัดของเขาแน่นขึ้นกำปั้นของเขากำลังสั่นด้วยความโกรธ
บ้านเรือนในหมู่บ้านที่อยู่ลึกเข้าไปในภูเขามีขนาดเล็กและเรียบง่ายแต่ทั้งหมดล้วนถูกทำลายลง สิ่งสำคัญที่สุดคือซากศพของคนจากเผ่าหมาป่าสีน้ำเงินที่มีสีดำสนิทราวกับว่าโดนไฟลาวาแผดเผา ศพสีดำมีกลิ่นไหม้และมีเลือดไหลออกจากบาดแผลของพวกเขา สมาชิกของเผ่าหมาป่าสีน้ำเงินส่วนใหญ่เสียชีวิตทั้งๆที่ตายังคงลืมอยู่
“หมู่บ้านนั่นถูกทำลายจนย่อยยับและเมื่อเราไปถึงที่นั่นสมาชิกของเผ่าหมาป่าสีน้ำเงินหลายคนก็จบชีวิตลงแล้ว”
เผ่าหมาป่าสีน้ำเงินขึ้นชื่อในเรื่องของความแข็งแกร่งหากเป็นเช่นนั้นทำไมองค์กรลับจึงสามารถฆ่าพวกเขาได้?