ตอนที่แล้วบทที่ 07 สนามรบของฉันคือ... การมีเซ็ก!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 09 การจู่โจมกะทันหัน

บทที่ 08 เอาลูกเสียดายแม่


​เล่มที่ 01 บทที่ 08 : เอาลูกเสียดายแม่

เทียนถังก่อนจะออกเดินทางไปเมืองหลวงหยุนไป๋พาไปพบผู้นำตระกูลสาขาก่อนเขาเป็นชายชราอายุราวๆ 60-70 ปี หน้าตาดูมีความยุติธรรมพอสมควรทำให้เทียนถังคิดว่าไม่เลว โชคดีที่ไม่เป็นเหมือนพวกผู้อาวุโสขี้งกตามนิยายกำลังภายในถ้าเป็นแบบนั้นเขาคิดว่า ต้องกำจัดทิ้งแน่ๆ

พอเทียนถังเดินเข้ามาในห้องผู้นำตระกูลนอกจากตาแก่ผู้นำตระกูลแล้วยังมีชายวัยกลางคนอีกอายุราวๆ 37-38 ปีได้ใบหน้าเหมือนตาแก่ผู้นำตระกูลเลยเป็นลูกชายสุดอัจฉริยะตามฉบับนิยายจีน ที่แบบตัวเอกมีบิดาเป็นว่าที่ผู้นำตระกูลขณะที่ผู้นำตระกูลในยุคปัจจุบันคือปู่ของตัวเอก

แล้วตัวเอกจะไปเจออาจารย์แปลกประหลาด เนี่ย.. แต่เสียดายที่ว่ามาไม่ใช่เทียนถังเพราะมันคือไอ้เด็กอีกคนที่ยืนอยู่ข้างๆ บิดาของมัน.. หน้าตามันดูคล้ายบิดาของมันแสดงสีหน้านิ่งสงบออกมา ขอบเขตพลังของมันเทียนถังไม่รู้เพราะดูไม่ออก.. ‘ดูยังไงๆ นี่มัน เฉินเซี่ยงชัดๆ!’ เทียนถังตบมุขในใจ

สามคนนี้คือ ปู่ ลูก หลาน.. คนปู่ชื่อเฟิงเหยียน เป็นผู้นำตระกูลคนปัจจุบัน ชายวัยกลางคนชื่อว่า เฟิงหลิง เป็นว่าที่ผู้นำตระกูลเฟิงสาขาคนต่อไป ส่วนบุตรชายชื่อ เฟิงเฟิง เป็นอัจฉริยะรุ่นเยาว์.. แน่นอนว่าเทียนถังฟังมาจากหยุนไป๋ขณะเดินทางมา ‘เจ้าเฟิงเฟิงนี่ถ้าดำเนินนิยายบางเรื่องอยู่มันคงเป็นพระเอกแหงๆ’

เทียนถังขบคิดในใจเงียบๆ และในตอนนั้นที่เทียนถังเดินเข้ามาคนทั้งสองมีความหยิ่งน้อยๆ สองคนที่ว่าคือ เฟิงเฟิงกับเฟิงหลิง พ่อลูก แต่เฟิงเหยียนรู้สึกยำเกรงเทียนถังมาก ใครๆ ก็หวาดกลัวมารดาของเทียนถังกันหมดแม้นางจะงามล้มโลกแต่น่าเสียดายมีนิสัยเย็นชามากเกินไป

กลับมาเรื่องเดิม.. “สวัสดี นายน้อยเทียน ข้าได้ยินมาว่าท่านกำลังจะแต่งงานเอาภรรยาเข้าบ้านใช่หรือไม่ ฮ่าๆ พวกเราเตรียมฉางซีให้พวกท่านไว้แล้ว” คนที่กล่าวคือเฟิงเหยียนทำท่าทางเป็นมิตรสุดๆ จนเทียนถังกระอักกระอ่วนเล็กน้อย แต่เมื่อ ‘ฉางซี’ สองคำนี้เข้าหัวเขา เขาค่อนข้างงุนงง

