ตอนที่แล้วบทที่ 10 สังหาร
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 12 ตระกูลเฟิง

บทที่ 11 ถึงเมืองหลวง


​เล่มที่ 01 บทที่ 11 : ถึงเมืองหลวง

“เทียนถัง.. เจ้าไปฝึกปราณตั้งแต่เมื่อไหร่” หลังจากที่เทียนถังอ้วกออกมาจากการพบเจอภาพที่ไม่พึ่งประสงค์แม้สีหน้าจะซีดเซียวแต่ก็ไม่ได้แย่มาก เพราะเห็นได้ชัดว่าตัวเขากำลังปรับสภาพร่างกายให้เหมาะสม หยุนไป๋ไม่สงสัยที่เทียนถังทำไมถึงหน้าซีดเพราะเทียนถังไม่เคยพบเจอเรื่องแบบนี้ จึงเป็นปกติอยู่แล้วที่จะมีปฏิกิริยาแบบนี้

แต่ที่นางสงสัยคือหมัดที่ปล่อยออกมาเมื่อครู่ต้องเป็นฝีมือผู้ฝึกตนขั้นที่หนึ่งแน่นอน.. ส่วนพลังลึกลับที่ทำให้นางบาดเจ็บนางเลิกคิดถึงมัน มันอาจจะเป็นพลังที่นางรับมือจากหงส์เพลิงก็ได้.. เพราะนางไม่คิดว่านั่นเป็นพลังเทียนถัง.. หลังนั้นเทียนถังเองก็ปนรับสภาพร่างกายอย่างช้าๆ

“เอ่อ…” เทียนถังไม่รู้จะตอบยังไงทำสีหน้าลำบากก่อนจะกล่าวออกไปโดยไม่มองหน้าหยุนไป๋ “ข้า … ข้าแอบฝึกมาตั้งนานแล้วล่ะนะ… เอ่อ.. ข้าคิดว่าทำตัวเป็นเสือซ่อนเล็บน่าจะปลอดภัยกว่านะ!” เทียนถังโกหกแถไปแบบหน้าด้านๆ แต่หยุนไป๋คิดครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้า

‘ถ้าไม่ใช่แบบนั้นแล้วคงไม่มีทางอื่น แต่มันทำอย่างไรถึงปกปิดได้สนิทขนาดนั้น’ หยุนไป๋คิด จริงๆ ว่าพลังรอบๆ ตัวเทียนถังไม่มีเลยแม้แต่น้อย กลิ่นอายไม่รอดออกมาจึงมองดูแล้วยังไงก็คนธรรมดาทั้งนี้หากไม่ได้ตั้งใจตรวจสอบคงไม่อาจสัมผัสถึง นางลองมานึกดูก็คิดว่าตัวเองไม่ได้ตั้งใจตรวจสอบเทียนถังมาหลายปีเพราะรู้ว่ายังไงมันก็ไม่ฝึก

นางจึงเชื่อว่าเทียนถังนั้นพูดมาเป็นความจริง เทียนถังจึงได้แต่ถอนหายใจอย่างโล่งอก ก่อนจะเผลอนึกถึงเรื่องเมื่อครู่ทำให้เขาหน้าซีดลงอีกครั้งทั้งยังมีกลิ่นคาวเลือดลอยฟุ้งทั่วอากาศอีกด้วย หยุนไป๋เห็นก็เข้าใจในทันที “เอาล่ะเดินทางกันต่อเถอะอีกไม่นานก็ถึงเมืองหลวงแล้ว”

“เข้าใจแล้ว” เทียนถังพยักหน้าเดินกลับเข้าไปในฉางซี หยุนไป๋กระตุ้นการทำงานมันอีกรอบก่อนที่มันจะลอยขึ้นและเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงอีกรอบ

พอเข้ามาในฉางซีเทียนถังเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้ด้วยสีหน้าตายซากตาเหม่อลอยเล็กน้อยเหมือนโลกซึมเศร้าขณะปลอบตัวเองเงียบในใจหยุนไปเห็นสภาพนี้จึงได้แต่ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ทั้งคู่เงียบสนิทๆ ไปครู่หนึ่ง ก่อนที่หยุนไป๋จะรู้สึกว่าตัวเปื้อนเกินไปจากที่นางไล่ตามสังหารคนสามคนเผ่นหนีคนละทิศทำให้เหงื่อไหลออกเยอะไม่น้อย

