บทที่ 07 สนามรบของฉันคือ... การมีเซ็ก!
เล่มที่ 01 บทที่ 07 : สนามรบของฉันคือ.. การมีเซ็ก
หลังจากนั้นเช้าวันรุ่งขึ้นหลิงอี้ก็หายตัวไปทำเอาเทียนถังสลดลงเล็กน้อย แต่คราวนี้ที่สลดไม่ใช่เพราะว่ากลัวตัวเองโดนจับตรวจสายเลือดแต่กลัวว่าจะอะไรเกิดขึ้นกับหลิงอี้ อย่างไรเสียนางก็เป็นหญิงคนแรกในชีวิตเทียนถังที่ทำท้อง ความแค้นที่นางเคยคิดจะฆ่าเทียนถังนั้นหายไปจนสิ้นแล้ว
เช้าตรู่ตอนเช้าเทียนถังตื่นขึ้นมาพร้อมหาวหวอดๆ แสงอาทิตย์สาดใส่ตาทำให้เขานึกถึงเมื่อวานที่ข้ามโลกมา… พอมานึกดูแล้วพูดถึงเรื่องภาษามันก็เป็นภาษาที่ฟังแล้วเข้าใจทันทีซึ่งเป็นภาษาเดียวกันกับโลกเดิมนั่นแหละมองดูสภาพห้องที่เมื่อคืนยังดูไม่ได้แต่ตอนนี้สะอาดเหมือนกับห้องหรูเลย
ในตอนนั้นประตูก็มีเสียงเคาะดังขึ้นเทียนถังบอกว่า “เข้ามาได้” และคนที่เข้ามาไม่ใช่ใครนอกจากหยุนไป๋ที่งดงาม หยุนไป๋มองซ้ายมองขวาก่อนจะมองไปที่เทียนถังด้วยสายตาที่เหมือนมองสัตว์ประหลาด
“มองข้าแบบนั้นหน้าข้ามีอะไรติดงั้นเหรอ?” เทียนถังแสดงสีหน้างงออกมา หยุนไป๋จึงตอบกลับมา “ป่าวหรอก ข้าแค่สงสัยว่าเจ้ายังเป็นคนอยู่หรือเปล่า รู้หรือไม่เมื่อวานเจ้าทำคนในตระกูลสาขาทำการทำงานไม่ได้เลย” นางกง่าวจ้องมองไปยังเทียนถังด้วยสายตาแปลกๆ
เทียนถังแสดงสีหน้าแบบงงงันภายในใจขบคิด “ข้าทำอะไรงั้นเหรอ?” เขานึกไม่ออกจริงๆ ว่าตัวเองทำอะไรพอหยุนไป๋เห็นสีหน้างงงันของเทียนถังได้แต่ส่ายหน้าแล้วกล่าว “เจ้ายังไม่รู้เหรอ ว่าทำอะไร เมื่อวานเจ้าทำอะไรกับคนรับใช้ทั้งวัน!” เมื่อได้ยินหยุนไป๋กล่าวแบบนั้นเทียนถังก็อุทาน “อ๋อ ยังงี้นี่เอง”
“ไม่ต้องมายังงี้นี่เองเลย เจ้าพึ่งจะสูญเสียความทรงจำไปไม่ใช่เหรอแต่ความต้องการทางเพศกับสูงกว่าก่อนหน้างั้นเหรอ!” หยุนไป๋ส่งสายตาดุใส่เทียนถัง เทียนถังสะดุ้งทันทีกลัวว่าความลับที่ว่าตัวเองเป็นตัวปลอมจะเปิดเผยจึงได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ แล้วกล่าวว่า “เอาน่าๆ ฮะๆ”
หยุนไป๋กุมขมับส่ายหน้าพลางถอนหายใจยาวออกมาอย่างหน่ายใจพึมพำ “ทำไมเจ้าถึงเหลวไหลขนาดนี้นะ เฮ้ออ” เมื่อหยุนไป๋ลองคิดดูเหตุผลที่เทียนถังไม่เริ่มฝึกปราณเป็นเพราะกลัวว่าจะไม่ได้ทำเรื่องอย่างว่ายิ่งทำให้นางปวดหัวคิดในใจว่า “คนแบบนี้ก็มีในโลกนะ ขนาดสองเดือนก็เข้าสู่ขั้นที่หนึ่งขอบเขตปราณแต่ยังไม่ยอมฝึกเนี่ย”
พอลองมองดูตัวเองหากถ้าไม่ได้ปู่ของเทียนถังช่วยไว้ก็คงไม่ได้มีชีวิตอยู่ไม่ได้เริ่มฝึกฝนจนฝีมือก้าวหน้าขนาดนี้ นางใช้เวลาตั้งนานกว่าจะก้าวเข้าสู่ขั้นที่หนึ่งได้แต่ตรงกันข้ามเทียนถังกลับมีโอกาสภายในสองเดือนแต่ไม่คิดจะทำ ใช่ มันคืออำนาจของเงินตราและฐานะไงล่ะ
“ช่างเถอะๆ เจ้ารีบไปแต่งตัวได้แล้ว เราจะไปเมืองหลวงกัน” หยุนไป๋กล่าวขึ้น แม้เทียนถังจะพึ่งสูญเสียความทรงจำก็ตามทีแต่งานแต่งไม่อาจที่จะเลื่อนออกไปได้เพราะว่ามันจะทำให้ความสัมพันธ์ของสองตระกูลโดนบั่นทอนลงในขณะที่มันจะกลายเป็นโชคของอีกสองตระกูลและเชื้อพระวงศ์ที่จะทำให้สองตระกูลแตกแยก
ข่าวที่ว่าเทียนถังเสียความทรงจำนั้นปัจจุบันมีเพียงปู่ของเทียนถังเท่านั้นที่รู้เพราะหยุนไป๋บอกเพียงปู่ของเทียนถัง แน่นอนว่าหลังจากที่บอกไปแบบนั้นปู่เทียนถังบอกกับหยุนไป๋ว่า ให้เก็บเรื่องนี้เป็นความลับแล้วค่อยๆ อธิบายให้เทียนถังฟังทุกอย่างไม่ให้เขาทำตัวเหมือนเสียความทรงจำ
หยุนไป๋ก็ตกลงตามคำสั่ง… เมื่อได้ยินคำพูดของหยุนไป๋เทียนถังรับรู้ทันทีว่าตัวเองไปทำอะไรเพราะตัวเองรู้เรื่องสถานะภายในอาณาจักรคร่าวๆ จากหลิงอี้ไปแล้วแต่เขายังแสร้งตีหน้าเซ่อถามว่า “ไปเมืองหลวง ไปทำไม?” แน่นอนว่าคำถามนี้หยุนไป๋ก็พอจะเดาออกอยู่แล้วนงจึงกล่าวว่า “เดี๋ยว ข้าจะอธิบายขณะเดินทางละกัน”
หลังจากนั้นหยุนไป๋ก็เอาเสื้อผ้ามาให้เทียนถังใส่ แล้วนางก็ออกไป หลังจากนั้นเทียนถังก็คิดขึ้นมาได้ “อ๊า ข้ายังไม่ทอยลูกเต๋านี่น่า” ก่อนที่จะตะโกนในหัวว่า “ใช้สิทธิ ทอยลูกเต๋า!”
ภายในหัวมีลูกเต๋าทอยออกมามันกลิ้งไปมาอยู่หลายรอบและหยุดลงที่เลข 22 ก่อนที่เรื่องราวดังเดิมจะปรากฏขึ้นพอลอตเตอรี่ เริ่มหมุนอย่างรวดเร็วและหยุดลงโดยใช้เวลาไม่นานนักตามมาด้วยเสียงใสที่แสงจะเย็นชาในหัว *ติง : ยินดีด้วยคุณได้รับวิชา ‘เขตแดนฝนกระบี่ล้างดาราจักร’ ทักษะไร้ขอบเขตขั้น แข็งแกร่งตามผู้ใช้ หนึ่งในสามสิบสองสมบัติเอกเหมันต์ลำดับที่สามสิบ*
ตาเทียนถังเป็นประกายเมื่อทักษะนี้ไหลเข้ามาในหัวมันเป็นทักษะสร้างเขตแดนกระบี่ขึ้นมาขอบเขตความกว้างของมันตามพลังปราณ และที่น่าทึ่งกว่านั้นมันใช้ทั้งกำลังภายในด้วย! หมายความว่าทักษะนี้แม้จะมีคนที่แข็งแกร่งมากกว่าเทียนถังสิบเท่าแต่ฝึกแค่ด้านใดด้านหนึ่งก็มิอาจใช้ออกได้!
และความแข็งแกร่งของเคล็ดวิชานี้เรียกได้ว่าเหนือสุดยอด เขตแดนมีอยู่สามกระบวนท่าง่ายๆ กระบวนท่าที่หนึ่ง ‘ฝนกระบี่ล้างปฐพี’ เป็นกระบวนท่าทำลายล้างเพิ่มพลังโจมตีขนาดใหญ่ถึงร้อยเท่า กระบวนท่าที่สอง ‘อายกระบี่ดับดารา’ เป็นกระบวนท่าลบล้างการโจมตีด้วยอายกระบี่ มันจะลบล้างการโจมตีทุกชนิดที่แกร่งกว่าตัวผู้ใช้สูงถึงร้อยเท่า
กระบวนท่าที่สาม กระบวนท่าสุดท้ายที่ร้ายแรงและทารุณที่สุด ‘ฝนกระบี่ดาราจักร’ ทักษะที่สร้างกระบี่ขึ้นมานานับดาวบนดาราจักรโดยสร้างขึ้นจากมวลอันยวดยิ่งจากเอกเหมันต์มันมีแรงดึงดูดมากมหาศาลทำได้ทั้งทำลายล้างและลบล้างและโจมตี (หลุมดำรูปร่างดาบดีๆ นี่เอง)
แต่ต้องทราบไว้ก่อนว่าเทียนถังแค่เปิดใช้งานเขตแดนก็เหลือแหล่แล้ว “สุดยอด สุดยอด สุดยอด สุดยอดเว้ยยย ลัคกี้สุดๆ!” เทียนถังแหกปากโวยวายอย่างดีใจเขาไม่รู้หรอกว่ามันรุนแรงและน่าหวาดกลัวขนาดไหนแต่ว่าอย่างน้อยก็ได้ของแรร์สุดๆ มานึกถึงพระเอกในนิยายส่วนใหญ่ต้องสาหัสก่อนจะได้ของสุดจะเทพ
เช่นเฟิงหลงที่โดนฆ่าแล้วตกเหวได้รับกระบี่สุดเกรียน แต่ดูตัวเองสินั่งปล้ำสาวจนท้องได้รับของแรร์! “สนามรบของฉันก็คือ การมีเซ็กซ์!” นั่นคือสิ่งที่เทียนถังคิดขึ้นมาได้
เทียนถังใช้มือเสยผมอย่างลำพองใจก่อนจะเงยหน้าเชิดขึ้นเล็กน้อย “นี่สินะ ความต่างระหว่าง สายทรูกับสายฟรี ฮ่าๆ ๆ” ขณะกำลังหัวเราะร่าประตูพลันมีเสียงทุบรุนแรงดังขึ้นก่อนจะตามมาด้วยเสียงของหยุนไป๋ที่เหมือนกำลังจะโกรธว่า “เร็วๆ หน่อย!” เทียนถังหดหัวกลับทันที
เทียนถังคิดครู่หนึ่งก่อนจะเปิดสถานะดู
ชื่อ ‘เทียนถัง’
อายุ ‘20 ปี’
เพศ ‘ชาย’
ระดับระบบมาร : เริ่มต้น (ขั้นที่ 1)
1.ระบบมารราคะ : ต่ำ
ระดับพลังชี่ (ปราณ) : สร้างฐานราก-เริ่มต้น [60 ประสบการณ์ราคะ]
ระดับกำลังภายใน : ขั้น 2 ขอบเขตเริ่มต้น
ระดับกำลังภายนอก : ขั้น 3 ขอบเขตเริ่มต้น
ค่าประสบการณ์ระบบมาร : 60/250
ค่าประสบการณ์ราคะ : 10/10
แต้มราคะ : 275 จุด
เทียนถังมองสเตตัสเหมือนเกมเบื้องหน้าก่อนจะคิดในใจว่า “เพิ่มใส่กำลังภายใน 10 จุด” ความรู้สึกร้อนรุ่มแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายรูขุมขนทุกรูเบิกกว้างทำให้ความรู้สึกสบายไปทั่วร่างจนต้องครางอย่างสุขสบายออกมาคราหนึ่ง “อ๊าาาา” ตอนนี้กำลังภายในของเทียนถังเก่งขึ้นอีกขั้น
ต้องบอกไว้ก่อนว่ากำลังภายในแต่ละขั้นค่อนข้างแข็งแกร่งแม้จะแค่หนึ่งขั้นแต่มันแกร่งกว่าขั้นก่อนถึงสิบเท่า! ดังนั้นตอนนี้เทียนถังนั้นนับว่าแกร่งมากทางด้านไว้ใช้ต่อสู้เผลอๆ อาจจะสู้กับยอดฝีมือได้ด้วยซ้ำ หากถ้ามีประสบการณ์นะเพราะเทียนถังประสบการณ์ต่อสู้เป็นศูนย์
เทียนถังมองไปยัง ‘แต้มราคะ’ เขาเริ่มสงสัยว่ามันไว้ทำอะไรในขณะนั้นพลันมีไอคอนหนึ่งปรากฏขึ้นมุมขวาบนของสถานะมันเป็นไอคอนแปลกๆ ดูเหมือนสัญลักษณ์อะไรมากกว่า เทียนถังกดไปที่มันพรึ้บหนึ่งพลันปรากฏสิ่งของต่างๆ มากมายตั้งแต่ตำราจนอาวุธหรือกระทั่งก้อนแสงแปลกๆ
“อะไรอีกล่ะเนี่ย” เทียนถังแสดงสีหน้างุนงงมองไปทั่วๆ ….. ผ่านไปสักพักตบขาตัวเองเปรี๊ยงใหญ่ “บิดามันเถอะ มีกระทั่งร้านค้างั้นเรอะ เกมเกินไปไหม จะสบายเกินไปแล้วว้อยยยย” เทียนถังคิดครู่หนึ่งหันมองราคาสิ่งของดวงตาหดลีบลงอย่างกะทันหันเมื่อครู่ยังดีใจแต่บัดนี้หน้าบิดเบี้ยวด้วยความโกรธ
“มารดามันเถอะ จะให้ใครซื้อฟ่ะ!” ก็ของทุกอย่างเล่นอยู่ราคาหลักแสนแต้มราคะเลยนะ! ต้องเก็บอีกกี่ชาติถึงจะเก็บถึงฟ่ะ! เทียนถังจ้องมองของในร้านค้าได้แต่กลืนน้ำลายเอื๊อกใหญ่ขนาดเคล็ดวิชาในนิยายยังมีเลย “ไม่กลัวโดนเรื่องลิขสิทธิ์รึไงฟ่ะ คนสร้างระบบเอ้ย!”
ใช่มันมีกระบวนท่าต่างๆ ของนิยายดังๆ เต็มไปหมดเลยล่ะแถมไม่ใช่นิยายเก่าๆ ที่มาในยุคเก่าๆนะนิยายใหม่ๆ ดังยังมีเลย วิชาเทพหงสา บ้าง หรือจะ เขตแดนธารา ยังมีเลย! บิดามันเถอะพระเจ้าไม่กลัวโดนลิขสิทธิ์หรือไรกัน!
เทียนถังแน่นอนว่าไม่มีสิทธิ์ที่จะแตะต้องมันอยู่แล้ว ไม่ใช่เพราะว่ากลัวโดนลิขสิทธิ์ แต่งบไม่พอตั้งหากต้องเก็บแต้มราคะไปอีกกี่ชาติถึงจะได้… เทียนถังเลื่อนลงไปอีกยิ่งเลื่อนยิ่งราคาสูงแน่ล่ะมันก็ปกติ “เอ๋.. ทำไมรู้สึกว่าของในร้านค้ามีน้อยจัง” ผ่านไปสักพักเทียนถังก็จับสังเกตได้
มันมีน้อยจริงๆ เลื่อนมาจนสุดเขาพึ่งเจอของไม่สามสิบกว่าอย่างเอง.. ของอันสุดท้ายเหมือนราคาจะมีเลข 9 รัวๆ ไม่รู้ว่ามันเยอะขนาดไหน ของสิ่งนี้เป็นกระบี่เล่มหนึ่ง มันมีชื่อว่า ‘กระบี่เซียน-เหมันต์ผนึกสวรรค์ห่วงบรรพกาล’ ยังมีคำอธิบายย่อๆ ว่า หนึ่งในสี่กระบี่เซียน… เทียนถังได้แต่เกาหัวหงึกๆ ไม่ทราบว่ามันทำไมถึงราคาขาดลิบจากของอันอื่นได้ยังไง
เทียนถังเลื่อนกลับมาที่เดิมแต่ในตอนนั้น “เอ๊ะ” เขาส่งเสียงแปลกๆ ออกมาเพราะว่าหน้าร้านค้ามันนังเลื่อนขึ้นต่อไปได้ คิ้วเทียนถังกระตุกเล็กน้อยเลื่อนขึ้นไปเรื่อๆ จนมาถึงสุด.. เขาตบหัวตัวเองป๊าบใหญ่ “อ๊าา ข้าก็ว่าทำไมราคามันถึงสูงลิบขนาดนั้นเพราะเมื่อกี้ข้าอยู่ช่วงสุดท้ายของร้านค้านี่หว่า!”
แต่มองยาตันหนึ่งเม็ดราคาก็เหยียบหนึ่งร้อยแต้มแล้วเทียนถังไม่กล้าซื้อมั่วๆ ด้วย.. แต่ถึงจะเลื่อนมองจนครบของในร้านค้าก็น้อยเกินไปอยู่ดีเทียนถังคิดแบบนั้น “หรือว่าถ้าระบบมารอัพสูงขึ้นมันจะค่อยๆ เอาของใหม่มาด้วย?” พอคิดแบบนั้นได้ก็ถอนหายใจออกมา ก่อนที่จะไปสนใจร้านค้าในระบบอีกรอบ
มองดูไปดูมาได้แต่กัดฟันราคาของสิ่งของแต่ละอย่างสูงพอๆ กับการข่มขืนผู้หญิงหนึ่งครั้ง เทียนถังได้แต่ด่าทอไอ้ระบบเฮงซวยนี่อยู่ในใจ “สารเลวเอ๊ย!” เขามองสักพักก่อนที่จะครุ่นคิด “ฉันเองก็มาอยู่ในโลกแบบนี้ต้องฝึกการต่อสู้สินะ ตอนนี้ถึงจะมีบัตรทรูแต่ถ้าเจอคนเก่งจริงๆ บัตรทรูนี่เหมือนจะไร้ความหมายเลยนะ”
แน่นอนว่าเทียนถังอ้างอิงมาจากนิยายเอาพี่เมิ่งเป็นตัวอย่างที่หาบัตรทรูดีๆมาเลื่อนขั้นตบะในร่าง แต่พอเจอคนที่เก่งจริงๆ ต้องหนีอยู่ดีแม้จะพึ่งได้บัตรทรูมาก็ตามที … “ใช่แล้วเป็นแบบนั้นที่ฉันต้องมีคือ ทักษะการต่อสู้!” เทียนถังคิดสายตาจึงไปหยุดอยู่มุมหนึ่งของรายการ
มันเป็นลูกแสงสีขาวมีชื่อเขียนว่า ‘ทักษะการต่อสู้ ระดับต่ำ’ มีคำอธิบายว่า เป็นสิ่งของที่จะฝังลึกลงในจิตใจโดยตัวเองเหมือนตอนที่ทอยลูกเต๋าแล้วได้เคล็ดวิชา ทักษะระดับต่ำเป็นทักษะที่อ่อนแอที่สุดในทักษะที่มีทั้งหมด… คิ้วเทียนถังกระตุกเล็กน้อย.. ราคาของมันคือ 250 จุด… ซื้อปุ๊บกินมาม่าปั๊บเลยล่ะขอรับ แถมมันยังแค่ระดับที่ต่ำที่สุดอีก!
เทียนถังมองมันอย่างครุ่นคิด “สารเลว ไม่ใช่ระบบมารแล้ว นี่มันขูดรีดกันเห็นๆ! ราคาบิดามันอะไรจะสูงขนาดนี้” แต่เมื่อนึกถึงความปลอดภัยของตัวเอง.. ในโลกที่ไม่คุ้นเคย ไม่มีคนรู้จัก ไม่มีคนเชื่อใจ … ได้แต่กัดฟันและซื้อมันในที่สุด…
ซึ่งในเวลานั้นเทียนถังไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองได้ประเมิน ‘ทักษะการต่อสู้ ระดับต่ำ’ นี้ต่ำมากจนเกินไป…
พอเทียนถังซื้อก็มีลูกกลมๆ แสงสีขาวลอยออกมาจากหน้าต่างสเตตัส และพุ่งเข้าใส่หน้าผากเทียนถังหายเข้าไปในผิวหนังจังหวะนั้น ทักษะการต่อสู้พื้นฐานทุกอย่าง อย่างละเอียดไหลเข้ามาในสมองมันเป็นพื้นฐานสมเป็นระดับต่ำจริงๆ และพื้นฐานทั้งหมดถูกสลักลงบนหัวเทียนถังเหมือนฝึกแต่พื้นฐานทั้งหมดมาเป็นยี่สิบปี
แน่นอนว่าเจ้าตัวทราบแค่ว่าได้พื้นฐานการต่อสู้มา ซึ่งเทียนถังรู้ตัวเลยว่าตัวเองตอนนี้นั้นสามารถล้มนักมวยระดับจังหวัดได้เลยมั้ง ด้วยทักษะเขาในปัจจุบัน.. แน่นอนว่าเป็นเพียงการเดามั่วๆ ของเทียนถังเท่านั้นมองดูแต้มราคะที่เหลือเพียง 25 จุด ได้แต่ตัวลีบลง…
“ช่างปล้นกันจริงๆ” เทียนถังถึงแม้จะเป็นลูกคนรวยแต่ก็เป็นคนขี้เหนียวมาก! นอกจากที่สำคัญจริงๆ เขาจะไม่ยอมจ่าย แน่นอนว่าเรื่องผู้หญิงนั้นจ่ายไม่อั้นส่วนรถหรูที่ต้องอำนวยความสะดวกอยู่แล้ว .. แต่ถ้าเขากินอาหารกับเพื่อนผู้ชายนั้นกล้าบอกได้เลยว่า เขาจะไม่ยอมเลี้ยงเพราะว่าตัวเองรวยกว่าเด็ดขาด ‘เงินทุกบาทมีค่ามาก!’