“ต้องขอบคุณท่านผู้นำตระกูลแล้ว.. ข้ามาเพื่อลา อ่อ จริงสิ ท่านจะเดินทางไปพร้อมกับพวกเราหรือเปล่า” หยุนไป๋ถามออกมานางสังเกตเห็นความแปลกใจเทียนถังแต่ไม่สมควรอธิบายตรงนี้จึงรีบกล่าวออกมา เฟิงเหยียนกล่าวตอบ “ฮ่าๆ ข้าก็อยากจะไปงานแต่งงานที่ยิ่งใหญ่ของนายน้อยเทียน แต่ว่า.. ทางตระกูลเรา ก็กำลังจะมีงานแต่งงานเช่นกัน ท่านคงจะทราบแล้วว่า เฟิงเอ๋อร์ของข้าได้หมั้นหมายกับคุณหนูจากตระกูลหยาง เมื่ออายุครบ 18 ปี จะเริ่มงานแต่งซึ่งมันก็ถึงเวลาอันควรแล้ว”

“โอ้ งานหมั้นหมายที่ว่าหมายถึง หยางอวิ๋น อัจฉริยะรุ่นเยาว์ใช่หรือไม่ ช่างเหมาะสมกันจริงๆ!” หยุนไป๋กล่าวมาไม่ได้เกินจริงเพราะคนทั้งสองช่างเหมาะกันมากจริงๆ ทั้งหน้าตาและความสามารถ ถึงหยางอวิ๋นจะงามมากจนเกินไปก็ตามที แต่เฟิงเฟิงนี่ล่ะเหมาะกับเขาที่สุด เพราะในเมืองนี้นอกจากเทียนถังแล้วก็มีแค่เจ้าเฟิงเฟิงนี่ล่ะที่นับว่าหล่อ

เฟิงเหยียนได้ยินหยุนไป๋กล่าวแบบนั้นก็อดที่จะภูมิใจไม่ได้ ทว่าไม่กล้าหยิ่งผยอง ใครจะหยิ่งผยองต่อหน้าผู้หญิงนางนี้เล่า.. แม้จะเห็นนางใจดีแบบนี้นั้น ก็แค่ตอนอยู่กับเทียนถังเท่านั้น ซึ่งเจ้าตัวเองไม่ทราบ.. แต่ถ้าหากอยู่ห่างจากเทียนถังหรือมีอันตรายต่อเทียนถังละก็.. แม้แต่ตระกูลเฟิงสาขายังกุมบังเหียนไม่อยู่..

“ท่านกล่าวชมเกินไปแล้ว ฮ่าๆ ๆ” เทียนถังเบื่อมากการคุยของผู้ใหญ่ถึงเขาจะอายุ 20 ปี แล้วแต่เวลาที่ไปกับพ่อแม่ในโลกเดิมคุยเรื่องงาน แม่เขาหวังให้เขาเรียนรู้ แต่มันน่าเบื่อมาก กล่าวยกยอไปๆ มาๆ หาจุดอ่อนแล้วต่อยเข้าจุดนั้นเป็นธรรมดาของเรื่องธุรกิจ… แน่นอนว่ามันน่าสนุกเมื่อได้ทำให้บริษัทหนึ่งล้มละลาย.. แต่มันน่าเบื่อตรงคุยเรื่อยเปื่อย!

เทียนถังเบื่อมากจึงดึงชายเสื้อหยุนไป๋เร่งให้หยุนไป๋เร็วขึ้น นางทำสีหน้าเหยเกเล็กน้อยก่อนจะกล่าวอำลาอีกครั้งแล้วออกจากห้องไป หลังจากออกจากห้องเฟิงหลิงกล่าวกับเฟิงเหยียน “ท่านพ่อเหตุใดท่านต้องทำท่าทีเคารพมันด้วย ทำแบบนั้นมิใช่ว่าทำให้มันคิดว่าตระกูลสาขาเราต้อยต่ำเหรอ!”

“หุบปากเจ้าไปซะ!” เฟิงเหยียนส่งเสียงต่ำถึงขั้นเย็นยะเยือก “เจ้าคิดว่าพวกเราทำอะไรได้คิดจะหยิ่งผยองต่อหน้ามันเหรอ อย่าคิดโง่ๆ ไปหน่อยเลย ต่อให้เจ้ามีสักล้านชีวิตจะต่อกรกับตระกูลหลักไม่ไหวหรอก ฮึ่ม จะพูดอะไรเจ้าต้องระวังบ้างหากมีคนจากตระกูลหลักอยู่ใกล้ๆ ตระกูลสาขาเราถึงจุดจบแน่ๆ!”