“ข้าอาบน้ำก่อนนะ” หยุนไป๋กล่าวก่อนจะลุกขึ้น แน่นอนว่าเสียงนี้มันลอยเข้าหูเทียนถังจากทางด้านซ้ายและทะลุหูขวาเหมือนไม่ได้ยินเลย แน่นอนว่าหยุนไป๋ไม่ทราบว่าเทียนถังไม่ได้ยิน ภายในฉางซีระดับกลางนี้เสมือนบ้านเคลื่อนที่มันมีห้องน้ำให้อาบเป็นเรื่องปกติ

อันที่จริงมันไม่ใช่ห้องอาบน้ำธรรมดาแต่มันมี ‘สระปราณ’ อยู่ด้วยซึ่งเป็นบ่อน้ำสะอาดที่มีปราณบริสุทธิ์ ภายในสระแล้วนอกจากจะช่วยบรรเทาความเหนื่อยล้ามันยังฟื้นพลังในร่างเยอะมากในขณะที่ยังช่วยบำรุงผิวพรรณ แต่การจะทำให้มีสระปราณนี้ ต้องใช้ผลึกปราณเยอะมากพอสมควรจึงไม่เป็นที่นิยม แต่มานิยมใช้ในฉางซีเคลื่อนที่

หยุนไป๋เดินเข้าห้องน้ำก่อนที่จะถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้นางยกมือขวาที่ใช้รับหมัดเทียนถังขึ้นมามองไม่ว่าจะนึกยังไง เทียนถังก็อยู่ในขอบเขตขั้นที่หนึ่งลมปราณจริงๆ แต่ทำไมนางคิดว่ามันไม่ใช่สักเท่าไหร่? เทียนถังนั้นทำตัวเสเพลอยู่ทุกวนมีเรื่องราวพัวพันสตรีไปทั่ว

ไม่มีทางที่จะฝึกปราณได้ อีกอย่างตั้งแต่เมื่อวานถึงนิสัยจะเทียนถังจริงๆ แต่ความรู้สึกของนางเหมือนบอกว่าไม่ใช่.. เทียนถังก็เทียนถังหรอก ความเสเพลขี้เกียจ สนใจแต่เรื่องผู้หญิง ยอมทิ้งโอกาสฝึกตนไปสองเดือนเพื่อที่จะเก่งขึ้นก็ไม่เอา บนโลกใบนี้คงมีแค่เทียนถังคนเดียว

“คิดมากอะไรของข้าอยู่เนี่ย!” หยุนไป๋ส่ายหน้าสะบัดความคิดเหล่านั้นทิ้งก่อนที่จะถอนหายใจออกมาอีกรอบ.. นางค่อยๆ ถอดอาภรณ์อย่างพิถีพิถันภายในห้องเปลี่ยนชุดผิวขาวนวลดุจหิมะปรากฏขึ้นหลังจากถูกปกคลุมด้วยอาภรณ์

นางเคลื่อนไหวอย่างเรียบง่ายหากแต่สภาพที่ไร้ชุดตอนนี้มันทำให้ส่วนโค้งต่างๆ ของร่างกายดูเย้ายวน เนินเขาสองลูกที่จะบอกว่าใหญ่ก็ใหญ่ ไม่ใหญ่ก็ไม่ใหญ่ ถ้าจะให้พูดก็คือมันพอดีมือนี่เอง นางรวบผมสีดำยาวสลวยของนางขึ้นมัดผมไว้ทรงเก็บผมบนหัว

ถอดแหวนสีเงินออกจากนิ้วละเดินเข้าไปในห้องอาบน้ำ เปิดน้ำล้างตัวถูมือไปตามร่างกายทุกซอกทุกมุมอย่างช้าๆ และงดงาม .. ‘ติ๊ง’ .. เสียงหยดน้ำแผ่วเบาดังขึ้นในเวลาที่หยุนไป๋หยุดล้างตัวก่อนจะเดินไปแช่ตัวลงบน สระปราณ และฟื้นพลังเงียบๆ

ถึงนางจะสังหารพวกขอบเขตขั้นห้ามันจะไม่ใช่เรื่องยากแต่การไล่ตามคนละทิศก็อย่างที่กล่าว มันก็ลำบากเหมือนกัน….

