บทที่ 06 เข้าใจผิดและตั้งท้อง
เล่มที่ 01 บทที่ 06 : เข้าใจผิดและตั้งท้อง
“เดี๋ยวนะ..” เทียนถังพูดออกมาแล้วจ้องไปยังหลิงอี้อย่างครุ่นคิด หลิงอี้ยิ้มอย่ามีเลศนัย … เทียนถังครุ่นคิดเกี่ยวกับคำพูดเมื่อกี้ สวมหน้ากาก? สวมหน้ากาก อะไรกันมองดูยังไงมันก็หน้าปกติไม่ใช่เหรอ.. ‘คงไม่ใช่ว่าสวมหน้ากากปลอมแปลงระดับเทพเหมือนมารป๋ายหรอกนะ..’
“เจ้าว่า เจ้าใส่หน้ากาก?” เทียนถังถามพร้อมแสดงสีหน้าสับสนหลิงอี้ยิ้มและกล่าว “ใช่แล้ว ข้าใส่หน้ากาก …” เมื่อนางเห็นสีหน้างุนงงของเทียนถังก็หัวเราะคิกๆ ออกมาอย่างน่ารักเหมือนจะลืมไปว่าเมื่อครู่มีบรรยากาศที่จะฆ่ากันให้ตายอยู่เลย.. เมื่อเห็นนางหัวเราะคิกคักเทียนถังจึงกล่าว “หมายความว่ายังไง”
แน่นอนว่าหลิงอี้แม้จะโดนล้างสมองไม่ใช่ว่านางลืมความทรงจำที่ต้องการฆ่าเทียนถังแต่เป็นการแทรกแซงความนึกคิดมากกว่า ทำให้นางหลงเทียนถังเหมือนคนที่สนิทกันมานานนั่นเอง.. และนางก็ไม่โง่ด้วยพอเห็นท่าทีสงสัยเทียนถังนางก็เข้าใจทันทีว่าเทียนถังสงสัยเกี่ยวกับที่ว่าหน้ากาก อย่างไรเสียเทียนถังก็พึ่งเสียความทรงจำไป
“ใช่ อันที่จริงมันคือหน้ากากวิเศษที่บิดาข้าลงทุนซื้อมา.. ที่ท่านให้ข้ามาเป็นตัวแทนเพราะว่าไม่สามารถให้คนอื่นช่วยได้เพราะการแทรกซึมเขาตระกูลอื่นมันเป็นความลับมาก หากแพร่กระจายคงไม่ใช่เรื่องดีที่รู้เรื่องนี้จึงมีเพียงข้า บิดา และผู้นำผู้อาวุโสเท่านั้น บิดาข้าจึงให้ข้ามาด้วยตัวเอง… หน้ากากนี่มีราคาที่ค่อนข้างสูงใช้งานได้ครั้งเดียวและไม่ค่อยเป็นที่รู้จักสักเท่าไหร่.. แต่ข้าดีใจมากกว่าที่บิดาข้าส่งข้ามา ก็เพราะว่ามันทำให้ข้าได้เจอท่าน” นางกล่าวอธิบายซะละเอียดยิบ
ถ้าเทียนถังไม่รู้ว่ายัยนี่โกหกหน้าเซ่อได้เก่งกาจดุจยอดฝีมือจากก่อนหน้านี้เขาคงคิดว่ายัยนี่เป็นพวกปากพล่อยแน่ๆล่ะ แต่ในความจริงตอนนี้นั้นเป็นเพราะว่านางตกเป็นทาสของเทียนถังจึงไม่ปิดบังใดๆ ทั้งสิ้นถ้าเทียนถังถามว่าคนในตระกูลมีกี่คน แผนผังตระกูลเป็นยังไง ทำยังไงถึงสามารถลักลอบเข้าไปได้ นางคงบอกมาอย่างไม่ปกปิดแน่นอน
“ของวิเศษจริงๆ ด้วย!” เขาคิดในใจอย่างตื่นเต้นตอนแรกเทียนถังกำลังสงสัยเกี่ยวกับหน้ากากที่ว่า ที่ไหนได้มันกลับมีจริงๆ! แต่เสียดายที่ใช้ครั้งเดียวทิ้ลไม่เหมือนหน้ากากของมารป๋าย.. แน่นอนว่าเทียนถังอ้างมันจากที่กล่าวมานั่นแหละ และแน่นอนว่าเขามองไม่ออกแน่ๆ หากนางไม่บอกเขาไม่ใช่หวูเฉินหรือหยุนเช่อที่เป็นแพทย์อัจฉริยะ แยกหน้ากากกับไม่ใส่หน้ากากออก!
เมื่อเห็นใบหน้าเทียนถังนางจึงยิ้มกล่าว “ท่านต้องการจะดูหน้าที่แท้จริงของข้าหรือไม่?” นางยกยิ้มอย่างมีเสน่ห์เทียนถังคิดว่าแม่นางนี้ต้องมีความงดงามมากแน่ๆ เพราะเป็นถึงคุณหนูตระกูลฝูแต่ว่าเทียนถังลองคิดรอบคอบ ถ้าหากนางถอดออกจะไม่สามารถใส่ได้อีก
แน่นอนแบบนั้นก็เป็นปัญหาน่ะสิ ถ้านางไม่ใส่ตัวตนจะถูกเปิดเผยยิ่งไปกว่านั้นทางด้านตระกูลฝูก็จะเคลื่อนไหวรุนแรงกว่าเดิมเพราะหลิงอี้ตอนนี้อยู่ในถ้ำเสือหากโดนจับได้ว่าลักลอบเขามาสนธิสัญญาพันธมิตรสี่ตระกูลใหญ่จะพังทลายลงตระกูลเฟิงจะจับหลิงอี้เป็นตัวประกัน ตระกูลฝูจะโจมตี จนอาจจะเกิดสงครามภายใน
แต่นั้นไม่เกี่ยวกับเทียนถังแต่ที่มันเกี่ยวกับเขาคือ หากมีคนรับรู้ว่ามีการแอบลักลอบเขาตระกูลละก็ ความจริงที่ว่าเฟิงเทียนถังถูกลากไปสังหารอาจจะถูกเปิดเผย! ผู้นำตระกูลเฟิงอาจจะตรวจสอบผู้อาวุโสก็ได้! และไม่เพียงเท่านั้นการตรวจสายเลือดจะตรวจสายเลือดของตระกูลโดยตรงโดยเฉพาะพวกตำแหน่งสูงๆ เช่นเทียนถังเป็นต้น ถ้าเขาถูกตรวจเลือดละก็ไม่ต้องพูดถึงเลย…
ดังนั้นเทียนถังไม่ต้องการให้เกิดแบบนั้นทางเดียวคือเงียบไว้เท่านั้น! ค่อยแอบไปสังหารมันเงียบๆ ก็ได้แต่มันอยู่ตระกูลหลัก! ที่จะเข้าไปได้ก็คงต้องทำสิ่งที่สัญญากับพวกผู้อาวุโสไว้ แน่นอนว่าเรื่องสนธิสัญญาที่ว่าเป็นหยุนไป๋ที่บอกเฟิงหลง เขาจึงนำมาคำนวณมันไม่เป็นผลดีที่จะทำแบบนั้น
“แต่ว่า….” เทียนถังลังเล กลัวว่าสถานะตัวเองจะเปิดเผย.. แต่ตรงกันข้ามที่หลิงอี้ไม่ทราบว่าเทียนถังนั้นกำลังกังวลเรื่องตรวจเลือดนางจึงเข้าใจเพียงแค่ว่าหากนางถูกเปิดเผยจะนำปัญหาใหญ่ให้นาง นางจะถูกจับเป็นตัวประกันอะไรทำนองนั้น มันจึงทำให้นางดีใจ
แม้จะโดนล้างสมองแต่ว่าไม่ได้ไร้จิตใจ เมื่อมีคนทำดีด้วยความรักใคร่ต่อเทียนถังของนางพุ่งสูงขึ้นไปอีก.. ไม่ทราบว่าเทียนถังต้องมีโชคเรื่องผู้หญิงขนาดไหนที่แบบแค่ตัวเองต้องการเอาตัวรอดแต่ดันไปปักธงสาวงามเข้าให้.. มันโชคดีกว่านิยายฮาเร็มชาวเกาะอีกไม่ใช่หรือไง!? หลิงอี้ยิ้มกล่าว “ไม่ต้องเป็นห่วงเพราะอีกเดี๋ยวข้าก็ต้องกลับแล้ว”
“เอ๋…” เทียนถังได้ยินแบบนั้นก็ตะลึงไปพักใหญ่ในใจขบคิด ‘แบบนั้นก็แย่สิแม่คุณ’ แน่นอนแย่ที่ว่าคือหากนางจู่ๆ ก็หายไปเกิดความสับสนแน่ๆ เพราะหยุนไป๋ตอนที่อธิบายถึงเรื่องตระกูลใหญ่นางบอกให้ระวังหลิงอี้ไว้ด้วยเพราะนางอาจจะเป็นคนที่ถูกส่งเข้ามาเพื่อลอบสังหารเทียนถัง
เพราะว่าเมื่อคืนนี้นางดูคล้ายจะมอมเหล้าเทียนถัง แต่ไม่แน่ชัดหยุนไป๋จึงเก็บไว้คนเดียวเพราะอาจจะเป็นไปได้ว่านางคิดไปเองแต่ถ้าจู่ๆ หลิงอี้ก็หายไปหลังจากคืนที่นอนร่วมกับเทียนถังหยุนไป๋ต้องคิดแน่ว่าลอบสังหารไม่สำเร็จจึงหนีกลับไป! เพราะตอนนี้หยุนไป๋มีความสงสัยหลิงอี้แล้ว
แต่ว่าวันนี้นางเลิกสงสัยไปแล้วล่ะเพราะนางกล่าวว่า “ถึงจะบอกให้ระวังก็ไปงั้นแหละ นางเป็นคนที่มีนิสัยดีข้าคงคิดมากไปเองอาจจะเป็นเพราะนางชอบเจ้านั่นแหละข้าคงคิดมากไปเอง” แน่นอนว่าตอนนั้นเทียนถังไม่รู้ว่าตัวเองมีคู่หมั้นและต้องแต่งงานกระชับมิตร เลยมีคนลอบสังหารเทียนถังจะฟังผ่านๆ ไป
แต่มาหวนนึกดูเหมือนความกังวลของหยุนไป๋จะเป็นเรื่องจริง! เพราะงั้นแม้นางจะเลิกสงสัยแต่ถ้าหากหลิงอี้จู่ๆ ก็หายไปอย่างกะทันหันละก็ความสงสัยจะพุ่งถึงขีดจำกัด และความจริงเขาอาจจะถูกเปิดเผย! เทียนถังจึงลังเลถ้าหากนางจู่ๆ ก็หายไปปัญหาที่ตามมาหาเทียนถังต้องไม่ต่างจากการที่นางถูกเปิดเผยตัวตนแน่ๆ!
พอเห็นท่าทีลังเลของเทียนถังขีดความรักใคร่ของหลิงอี้มีต่อเทียนถังแทบจะสูงเสียดเอกภพ! นางเข้าใจผิดไปว่าเทียนถังตกใจที่ต้องแยกจากกับนาง! ซึ่งถูกต้องการเข้าใจผิดอีกรอบไม่ทราบว่าเทียนถังอัพ Lucky Love ไว้เลเวลเท่าไหร่ถึงโชคดีปูนนี้ นางจึงกล่าวอย่างดีใจ “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เพราะวันมะรืนนี้ก็ต้องเจอกันอีก แน่นอนว่าไม่มีใครทราบเรื่องของข้า”
แน่นอนว่าที่หลิงอี้กล่าวหมายความว่าวันมะรืนนี้ก็ต้องเจอกันและจะไม่มีใครทราบเรื่องของข้าที่ว่านางหมายถึงคือไม่มีคนรู้ว่านางตกเป็นทาสรักเทียนถังไปแล้ว แต่ที่เทียนถังเข้าใจไปคือว่า นางไม่ได้หายไปเลยแค่หายไปสองวันก็กลับมาแน่นอนว่าไม่มีคนทราบถึงความจริงที่ว่านางหายตัวไปอาจจะมีตัวแทนละมั้ง หรืออะไรไม่รู้แต่คำพูดนางบอกมาแบบนั้นเทียนถังจึงดีใจว่าความลับตัวเองยังไม่ถูกเปิดเผย!
อันที่จริงเพราะคำพูดคลุมเครือของหลิงอี้นั่นแหละแม้เทียนถังจะไม่ใช่คนโง่แต่ด้วยตอนนี้เขาคิดแต่เรื่องปัญหาพอมีคนมาพูดประโยคที่เข้าใจได้สองแบบเทียนถังจึงเข้าใจไปในแบบที่ตนเองกังวลโดยสามัญสำนึกปกติ.. กลายเป็นความเข้าใจผิดไปเอง “งั้นเหรอ! งั้นก็ดี!” เทียนถังกล่าว
หลิงอี้ยิ่งรู้สึกชื่นใจ.. โดยสองหน่อนี้ไม่ทราบเลยว่าทั้งสองนั้นเข้าใจผิดไปคนล่ะทิศเลย.. หนึ่งเหนือหนึ่งใต้…
นางใช้มือแตะใต้ข้างเหมือนจะใช้นิ้วจับบางอย่างทำอยู่สักพักนางอุทานออกมาว่า “ได้แล้ว!” นางดึงหน้ากากออกทันที.. ตอนนี้หลิงอี้นั่งบนตักเทียนถังในขณะที่ท่อนเนื้อแท่งใหญ่ยังคงอยู่ในตัวของนางค้างไว้อยู่พอทีเทียนถังเห็นใบหน้าของนางเท่านั้นล่ะ ต้องอุทานว่า ‘มารดามันเถอะ….!’
ทำไมน่ะหรือ? คำว่าเทพธิดาไม่สามารถสรรหามาอธิบายได้พระเจ้ามันเถอะคนอะไรจะงดงามขนาดนี้ถ้าจะบรรยายถึงความงดงามของนางนักประพันธ์คงต้องอายฝีมือการประพันธ์ที่อ่อนด้อยของตัวเองว่าไม่สามารถสรรหาคำมาอธิบายถึงความงดงามของสตรีที่ยิ่งกว่าภาพวาดในรูปเสียอีก! งดงาม.. งดงามจนเกินไป!
ดวงตากระจ่างใสผิวพรรณที่ขาวนวลอยู่แล้วหากแต่เมื่อถอดหน้ากากสีผิวทั้งหมดขาวนวลสดใสขึ้นอีกผิวพรรณนุ่มลื่นเหมือนใช้ครีมรักษาผิวมาตั้งแต่เป็นอสุจิหรือ? ริมฝีปากโค้งงออย่างงดงามคิ้วที่ไม่หนาไม่บางจนเกินไปผมสีดำยาวสลวยออกมา.. และที่น่าแปลกคือดวงตาสีขาวที่งดงามของนางมันทำให้ดูสวยเกินคำบรรยาย ว่ากันตามตรงเทียนถังไม่อาจหาคำมาอธิบายถึงความงามระดับนี้เลย
งามล้มเมือง? เป็นคำพูดที่ดูยิ่งใหญ่แต่หากเทียบกับหลิงอี้ความสามเหล่านั้นเป็นเพียงแค่ก้อนอึกับประติมากรรมที่ยอดเยี่ยม
งามล้มประเทศ? ไม่นี่คงไม่เพียงพอ
งามล้มทวีป? ไม่นี่ก็ไม่พอ
งามล้มโลก? นี่อาจจะเพียงพอต่อความงดงาม
‘แม่เจ้าโว้ยยย งามเกินไปแล้วเว้ยยย เสียดายไม่ได้เป็นเมียหลวงให้ตายสิขอให้คู่หมั้นฉันสวยแบบนี้ ได้ครึ่งก็ยังดี’ เทียนถังคิดไปแล้วว่านางนี่งามที่สุดในโลกไปแล้ว.. พอเห็นเทียนถังนิ่งเงียบหลิงอี้ตกใจเล็กน้อยนางไม่ได้คิดเลยว่าเทียนถังคิดว่านางงาม แต่นางคิดว่าเทียนถังไม่ชอบนาง
ที่ทำให้นางคิดแบบนั้นเพราะเทียนถังผ่านผู้หญิงมาเยอะการจะเจอผู้หญิงที่สวยกว่านางเป็นเรื่องปกติ ดังนั้นจึงทำให้นางหน้าหม่นลง “ข้าขอโทษ.. ที่ไม่สวยดังที่เจ้าหวัง..” นางตอนแรกมั่นใจพอตัวอย่างน้อยนางก็เป็นหนึ่งในสี่สาวงามที่สุดของอาณาจักรเชียวนะ.. แต่พอเห็นเทียนถังจึงทำให้ความมั่นใจที่มีอยู่ลดลงอย่างรวดเร็ว
แต่ในตอนนั้นเองท่อนเนื้อที่อยู่ในตัวของนางตอนแรกมันแข็งโปกและใหญ่อยู่แล้ว แต่ตอนนี้นางรู้สึกเหมือนโดนท่อนเนื้อละลายด้วยความร้อนของมันและขนาดของมันใหญ่และฟิตเปรี๊ยะขึ้นอีกนางครางออกมา “อร๊างงง” จากการเพิ่มขนาดกะทันหันของมัน “ทะ.. ท่าน—”
แต่ยังกล่าวไม่เสร็จร่างของนางก็ถูกกระแทกใส่อย่างรุนแรงท้องน้อยนางปูดขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจนแสดงให้เห็นว่าท่อนเนื้อในตัวนางมันใหญ่ยิ่งนักจักรพรรดิยังอาย จักรพรรดินีคงหมายตา “พูดอะไรกัน ถ้าเจ้าไม่สวยโลกนี้จะมีคนสวยเหลืออีกเหรอ!” เทียนถังกลายเป็นสัตว์ป่าหิวกระหาย
หลิงอี้ดีใจมากเมื่อได้ยินคำพูดเทียนถังร่างกายนางก็เริ่มกลมกลืนกัน เทียนถังเริ่มทำ ‘Berserk Sex’ กระหน่ำใส่หลิงอี้…. เวลาไหลผ่านจนถึงยามวิกาลเสียงกระเส่าของหลิงอี้เบาลงภายในห้องและเงียบลงบนเตียงมีเทียนถังกับหลิงอี้นอนอยู่ในขณะที่ภายในห้องเต็มไปด้วยน้ำข้นสีขาวและน้ำเมือกใสทุกมุมห้องแสดงให้เห็นว่าเทพจริงๆ
แต่เทียนถังไม่พอใจสักเท่าไหร่แต่ว่าหลิงอี้รับไม่ไหวแล้วเขาจึงต้องหยุดลง นี่การกระทำอันบ้าคลั่งของเขาเมื่อครู่เป็นเพราะความงามของหลิงอี้แท้ๆ ถ้านางไม่เผยโฉมหน้าเทียนถังอาจจะไม่บ้าคลั่งขนาดนั้นแล้ว ‘อันตรายๆ ยัยนี่อันตราย’ เทียนถังคิดในใจเงียบๆ
ในขณะที่เทียนถังกำลังมองหลิงอี้ที่นอนสลบอยู่นางช่างงดงามจริงๆ ยิ่งมองยิ่งเหมือนภาพวาด ในตอนนั้นเอง *ติง : ยินดีด้วยเควสลับสำเร็จ* เทียนถังงุนงงว่าเขาไปทำเควสลับตั้งแต่เมื่อไหร่อันที่จริงเขายังไม่ได้รับมันด้วย ซ้ำก่อนจะตามมาด้วยเสียงเย็นชาดังขึ้นเป็นชุด
*ติง : เควสลับสำเร็จ ทำให้หลิงอี้ตั้งท้อง ได้รับแต้มราคะ 100 ได้รับค่าประสบการณ์ระบบมาร 10 จุด*
*ติง : ทำเควสลับอันแรกสำเร็จ ได้รับแต้มราคะ 25*
*ติง : ทำผู้หญิงตั้งท้องครั้งแรกในระบบ ได้รับโอกาสทอยลูกเต๋าหนึ่งครั่ง*
*ติง : เควสบังคับ รับผิดชอบหลิงอี้ ไม่มีรางวัลใดๆ หากแต่ถ้าไม่รับผิดชอบระบบมารราคะจะทำการเด้งระบบมาร และกลายเป็นขยะราคะแทน*
เทียนถังผงะไปในทันทีโดยเฉพาะที่ว่าถ้าไม่รับผิดชอบจากมารจะเปลี่ยนเป็นขยะซะงั้น… แน่นอนว่าเทียนถังถึงจะมีประสบการณ์มาเยอะแต่เขาไม่เคยทำใครท้องเพราะเขารอบคอบมากแต่ครั้งนี้มันสุดทางเลือกจริงๆ และแน่นอนว่าเขาไม่ใช่ขยะสิ่งที่ทำนั้นต้องรับผิดชอบเป็นเรื่องปกติแม้จะไม่มีระบบมาร หากเขาไม่ทำเขาก็คงไม่มีหน้ากลับไปคุยกับบิดามารดาในโลกเดิมแน่ๆ
ส่วนที่น่าตกใจคือ ‘นางตั้งท้อง! จริงหรือเนี่ยยย’ เทียนถังคิดในใจเหงื่อผุดบนใบหน้าแน่นอนว่าไม่ใช่เขาลังเล แต่ปัญหามันอยู่ที่นางเป็นถึงคุณหนูตระกูลฝูเชียวนะเป็นทาสรักเงียบๆ คงไม่อาจสัมผัสได้ แต่นี่ตั้งท้องเลยนะตั้งท้องนะอย่างน้อยในตัวนางก็มีสายเลือดของเขาอยู่..
เทียนถังปงุกหลิงอี้นางยังตื่นไม่สนิทใช้เวลาสีตาอยู่ครู่หนึ่งแม้ผมจะยุ่งเหยิงแต่มันทำให้นางงามไปอีกแบบในมี่สุดนางก็ได้สติกลับมาเต็มที่.. เทียนถังกล่าวถาม “ถ้าเจ้าตั้งท้องกับข้าเจ้าจะทำยังไง?” ซึ่งคำตอบของนางทำให้เทียนถังคิดว่าไม่น่าถามเลยเพราะยัยนี่ยังไงก็กลายเป็นทาสเขาไปแล้ว
“ข้าก็ดีใจมากสิ!” นางยิ้มแม้จะงงกับคำถามแต่นางก็ตอบไปตามความจริงที่นางคิด เทียนถังไม่ถามถึงความเห็นนางเขาเลยถามเกี่ยวกับครอบครัวแทน “แล้วบิดา คนตระกูลเจ้าจะยอมรับได้เหรอและดูจากสถานะเจ้า เจ้าน่าจะมีคู่หมั้นแล้วด้วยใช่หรือเปล่า”
“ช่างพวกเขาสิ มันเรื่องของข้า.. จริงอยู่ที่ข้ามีคู่หมั้นแต่ข้าเป็นของท่านคนเดียวนะ” นางกล่าวออดอ้อนอย่างน่าเอ็นดูแทบทำให้เทียนถังกำเดาไหลโชคดีที่พึ่งปล้ำนางไปจึงตั้งสติไว้ได้ เทียนถังพยักหน้าและกล่าว “หมายความว่าเจ้ายินดีที่จะอุ้มท้องลูกของข้ากับเจ้า?” หลิงอี้พยักหน้าทันที
เทียนถังจึงกล่าวต่อ “งั้นก็ดีตอนนี้เจ้าตั้งท้องแล้ว…” หลิงอี้ที่ได้ยินทำหน้างงไปทันทีก่อนจะถาม “ท่านรู้ได้อย่างไร” … เทียนถังคิดครู่หนึ่งก่อนจะตอบแบบแถจนสีหน้าข้างแทบถลอกว่า “ข้าเป็นใครเจ้ารู้จัก ถ้าแค่ดูผู้หญิงท้องหรือไม่ ไม่ออกข้าคงเป็นไก่อ่อนใช่หรือเปล่า?”
หลิงอี้พยักหน้าซึ่งเทียนถังไม่คิดว่าคำโกหกที่คิดสดของเขาจะมีผลลัพธ์ออกมาว่านางเชื่อ.. มันทำให้เขาแปลกใจทั้งดีใจ เขาคงไม่บอกหรอกว่า ‘ระบบมารราคะ’ มันบอกน่ะ “นั่นก็จริง..” นางครุ่นคิด ก่อนจะถามอีกรอบ “นี่ข้าท้องกับท่านจริงๆ?”
นางใช้มือลูบท้องอย่างเอ็นดูพอเห็นภาพนี้เทียนถังตกใจทั้งแปลกใจกลิ่นอายมารดาแพร่กระจายออกมาเชียวเทียนถังได้แต่คิดอย่างเงียบๆ ว่า “มารดามันเถอะชีวิตจริงไม่ใช่นิยาย ปล้ำปุ๊บท้องปั๊บเลย.. ไม่เหมือนพี่ใหญ่หยุนเลยจัดไปเป็นห้าร้อยน้ำยังไม่ท้องนะ” เทียนถังตอนนี้ยกหยุนเช่อเป็นไอดอลจึงเรียกพี่ใหญ่ไปซะแล้ว