“ถ้างั้นหมายความว่าถ้าหากมันถูกขับไล่ออก หลังจากสองเดือนให้หลังพวกเราก็สามารถทำอะไรมันก็ได้ใช่หรือไม่!” เฟิงหลิงกล่าวมาพร้อมยกยิ้มที่มุมปาก แต่นั่นยิ่งทำให้ใบหน้าเฟิงเหยีนมืดทะมึนลงตบฝ่ามือลงปากบุตรชายดัง “เพี๊ยะ!” จนมันกระเด็นถอยหลัง เฟิงเฟิงต้องตะลึงต่อปู่ของตน เพราะเขาไม่เคยทำแบบนี้กับบิดาเลย!

“เจ้าคิดว่าหลังจากมันถูกขับไล่จากตระกูลหลักแล้วจะสามารถทำร้ายมันได้? เจ้าใช้สมองหรือหัวแม่โป้งเท้าคิด รู้หรือไม่ว่าการทำแบบนั้นมันเรียกว่าหายนะยิ่งกว่าถ้าหากเจ้าสังหารมันตอนนี้อย่างน้อยมารดาของมันก็สามารถฆ่าได้แค่เจ้าหรือข้าเท่านั้น.. เพราะว่าอย่างไรซะตอนนี้มันก็นับว่าเป็นคนของตระกูลการจะเกิดเรื่องขัดแย้งแบบนี้ไม่ถึงขั้นล้างบางตระกูลสาขาหรอก… เพราะอย่างน้อยก็มีคนเกลียดชังนายน้อยผู้นี้เยอะต้องคัดค้านเรื่องล้างบางตระกูลสาขาเรา แต่หลังจากมันถูกขับไล่เหอะ ใครคิดจะกุมบังเหียนให้เรากันล่ะเพราะมันไม่เกี่ยวกับตระกูลเฟิงอีกแล้ว หมายความว่า มารดามัน.. ไม่สิ.. แค่หยุนไป๋คนนั้นก็เพียงพอที่จะล้างตระกูลสาขาทั้งตระกูลแล้ว อย่าพูดคำพูดไม่ระวังปากอีก!”

เฟิงเหยียนสะบัดชายเชื้อและเดินออกจากห้องไปไม่สนใจหลานชายและลูกชายตนอีก ถึงเขาจะรักลูกชายมาก แต่ว่าสิ่งที่มันคิดนั้นอันตรายต้องดัดแปลง ไม่เช่นนั้นจะอันตรายต่อชีวิตมันและลูกเมียของมัน เฟิงเหยียนไม่อยากให้มันตายก่อนแก่! จึงต้องอบรม หลังจากออกมาจากห้องได้แต่ถอนหายใจออกมา

ทางด้านเทียนถัง เดินออกมาถึงหน้าตระกูลสาขาหยุนไป๋กล่าวว่า “รอข้าอยู่ตรงนี้ก่อน” นางก็วิ่งหายลับตาไปในทันที เทียนถังไม่รู้จักทางจึงได้แต่ยืนอยู่ตรงที่เดิมไม่ไปไหน ตอนนี้ด้านหน้าเขาคือเมืองภายในจีนยุคกลางมีแผงลอยขายของต่างๆตามท้องถนน ในความจริงในปัจจุบันที่เขาอยู่แม้จะมีแผงลอยขาย แต่มันขายเพียงแค่อาหาร

แต่ในที่แห่งนี้มันขายทั้งหญ้ารูปร่างแปลกๆ .. เทียนถังมองหญ้านั้นไปสักพักใช้มือแตะปลายคาง… “อ่อ สมุนไพรนี่เอง!” ในที่สุดเจ้าตัวก็เก็ทว่ามันคือสมุนไพรไม่ใช่หญ้า นอกจากนี้ยังมีร้านขายอาวุธโทรมๆ เยอะแยะไปหมด คนเดินนับว่าไม่มากจนล้น และไม่น้อยจนไร้ผู้คน

