บทที่ 31 เจ้า 6 (1) [อ่านฟรี]
บทที่ 31 เจ้า 6 (1)
คาร์ลใส่ของบางอย่างลงในกระเป๋าเวทย์และมุ่งหน้าไปยังลานฝึกซ้อม ชั้นใต้ดินของบ้านหลังนี้มีลานฝึกซ้อมการต่อสู้ที่ครบวงจรและเป็นมาตรฐาน ดินแดนเฮนิตัสนับเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงด้านความร่ำรวยและมั่งคั่ง แต่ความมั่งคั่งนั่นก็ต้องได้รับการสนับสนุนที่แข็งแกร่งทางทหารเช่นกัน ในเมื่อป่าแห่งความมืดอยู่ถัดจากเมืองเฮนิตัสไปไม่ไกลและยังมีสัตว์ประหลาดที่เป็นอันตรายเป็นจำนวนมากหากไม่มีความแข็งแกร่งทางทหารชาวเมืองทั้งหมดจะสามารถอยู่รอดได้แค่ไหนกัน? นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมที่บ้านและคฤหาสน์เฮนิตัสจึงมีลานฝึกซ้อมอยู่ชั้นใต้ดินที่มีขนาดใหญ่และดีกว่าคฤหาสน์ของดยุคหรือมาร์คควิสเสียอีก
คาร์ลมอบคำสั่งแก่พวกเขาทันทีที่พวกเขามาถึงลานฝึกซ้อมขนาดใหญ่แล้ว
“เจ้าสองคนอยู่ด้านนอกลานฝึกซ้อมคอยดูแลความเรียบร้อยทั้งหมดและตรวจสอบให้แน่ใจด้วยว่าจะไม่มีใครลงมาที่ชั้นใต้ดินนี้ได้”
“ขอรับนายน้อย”
“ข้าเข้าใจแล้วนายน้อย”
คาร์ลรู้สึกขมในปากเมื่อมองเห็นรอยยิ้มกว้างเต็มใบหน้าของรอนแต่คาร์ลก็เลือกที่ปล่อยมันผ่านไป หลังจากที่ดูพวกเขาทั้งสองเดินออกไปแล้ว คาร์ลก็ตั้งใจที่จะพาลูกแมวทั้งสองไปยังมุมสุดของลานฝึกซ้อมนั่น แน่นอนว่าเขาจะต้องอยู่ให้ไกลจากเชวฮันและโรสลินให้ได้มากที่สุด
“ส่วนพวกเจ้าสองคนไปตรงกลางลานฝึกซ้อมนั่นซะ”
เชวฮันนำล็อกไปวางไว้ตรงกลางของลานฝึก โรสลินมีสีหน้าที่เคร่งเครียดขณะที่เดินห่างจากล็อกออกมาเล็กน้อย
“โฮกกกกกกก!!!!!”
ล็อกกำลังสั่นเหมือนถูกบางอย่างเข้าครอบงำ แขน ขาและตลอดทั้งลำตัวของเขากำลังสั่นอย่างรุนแรง แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นเชวฮันและโรสลินก็ยังไม่เข้าใกล้ล็อกไปมากกว่านี้
นั่นเป็นเพราะล็อกมีกรงเล็บที่ใหญ่ขึ้นมันเป็นกรงเล็บของสัตว์ป่าที่มีความแหลมคมเป็นอย่างมาก
“อ๊ากกกกกกกก!”
ร่างของล็อกเด้งขึ้นลอยไปในอากาศโดยอัตโนมัติ ลำตัวตั้งตรงและแข็งทื่อเหมือนลูกธนูที่ถูกยิงออกไปในอากาศก่อนที่ร่างของล็อกจะเริ่มเปลี่ยนแปลงอย่างช้าๆ คาร์ลตรวจสอบจนแน่ใจว่าประตูเหล็กขนาดใหญ่ทางเข้าลานฝึกซ้อมมีความแน่นหนาและแข็งแรงดีแล้วจึงมุ่งหน้าไปยังมุมหนึ่งของลานฝึกซ้อมทันทีโดยมีลูกแมวสองตัวเดินตามเขาไปติดๆ
‘นี่มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆซะแล้วสิ’
คาร์ลสามารถมองเห็นล็อกที่มีรูปร่างสูงและอ่อนแอเริ่มเปลี่ยนแปลงไปช้าๆ
“โฮกกกกกกกกกกกก! อ๊ากกกกกกกกกกกกกก”
ล็อกในตอนนี้มีเขี้ยวที่แหลมคมขนาดใหญ่ก่อนที่จะคำรามออกมาด้วยความทุกข์ทรมาน เขาเริ่มทรงตัวและเดินโซเซเล็กน้อยก่อนจะเริ่มขมวดคิ้วมุ่นและเปิดตาขึ้นจากนั้นก็มองไปที่เพดานและเปล่งเสียงหอนออกมา
“บรู๊วววววววววววววววววววววววววว!”
ทันใดนั้นก็มีสิ่งโปร่งใสปรากฏขึ้นขวางหน้าของคาร์ลไว้และมันก็คือโล่นั่นเอง
ออนและฮงมองไปรอบๆด้วยความตกใจก่อนที่คาร์ลจะพูดขึ้น
“มังกรน้อยเจ้าน่าทึ่งมาก เจ้าสามารถทำให้มันกันเสียงได้หรือไม่?”
โล่โปร่งใสถูกนำมาซ้อนทับอีกชั้นหนึ่งโดยทันที
โรสลินเหลือบมองมาที่กลุ่มของคาร์ลและคาร์ลไม่ทันได้เห็นว่าโรสลินมีอาการตกใจเมื่อมองเห็นโล่โปร่งใสสองชั้นอยู่ตรงหน้าเขาในตอนนี้และขณะนั้นเองเสียงของมังกรดำที่ต้องอยู่ภายในโล่โปร่งใสนี้ก็ดังก้องเต็มสองรูหูของคาร์ล
“เจ้ามันอ่อนแอมาก นั่นเป็นเหตุผลที่เจ้าต้องได้รับการคุ้มกัน”
ออนและฮงรู้สึกตื่นเต้นเมื่อตระหนักได้ว่าสิ่งนี้เกิดจากมังกรดำนั่นเองก่อนที่จะมองไปที่คาร์ลด้วยความเห็นใจเมื่อได้ยินว่ามังกรพูดกับคาร์ลว่าอย่างไรพวกมันเห็นด้วยกับการประเมินของมังกรดำแต่คาร์ลไม่ได้สนใจสายตาของพวกมันและเอ่ยตอบอย่างห้วนๆ
“ทำสิ่งที่เจ้าอยากทำเถอะ!”
“ข้าไม่รู้ว่าทำไมเจ้าไม่ใช่พลังนั่น?”
“เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้”
‘พลัง’ มังกรน้อยได้ตระหนักว่าคาร์ลไม่ต้องการแสดงพลังศักดิ์สิทธิ์โบราณนี้แก่ผู้อื่นและทิ้งไว้ให้คลุมเครือ คาร์ลยักไหล่ของเขาช้าๆและในที่สุดโล่โปร่งใสอันที่สามก็ถูกสร้างขึ้นรวมเป็นโล่สามชั้นในที่สุด
‘อ่า.....ทักษะของเขาดีขึ้นเรื่อยๆสินะ’
มังกรมีวิธีการเรียนรู้พลังเวทย์ที่แตกต่างจากมนุษย์ มังกรสามารถควบคุมการใช้พลังเวทย์ตามที่มันต้องการได้ คาร์ลคิดว่าความเร็วของมังกรดำถูกปรับปรุงให้เร็วขึ้นจนน่าประหลาดใจแต่นั่นมันก็มีประโยชน์ต่อตัวของมันเอง
ในตอนนี้คาร์ลสามารถจ้องมองไปที่พื้นตรงกลางลานฝึกซ้อมอย่างเงียบๆเพื่อมองการกลายร่างของล็อกได้อย่างอุ่นใจขึ้น
“โฮกกกกกกกกกกกก! อ๊ากกกกกกกกกกกกกก”
เสียงคำรามของล็อกปกคลุมไปทั่วลานฝึกซ้อมนี้ หากไม่ได้โล่กันเสียงและกันกระแทกที่ถูกสร้างขึ้นรอบๆชั้นใต้ดินนี้แล้วคาดว่าเหล่าทหารองครักษ์จะต้องรีบตรงดิ่งมายังที่นี่อย่างแน่นอน
ร่างกายของล็อกมีขนาดใหญ่ขึ้นทุกครั้งที่เขาคำรามออกมา กล้ามเนื้อที่ไม่เคยมีอยู่บนร่างกายก่อนหน้านี้เริ่มถูกแทนที่ด้วยกล้ามเนื้อมัดใหญ่เต็มทั่วร่างกายและดวงตาของเขาก็กลายเป็นสีแดงในที่สุด มันเป็นสิ่งที่บอกได้ว่าเขาได้สูญเสียสติของเขาแล้ว
ทำไมเด็กน้อยจากเผ่าหมาป่าสีน้ำเงินถึงได้กลายร่างในเวลานี้ได้?
ตามเนื้อหาในนิยายล็อกจะได้รับประสบการณ์การกลายร่างเป็นครั้งแรกของเขาในอีกหนึ่งปีต่อมา เหตุผลคือการตายของคนคนหนึ่ง
‘เพนดริก เขาคือเอลฟ์ที่ทำหน้าที่เป็นหมอเยียวยาด้านความเชื่อและศรัทธา’
เอล์ฟคนนี้ได้จบชีวิตลงในสนามรบซึ่งเพนดริกเป็นคนที่ทำให้ล็อกระลึกถึงลุงของเขาที่เป็นหัวหน้าเผ่าหมาป่าสีน้ำเงิน เมื่อครั้นเห็นเพนดริกต้องจบชีวิตลงทำให้ล็อกเกิดการคลุ้มคลั่งอยากจะฆ่าทุกอย่างและทุกคนที่ขวางหน้าตน
“ออน....ฮง”
คาร์ลมองไปที่ลูกแมวสองพี่น้องที่กอดกันอยู่ภายในโล่โปร่งใสนี้
“เจ้าสองคนยังไม่เคยได้รับประสบการณ์การกลายร่างเช่นนี้ใช่หรือไม่?”
ลูกแมวพยักหน้าตอบรับ
“พวกเจ้ารู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้บ้าง?”
“ไม่รู้เลย.....”
“ไม่มีใครสอนเราเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย....”
สำหรับกรณีนี้คาร์ลรู้ว่ามันอาจจะเกิดขึ้นได้เนื่องจากออนและฮงดูเหมือนจะเป็นสัตว์อสูรที่มีสายเลือดบริสุทธิ์ การกลายร่างของพวกเขาก็อาจสามารถเกิดขึ้นได้ในไม่ช้านี้เช่นกัน คาร์ลมองไปข้างหน้าอีกครั้งและเริ่มพูด
“เผ่าหมาป่า เผ่าเสือ เผ่าหมีและเผ่าวาฬทั้งสี่เผ่านี้จะสูญเสียความเป็นตัวเองมากที่สุดในการกลายร่างเป็นครั้งแรกนั่นคือเหตุผลที่เราจะรู้จักกันดีว่าสัตว์อสูรทั้งสี่เผ่านี้มีความใกล้เคียงกับสัตว์ประหลาดมากที่สุด”
แต่เขาไม่รู้จักเผ่าแมวมากนัก......
“ข้าไม่รู้การกลายร่างครั้งแรกของเผ่าแมวเป็นเช่นไรแต่ถ้าหากพวกเจ้ารู้สึกว่าร่างกายร้อนขึ้นและเจ็บปวดเป็นอย่างมาก...ให้พวกเจ้ารีบมาหาข้า”
‘มันจะเป็นเรื่องแย่หากพวกเจ้าเกิดเหตุเช่นนั้นขึ้น’
ใครจะต้องเป็นคนดูแลเก็บกวาดเรื่องนี้? แน่นอน....ว่ามันจะต้องเป็นเขาที่ต้องจัดการเก็บกวาดเรื่องนี้หากพวกมันเกิดการกลายร่างขึ้นมา อย่างน้อยเขาก็เป็นคนที่มีความรับผิดชอบอย่างเต็มที่สำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอาณาเขตของเขาและคนที่อยู่ภายใต้การดูแลของเขา
คาร์ลหันไปมองลูกแมวทั้งสองหลังจากที่ไม่ได้ยินเสียงตอบรับใดๆจากพวกมัน ดวงตาสีทองสองคู่ต่างจ้องมาที่คาร์ลก่อนที่พวกมันจะมุ่งตรงมาที่เขาและเริ่มถูไถใบหน้าของพวกมันกับขาของเขาเบาๆ
‘ทำไมพวกมันถึงชอบทำอะไรแบบนี้กันนะ’
คาร์ลไม่ชอบวิธีการแสดงความสนิทสนมของพวกมันเช่นนี้นัก คาร์ลขยับขาของตนไปด้านข้างเล็กน้อยก่อนที่จะได้ยินอะไรบางอย่างที่ทำให้ขนของเขาลุกชันขึ้นทันที
“แล้วมังกรเช่นข้าจะกลายร่างด้วยหรือไม่?”
“ไม่......”
มันคงจะเป็นเรื่องที่บ้ามาก...หากมังกรกลายร่างได้จริงภูเขาสูงหลายแห่งจะถูกทำให้หายไปในทันทีโดยฝีมือของมังกร นั่นมันเป็นการจินตนาการที่น่ากลัวทีเดียว ปฏิกิริยาของคาร์ลในตอนนี้คือแข็งค้างมากกว่าเดิมและยังคงจ้องไปยังข้างหน้าอย่างไม่มีจุดหมายนั่นเป็นการแสดงออกว่าเขาไม่ได้อยากได้ยินอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกแล้ว
“เตราะ!”
เขาได้ยินเสียงเดาะลิ้นของมังกรแว่วมาในอากาศ คาร์ลกำลังคิดเกี่ยวกับความไม่แน่นอนที่อาจจะเกิดขึ้นของมังกรและมันก็เป็นเวลาเดียวกับที่ล็อกได้กลายร่างเสร็จสมบูรณ์ในที่สุด
ปัง!
มนุษย์หมาป่ากระทืบสองขาของมันลงไปที่พื้นลานฝึกซ้อมจนเกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง สำหรับขนของเผ่าหมาป่าสีน้ำเงินจะมีขนเป็นสีน้ำเงินเข้ม ในตอนนี้ไม่สามารถเรียกหมาป่าที่ดุร้ายเช่นนี้ได้ว่าเด็กชายได้อีกเพราะร่างกายของมันถูกปกคลุมด้วยขนสีน้ำเงินเข้ม แขนทั้งสองข้างถูกเติมเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อขนาดใหญ่มันมีขนาดใหญ่กว่ากล้ามเนื้อของเชวฮันเสียอีกและมันพร้อมที่จะโจมตีได้ทุกเมื่อด้วยเล็บที่แหลมคมของมัน
“ล็อก!”
“ล็อก...ตั้งสติหลุดออกจากมันมาให้ได้!”
เชวฮันและโรสลินพยายามร้องเรียกล็อกให้มีสติให้ได้ แต่ในตอนนี้ล็อกได้สูญเสียความเป็นเหตุและผลทั้งหมดในตัวของเขาไปแล้ว ตอนนี้เขาเห็นเพียงแค่เชวฮันกับโรสลินคือสิ่งที่เขาจะต้องพุ่งโจมตีเท่านั้น
“โฮกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!”
เสียงขู่คำรามดังขึ้นจากปากของล็อก ในตอนนี้ล็อกมีขนาดลำตัวที่สูงใหญ่กว่าเชวฮันประมาณ 1.5 เท่าก่อนที่เขาจะวิ่งเข้าไปหาเชวฮันในทันที
“ล็อก.....ตั้งสติ...เอามันออกไปจากตัวเจ้าให้ได้! นี่ข้าเอง! เชวฮัน!”