ดังนั้นเขาจึงไม่พอใจแรงมาก โดยเฉพาะแต้มราคะที่หามาด้วยตัวเองจากการข่มขืนและทำผู้หญิงท้องปลิ้วหายไปกับสายลม “ไม่คุ้มค่า ไม่คุ้มค่า ไม่คุ้มค่าจริงๆ!” เทียนถังพึมพำอาลัยตายอยากแต่ในตอนนั้นมีเสียงเกรี้ยวกราดของยักษ์ดังขึ้นมาอีกครั้งเทียนถังไม่กล้ารีรออะไรเปลี่ยนชุดทันทีและเดินออกจากห้องอย่างสง่าผ่าเผย
“พอลองมาคิดดูแล้ว ข้าพึ่งจะเคยเห็นข้างนอกเป็นครั้งแรกนะเนี่ย” เทียนถังคิดมองออกไปข้างนอก ที่นี่เหมือนวงในจีนยุคโบราณค่อนข้างใหญ่มีกระทั่งลานฝึกเทียนถังเชิดหน้าเล็กน้อยเดินไปข้างหน้าจนลืมมองว่าข้างหน้าเป็นพื้นต่างระดับ ทำให้ข้าก้าวผิดจังหวะ
“ห๊ะ!” ข้าเทียนถังพลิกและล้มลงพื้นอย่างหมดสภาพทำให้หยุนไป๋หัวเราะลั่นออกมา ตอนแรกนางแปลกใจที่เทียนถังทำไมทำหน้าเคร่งขรึม พอมานึกๆ ดูจากนิสัยเขาแล้วน่าจะทำตัวโชว์เท่อะไรทำนองนั้นแต่มานึกสภาพที่เป็นในปัจจุบันทำให้หยุนไป๋หัวเราะเข้าไปใหญ่
“สารเลว สารเลว ไอ้โลกบัดซบ ข้าอยากกลับบ้าน!” เทียนถังอายมากจนอยากจะเอาหน้าแทรกแผ่นดินหนี พอนึกสภาพที่ทำเท่ของตัวเองอยากจะกรีดใบหน้าหล่อๆ ของตัวเองเสียนี่… โชคดีที่ไม่มีใครอยู่บริเวณนี้เทียนถังได้แต่หัวเราะแห้งๆ ออกมารีบลุกขึ้นยืนทำตัวสงบอย่างรวดเร็ว ได้แต่คิดว่า “อะไรจะซวยขนาดนี้”
ถ้าคนดวงซวยมาได้ยินคำพูดของเขา คงจะต้องกระอักเลือดตายเป็นแน่ ใครกันแน่ที่ดวงซวย ตัวเองได้รับลัคกี้มาตั้งเยอะ แต่พอหน้าแตกต่อหน้าหญิงงามดันกลายเป็นดวงซวยสุดๆ ซะนี่!
“อ่ะแฮ่ม ไปกันเถอะ” เทียนถังกล่าวขึ้นหยุนไป๋จึงเลิกขำและเดินนำทางผ่านในตระกูลสาขาซึ่งสายตาคนในตระกูลมองเทียนถังเต็มไปด้วยความเคารพย่ำเกรงมองก็รู้ว่าพวกมันเคารพเพราะยศฐานะของเทียนถัง แต่เทียนถังก็ไม่แปลกใจมากเพราะเขารู้สภาพคร่าวๆ แล้วว่าเจ้าเทียนถังคนเดิมมันเป็นขยะ แต่มีมารดาบิดาที่โหดขึงขังจึงทำให้ผู้คนสั่นกลัว
ในโลกแห่งนี้ความแข็งแกร่งตั้งหากที่จะใช้อธิบายได้ทุกสิ่ง เทียนถังเข้าใจเรื่องนี้จากเมื่อวานเมื่อตอนที่ตัวเองเกือบโดนฆ่า หากแข็งแกร่งก็พอที่จะเป็นกฎเหมือนตัวเขาที่มีบิดาและมารดาที่แข็งแกร่ง ถึงจะขโมยมาก็เถอะ