เทียนถังพิงกำแพงที่สูงไม่ถึงสองเมตรที่ล้อมรอบตระกูลอยู่ด้านหน้า… 1 นาที.. 2 นาที.. 3 นาที. ในที่สุดก็ทนไม่ไหวจึงเดาะลิ้นออกมา “ทำอะไรของเขาอยู่นะเนี่ย!” แน่นอนว่าเทียนถังไม่ใช่จอมยุทธ์ที่จะยืนนิ่งเก๊กหล่อเป็นชั่วยาม บิดามันเถอะเขาแค่คนหล่อคนหนึ่งเองนะ

ในขณะนั้นเองในมุมหนึ่งของถนนที่ไร้ผู้คนอยู่ในสายตาเทียนถังก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น “ช่วยออกไปด้วยเถอะ! ข้า.. ข้า.. ต้องไปหาท่านแม่แล้ว” มีเสียงลำบากใจของหญิงสาวเป็นธรรมดาที่จะเรียกความสนใจจากสุภาพบุรุษเฉกเช่นเทียนถัง ปุ่มพระเอกในร่างเปิดทำงานหันควับไปทันที

เห็นชายท่าทางจิกโก๊สองคน เหมือนนักเลงข้างถนนตัวประกอบราคาถูก เทียนถังอดที่จะตบมุขในใจไม่ได้ว่า “ใครเขียนบท!” แต่เขาไม่คิดมากเดินโด่ๆ เข้าไปทันที ขณะเมื่อไปถึงใช้มือแตะไหล่ชายสองคนที่ล้อมเด็กผู้หญิงไว้ “อ่ะแฮ่ม.. พี่ชายข้าว่าพวกท่านทำน้องสาวนางนี้ลำบากใจนะ”

เทียนถังกล่าวอย่างสบายอารมณ์ นักเลงสองคนหันมามองเทียนถังพร้อมส่งเสียง “ห๊าาา” ออกมาซึ่งเป็นนักเลงราคาถูกจริงๆ แต่กลิ่นปากที่ร้ายแรงแตะจมูกเทียนถังทำให้เขาแทบเป็นลม ในใจสาปแช่ง “เจ้านักเลงราคาถูกกะโปโลเอ๊ย! ก่อนจะข่มขู่ผู้หญิงหัดแปรงฟันบางเส่!”

เฟิงหลงใช้มือปิดจมูกแล้วกล่าว “ข้าว่าพวกเจ้าสองตัว..เอ๊ย สองคนไปหัดรักษาความสะอาดตัวเองก่อนนะค่อยมารังแกหญิงงาม ข้าเห็นแล้วมันเสียชื่อเสียงชายเสเพลจริงๆ!” เทียนถังพล่ามเองคนเดียวนักเลงสองคนเหมือนได้รับคำดูถูกมันจะตะโกนออกมาว่า “หนอย อะไรของแกง่ะเจ้าเด็กสารเลว!”

มันพุ่งใส่เทียนถังแต่น่าเสียดายที่ว่าเทียนถังหลบอย่างง่ายๆ สมควรจะเป็นแบบนั้นเสียงหญิงงามตะโกนออกมาว่า “อย่านะ!!” ก่อนที่นางจะระเบิดปราณในร่างออกมากระแทกนักเลงสองคนอัดผนังสลบเผือดไป.. เหงื่อไหลออกจากหน้าเทียนถัง

“ยัยเด็กคนนี้ทำไมตอนถูกข่มขู่ถึงไม่โจมตีฟ่ะ!” เขาตบมุขในใจ หญิงสาวไร้เดียงสาเดินมาก้มหัวให้ “ขอบคุณนะ!” คิ้วเทียนถังกระตุกในใจขบด่า “ตูช่วยตอนไหนฟร่ะเนี่ย!”