เทียนถังนั่งเหม่อลอยภายในใจนึกถึงสภาพตอนที่ตนเองฆ่าซ้ำไปซ้ำมา ซ้ำแล้วซ้ำเล่า นี่ไม่ใช่เพราะว่าเขาไม่สามารถลืมมันหากแต่เขากำลังทำความชินชากับมันอย่างเงียบ เทียนถังคิดว่าเสือย่อมฆ่ากระต่ายเพราะมันอ่อนแอกว่า ในโลกนี้ก็เช่นกันหากไม่ฆ่าตัวเองก็ถูกฆ่า

‘ถึงจะคิดแบบนั้นก็เถอะ...’ พอนึกถึงสภาพที่พวกมันตายแล้วก็อดที่จะหน้าซีดไม่ได้ แต่อย่างน้อยตอนนี้เทียนถังก็ไม่ได้อ้วกออกมา เห็นได้ชัดว่าเริ่มชินกับมันเล็กน้อยแล้ว แม้จะเสี้ยวเดียวก็ตามที

ผ่านไปสักพักเทียนถังปรับสภาพจิตใจแล้วกล่าวตนเองว่า ‘หากคิดมากมันจะแก่เร็วเกินไป!’ เทียนถังเลิกสนใจมันก่อนที่จะสังเกตเห็นว่าหยุนไป๋หายไป “เอ๊ะ? หายไปไหนของเขาเนี่ย” เทียนถังพึมพำออกมา… แต่เมื่อนึกถึงแรงสั่นสะเทือนจากการต่อสู้หยุนไป๋เทียนถังจึงไม่สนใจ

“อ๊ะ.. ตัวข้าเปื้อนเลือดนี่น่า” เทียนถังได้กลิ่นคาวของเลือดรู้สึกสะอิดสะเอียนเพียงเล็กน้อย “ถ้าข้าจำไม่ผิดในฉางซีนี้ เห็นหยุนไป๋พูดว่ามีห้องน้ำด้วยสินะ ไปอาบน้ำดีกว่า” เทียนถังตัดสินใจจึงลุกขึ้นยืนและเดินไปห้องน้ำโดยไม่ทราบว่ามีคนอยู่ในนั้นก่อนแล้ว ที่เทียนถังหันมาใช้คำเรียกแทนตนว่า ‘ข้า’ เวลาอยู่คนเดียวนั้น เขาคิดว่าสมควรต้องฝึกพูดให้ติดปาก

แม้จะรู้สึกว่าตัวเองพิลึกก็ตาม แต่เหมือนในโลกนี้จะปกติ เทียนถังจึงจำเป็นต้องใช้แทนตัวเอง ‘ข้า’ นั่นเอง

เทียนถังเดินไปที่ห้องน้ำและเปิดประตูห้องน้ำเข้าไปก่อนจะถอดชุดแต่ตอนนั้นเขาเหลือบมองไปอาภรณ์ของหยุนไป๋ แต่ว่าเทียนถังก็เบือนหน้าหนีไม่ใช่เพราะว่าเขาไม่ใส่ใจแต่เพราะปกติเขาก็ไม่ใส่ใจอยู่แล้ว อันที่จริงมันเป็นความเคยชินกับสาวๆ ในโลกเดิมของเขา

เทียนถังเปิดประตูห้องน้ำเข้าไปด้วยท่าที่สบายๆ “แคร๊ก” เสียงเปิดประตูออกภายในห้องน้ำมันเงียบเทียนถังจึงไม่เอะใจอะไร แต่ทว่าพอเขาเปิดไปเท่านั้นแหละปากต้องเปิดกว้างออก ภาพที่เขาเห็นคือสตรีราวกับภาพวาดมีเนินเขาสองลูกที่ดูแล้วพอดีมือ

หยุนไป๋เองในตอนแรกไม่ได้ส่งขยายจิตสัมผัสเพราะว่ากำลังซึมซับปราณจากสระเพื่อฟื้นสภาพนางจึงไม่รู้ ทว่าเมื่อเทียนถังเปิดประตูเข้ามานางจึงสะดุ้งแล้วหันมองทันที “….” หยุนไป๋อึ้งเงียบ เทียนถังพูดไม่ออก จึงได้แต่เกาหัวพลางกล่าวว่า “เอ่อ ข้าไม่คิดว่าหน้าอกท่านจะใหญ่แบบนี้และรูปร่างสัดส่วนจะน่าเย้ายวนแบบนี้ ตัวข้าอยู่มาตั้ง 20 ปี ทำไมไม่ทำอะไรเลย!”

“….” หัวใจหยุนไป๋เต้นรัวหน้าแดงอย่างช่วยไม่ได้ ทั้งโกรธ ทั้งอาย ทั้งเขิน ที่มีผู้ชายเห็นร่างของนาง แน่นอนว่าถ้าหากเป็นเทียนถังแต่ก่อนนางคงไม่รู้สึกแบบนี้ แต่เจ้าหมอนี่ไม่ใช่เทียนถัง มันจึงให้ความรู้สึกที่แตกต่างแม้แต่เจ้าตัวจะไม่ทราบอะไรเลยก็ตาม

พอเห็นหยุนไป๋เริ่มโกรธเทียนถังได้แต่ยิ้มแหยๆ “เอ่อ.. ข้าขอตัวก่อนละกัน ดูเหมือนจะอารมณ์ไม่ดี” เทียนถังถอยหลังปิดประตูห้องน้ำดังปัง.. “เฮ้อ” ก่อนจะถอนหายใจออกมา แต่ว่าจิตสังหารอันเย็นเยียบยังจับสัมผัสได้อีกอย่างรุนแรง ยิ่งกว่าตอนที่เขายืนมองเสียอีก

เทียนถังคิ้วกระตุก “หรือว่ายัยนี่เองก็ชอบ ไอ้ตัวเฟิงเทียนถังคนเดิม บ้าชัดๆ เอ็งเป็นพระเอกฮาเร็มยืมพลังผู้หญิงเหมือนนิยายชาวเกาะหรือไง! น่าอิจฉาเพ้ย!” แน่นอนว่าด้วยความเป็นเทพของเทียนถังเขาเริ่มเห็นจุดแปลกของหยุนไป๋แล้วคือเพราะว่านางโกรธกว่าเดิมเมื่อเทียนถังไม่สนใจนาง

แต่ตรงกันข้ามเวลาเจอผู้หญิงอื่นเทียนถังกับกระโดดใส่ทันที ถ้าหากนางชอบเทียนถังมันก็คงโกรธเป็นเรื่องปกติ แน่นอนว่านางไม่รู้ความรู้สึกของตัวเองหญิงโง่งมที่หากเมื่อยอมรับว่าตัวเองรักเขาเมื่อไหร่เธอก็จะกลายเป็นสาวแม่บ้านสุดเพอร์เฟคเลยล่ะ นี่แน่นอนว่าเป็นสิ่งที่เทียนถังคิด

เขาจึงกัดฟันเปิดประตูเข้าไปอีกรอบ “อ๊า ช่างเป็นห้องอาบน้ำที่สุดยอดจริงๆ ผสมกับกลิ่นผู้หญิงข้าว่ามันสุดยอดจริงๆ!” เทียนถังเดินเข้าไปแบบสบายๆ หยุนไป๋ขมวดคิ้วเล็กน้อยแม้จิตสังหารจะลดลงแต่นางยังมีทั้งโกรธทั้งอายนางใช้มือปิดหน้าอกหัวดำลงใต้น้ำโผล่ขึ้นมาแค่ดวงตา ซึ่งมันดูน่ารักมาก

“ใครให้เจ้าเข้ามา ออกไปซะ!” หยุนไป๋ตะโกนใส่เทียนถังแต่ความจริงหากนางต้องการแค่ใช้ปราณผลักเทียนถังออกไปก็เสร็จแล้วแต่นางไม่ได้ทำ เพราะอะไรไม่มีใครทราบ อันที่จริงหยุนไป๋ก็ไม่ได้ชมชอบเทียนถังแบบคนรัก แต่ทว่าแบบญาติข่าย มากกว่า แต่เมื่อเทียนถังไม่สนใจร่างของนาง ไม่แสดงกิริยาใดๆ เหมือนกับผู้หญิงคนอื่นนางจึงรู้สึกเคืองๆ

ใช่ญาติไม่สมควรมีความรักกันนางเห็นเทียนถังเหมือนน้องชาย แต่ตอนนี้ไม่รู้สินางเริ่มมองเทียนถังเป็นผู้ชายคนหนึ่งไปโดยไม่รู้ตัวตั้งแต่ตอนที่เขาฆ่าคน เมื่อได้ยินเสียงหยุนไป๋เทียนถังเมินไม่ตอบแต่นั่งลงล้างตัวตามทำเนียบปฏิบัติเท่านั้นขณะนั้นหยุนไป๋เองก็จ้องมาที่เทียนถัง

เมื่อเห็นเทียนถังสงบเกินไปทำให้นางรู้สึกเคืองน้อยๆ “ฮึ่ม เจ้าเด็กบ้านี่ไม่สนใจร่างกายข้าเลยงั้นเหรอ.. หือ.. ข้าคิดอะไรอยู่เนี่ยยย!” นางคิดพลางหน้าแดงแน่นอนว่าเทียนถังสังเกตเห็นถึงเขาจะไม่ได้อ่านความคิดออกแต่พอเดาความต้องการของนางได้ เทียนถังลุกขึ้นเดินลงมาแช่น้ำในสระ

