ตอนที่ 156 ไปหารายได้ที่ตำหนักโอสถสวรรค์
“ข้าจะไปกับเจ้า!” หลิวอู๋ตงพูดอย่างรวดเร็ว นางรู้ดีว่าศาลาบุปผางามเป็นสถานที่แบบใด มันคือสถานที่ที่ผู้ชายจะนำเงินไปใช้อย่างสุรุ่ยสุร่าย แล้วนางจะปล่อยให้หลิงฮันไปโดยไม่กังวลได้อย่างไร?
ในตอนนั้นเอง หยุนชวงชวงได้หันไปหาหลิวอู๋ตงและก้มหัวเล็กน้อย “เป็นองค์หญิงของตระกูลหลิวนี่เอง ชวงชวงขออภัยที่ทำตัวไม่สุภาพ”
หลิวอู๋ตงรู้สึกกระอักกระอ่วนเล็กน้อยเพราะนางไม่รู้จักหยุนชวงชวง อย่างไรก็ตาม ในสายตาของนาง ผู้หญิงทุกคนที่มาจากศาลาบุปผางามล้วนแต่เปราะเปื้อนและไม่ใช่ตัวตนที่นางจะต้องลดตัวลงมารู้จัก ยิ่งกว่านั้น หยุนชวงชวงยังคิดที่จะพาหลิงฮันไปเพลิดเพลินในสถานแบบนั้นอีก ทำให้ความเป็นปรปักษ์ของหลิวอู๋ตงเพิ่มมากขึ้น
ดังนั้นนางจึงพยักหน้าเล็กน้อยพอเป็นมารยาท และไม่พูดอะไรตอบกลับ
หยุนชวงชวงอดที่จะแสดงสีหน้าโมโหไม่ได้ นางเป็นลูกบุญธรรมของคุณหญิงหยาน และไม่จำเป็นต้องทำหน้าที่รับแขก ดังนั้นนางจึงมีความเกียรติเป็นของตนเอง อย่างไรก็ตาม ในสายตาขององค์หญิงอย่างหลิวอู๋ตง นางก็ไม่อาจหลีกหนีความจริงที่ว่านางมาจากแหล่งซ่องสุมของโสเภณีได้ ดังนั้นนางจึงรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก
“นี่คือการตัดสินใจของคุณหญิงหยาน พวกเราเชิญชวนแค่นายน้อยหลิงคนเดียว!” นางไม่ปะทะกับหลิวอู๋ตงโดยตรง แต่ใช้ชื่อของคุณหญิงหยานในการปฏิเสธแทน
“หนิวหนิวจะไปด้วย!” ฮูหนิวปีนป่ายไปเกาะที่แขนของหลิงฮันจนนางดูเหมือนกับเด็กขี้อ้อน
“ใช่แล้ว พวกเราจะไปด้วย!” หลิวอู๋ตงพูดย้ำ ด้วยการที่มีฮูหนิวอยู่ ต่อให้หลิงฮันถูกตัณหาครอบงำ เขาก็ยังต้องเป็นตัวของตัวเองอยู่ดี
“ให้พวกนางมากับข้า” หลิงฮันอุ้มฮูหนิวขึ้นมา
ดวงตาของฮูหนิวเป็นประกายและพูดอย่างมีความสุข “เนื้อ! เนื้อ! เนื้อ!”
หยุนชวงชวงไม่คิดอะไรมากหากฮูหนิวจะไป เพราะอย่างไรคนที่ทำให้นางไม่พอใจก็คือหลิวอู๋ตง แต่ในเมื่อหลิงฮันพูดแบบนั้นแล้ว นางจึงทำได้เพียงยอมรับ “งั้นคืนนี้ขอเชิญทั้งสามมายังศาลาบุปผางาม ข้าขอตัวก่อน”
เมื่อนางกลับไป หลิวอู๋ตงมีท่าทางอารมรณ์ดีขึ้นมาทันที
หลิงฮันยิ้มและถาม “ผู้ติดตามสาวน้อยของข้า เจ้าหึงงั้นรึ?”
“คะ...ใครหึงกัน!” ใบหน้าอันงดงามของหลิวอู๋ตงเปลี่ยนเป็นสีแดงในทันที
หลิงฮันหัวเราะดังและเปลี่ยนเรื่องคุย “กิจการร้านขายเสื้อผ้าเป็นยังไงบ้าง?”
“เป็นไปด้วยดี พวกเรายึดครองกิจการของตระกูลเฉินได้เกือบหมดแล้ว อย่างไรก็ตาม ตระกูลเฉินคงไม่นั่งรอจุดจบอยู่เฉยๆอย่างแน่นอน พวกมันคงจะก่อสงครามลดราคาหรือไม่ก็ส่งคนมาสร้างความวุ่นวายที่ร้านของเรา” หลิวอู๋ตงขมวดคิ้วเล็กน้อย เพราะอย่างไรร้านค้าเหล่านั้นก็ไม่มีตราสัญลักษณ์ของตระกูลหลิวติดเอาไว้
หลิงฮันยิ้มเล็กน้อยและพูด “ถ้าพวกมันคิดจะก่อสงครามราคาก็ไม่เป็นไร ข้าไม่คิดจะหารายได้จากกิจการนี้อยู่แล้ว แต่ถ้าพวกมันกล้าส่งคนมาสร้างความวุ่นวาย เหอะๆ ข้าคงต้องไปหาพวกมันและทุบตีพวกมันเสียหน่อย!”
ในที่สุดหลิวอู๋ตงก็เข้าใจ ถ้าร้านค้าถูกโจมตี ดังนั้นในฐานะเจ้าของร้าน หลิงฮันก็มีสิทธิที่จะลงมือ “แต่ตระกูลเฉินคงไม่ลงมือด้วยตัวเอง แต่น่าจะส่งคนของสมาคมวารีล้างปฐพีมามากกว่า”
“สมาคมวารีล้างปฐพี!” ดวงตาของหลิงฮันส่องประกายเย็นชา สมาคมนี้รับทำแม้กระทั่งงานลักพาตัวเด็กสาว ซึ่งเป็นหลักฐานที่มากพอแล้วว่ามันเป็นสมาคมที่สกปรกขนาดไหน เขามีความคิดที่จะลบล้างสมาคมนี้ทิ้งไปซะ
“ข้าเดาว่าตระกูลเฉินคงยังไม่ใช่กำลัง แต่จะทำสงครามราคาเพื่อดูว่าพวกเราจะเปลี่ยนใจรึเปล่า ข้าจะใช้โอกาสนี้ในการจัดสมาคมวารีล้างปฐพีก่อนแล้วกัน”
หลิวอู๋ตงอดที่จะเป็นห่วงไม่ได้ “สมาคมวารีล้างปฐพีมีความเกี่ยวข้องกับแปดตระกูลใหญ่ ถ้าเจ้าลงมือกับสมาคมวารีล้างปฐพี แปดตระกูลใหญ่อาจจะเข้ามาแทรกแซง”
หลิงฮันรู้สึกไม่พอใจอย่างมาก ในชีวิตที่แล้ว เขาเคยต้องรู้สึกราวกับกำลังถูกมัดมือมัดเท้าทำอะไรก็ลำบากแบบนี้ด้วยรึ? แต่ใครใช้ให้เขายังเป็นเพียงจอมยุทธระดับรวมธาตุกันล่ะ? แม้แต่ในสถานที่เล็กๆอย่างแคว้นพิรุณ เขาก็ไม่อาจมีอำนาจที่ยิ่งใหญ่ได้
“ไปตำหนักโอสถสวรรค์กันก่อนแล้วกัน ไม่กี่วันมานี้ข้าใช้เงินราวกับเททิ้ง ข้าจำเป็นต้องหารายได้เสียก่อน” เขาพูดขึ้นมาหลังจากคิดอยู่ชั่วขณะ
ไปตำหนักโอสถสวรรค์เพื่อหารายได้?
สีหน้าประหลาดใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหลิวอู๋ตง โดยปกติแล้วจะมีแต่คนไปนำเงินไปให้ตำหนักโอสถสวรรค์ แต่หลิงฮันนั้นตรงกันข้าม เขาคิดจะไปหารายได้ที่ตำหนักโอสถสวรรค์ อย่างไรก็ตาม เมื่อนางนึกถึงความสามารถในการปรุงยาอันน่าสะพรึงกลัวของหลิงฮัน การที่เขาจะไปหารายได้จากตำหนักโอสถสวรรค์ก็ไม่ถือว่าแปลก
“ไปกันเถอะ ในเมื่อคืนนี้มีคนอยากจะเลี้ยงอาหารเรา พวกเราก็ไปทานอาหารค่ำข้างนอกก็แล้วกัน!” หลิงฮันก้าวออกไปนอกประตูโดยมีฮูหนิวอยู่ในอ้อมแขน
“แล้วผู้หญิงสองคนในบ้านล่ะ?” หลิวอู๋ตงพูดขึ้นมา แน่นอนว่านางหมายถึงพี่น้องลิ่ว
“โอ้ แค่ข้าให้พวกนางอาศัยอยู่ข้างในก็นับว่ามีเมตตามากพอแล้ว ข้ายังจะต้องดูแลเรื่องการกินของพวกนางด้วยรึ? ให้พวกนางทำอาหารกินเองแล้วกัน” หลิงฮันพูดพร้อมกับหัวเราะ
รอยยิ้มอันมีเสน่ห์ปรากฏขึ้นที่ใบหน้าของหลิวอู๋ตง เห็นได้ชัดว่าหลิงฮันไม่มีความสนใจสองพี่น้องลิ่วแม้แต่น้อย ไม่งั้นเขาคงไม่ทำเช่นนี้เป็นแน่ การที่นางรู้เรื่องนี้ทำให้นางมีความสุขอย่างมาก จนแม้แต่นางก็ยังรู้สึกแปลกใจว่าทำไมนางถึงมีความสุข
ด้วยการที่มีสตรีสองคนติดตามไปด้วย หลิงฮันก็มาถึงตำหนักโอสถสวรรค์
“นายน้อยฮัน!” เขาเพิ่งจะก้าวขึ้นไปยังบันไดขนาดใหญ่ก็ต้องพบกับชายชราในวัยหกสิบปีที่กำลังเดินลงบันไดมา เมื่อชายชราเห็นหลิงฮัน เขารีบเข้ามาใกล้และทักทายอย่างสุภาพทันที
เบื้องหลังของชายชรามีคนอยู่อีกสี่คน พวกเขาคือลูกศิษย์ของชายชรา เมื่อพวกเขาเห็นอาจารย์ของตนเองทำตัวสุภาพเช่นนี้ สีหน้าตกตะลึงก็ได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของพวกเขา
นี่คือปรมาจารย์หยวนชู่หยวน นักปรุงยาระดับดำขั้นกลางเชียวนะ เขาคือคนที่มีสถานะต่ำกว่าสองนักปรุงยาที่ยิ่งใหญ่ของแคว้นพิรุณเพียงก้าวเดียว แต่สิ่งที่พวกเขาเห็นคือหยวนชู่หยวนก้มหัวต่ำและใบหน้าก็เต็มไปด้วยความเคารพโดยไม่ใช่การแกล้งทำแม้แต่น้อย อาจารย์ของพวกเขากำลังแสดงออกถึงความเคารพจากใจจริง
ถ้าหลิงฮันเป็นหวู่ซงหลินหรือฟูหยวนเชิง มันก็คงไม่มีอะไรแปลก นักปรุงยาก็เหมือนกับจอมยุทธ ความต่างกันเพียงระดับเดียวก็เหมือนกับความต่างของสวรรค์กับปฐพี แต่ดูยังไงหลิงฮันก็เป็นเพียงเด็กหนุ่มเท่านั้น แล้วจะไม่ให้พวกมันตกตะลึงได้อย่างไร?
พวกเขากำลังเห็นผี พวกเขาต้องกำลังเห็นผีอยู่แน่นอน ทั้งสี่คนขยี้ตาตัวเองอย่างรุนแรงโดยไม่อาจเชื่อได้ว่าภาพที่เห็นอยู่คือความจริง
“เจ้าคือ...” หลิงฮันนึกออกเพียงแค่ว่าชายชราคนนี้คือหนึ่งในนักปรุงยาที่เข้าร่วมการสังเกตทักษะการปรุงยาของเขาในวันนั้น แต่เขาไม่รู้แม้แต่น้อยว่าชายชราคือใคร
“พรวด!”
ทั้งสี่คนรู้สึกราวกับกำลังจะหมดสติ ก็ดูเจ้าเด็กนั่นพูดสิ ใบหน้าของปรมาจารย์หยวนชู่เกือบจะสัมผัสโดนรองเท้าเขาอยู่แล้ว แต่เขากลับไม่รู้ว่าปรมาจารย์หยวนชู่เป็นใคร? เรื่องแบบนี้มัน... พวกเขาทั้งสี่ไม่รู้ว่าจะสรรหาคำพูดไหนมาบรรยายอีกต่อไปแล้ว
“ชื่อของข้าคือหยวนชู่ และข้าเป็นผู้โชคดีที่มีโอกาสได้สังเกตการณ์นายน้อยฮันหลอมเม็ดยาเมื่อหลายวันก่อน ข้าได้ประโยชน์จากการสังเกตการณ์นายน้อยฮันในครั้งนั้นมากมายจริงๆ แต่ข้ามัวแต่จมอยู่ในความคิดถึงทักษะอันสุดของนายน้อยฮันจนไม่รู้ตัวเลยว่านายน้อยฮันกลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ข้าได้ทำความผิดที่ร้ายแรงลงไปแล้ว นายน้อยฮันโปรดยกโทษให้ข้าด้วย!” หยวนชู่หยวนพูดด้วยน้ำเสียงหวาดกลัวและกังวลใจ
ทุกคนตกตะลึงอีกครั้ง ด้วยสถานะของปรมาจารย์หยวนชู่ยังต้องขอโทษที่ไม่ได้ไปส่งหลิงฮันกลับด้วยตัวเอง เจ้าเด็กนี่เป็นใครกันแน่?
หลิงฮันยิ้มและพูด “ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร”
“นายน้อยฮัน วันนี้นายน้อยก็มาปรุงเม็ดยาอีกงั้นรึ?” หยวนชู่ถามขึ้นมาอย่างคาดหวัง เขามีความมั่นใจอย่างมากว่าถ้าเขาได้สังเกตหลิงฮันหลอมเม็ดยาอีกสักสองสามครั้ง เขาจะต้องกลายเป็นนักปรุงยาระดับดำขั้นสูงได้แน่นอน ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เขาจะตื่นเต้นขนาดนี้
หรือว่าชายชราคนนี้จะสามารถทำนายอนาคตได้?
หลิงฮันยิ้มและพูดตอบ “ถูกแล้ว ข้าต้องการจะปรุงเม็ดยาบางอย่าง”
“เชิญเลย! เชิญเลย!” หยวนชู่รีบพูดอย่างเคารพ
ด้วยการนำทางของหยวนชู่ หลิงฮันได้เข้ามายังห้องโถงหลักอย่างรวดเร็ว
“นายน้อยฮัน!” เซี่ยวหยิงเดินมาต้อนรับเขาทันที ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความร่าเริง ตั้งแต่ที่นางถูกแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการทั่วไป นางไม่เจ้าเป็นต้องทักทายลูกค้าที่หน้าประตูอีกต่อไป แต่เพราะนางอยากจะพบกับหลิงฮันอีกครั้ง นางจึงมักจะมายืนเฝ้าอยู่ตรงประตูบ่อยๆ และในที่สุดนางก็สมหวังเสียที
หลิงฮันพยักหน้าให้นาง ทำให้มุมปากของหลิวอู๋ตงโค้งขึ้นเล็กน้อย หมอนี่ช่างเป็นผู้เชี่ยวชาญในการทำให้ผู้หญิงหลงเสียจริง!