“ทำไมเจ้าถึงไม่โจมตีพวกมันที่คิดจะทำร้ายเจ้าเมื่อครู่ล่ะ” เทียนถังถามออกไปตรงๆ นางแสดงสีหน้าตกใจแล้วกล่าวออกมาเหมือนพึ่งเข้าใจ “พวกเขาเป็นคนไม่ดีจริงๆ สินะ ก็ว่าอยู่ทำไมเขาถึงทำร้ายพี่ชายที่ช่วยข้าไว้ ที่ข้าไม่ทำร้ายพวกเขาเพราะไม่คิดว่าพวกเขาเป็นคนไม่ดี ท่านแม่บอกข้าว่าเวลาต่อสู้จะต้องสู้ตอนปกป้องหรือตอนสำคัญห้ามทำร้ายคนใจดี!” เทียนถังที่รับฟังนางกล่าวเริ่มปวดหัวกับหญิงนางนี้..

เขาจึงกล่าวถามว่า “แล้วทำไมเจ้าถึงโจมตีมันหลังจากนั้นล่ะ” นางลังเลที่จะตอบเล็กน้อยแต่ก็ตอบตามตรง “เอ่อ.. เพราะว่าพวกเขาคิดจะทำร้ายพี่ชายที่ช่วยหนูเมื่อกี้ ท่านแม่บอกว่าตอบแทนบุญคุณคือสิ่งที่สำคัญเทียบเท่าชีวิต” เทียนถังถอยหลังติดกำแพงเอามือกุมหัวเงยหน้าขึ้นท้องฟ้าน้ำตาซึมหน่อยๆ

“ไม่อยากจะเชื่อว่ายังมีคนไร้เดียงสาขนาดนี้ดำรงอยู่ในจักรวาล การค้นพบแห่งประวัติศาสตร์! สมควรถูกบันทึกลงประวัติศาสตร์โลก ไม่ สิ มันคือประวัติศาสตร์จักรวาลการค้นพบที่ยิ่งกว่าพบ UFO ยิ่งกว่ามวลมนุษยชาติสร้าง ทาแมชชิน ได้สำเร็จ การค้นพบสาวไร้เดียงสา!!!” อะไรมันจะขนาดนั้นนนน เทียนถังคิดว่าในจักรวาลนี้คงไม่มีคนแบบนี้หลงเหลืออยู่แต่มันมีจริงๆ!

คนที่ไม่ทำร้ายคนอื่นมั่วแต่เวลาคนที่มาช่วยจากความลำบากใจจึงต้องทำร้ายอย่างช่วยไม่ได้เพราะคำสอนจากแม่ “น่ารักอ่ะ!” เทียนถังสบถในใจอย่างดีอกดีใจ.. เขาคิดแล้วว่าต้องเอาหญิงนางนี้มาเป็นภรรยาน้อยให้ได้! แต่พอเทียนถังมองดีๆ ปากก็เปิดออกกว้างจนร้องว้าวออกมา

“โอ้ แม่สาวน้อย..” นางดูราวอายุ 17-18 ปี แต่ว่าท่าทีไร้เดียงสาของนางทำให้นางน่ารักไปอีกแบบ แม้จะไม่เทียบเท่าหลิงอี้ แต่มันงามคนละแบบหลิงอี้คืองามล้มโลกแต่นางนี้งามน่ารักสดใสเทียนถังเกือบจะกระโดดเข้ากอดยิ่งประมวลรวมกับคำพูดแสนไร้เดียงสาเมื่อครู่แล้วยิ่งเหมือนเขาค้นพบทองคำมูลค่า 50 ล้านล้านล้านดอลลาร์

“อ่ะแฮ่ม.. เจ้าชื่อว่าอะไรนะ?” เทียนถังกระแอมออกมาเบาๆ แล้วกล่าวถามพร้อมสงบสติอารมณ์ นางลังเลที่จะตอบก่อนที่จะก้มหัวขอโทษแล้วกล่าว “ข้าขอโทษด้วย ท่านแม่บอกว่าห้ามบอกชื่อต่อคนแปลกหน้า!”

เทียนถังยกยิ้มขึ้น ขณะที่เขาเป็นเทพเรื่องผู้หญิงการรังแกผู้หญิงเป็นเรื่องปกติโดยเฉพาะสาวน้อยไร้เดียงสาแบบนี้แล้วมันง่ายยิ่งกว่าการพลิกฝ่ามือเสียอีก เขากล่าวออกมา “แปลกหน้า? ข้าเป็นคนช่วยเจ้าไว้เมื่อครู่แท้ๆ แต่เจ้ากลับลืมบุญคุณแล้วกระมัง?”

นางลังเลในที่สุดก็ขบริมฝีปากกล่าว “ข้าชื่อ หยางอวิ๋น.. ท่านห้ามบอกใครนะ!” นางกล่าวเสียงเบาเทียนถังตาเหลือกแทบถล่นออกจากเบ้าพร้อมอุทานว่า “อะไรนะ!” ออกมา

ใช่ถ้าจำไม่ผิดนี่มันคู่หมั้นเจ้าพระเอกจอมปลอมเฟิงเฟิงไม่ใช่หรือนี่! “สารเลว เสียของ เสียของ ของที่งดงามเช่นนี้มันต้องเป็นของเหลาจื่อ เจ้าสารเลวเฟิงเฟิง ริอาจจะยุ่งกับสมบัติที่ตูผู้นี้ค้นพบเรอะเร็วไปนะแก!” เทียนถังด่าทอในใจคิดว่าเสียดายของสุดๆ จริงๆ … และประโยคที่เทียนถังกล่าวค่อนข้างผิดถนัด เพราะตัวเขาพึ่งเคยพบหญิงนางนี้.. แต่ด้วยความเห็นแก่ตัวเขาจึงเรียกผู้อื่นว่าจะมาแย่งของของเขา..

“ข้าเชื่อเทียนถัง ยินดีที่ได้รู้จักนะ!” เทียนถังกล่าวด้วยรอยยิ้มเขาไม่มีท่าทางของสุภาพบุรุษแต่อย่างมดพอแนะนำตัวเองเสร็จก็ฉวยโอกาสเอามือกอบกุมมือของหยางอวิ๋นอย่างเอารัดเอาเปรียบ เมื่อนางถูกจับมือกะทันหันทำให้นางขัดขืน แต่ไม่สามารถทำร้ายผู้มีพระคุณได้ จึงได้แต่ยอมรับ และหน้าแดง

เป็นครั้งแรกที่มีบุรุษสัมผัสตัวนางเช่นนี้! ทำให้นางประหม่ามาก พอเทียนถังเห็นความเขินอายของนางความหื่นกามแทบปะทุหากเป็นเวลากลางคืนเทียนถังคงต้องปฏิบัติการข่มขืนสาวน้อยไร้เดียงสาแน่ๆ และในตอนนั้นเองมีเสียงเย็นชาขึ้นในหัว *ติง : ภารกิจ แย่งชิงคู่หมั้นของหลานชายผู้นำตระกูลเฟิงสาขาให้เป็นภรรยาน้อยของตัวเอง รางวัลแต้มราคะ 500 จุด ค่าประสบการณ์ราคะ 80 จุด ค่าประสบการณ์ระบบมาร 50 จุด ถ้าหากไม่สำเร็จผู้ใช้จะสูญเสียของแรร์ที่ค้นพบอย่างยากลำบาก ‘สาวน้อยไร้เดียงสา’ ระดับสูงไป*

คิ้วเทียนถังกระตุกเล็กน้อย ‘เจ้าระบบนี่มันสารเลวจริงๆ เมื่อวานบอกให้ข่มขืน วันนี้บอกให้ NTR มารดามันเถอะ พระเจ้าสารเลวหรือไร อีกอย่างไหงนางกลายเป็นของแรร์ตามความคิดตูไปได้ฟ่ะ’ เทียนถังตบมุขในใจ พร้อมปล่อยมือของหยางอวิ๋นลง.. แต่เมื่อเขามองนางยิ่งทำให้ความหื่นกามปะทุ เขาคิดว่าแม้จะไม่มีภารกิจนี้เขาก็คงแย่งมาแน่ๆ

แม้เขาจะไม่เคยแย่งเมียคนอื่นก็ตามที.. แถมมองรางวัลที่ได้แหมเยอะซะจริงๆ เฮ้อออ เทียนถังได้แต่ถอนหายใจ แต่ในตอนนั้นเองพลันมีเสียงหญิงสาวเรียกชื่อของหยางอวิ๋น “อวิ๋นเอ๋อร์!”

เสียงเรียกนี้ดึงดูดความสนใจเทียนถังแต่ก่อนที่เทียนถังจะตอบสนองหยางอวิ๋นก็พุ่งไปต้นเสียงและโอบกอดร่างร่สงหนึ่ง “ท่านแม่ๆ ข้าถูกคนไม่ดีรังแกแต่โชคดีพี่ชายท่านนั้นช่วยไว้!” นางชี้มือไปที่เทียนถังที่ยืนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล จึงทำให้คนที่หยางอวิ๋นเรียกว่าท่านแม่หันไปมองเทียนถัง

ซึ่งเป็นจังหวะที่เทียนถังหันไปมองนางเช่นกันสายตาทั้งสองประสานกันด้วยความบังเอิญแต่แทบจะเวลานั้นคนทั้งสองก็นิ่งงันจ้องมองตากัน จนทำให้หยางอวิ๋นงุนงงไปในทันที.. เกือบจะสิบลมหายใจนางกับเทียนถังจึงได้สติกลับคืนมา นางก้มหัวกล่าวขอบคุณ

เทียนถังมองหญิงงามที่อายุน่าจะแค่ 20 กว่าปี แต่อายุน่าจะเหยียบสามสิบเพราะเป็นแม่คนไปแล้ว และความงดงามของนางเรียกได้ว่าสุดยอดความงามจริงๆ หากหยางอวิ๋นเป็นสาวงามไร้เดียงสา หลิงอี้เป็นสาวงามไร้ที่ติ นางคนนี้คงเป็นสาวงามแบบผู้ใหญ่หากสวมชุดออฟฟิศนี่คงกำเดาไหล

เทียนถังปั้นหน้าและเดินเข้าหาหญิงงามพลางกล่าว “ข้าชื่อเทียนถัง ไม่ทราบว่าท่านคือ?” นางตกใจเล็กน้อยแต่ก็สงบลงอย่างรวดเร็วแล้วกล่าว “ข้าเรียกว่า หยางหลัน ต้องขอบคุณที่ช่วยลูกสาวข้าไว้จริงๆ!”

เทียนถังลอบมองนางดีๆ อีกรอบความงามของนางนี่งดงามจริงๆ การจ้องมองเทียนถังทำให้หัวใจนางเต้นรัวไม่ทราบว่าทำไมถึงเป็นเช่นนี้ถึงจะมีอายุมาเยอะแต่นี่เป็นครั้งแรกจริงๆ ที่นางรู้สึกแบบนี้ ตอนที่นางแต่งงานนางยังไม่รู้สึกแบบนี้! อาจจะเป็นเพราะใบหน้าอันหล่อเหลา หรืออาจจะเป็นเพราะความประทับใจแรกพบ นางคิดแบบนั้นนางจึงก้มหน้าลงเล็กน้อย

“ท่านหยางหลัน ใบหน้าท่านช่างงดงามอย่างยิ่งไม่ทราบว่าจะปกปิดใบหน้าทำไม” เทียนถังกล่าวชมและเดินเข้าหาทำให้นางหันควับกลับมามองเทียนถังแต่ตอนนี้เทียนถังอยู่ใกล้มาก ทำให้หัวใจนางเต้นกระตุกแรง ไม่อยากจะเชื่อว่าเมื่อครู่เจ้าตัวยังคิดที่จะจีบลูกแต่ตอนนี้จะเอากระทั่งแม่…

“ข.. ขอบคุณสำหรับคำชม ข.. ข้าขอตัว.. ไปกันเถอะอวิ๋นเอ๋อร์” นางจับมือบุตรสาวและเดินจากไปอย่างรวดเร็วเทียนถังมองตามหลังขณะเลียริมฝีปาก ขบคิดในใจ ‘หญิงงามที่มีลูก เด็กสาวสุดจะไร้เดียงสา.. เป็นสิ่งที่โลกเดิมไม่เคยมีเลย… ฮึๆ ที่นี่ช่างเป็นสรวงสวรรค์แห่งข้าเสียจริงๆ จะเอาลูกก็เสียดายแม่!!’

เทียนถังคิดว่า เอาลูกก็ดีเอาแม่ก็เยี่ยม นี่สิเรียกลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น งามกันทั้งแม่ทั้งลูกจริงๆ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด