GE70 ระฆังทะเลตะวันออก ประกาศิตสังหาร [ฟรี]
หนิงฝานใช้กระบี่แยกสวรรค์ ฟันข่ายอาคมในส่วนที่ 2 ของคลังสมบัติจนเกิดรอยแยก
หนิงฝานและฉู่เฉินเร่งผ่านเข้าไปในข่ายอาคม ภายในส่วนที่ 2 ของคลังมีโต๊ะหยกตั้งอยู่ บนนั้นมีมุกภาวนาจำนวนมาก ทั้งยังมีสมบัติวิญญาณของภูติผีอีกหลายชนิด
หนิงฝานจ้องมองมุกภาวนาด้วยแววตาเป็นประกาย มุกภาวนาในขอบเขตแก่นทองคำเหล่านั้นมีมากกว่า 100 เม็ด หากนำพวกมันมาปรุงเป็นโอสถได้แล้วหล่ะก็...
แต่เมื่อหันมองสมบัติวิญญาณ แม้มีสมบัติวิญญาณอยู่หลายชนิด แต่หนิงฝานไม่สนใจ
หนิงฝานเริ่มเก็บมุกภาวนาจำนวนมากอย่างรวดเร็ว แต่ยังนำสมบัติวิญญาณบางชนิดกลับไป ส่วนฉู่เฉินเก็บเพียงสมบัติวิญญาณเท่านั้น
“เร่งไปส่วนที่ 3 เถอะ เก็บมุกภาวนาไปก็รังแต่จะเสียเวลา”
ฉู่เฉินกล่าว มันเป็นผู้อาวุโสใหญ่ของเผ่าม่วง มุกภาวนาเหล่านั้นไม่เป็นประโยชน์กับมัน สิ่งที่มันต้องการในยามนี้คือการทะลวงไปยังขอบเขตดวงจิตแรกเริ่ม ซึ่งนั่นต้องใช้สมุนไพรในส่วนที่ 4 ของคลัง
ทั้งสองมุ่งหน้าไปยังส่วนที่ 3 ของคลัง ฉู่เฉินหวังจะฉวยโอกาสที่หนิงฝานฟันข่ายอาคม ข้ามผ่านข่ายอาคมเข้าไปเพื่อเลือกสมบัติก่อน แม้ทั้งสองตกลงว่าจะแบ่งปันอย่างเท่าเทียม แต่มุกภาวนาเหล่านั้นยังไร้ประโยชน์สำหรับชายชรา
หนิงฝานไม่ใส่ใจคำกล่าวของชายชรา หลังจากเก็บรวบรวมมุกภาวนาเสร็จ เขามองไปยังส่วนที่ 3 ของหลังพลางขบคิด หากปีศาจกระดูกขาวไม่ตามมา เขาก็สามารถชิงสมบัติภายในคลังต่อได้
ผ่านไป 10 ลมหายใจ ข่ายอาคมในส่วนที่ 3 ของคลังถูกหนิงฝานทำลาย
ผ่านไป 100 ลมหายใจ ข่ายอาคมส่วนที่ 4 ของคลังถูกหนิงฝานทำลาย
หนิงฝานและฉู่เฉินเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว และยามนี้ ได้มีผู้ไปแจ้งเรื่องที่คลังสมบัติถูกปล้นกับผู้อาวุโสใหญ่ของเผ่าแล้ว
อากาศในส่วนที่ 4 ของคลังนั้นเย็นมาก เพราะต้องเก็บรักษาสมุนไพรพันปี นอกจากนี้ ยังมีสมุนไพร 2 และ 3 พันปีจำนวนหนึ่งถูกเก็บรักษาไว้ภายใน
หนิงฝานและฉู่เฉินดวงตาเป็นประกาย ทั้งสองเร่งเก็บสมุนไพรอย่างบ้าคลั่ง
สมุนไพรของเผ่าครามคุณภาพสูงมาก หนิงฝานและชายชราเก็บสมุนไพรให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้โดยไม่สนใจชนิด
สมุนไพรที่ช่วยให้บรรลุดวงจิตแรกเริ่มสำคัญกับชายชรามาก และยามนี้มันก็เริ่มขอสมุนไพรบางชนิดกับหนิงฝาน
“สหายน้อย หญ้าหยกกระจ่างนั่นสำคัญกับข้ามาก ข้าขอได้หรือไม่?”
“สหายน้อย นั่นหญ้าวายุไม้อายุ 2 พันปี ข้าขอได้หรือไม่?”
ชายชรากล่าวด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน เพราะกระบี่แยกสวรรค์ของหนิงฝาน ทำให้มันรู้สึกถึงอันตราย มันสัมผัสได้ว่าหนิงฝานยังคงมีพลังซ่อนเร้น หากหนิงฝานปลดปล่อยพลังทั้งหมด ย่อมเป็นอันตรายร้ายแรงกับมัน
ดังนั้นมันจึงกล่าวกับหนิงฝานด้วยความสุภาพ
“ท่านเอาไปเถอะ”
หนิงฝานไม่ได้เลือกชนิดของสมุนไพรมากนัก เพราะด้วยระดับพลังของเขา เขายังไม่สามารถใช้โอสถผันแปรที่ 4 ได้ จึงไม่ได้ใส่ใจเรื่องสมุนไพรมากนัก นั่นทำให้ชายชรามีความสุขมาก
ส่วนใหญ่สมุนไพรที่หนิงฝานเลือกคือ สมุนไพรของโอสถก่อดวงจิต ยามนี้เขายังขาดสมุนไพรอีก 12 ชุด
ในส่วนที่ 4 ของคลังยังมีสมบัติวิญญาณของภูติผีระดับสูง
มี 7 ชิ้นที่เป็นสมบัติวิญญาณระดับสูงสุด!
สมบัติวิญญาณระดับสูงสุด 5 ชิ้นคือ กระบี่บิน 5 สี ได้แก่สีทอง สีน้ำเงิน สีเหลือง สีแดง และสีคราม เป็นกระบี่บินชุด หากผสานการจู่โจมของทั้ง 5 เล่มเข้าด้วยกัน พวกมันสามารถแสดงพลังสูงสุดได้
อีก 2 ชิ้นที่เหลือคือระฆังทอง มีนามว่า ‘ระฆังทะเลตะวันออก’ อีกชิ้นคือกระดูกแดงที่ดูราวกับสร้างขึ้นจากกระดูกของภูตผี นามว่า ‘กระดูกสยบภูติ’
กระดูกสยบภูติเป็นสมบัติที่มีระดับสูงกว่า และทรงพลังมากกว่าระฆังทอง แต่สำหรับชายชราแล้ว สมุนไพรพันปีสำคัญมากกว่า
แต่หนิงฝานกลับตรงกันข้าม เขาเร่งทะยานไปยังกระบี่บินห้าสี แต่เมื่อเห็นระฆังทะเลตะวันออก แววตาของเขากลับเผยความประหลาดใจราวกับนึกถึงบางสิ่ง กระทั่งสุดท้าย แววตาก็แปรเปลี่ยนเป็นตกตะลึง
“ข้าต้องการระฆังทะเลตะวันออก!”
“ข้าต้องการกระดูกสยบภูติ!”
หนิงฝานและชายชรากล่าวขึ้นพร้อมกัน เมื่อทราบว่าทั้งสองต้องการในสิ่งที่แตกต่าง ชายชราจึงหัวเราะ
“ดี... เช่นนั้นสหายน้อยเอาระฆังทะเลตะวันออกไป ส่วนข้าขอกระดูกสยบภูติ... กระบี่บินห้าสีสำหรับข้านับว่าไร้ประโยชน์ สหายน้อยเอาไปเถอะ”
ชายชราใจกว้าง กระดูกสยบภูติที่ชายชราเลือกไปมีที่มา มันถูกสร้างมาจากศีรษะของภูตผีที่ผ่านการวิวัฒนาการ ด้วยสิ่งนี้จะช่วยให้ชายชราบรรลุสู่การวิวัฒนาการเช่นกัน และมีเพียงภูตผีเท่านั้นที่ใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้ได้
หากเทียบกับระฆังทะเลตะวันออกแล้ว กระดูกสยบภูตผีล้ำค่ากว่ามาก... แต่ด้วยชายชรายกกระบี่บินห้าสีให้หนิงฝาน จึงถือว่าทั้งสองแบ่งปันสมบัติอย่างเท่าเทียม
“อืม...”
ในเมื่อชายชราหวังดี หนิงฝานย่อมไม่ปฏิเสธ... หนิงฝานฟาดฟันกระบี่แยกสวรรค์เพื่อทำลายข่ายอาคมป้องกันสมบัติ จากนั้นชิงกระบี่บินห้าสีและระฆังทะเลตะวันออกไป
แต่หลังจากชายชราพยายามทำลายข่ายอาคมแต่ไม่สำเร็จ ชายชราจึงหันมองหนิงฝานอย่างไร้หนทางพลางกล่าวอย่างกระอักกระอ่วน
“สหายน้อย เจ้าช่วยข้าทำลายข่ายอาคมที...”
ผู้อาวุโสใหญ่เผ่าม่วงกลับต้องขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญประสานวิญญาณ แต่สำหรับชายชราแล้ว มันไม่ได้คิดว่าเสียศักดิ์ศรี เพราะหนิงฝานแข็งแกร่งพอให้มันขอความช่วยเหลือ
“ได้!”
กระบี่แยกสวรรค์ฟาดฟัน ทำลายข่ายอาคมเปิดทางให้ชายชราชิงกระดูกสยบภูติมา
ยามนี้หนิงฝานยังไม่อาจใช้งานระฆังและกระบี่บินได้ แต่สิ่งที่เขาสนใจเป็นพิเศษคือระฆังทอง เพราะมันมีชื่อของมันปรากฏในจารึกโบราณ
ถ้อยคำจารึกโบราณอยู่ในความทรงจำของจักรพรรดิสวรรค์ ถ้อยจารึกเหล่านั้นเป็นภาษาของเผ่าอสูร แม้เป็นจักรพรรดิสวรรค์ก็อ่านไม่ออก
แต่ถึงจะไม่รู้รายละเอียดของถ้อยจารึก แต่สำหรับหนิงฝานถือว่ามีความหมายและคุณค่า แม้หนิงฝานไม่อาจเข้าใจ ซ้ำระฆังทองยังไม่อาจเทียบค่ากับกระดูกสยบภูติได้ แต่สำหรับหนิงฝานแล้ว มันยังล้ำค่าอยู่ดี
“ฮ่าฮ่า ยอดเยี่ยม! ขอบคุณสหายน้อย หากไม่รังเกียจ ข้าขอเชิญสหายน้อยไปนั่งจิบชาที่เผ่าของข้า...” ชายชราถือกระดูกสยบภูติไว้ มันไม่อาจใส่ไว้ในกระเป๋าได้
“ขอบคุณในความหวังดีของผู้อาวุโส แต่ผู้เยาว์เช่นข้าชื่นชอบความอิสระ...”
หนิงฝานคารวะอีกฝ่าย และเร่งจากไปอย่างรวดเร็ว
ในยามนั้นเอง พื้นดินด้านนอกคลังสมบัติสั่นสะเทือน เท้าของปีศาจกระดูกขาวเหยียบย่ำ ผืนดินทั่วทั้งเผ่าปริแตก
ปีศาจกระดูกขาวโกรธแค้น ผู้ที่สังหารร่างแยกของจักรพรรดิปีศาจไป๋กู่ แท้จริงซ่อนตัวอยู่ในเผ่าคราม แต่ถึงอย่างนั้น มันกลับหาตัวคนผู้นั้นไม่พบ มันระบายโทสะด้วยการทำลายทุกสิ่งที่ขวางหน้า
เมื่อหนิงฝานพ้นออกมาจากคลังสมบัติ เขาสัมผัสได้ถึงสัมผัสเทพที่ทรงพลังกวาดผ่านกระทบร่างของตน
หนิงฝานคงความสงบ โคจรพลังวิญญาณเข้าป้องกันปราณหยางที่แทรกมา และเพื่อทำให้เขาไม่เปิดเผยสถานะของตน
เมื่อสิ่งที่มุ่งหวังลุล่วง หนิงฝานจึงไม่สนใจปีศาจกระดูกขาวอีก ในยามที่เผ่าครามปั่นป่วนเช่นนี้ เป็นโอกาสเหมาะให้หลบหนี เพราะจะไม่กลายเป็นจุดสนใจของผู้คน
หนิงฝานเร่งตรงไปยังบ้านพักของตนเพื่อพบกับภูติผีสองตนที่ยังไม่ได้สติ
เสียงคำรามด้วยโทสะของปีศาจกระดูกขาวดังกึกก้อง ภูตผีที่ได้ยินล้วนหวาดกลัว และไม่กล้าขวางปีศาจกระดูกขาว
“เจ้ามนุษย์ ไสหัวออกมาเดี๋ยวนี้!”
...
นอกบ้านไม้ไผ่ของหนิงฝาน... เขาขบคิดและตัดสินใจจะกล่าวลาสตรีทั้งสองนาง
แต่เมื่อเปิดประตูบ้านเข้าไป พวกนางกลับไม่อยู่แล้ว ด้วยการจู่โจมเผ่าของปีศาจกระดูกขาว พวกนางคงหลับไม่ลง
บางทีพวกนางอาจฉวยโอกาสหนีหลบหนีออกไปจากเผ่า ในเมื่ออาการบาดเจ็บของพวกนางได้รับการรักษา ผนึกถูกคลาย พวกนางไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่ต่อ
หนิงฝานผิดหวัง พวกนางจากไปแล้ว...ไม่กลับมา...
“ช่างเถอะ คราวหน้าย่อมโอกาสได้พบพวกนาง...”
หนิงฝานส่ายหัวแล้วออกจากเผ่าครามเงียบๆ... หนิงออกห่างจากเผ่าคราม กระทั่งมาถึงแม่น้ำครามสายยักษ์
หนิงฝานเห็นสตรีสองนาง ดูราวกับพวกนางรอบางคนอยู่ตรงนี้มาสักพักแล้ว
“แม่นางมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร...” หนิงฝานเดินไปหาพวกนางและยิ้มพลางกล่าว
“เจ้าจะหนีไปที่ใดก็ได้ แต่กลับเลือกมายังที่แห่งนี้... น้องเหว่ยเหลียงกล่าวว่าจะรอเจ้าที่นี่เราจึงยังไม่ไป นางรู้เจ้าช่วงชิงสมบัติที่คลัง นางเดาว่าเจ้าต้องหนีออกจากเผ่าและตรงมาที่นี่ ดูเหมือนนางจะเดาไม่ผิด... เจ้าจะไปพร้อมกับพวกข้าหรือไม่?”
“ก็ดีเหมือนกัน ข้าได้สมบัติมากมาย จึงต้องการหาสถานที่เก็บตัวบ่มเพาะ บางทีแม่นางทั้งสองอาจช่วยคุ้มกันข้าได้”
“ย่อมได้...” หนิงหงหงไม่ปฏิเสธ
เมื่อมู่เหว่ยเหลียงเห็นว่าหนิงฝานจะร่วมเดินทางไปด้วยกัน นางจึงยิ้มอย่างมีความสุข “ดี... ช่างดียิ่งนัก... ข้าจะช่วยปกป้องท่านเอง”
แล้วทั้งสามก็กลายเป็นเส้นแสงทะยานหายไปในราตรี... เมื่อถึงรุ่งสาง ปีศาจกระดูกขาวที่ค้นจนทั่วเผ่าครามแต่กลับไม่พบมนุษย์ที่กำลังตามหา มันจึงล้มเลิกความคิดไป
“ฮึ่ม... ในเมื่อร่างแยกอย่างข้าหาเจ้าไม่พบ เช่นนั้นคงต้องถึงมือนายท่าน! ตราบใดที่เจ้านำกระดูกของข้าติดตัวไป ท่านก็สามารถหาตำแหน่งของเจ้าจากกระดูกได้!”
แล้วปีศาจกระดูกขาวที่โกรธแค้นก็ออกจากส่วนที่ 3 ไปยังส่วนที่ 7 ของป่า
เมื่อปีศาจกระดูกขาวจากไป ผู้อาวุโสใหญ่ของเผ่าก็ผ่อนคลายมากขึ้น
เพียงแต่มันผ่อนคลายได้ไม่นานก็พบเรื่องที่น่าเศร้า
“เป็นไปไม่ได้! เหตุใดสมุนไพรในคลังจึงถูกปล้น ผู้ใดเป็นคนทำ!”
ผู้อาวุโสใหญ่ของเผ่าครามโกรธแค้น มันจ้องมองผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำ 5 ตนที่อยู่ตรงหน้าด้วยโทสะ เพราะแม้มีฉู่หานอยู่ คนผู้นั้นยังช่วงชิงสมบัติได้
ผู้อาวุโสใหญ่ของเผ่ารู้ว่าฉู่หานและผู้อาวุโสตนอื่นๆที่เฝ้าคุ้มกันคลังสมบัติ มีเจตนาแอบแฝงบางอย่าง แต่มันไม่เคยเชื่อว่าฉู่หานและผู้อาวุโสตนอื่นจะเป็นผู้ช่วงชิงสมบัติเสียเอง
ข่ายอาคมระดับดวงจิตแรกเริ่ม ต่อให้เป็นฉู่หานและผู้อาวุโสตนอื่นๆร่วมมือ ก็ใช่ว่าจะทำลายได้ในเวลาอันสั้น
“ผู้ใดเป็นคนทำ!”
ผู้อาวุโสของเผ่ากล่าวถามด้วยโทสะ มันบาดเจ็บอยู่ก่อน ยิ่งด้วยความโกรธแค้นยิ่งทำให้อาการบาดเจ็บกำเริบ
“รายงานผู้อาวุโสใหญ่ ผู้ที่ทำคือซัวหมิงและฉู่เฉิน”
ฉู่หานขบฟันเมื่อนึกถึงคนทั้งสอง
“ฉู่เฉิน... ซัวหมิง...”
ผู้อาวุโสกำลังค้นความทรงจำ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่พบ มันจำไม่ได้ว่ามีผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำขั้นสูงสุดตนใดที่ชื่อซัวหมิงและฉู่เฉิน
“รายงานผู้อาวุโสใหญ่ ซัวหมิงคือนักปรุงโอสถที่เพิ่งเข้ามาใหม่ และมันผู้นั้นเป็นมนุษย์!”
“ว่าไงนะ! มนุษย์!”
แววตาของผู้อาวุโสใหญ่เผยความตกตะลึงและโกรธแค้น กระทั่งมันกระอักโลหิต
มันเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้วว่าเหตุใดปีศาจกระดูกขาวจึงมาเยือนเผ่าคราม
เผ่าครามกลับกลายเป็นผู้ที่ซ่อนหมาป่าเอาไว้! พวกมันช่างโง่เขลา แม้มนุษย์จะแอบลักลอบเข้าสู่เผ่าคราม พวกมันยังไม่ทราบ หากพวกมันรู้ความจริงก่อนสักก้าว ปีศาจกระดูกขาวคงไม่โกรธ ทั้งยังจะตอบแทนพวกมันอย่างงาม
แต่ยามนี้เผ่าครามนับว่าเสียหายร้ายแรง พวกมันสูญเสียสมุนไพรวิญญาณไปทั้งหมด
“ฉู่เฉินเป็นภูตผีที่ปลอมตัว ปลอมชื่อ ยากที่จะติดตาม! เช่นนั้นเราควรติดตามซัวหมิง หากพบมัน นอกจากจะทำให้ปีศาจกระดูกขาวพึงพอใจ เรายังจะได้สมุนไพรคืน! ข้าจะใช้ ‘ประกาศิตสังหาร’ กับซัวหมิง! ในเมื่อมันกล้าลงมือกับเผ่าครามข้า ข้าก็ให้มันชดใช้อย่างสาสม!”
“ประกาศิตสังหาร!”
ผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำขั้นสุดท้ายหลายตนอุทานด้วยความตกใจ ราวกับพวกมันได้ยินเรื่องที่น่าสพรึงกลัว ใบหน้าของพวกมันซีดขาวไร้โลหิต ร่างกายสั่นเทาอย่างรุนแรง
ประกาศิตสังหาร เป็นคำสั่งที่ลานสวรรค์โบราณใช้สังหารกบฏและเทพเซียนที่คิดหลบหนี ประกาศิตสังหารคือสมบัติเทพ หากนำเหรียญตราของมันออกมา แล้วสลักกลิ่นอายของผู้ใดลงไปก็ตาม คนผู้นั้นต้องตาย!
แม้ผู้อาวุโสใหญ่ของเผ่าครามจะมีเหรียญตราที่ว่า และแม้เหรียญตราจะไม่สมบูรณ์ แต่หากเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ไม่บรรลุขอบเขตเขตดวงจิตแรกเริ่ม คนผู้นั้นไม่อาจรอดพ้น! ถึงอย่างนั้น การใช้สมบัติที่ท้าทายสวรรค์ระดับนี้กับซัวหมิง นับว่าเสียของเปล่า เพราะมันใช้ได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น
แต่ถึงอย่างนั้น ผู้อาวุโสใหญ่ของเผ่ากลับไม่ลังเล มันต้องการ ‘ฆ่า’ ซัวหมิงอย่างที่สุด!...