ทั้งคู่ไม่กล่าวอะไรหยุนไป๋หน้าแดงผาว ตัวตนหนึ่งบอกให้ถีบเขาออกไปแต่ตัวตนหนึ่งบอกอย่าทำรอดูว่าร่างของตัวเองจะเย้ายวนเขาได้ไหม ส่วนเทียนถังเกือบลืมจุดประสงค์หลักคือการมาจีบหยุนไป๋ แต่ว่าเมื่อเขาแช่สระปราณครั้งแรกมันสบายตัวจนบอกไม่ถูกจนครางออกมา “ฮ่าาห์~~”

ในที่สุดหยุนไป๋ก็ทนความอับอายไม่ไหวนางลุกขึ้นทันที แต่ยังไม่ทันจะกล่าวอะไรเทียนถังก็คิดว่าจังหวะนี้ล่ะ เทพจีบหญิงไม่ใช่ชื่อที่ได้กันมาง่ายๆ หรอกนะจะบอกให้ เทียนถังใช้มือดึงเอาแขนอันบอบบางและนุ่มนวลของหยุนไป๋เข้ามา “อ๊ะ..” หยุนไป๋สะดุ้ง

รู้สึกตัวอีกที่ก็สัมผัสได้กับร่างกายของคนอีกคน “เจ้า!!” หยุนไป๋ตะโกนออกมาด้วยความเขินอาย “มันจะมากเกินไปแล้วนะ!” หยุนไป๋ด่ากราดอีก เทียนถังได้แต่ทำสีหน้าขอโทษพลางกล่าว “ท่านก็รู้ว่าข้าเป็นคนยังไง แล้วจะให้ข้ามไม่สนใจรูปร่างอันเย้ายวนของท่านแล้วยังคงนิ่งคงเป็นไปไม่ได้!”

“…” หยุนไป๋พูดไม่ออก “แล้วเจ้าจะเข้ามาทำไมล่ะ” นางกล่าวเขินอายแผ่วเบา เทียนถังได้แต่ด่ากราดในใจว่า “ถ้าตูไม่มา ก็คงยำตูไม่ใช่หรือไงฟ่ะ!” แต่เขาไม่กล้าพูดแบบนั้นแน่นอนเขายิ้มขึ้นและกล่าว “การได้อาบน้ำกับสาวสวยเป็นสิ่งที่ดีกว่านั่งฝึกตนจนเลือนระดับพลังอีกนะรู้ไหม”

“… เจ้าคงใช้วาจาแบบนี้กับสตรีอื่นสินะ” หยุนไป๋กล่าวนึกถึงความชั่วร้ายของเทียนถังนางจึงคิดว่านี่เป็นวาจาจีบสาวนางเริ่มขัดขืนแต่ไม่ได้ใช้พลังปราณใดๆ เลย เนื่องจากกลัวจะทำให้เทียนถังบาดเจ็บ แต่ทว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าเทียนถังที่ฝึกกำลังภายนอกแล้ว นางเหมือนนกน้อยที่อยู่ใต้กรงเหล็ก

ถึงฝึกปราณมันจะช่วยเพิ่มพลังทางกายภาพ มันจะช่วยเพิ่มให้ร่างกายแข็งแกร่งขึ้นก็จริง แต่มันก็ไม่แข็งแกร่งขึ้นเหมือนฝึกกำลังภายนอกโดยเฉพาะอยู่ แต่ถ้าหากสู้กันจริงๆ ต่อให้เป็นกำลังภายนอกขั้นสิบก็ชนะผู้ฝึกปราณขั้นหนึ่งได้

“ข้าพูดจริงๆ!” เทียนถังใช้มือแตะคางนางขึ้นมองหน้าเขาสายตาสองสายบรรจบกัน ความรู้สึกประหลาดบังเกิดขึ้นในหัวใจของนางคำพูดพร้อมหน้าตาที่จริงจังของเขามันทำให้ใจนางสั่นอย่างรุนแรง หยุนไป๋พยายามจะเบือนหน้าดีด้วยสีหน้าแดงผาว แต่เทียนถังไม่ยอม

ก่อนที่จะประกบริมฝีปากดุจสายฟ้าร่างหยุนไป๋สั่นสะท้าน นางๆ ไม่มีประสบการณ์ด้านนี้มาก่อนเลยเมื่อเทียนถังบุกรุกเข้าไปในช่องปากแล้วมันก็ทำการซอกเซาะไปทั่วทุกมุม ร่างหยุนไป๋เริ่มอ่อนแรงอย่างถึงขีดสุด เทียนถังก็เริ่มเมามันจงหลงลืมจุดประสงค์หลัก มือขวาแตะไปที่หน้าอกอันอวบใหญ่ของหยุนไป๋

นางตกใจมากก่อนที่จะใช้พลังผลักเทียนถังเต็มแรงกระแทกใส่ผนังทันที “เจ้าคนชั่วช้า!” นางกระทืบเท้าใส่ทีหนึ่งและเดินออกจากห้องน้ำโดยไม่สนใจเทียนถังอีก.. เทียนถังได้แต่กุมหัวอย่างเจ็บปวด “อ๊าา ผู้หญิงโหดเอ๊ย คอยดูเถอะเดี๋ยวบิดาจะทำให้ติดจนโงหัวไม่ขึ้น” เทียนถังเจ็บจริงๆ เมื่อครู่ถ้าไม่ฝึกกำลังภายในฝึกปราณและกำลังภายนอก เขาคงกลายเป็นเศษเนื้อแน่ๆ

“ข้าเองก็อินกับบทมากไป จนกนทางพิชิต จึงยืดออกอีก” ถ้าเทียนถังเดาไม่ผิดหยุนไป๋หลังจากนี้นางจะไม่อยากเจอหน้าเทียนถังเพราะความอับอายทั้งนางยังพึ่งทำร้ายเขาอีกด้วย โอกาสพูดคุยกันคงหายากกว่าเดิม และการจีบก็จะยากขึ้น แต่ถ้าหากเมื่อครู่จบลงที่การจูบ มันจะเพิ่มความสัมพันธ์การคุยกับหยุนไป๋ขึ้น

หรืออาจจะกลายเป็นความรักเมื่อผ่านเวลาไป แต่เพราะเทียนถังก้าวผิดชีวิตเปลี่ยน.. “เฮ้อ… ช่างเถอะอีกไม่นานนางก็เป็นของข้าแล้ว หึๆ เอาล่ะมารอดูหน้าตาคู่หมั้นสุดสวยกันดีกว่า” เทียนถังเปลี่ยนอารมณ์และเดินร่าเริงออกจากห้องน้ำอย่างสบายใจ

หลังจากนั้น

ในที่สุดก็เดินทางมาถึงฉางซีหยุดเคลื่อนที่เมื่อมาถึงกำแพงเมืองด้านนอกเทียนถังและหยุนไป๋ลงมาจากรถ เมื่อเทียนถังเห็นกำแพงเมืองเขาอดที่จะเปิดปากกว้างไม่ได้ “กำแพงคิดจะป้องกันไททันหรือไงฟ่ะ!” เทียนถังคิดเพราะว่ากำแพงเมืองมันสูงมากเกือบๆ 15-20 เมตรได้

คงเป็นเพราะยุคนี้ยังมีสงครามการสร้างกำแพงแบบนี้ป้องกันต่อการลอบโจมตีได้เมื่อพวกผู้เฝ้าหน้าประตูเมืองเห็นนักเดินทางเร่ร่อนพวกเขาทำเสียงน่าเกรงขามหยิ่งๆ แต่พอเห็นหยุนไป๋มันก้มหัวจนหัวจะปักลงกับพื้น เทียนถังจึงได้แต่ทำหน้าเหยเก “เชิญทางนี้ รถม้าที่ดีที่สุดเตรียมไว้ให้แล้ว!”

มันกล่าวและนำทางไปที่รถม้ามันคล้ายกับรถม้าทั่วไปแต่ดูหรูหราอลังการงานสร้างกว่าเทียนถังกับหยุนไป๋ขึ้นไปนั่งและเดินทางเข้าประตูเมือง เทียนถังต้องตะลึงกับภายในเมือง มันเต็มไปด้วยเทคโนโลยี ในยุคโบราณ.. เอ่อ นั่นแหละ เมืองโบราณจีนน่ะ และมีร้านขายของมากมาย เมื่อนี้มีผู้คนแออัดมาก

แต่ก็มีทางของรถม้าโดยเฉพาะจึงไม่เป็นปัญหา เทียนถังยิ่งมองก็ยิ่งตะลึง นี่สินะเมืองหลวง!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด