บทที่ 57 ท่องสู่เส้นทางแห่งความทรงจำ
บทที่ 57
ท่องสู่เส้นทางแห่งความทรงจำ
เขตดงซงอยู่ทางใต้ของเมืองเจียง และอยู่ใกล้กับทะเล ประกอบไปด้วยเทือกเขา 70% และ 30% คือทุ่งหญ้า หลายร้อยปีก่อน มหาภัยพิบัติทางธรรมชาติได้ทำให้ลัทธิเต๋าศรัทธาสวรรค์เกิดขึ้น และพวกเขาก็ทิ้งร่องรอยให้เหลืออยู่ในประวัติศาสตร์อย่างชัดเจน
จุดกึ่งกลางของภูเขาหลายลูก มีวัดที่ชื่อเต๋าศรัทธาสวรรค์ตั้งอยู่ มันมีเงื่อนงำบางอย่าง วัดแต่ละหมู่บ้านจะมีคำอยู่สามคำ ‘เต๋าศรัทธาสวรรค์’ มันถูกเขียนด้วยตัวอักษรขนาดใหญ่
สำหรับวันนี้ ที่เต๋าศรัทธาสวรรค์กำลังจะจัดมหาพิธีกรรมให้แก่ผู้รับใช้แห่งเต๋า ผู้คนท้องถิ่นเรียกมันว่า พิธีเต๋าไร้สิ้นสุด
ถังเฉิ่นเชียนไม่ได้มาด้วยในครั้งนี้ ก็เนื่องมาจากเขาอายุมากแล้ว แขนของเขาก็ยังพิการอีกด้วยเช่นกัน เขาไม่สามารถทนการเดินทางที่ยากลำบากได้ ดังนั้นเขาจึงปล่อยให้ถังเหวินชงไปกับเจียงซิ่วแทน
ถนนบนภูเขาปรากฏขึ้นในสายตา มันเป็นทางผ่านเข้าไปสู้ดงซง สถานที่แห่งนี้ล้าหลังไป 10ปี เมื่อเทียบกับเมืองเจียง บางส่วนของภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ที่มีเนื้อเรื่องอยู่ในช่วงปี 80 หรือ 90 ก็จะถูกถ่ายที่นี่ จากตำแหน่งนี้
วันนี้ไม่ได้มีเพียงแค่พิธีเต๋าไร้สิ้นสุด แต่วันนี้ผู้ทรงอำนาจหลายคนจากโลกใต้ดินในมลฆณเจียง หนาน ก็มาที่นี้ด้วยเช่นกัน และมันก็ถึงเวลาที่ผู้คนจากโลกใต้ดินเมืองเจียง จะแย่งชิงอำนาจกันแล้ว
“นายน้อยถัง ในที่สุดคุณก็มาถึงแล้ว”
ตระกูลถังได้เตรียมการก่อนที่พวกเขาจะมาถึง รถขับรถไปจนถึงวัดในชนบท ที่ดูเหมือนอนุสรณ์สถานอะไรซักอย่าง
ก่อนที่รถจะหยุดลง ชายวัยกลางคนก็วิ่งเข้ามา มันเป็นยิ่งใหญ่เหล่ย ผู้หญิงสวยงามคนหนึ่ง ที่ดูเหมือนอายุใกล้จะเข้าสู่เลขสามแล้ว ยืนอยู่ข้างเขา เธอดูเหมือนจะเป็นชาวพื้นเมืองที่มารับพวกเขา
“นายน้อยถัง!”
เมื่อเห็นเจียงซิ่วลงมา เขาเรียกขานด้วยความเคารพที่มากยิ่งขึ้น “คุณเจียง!”
เห็นสิ่งนี้ ประกายแสงแห่งความเฉลียวฉลาดก็ปรากฏขึ้นในกาดวงตาของหญิงสาว ขณะที่เธอมองไปที่เจียงซิ่ว เธอสันนิษฐานว่าเจียงซิ่วต้องเป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่แน่ เธอสังเกตเห็นว่าถังเหวินชงยืนอยู่ด้านหลังเยื่องเจียงซิ่วไปเล็กน้อย และท่าทางที่เขามองมาจากด้านหลัง ก็เผยให้เห็นว่าตัวเขา ถือว่าเจียงซิ่วเหนือกว่าตัวเอง
“ปู่เหล่ย นี้คือ?”
“เจียงโหลวเซี่ย คุณเจียง...” ยิ่งใหญ่เหล่ยไม่อยากจะแนะนำเจียงซิ่วให้กับผู้หญิงคนนี้ เขาเชื่อว่าเธอไม่มีคุณสมบัติเพียงพอ แต่ในขณะที่เขาอยู่ต่อหน้าเจียงซิ่ว เขาทำมันไม่ได้และสามารถให้ได้เพียงแต่ชื่อเท่านั้น
“งั้นนี่ก็คือคุณเจียง ยินดีต้อนรับสู่สถานที่ของเรา มันเป็นเกียรติของเรา ที่ได้ต้อนรับคุณ”
“สุภาพเกินไปแล้ว!”
เจียงซิ่วตอบกลับ คำพูดเหล่านี้เป็นสิ่งที่ธรรมดาสามัญ อย่างไรก็ตาม ถังเหวินชงและยิ่งใหญ่เหล่ยจ้องมองด้วยความอัศจรรย์ใจ เมื่อได้ยินที่เจียงซิ่วพูด ผู้ที่ดูหมิ่นและเหยียดหยามทุกๆสิ่งทุกๆอย่าง กับกล่าวแบบนั้นออกมา
ขณะที่พวกเขาเดินเข้าไปในบ้าน ยิ่งใหญ่เหล่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงเบาๆ “นายน้อย มีอะไรผิดพลาดหรือไม่ คุณเจียงไม่เคยเอาใจใส่กับผู้ใดมาก่อน แต่เขากลับแสดงท่าทางสุภาพกับผู้หญิงคนนี้ คุณเจียงใช่ชมชอบเธอหรือไม่? ฉันสังเกตเห็นพอดี ว่าคุณเจียงเพ่งพินิจร่างกายของเธอ เมื่อไม่นานมานี้”
ถังเหวินชงตอบกลับ “บางทีคุณเจียงอาจจะชอบแบบนี้?”
ผู้หญิงคนนั้นอยู่ขอบปลายใกล้จะแตะสามสิบแล้ว มันเป็นช่วงอายุที่ผู้หญิงกำลังโตเต็มที่ เธอสวมแว่นกันแดด ขณะที่เธอสวมชุดรัดรูป ซึ่งกระชับขับเน้นส่วนโค้งเว้าของเธอ ต้นขาราวกับหิมะ ถูกเปิดเผยออกมาภายใต้ชุดกีเพ้าที่เธอใส่อยู่ และเธอก็ยังสวมรองเท้าส้นเตี้ยสีดำ ซึ่งทั้งหมดนี้ได้ขับเสน่ห์ที่ควรมีของเธอออกมา
ทั้งสองคนเปิดเผยรอยยิ้มที่ดูเหมือนจะเข้าใจในบางอย่าง
พวกเขาคิดในใจ ว่าจะจัดการกับเรื่องนี้อย่างไรดี
“คุณเจียง ที่นี่คือ...”
“ฉันคุ้นเคยกับถนนของที่นี่อยู่ก่อนแล้ว”
“งั้น ท่านเจียงก็เคยมายังที่แห่งนี้มาก่อน!”
ไม่แปลก ที่เจียงซิ่วจะรู้จักสถานที่แห่งนี้ค่อนข้างดี ก็ในเมื่อเขาใช้เวลามากกว่าครึ่งค่อนของวัยเด็กที่นี่
แท้จริงแล้ว ชะตากรรมของเขาในเขตดงซงค่อนข้างลึกซึ้ง
ต้นกำเนิดของเรื่องนี้ทั้งหมด ก็เนื่องมาจากวัยเด็กของเขา ในตอนที่บ้านของเขายังมีความั่งคั่งอยู่ เจี่ยงหยี่ยุ่งมาก และหลินเยี่ยหลิงเองก็เช่นกัน ไม่มีใครสามารถดูแลเจียงซิ่วน้อยในตอนนั้นได้ ดังนั้นพวกเขาจึงจ้างพี่เลี้ยงคนหนึ่งที่มาจากดงซง ให้มาดูแลแทน
หลังจากครอบครัวเจียงตกต่ำลง หลินเยี่ยหลิงเองก็วุ่นวายมากเกินกว่าจะมาสนใจเขาได้ พี่เลี้ยงคนนี้ระลึกถึงความเมตตาที่ครอบครัวเจียงเคยให้ในอดีต จึงรับเลี้ยงเจียงซิ่วแทนพวกเขาฟรีๆ เจียงซิ่วเรียนชั้นประถมจนกระทั่งถึงมัธยมต้นปีที่2 เขาก็ยังอยู่ที่นี่ และเมื่อเจียงหยี่ถูกปล่อยตัวออกจากคุก เขาจึงกลับไปที่เมืองเจียงช่วงระหว่างช่วงมัธยมต้นปีที่ 3 พอดี เพื่อที่จะได้เตรียมพร้อมสำหรับการสอบเข้าโรงเรียนมัธยมปลาย
เจียงซิ่วไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับพิธีเต๋าไร้สิ้นสุดนี้ เมื่อเขาอยู่ที่นี่ เขาคิดว่ามันอาจจะมีอยู่ แต่ก็เพราะเขายังเด็กเกินไปจึงไม่ทราบ และมันก็ยังถูกเก็บไว้เป็นความลับอีกด้วย
เมื่อเข้าสู่เทือกเขา จึงเผยให้เห็นทิวทัศน์ที่น่ารื่นรมย์ของชนบทแห่งนี้ มีธารสายน้ำไหลผ่าน
หลังจากสามพันปีผ่านไป แม้แต่เจียงซิ่วก็ยังรู้สึกราวกับว่าทุกอย่างเหมือนกันกับชีวิตที่ผ่านมา สถานที่แห่งนี้ ไม่ได้เปลี่ยนไปเลยแม้แต่นิดเดียว
“ไม่จำเป็นต้องตามฉันมา ฉันจะไปคนเดียว!”
รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา โดยธรรมชาติแล้วเขาต้องการไปหาเพื่อนที่ดีที่สุดในวัยเด็กของเขา
ถังเหวินชงเรียกอย่างเป็นกังวล “คุณเจียง...”
เจียงซิ่วได้จากไปเรียบร้อยแล้ว
“ฉันสงสัยจัง ว่าม๊าเซียงจะเป็นอย่างไรบ้าง?”
“ชวูเชียนเฉิง และที่เหลือ พวกนายสบายดีรึเปล่า?”
….
เมื่อชวูเชียนเฉิงมองมาที่เขา เขาก็รีบวิ่งเข้ามาและส่งหมัดไปที่ลำตัวของเจียงซิ่ว กล่าวด้วยความโกรธ “สารเลว ในที่สุดแกก็กลับมาแล้ว? มันเป็นเวลา 3 ปีแล้ว ตั้งแต่ที่แกจากไป”
เจียงซิ่วหัวเราะ “ไม่ใช่ว่าตอนนี้ฉันกลับมาแล้วหรือไร?” เขาคิด ใครจะคาดเดาได้ ว่าเทพคนนี้จะกลับมายังบ้านเกิดของตัวเอง หลังจากผ่านไปสามพันปีแล้ว
“ใช่ ใช่ ไม่ใช่ว่านายก็รู้เหตุผลที่นายน้อยเจียงไปเมืองเจียงเพื่อการศึกษารึไง และยังเป็นเซ้กเกนไฮโรงเรียนที่ดีที่สุดในเมืองเจียงอยู่ด้วย ตอนนี้มันก็เกือบถึงเวลาที่จะต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว” เจ้าหนุ่มที่อยู่ด้านข้างเจียงซิ่ว เรียกว่าต้าเนียน
“แกไอชั่ว!” ชวูเชียนเฉิงรู้สึกไม่ถูกใจ และประเคนหมัดให้ก่อนที่จะพูดอะไรอื่น เขาเติบโตขึ้นมาพร้อมกับเจียงซิ่ว และเป็นลูกชายของพี่สาวเอ๋อเซียง ก่อนที่เจียงหยี่จะเข้าคุก ตอนที่เขายังอาศัยอยู่ที่บ้านของครอบครัวเจียง ทั้งสองคนเล่นมาด้วยกันในวัยเด็กของพวกเขา
มองไปยังเกลอ(เพื่อน)เหล่านี้ ความคิดก็กระพริบผ่านใจของเทพซิ่ว
ดีจริงๆที่ฉันได้ถูกส่งย้อนกลับมา
ในระยะเวลาก่อนหน้า หลังจากที่ครอบครัวเจียงตกต่ำลง เจียงซิ่วก็ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบาก และรู้สึกละอายใจที่จะกลับมา ภายหลัง เขาก็ขาดการติดต่อจากชวูเชียนเฉิง หลายคนเป็นเช่นนี้ พวกเขาจะห่างเหิงกับเพื่อนในวัยเด็ก เมื่อพวกเขาเติบโตขึ้น ยุ่งอยู่ในโลกของตัวเอง อย่างไรก็ตาม ความสุขในช่วงเวลานั้นจะถูกเก็บไว้ตลอดไปในก้นบึ้งของหัวใจของพวกเขา
ต้าเนียนลูบรถข้างหลังเขา “เป็นยังไงบ้าง?”
เจียงซิ่วเผยความรู้สึกประหลาดใจ “ใช้ได้ทีเดียว นายแม้แต่กระทั่งมีรถขับตอนนี้ นายน้อยเนียน ดูเหมือนว่านายจะเป็นเจ้าของรถได้ในที่สุด”
พ่อของต้าเนียนเป็นหัวหน้าหมู่บ้าน ดังนั้นจำนวนเงินที่เขามีจึงไม่เล็กน้อยเลย
แหล่งเงินที่สำคัญอีกประการหนึ่งก็คือพิธีเต๋าไร้สิ้นสุด
“มันประมาณ 2 หมื่น รถนี้จะขับได้ดีกว่า เมื่อขับบนถนนตามภูเขา” ต้าเนียนอาจถือได้ว่าเป็นหนึ่งในนายน้อยผู้มั่งคั่งของดงซง แม้ว่ามันจะเป็นหนึ่งในสาม มันยังคงเป็นสิ่งที่น่าทึ่ง
“ขึ้นมา ฉันจะโทรหาสาวๆ ที่เราเคยเล่นด้วยกันมาก่อน ไปที่ร้านอาหารกันเถอะ”
ชวูเชียนเฉิงตื่นเต้นมาก หลังจากที่ได้ยินดังนั้น “เฮ้ ฉันรอให้นายน้อยเนียนพูดแบบนี้อยู่ วันนี้ไปกินบาร์บีคิวกัน รสชาติบาร์บีคิวบ้านของเอ๋อหมิ๋นอร่อยมาก”
“ไปกันเถอะ!”
ต้าเนียนขับรถและเริ่มพูดคุย “นายน้อยซิ่ว นายมาในเวลาที่เหมาะเจาะมาก นายจำได้ไหม ว่าบางวัน ผู้ใหญ่ไม่อนุญาตให้เราออกไปข้างนอก?”
“เราได้รับอนุญาตแล้วในตอนนี้ มันจะช่วยเพิ่มขอบเขตการรับรู้ของนายได้”
เจียงซิ่วยิ้มบางๆ เขารู้แล้วว่าเขากำลังพูดถึงอะไร
ชวูเชียนเฉิงก็ยังเห็นด้วย “ใช่ นายน้อยซิ่ว ฉันตะลึงเมื่อเห็นเป็นครั้งแรก บุคคลที่ยิ่งใหญ่จำนวนมากมาที่นี่ และพวกเขาก็น่านับถือ เพียงแค่ทำตัวให้ซื่อก็เพียงพอแล้วที่เราจะได้รับเงินมาใช้ได้เป็นปี เป็นไปได้ที่จะได้มาหลายหมื่น ถ้าเกิดโชคดี”
รถจอดข้างนอกร้านบาร์บีคิว สองสาวสวยกำลังรออยู่ที่ประตู
หนึ่งคือหญิงสาวตัวสูงซึ่งโดนเด่นมาก เรียวขายาวๆของเธอดูเพอเฟ็ค ความสูงอยู่ที่ประมาณ 170 ซม. สวมกางเกงยีนส์ขนาดพอดีกับขา ซึ่งมันทำให้ก้นของเธอดูค่อนข้างแน่นเปรี๊ยะ อีกหนึ่งคือผู้หญิงที่ไม่ค่อยสูงนัก มีความสูงประมาณ 155 ซม. เธอมีผิวขาวราวกับหิมะ และดูบริสุทธิ์ มีลักษณะท่าทางที่สง่างาม ดูเหมือนกับดอกลิลลี่
คนที่สูงๆคือหมิ๋นน้อย และหญิงที่สวยงามถูกเรียกว่าเฉินเซี่ย
น้ำของดงซงมันค่อนข้างดีสำหรับผู้คน มันเป็นสถานที่ที่ผลิตผู้หญิงสวยงามหลายคน
“หญิงสาวทั้งสอง ดูสิว่าใครมา”
หมิ๋นน้ยตะโกนออกมาทันทีเมื่อเห็นเจียงซิ่ว “เจียงซิ่ว! เด็กน้อย นายยังกล้าที่จะกลับมา? ดูสิว่าหญิงชราคนนี้สอนนายได้อย่างไร!”
เมื่อเจียงซิ่วจากไป เขายังอยู่ชั้นมัธยมต้นปีที่ 2 และก็ถือว่าไม่สูง สำหรับสาวๆแล้ว พวกเธอจะโตเร็วกว่ามาก หมิ๋นน้อยเริ่มสูงขึ้น และก็สูงกว่าเจียงซิ่วในตอนนั้นไปได้ซักครึ่งหัว
เฉินเซี่ยแสดงท่าทีที่เรียบร้อยมากขึ้น หัวเราะคิกคักขณะที่ปิดปากไปด้วย
เพี๊ยะ!
หมิ๋นน้อยไล่ตามหลังเจียงซิ่ว และชวูเชียนเฉิงก็ใช้โอกาสนี้เพื่อตบก้นของเธอ เมื่อเธอรู้สึกได้ถึงมัน จึงส่งผลทำให้หมิ๋นน้อยเริ่มกรีดร้อง “เธอกำลังเรียกหาปัญหา ถ้าเธอต้องการที่จะข่มขู่พี่ชายของฉัน”
“ไอ้เลวเชียนเฉิง นายกล้าหาผลประโยชน์จากหญิงชราคนนี้?”
หมิ๋นน้อยเปลี่ยนเป้าหมายของเธอ และเริ่มไล่ตามชวูเชียนเฉิง ต้าเนียนเปรยเป็นนัยอย่างไม่สุภาพกับเจียงซิ่ว เขาบอกว่าให้เขาใช้โอกาสนี้เพื่อตบก้นของหมิ๋นน้อย เจียงซิ่วรีบส่ายหัว และคิด มันจะคุ้มค่าอะไร ที่เทพคนนี้ไปหาผลประโยชน์จากผู้หญิงคนนึง?
ต้าเนียนเห็นเขาไม่เคลื่อนไหว เขาจึงตบไปที่ก้นที่มีน้ำนวลของหมิ๋นน้อย ส่งผลทำให้เธอตะโกนออกมาอีกครั้ง
โดยธรรมชาติ สาวๆ จะต้องไม่โดนทำแบบี้ หลังจากที่โตขึ้นแล้ว แต่เด็กในชนบทค่อนข้างมีความป่าเถื่อน และมีความขบขันกับเหตุกาณ์ดังกล่าวซะเสียมากกว่า
การเป็นหนุ่มสาว... นี้เป็นพิษร้ายแรงจริงๆ
“เฉินเซี่ย ช่วยด้วย!” หมิ๋นน้อยกัดฟันด้วยความโกรธ
เฉินเซี่ยส่ายหัวอย่างระเหี่ยใจ
ขณะนั้นเอง งานพิธีจะต้องผ่านถนนบนภูเขาไป จนกว่าจะไปถึงที่นั้น แต่ละคนของพวกเขาครอบครองสมบัติที่ผิดธรรมดา และดูเหมือนจะต้องเป็นคนที่มีอิทธิพลอย่างมาก ที่จะมาได้ คนที่นำกลุ่มไม่ใช่ใครอื่น นอกเสียจากพ่อของเย่ปิง เย่ยี่เหลียง เช่นเดียวกับชายชราคนนั้น
เย่ยี่เหลียงตกใจ หลังจากที่ได้เห็นเจียงซิ่ว เขาขมวดคิ้วเมื่อเห็นเจียงซิ่วมองมาที่เขา “ทำไมเธอถึงอยู่ที่นี่?”