บทที่ 44 อภินิหาร
บทที่ 44
อภินิหาร
หลังจากช่วงเวลาแห่งความเงียบได้ผ่านไป ชิงเหว่ยผิงเป็นคนแรกที่พูด เสียงของเขาสั่นสะเครือ “หะ ไห่วิญญาณแตกแล้ว... มะ มันมีอะไรอยู่ภายในด้วย... ละ และมันกะ กำลังออกมาใช่มั้ย?”
ไม่มีใครตอบคำถามนั้น เพราะคำถามที่ว่ามีคำตอบที่ชัดเจนฝนตัวอยู่แล้ว พวกเขาไม่เต็มใจที่จะทำให้ตัวเองฟื้นคืนสติ และก็ไม่มีใครกล้าคิดเพิ่มเติมไปอีก ว่าสิ่งนั้นมันคืออะไร เพราะมันอาจทำให้พวกเขาหวาดกลัวมากขึ้น
ในขณะนี้ ความหวาดกลัว ได้ครอบงำพวกเขาโดยสมบรูณ์
ใบหน้าของหมอผีที่ซีดอยู่ของใครสักคน เขาถามขึ้นมา “หมอผีหนานกุ๋ย คุณเพิ่งบอกว่าแม้แต่หมอผีขั้นก่อรากฐาน ก็ไม่สามารถฆ่ามันได้ ได้แต่ผนึกใช่ไหม?”
หนานกุ๋ยไม่กล้าที่จะขยับตัว เนื่องจากความกังวล “สำหรับผู้เชี่ยวชาญขั้นก่อรากฐาน ก็คงจะต้องเป็นแบบเดียวกับเรา...”
แม้ว่าเขาจะไม่ได้พูดต่อ แต่ทุกคนกลับเข้าใจอย่างชัดเจน
เมื่อเป็นแบบนั้น พวกเขาจะจับบางสิ่งอย่างและผนึกไว้ใต้ดินลึกลงไป10ฟุตกลับคืนที่เดิม หรือปราบปรามมัน พวกเขาจะทำได้?
สายตาของทุกคน ตกลงไปบนไห่วิญญาณที่แตกอยู่ที่พื้น พวกเขามองไปยังเหลวสีดำที่ไหลออกมาพร้อมกับไอสีขาว
เมฆดำปกคลุมท้องฟ้าก่อนที่ทุกคนจะรู้สึกตัว ปกปิดพระจันทร์ที่สว่างไสว ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนเป็นสีดำก็เพราะจิตใจของทุกคนนั้นเต็มไปด้วยความกลัว พวกเขารู้สึกว่าเหตุการณ์เลวร้ายกำลังจะเกิดขึ้น
วูสส!
“มองไปตรงนั้น นั้นมันอะไร?”
มีคนชี้ไปยังที่ไกลๆ ในความมืด ดูเหมือนว่าบางสิ่งบางอย่างกำลังโยกเยกไปมาอยู่ในความมืด และมันก็กำลังเดินมายังพวกเขา ทุกคนเกิดอาการขวัญผวาขึ้นในทันที
ชายสองสามคนกล้ามากพอที่จะมองรูปลักษณ์มันให้ชัดเจน อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ถูกต้อนรับด้วยลมหนาวเย็นกลับคืน ลมนั้นส่งผลทำให้ตาของพวกเขาเหลือกขาวขึ้น ดวงตาเป็นหน้าต่างของจิตวิญญาณ แต่ทว่าในตอนนี้ ประกายในดวงตาทั้งหมดของพวกเขาหายไป ดูแล้วเหมือนดังหุ่นเชิดที่ไร้วิญญาณ
เมื่อใดก็ตามที่ลมหนาวพัดผ่าน สายตาของผู้คนทั้งปวงก็เปลี่ยนไป มันเหมือนกับการติดเชื้อไวรัส พวกเขาไม่พูดไม่จา และก็หันกลับเดินออกไปด้านนอก
การติดเชื้อดูเหมือนจะเกิดจากฎบางอย่าง
ชิงเหว่ยผิง ไบ๋เฟิง หลินเจี๋ยด๊ง หลี่เฉิ่นเฟิง นายน้อยกู่ เช่นเดียวกับหมอผีทั้งหมดในปัจจุบัน และยังรวมทั้งหมอผีหนานกุ๋ย และอาจารย์น้อยอีกด้วย พวกเขาเดินออกไปในห้องรับแขกอย่างแบบไม่รู้สึกตัว
การประมูลเกิดขึ้นตรงนั้น
ตระกูลถังมีทรัพย์สินมากมายซึ่งมาจากการทำธุรกิจ แต่พวกเขาก็ไม่เคยปล่อยโชคอันดี ที่พวกเขาจะสามารถสร้างรายได้ๆ สิ่งที่พวกเขาเอาออกไปประมูลนั้น เป็นของหายากทั้งหมด และแม้ว่าจะไม่ใช่ของหายาก อย่างน้อยที่สุดของพวกมันก็ยังไปของเก่าแก่ เพิ่มภูมิหลังที่ดูเป็นตำนานให้พวกมัน เพื่อเพิ่มมูลค่าเป็นสินด้าเป็นผลพวง และโดยธรรมชาติแล้ว พวกเขาย่อมขายมันออกไปได้ด้วยราคาที่ดีงาม
เข็มทิศกำลังถูกประมูลอยู่ในขณะนี้ มันมีชื่อที่งดงาม ‘สืบปีศาจหลุมศพทองคำ’ มันดูเหมือนจะเป็นของโบราณจากยุคราชวงศ์ถัง และดูเหมือนจะเป็นสมบัติของนายทหารชั้นทองจากในยุคนั้น มันเป็นสิ่งประดิษฐ์โบราณที่ยอดเยี่ยม มันสามารถใช้ในการจับผีได้ เมื่อมันอยู่ในมือของหมอผี แต่เมื่ออยู่ในมือคนธรรมดา มันสามารถทำให้จิตวิญญาณชั่วร้ายหนีออกไปได้ นอกจากนี้ มันยังทำหน้าที่เป็นผู้พิทักษ์รักษาบ้านได้อีกเช่นกัน
มันเป็นอุปกรณ์ที่ทรงพลัง
“เอาหล่ะ สามล้านครั้งที่ 1”
“สามล้านครั้งที่ 2”
ในปีคศ.2008 3ล้านก็เพียงพอที่จะซื้อบ้านในเมืองเจียงได้แล้ว สามล้านเป็นจำนวนเงินใช้จ่ายของคนทั้งชั้นเรียน(พวกค่าเทมอ) และแม้แต่วงการสังคมระดับสูง มันก็ไม่ได้เป็นจำนวนเงินที่น้อยนิด
สำหรับตระกูลถัง จริงๆแล้วพวกเขาคิดอยู่ในใจ ว่าขายเศษเหล็กชิ้นเล็กๆเหล่านี้ ก็ได้เงิน3ล้านมาแล้ว
“สามล้านครั้ง3 ปิดการขาย!”
เสียงปรบมือตามมาหลังจากนั้น ชายวัยกลางคนที่ซื้อเข็มทิศ เขาดูอ้วนและสวมสูทครอบทับพุ่งของเขา
“ขอแสดงความยินดีกับผู้อำนวยการหวังด้วย!”
“ยินดีด้วย!”
ใบหน้าของผู้อำนวนการหวังโลดแล่นไปด้วยความภาคภูมิใจ เขายกแก้วไวน์องุ่นในมือขึ้น เขายกให้แขกทุกๆคน เมื่อเขาวางแก้วไวน์ในมือลง จากนั้นเขาก็เดินขึ้นไปเพื่อที่จะได้รับเข็มทิศ การใช้เงิน 3ล้านเพื่อซื้อของที่เก่าแก่ที่น่าจะชำรุดเสียหายได้ง่าย เป็นสิ่งที่ต้องระวังจริงๆ
ที่ด้านล่าง เย่เหวินเฉินและคนอื่นๆ ก็มองดูเรื่องนี้ด้วยความหลงใหล สามล้านถูกใช้ไปเพื่อซื้อของชิ้นเล็กๆ ช่างเป็นไสตล์การใช้เงินที่สุรุ่ยสุร่ายเสียจริง....
หลิวชวูกล่าว “อ้า เมื่อไหร่ฉันจะกลายเป็นคนแบบนั้นได้”
ทรัพย์สินของตระกูลเขา มีมูลค่าเพียงประมาณ 20-30 ล้านหยวน แม้แต่พ่อของเขาก็อยู่ไกลออกไป เมื่อนึงถึงการใช้เงิน 3ล้านเพื่อซื้อของชั้นเล็กๆนี้ นับประสาอะไรกับตัวเขาเอง
หลังจากนั้น ผู้อำนวยการหวังก็ก้าวขึ้นไปบนเวที เจ้าหน้าที่ได้มอบเข็มทิศให้เขาอย่างระมัดระวัง ผู้อำนวยการหวังจับมันไว้ในมือ ราวกับว่าเขากำลังถือถ้วยรางวัล เขายกมันขึ้นมาเพื่อแสดงให้ทุกคนได้เห็น แล้วก็นำมันเข้ามาใกล้ๆเพื่อพิจารณา
เข็มทิศทำด้วยทองสัมฤทธิ์ และตัวอักษรเล็กๆ ถูกจารึกไว้บนตัวของมัน ทั้งหมดของพวกทันถูกเชื่อมต่อกันโดยที่ไม่มีรอยต่อ มีแถววงเวียนปรากฏขึ้มมาให้เห็น ที่วงกลมจุดศูนย์กลาง จุดศูนย์กลางของเข็มทิศนี้ มีเป็นองค์ประกอบหลักอยู่ ซึ่งก็คือตัวเข็ม
ผู้อำนวยการหวังตรวจสอบและถาม “ทำไมเข็มนี้จึงไม่เคลื่อนที่?”
โดยปกติแล้ว เข็มเข็มทิศจะไม่ต้องหมุนวนเวียนไปมาอย่างไม่มีหยุด และจะหมุนเร็วขึ้นหากพบกับสนามแม่เหล็กแปลกๆ
พนักงานประมูลที่งดงาม ให้คำตอบด้วยรอยยิ้มที่ดูมีเสน่ห์ “ผู้อำนวยการหวัง จริงๆแล้วสิ่งประดิษฐ์นี่เป็นของหลอก เข็มนี้จะเคลื่อนที่ก็ต่อเมื่อมีผีปรากฏขึ้น!”
ผู้อำนวยการหวังส่ายหัวอยู่สองสามครั้ง และรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ มีรอยแตกขนาดใหญ่อยู่บนเข็มทิศนี้ และมันก็มีรอยแตกที่กระจกเข็มทิศด้วย แม้แต่เข็มก็ไม่ขยับ เขาพึมพำกับตัวเองและไม่สามารถละเว้นจากการถาม “นี่... จะไม่หัก ใช่มั้ย?”
พนักงานประมูลยังคงสวมรอยยิ้มเหมือนก่อนหน้านี้ “นั้นมันเป็นไปไม่ได้! นี่คือสิ่งประดิษฐ์โบราณ เป็นรายการระดับสูงอย่างแน่นอน”
ผู้อำนวยการหวังกล่าว “ไม่ว่าอะไรก็ตาม อย่างน้อยที่สุดเข็มก็ควรที่จะหมุน... จริงมั้ย?”
“ฮืมม เข็มมันกำลังขยับ!”
เข็มทิศที่อยู่ในมือของเขา ซึ่งไม่ได้เคลื่อนมาเป็นเวลานาน ในที่สุดมันก็เริ่มหมุนแล้ว
ความประหลาดใจเต็มมีอยู่เต็มใบหน้าของหนักงานปะมูลที่สวยงาม พวกเธอได้ทดสอบเข็มทิศนี้แล้ว และตัวเข็มที่ดูเหมือนแน่นมาก มันไม่ยอมขยับไปไหนเลย เนื่องจากมันไม่ได้ขยับ ก็ถือได้ว่าพวกเขาได้ทดสอบดูแล้ว และในที่สุดพวกเขาก็สรุปออกมาได้ว่ามันหัก
พวกเธอวางแผนที่จะทิ้งสิ่งของชิ้นนี้ไปจากราบชื่อประมูล แต่มีคนบอกว่ามันดูเหมือนวัตถุโบราณดี มันจะโน้มน้าวผู้คนได้ แม้ว่าเข็มจะไม่ขยับก็ตาม
“ว้าว มันขยับเร็วมาก”
เข็มทิศกำลังสั่นสะเทือนเนื่องจากการหมุนของมัน พนักงานประมูลมองมันอย่างสงสัย และตาของเธอเปิดกว้าง เข็มบนเข็มทิศกำลังหมุนด้วยความเร็วแบบไร้ทีท่าว่าจะหยุด มันเป็นเช่นเดียวกันกับพัดลมไฟฟ้า
“เธอไม่ได้บอกว่าเข็มทิศโบราณนี้จะเคลื่อนไหวก็ต้อเมื่อมีผีปรากฏขึ้นมาใช่ไหม?”
ทุกคนมองย้อนกลับไปยังกลุ่มคนที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องโถงด้านใน ชิงเหว่ยผิง ไบ๋เฟิง.... แต่ละคนเข้ามาในห้องรับแขก รูม่านตาของพวกเขาขาวสนิท และพวกเขาก็เดินเข้าไปในฝูงชน ขณะที่พวกเขาละเลยทุกคนรอบตัวโดยสมบรูณ์
พวกเขาเดินไปที่ไหน มันก็เป็นเช่นเดียวกับการติดเชื้อแบคทีเรีย คนรอบข้างก็ดูเหมือนจะติดเชื้อไปด้วย แม้แต่ดวงตาของผู้อำนวยการหวังก็กลายเป็นเหลือกขาว ปรากฏการณ์นี้ เกิดขึ้นด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
สายตาของทุกคนนั่งอยู่ที่นี่นั้น กลายเป็นสีขาว พวกเขาลุกขึ้นยืน และเดินไปทางด้านนอก
เจียงซิ่วนั่งอยู่บนชั้นสองของสโมสร เขายืนอยู่ข้างหน้าต่างทรงฝรั่งเศส ถังเฉิ่นเชียนและถังเหวินชงที่อยู่ข้างๆพวกเขาก็ตกใจมาก “กะเกิดอะไรขึ้น! พวกเขาถูกผะ ผีสิง?”
“พวกเขากำลังไปที่ไหนกัน?”
เจียงซิ่ววางถ้วยเหล้าลง สุรานี้มาจากคอลเลกชั่นส่วนตัวของถังเฉิ่นเชียน Maotai(เหมาไท๋) อายุ 30 ปีมีความบริสุทธิ์ของแอลกอฮอล 70% “ไปยังโครงการอนันทรัพย์พร่าซ่า”
การแสดงออกของถังเฉิ่นเชียนเปลี่ยนไป “คุณเจียงกำลังบอกว่านี่คือปรากฏการแปลกประหลาดที่สร้างความเสียหายให้กับโครงการอนันทรัพย์พร่าซ่า?”
เจียงซิ่วปฏิเสธที่จะแสดงความเห็น เพียงแค่ให้รอยยิ้มิย่างไม่แยแส เป็นคำตอบกลับไป
ถังเฉิ่นเชียนกล่าว “ตระกูลชิงได้เชิญความยุ่งยากเข้าสู่บ้านตัวเองแล้ว มีเจ้าหน้าที่กว่าหนึ่งร้อยคนของเมืองเจียง มาชุมนุมกันที่นี่ เมืองเจียงจะตกอยู่ในสถานการณ์เลวร้าย ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับพวกเขา”
เจียงซิ่ววางถ้วยในมือของเขาลงอีกครั้ง “ไปดูที่เกิดเหตุกันเถอะ”
ถังเฉิ่นเชียนและถังเหวินชงมองกันและกัน รู้สึกขี้ขลาดเล็กน้อย เรื่องนี้แปลกเกินไป และพวกเขาก็ไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ด้วย พวกเขากังวลเกี่ยวกับการถูกผีสิง แต่หลังจากคิดได้ว่าเจียงซิ่วกำลังอยู่ข้างๆ พวกเขา พวกเขาก็สรุปได้ว่า เรื่องแบบนั้นมันจะไม่เกิดขึ้น
ตอนนี้เวลา 23.00 น. แขกทุกคนออกมาจากสโมสรกลุ่มใหญ่ และก็เดินออกจากเบลเด็นไป ในลักษณะที่คล้ายซอมบี้
ประตูของไซต์ก่อสร้างถูกล็อค เนื่องจากเหตุการณ์แปลกประหลาดที่เกิดขึ้น ชิงเหว่ยผิง ผู้ซึ่งกำลังเดินนำหน้า ใช้แขนเปล่าๆของเขาเพื่อผลักดันประตูเหล็กทั้งอย่างนั้น
มองไปที่สิ่งนี้ ทั้งปู่และหลานตระกูลถัง ถูกทิ้งไว้กับความโง่งม พวกเขายังเป็นมนุษย์อยู่ไหม?
หลังจากนั้น คนพวกนั้นก็ก้าวผ่านเข้าไปในประตูเหล็ก และก็ตรงไปยังไซต์ก่อสร้าง
“พวกเขาพยายามจะทำอะไร?”
ถังเฉิ่นเชียนและถังเหวินชงคิดว่าบางเหตุการณ์กำลังจะเกิดขึ้น แต่ผลที่ออกมากลับไม่เป็นดังที่คาด หลังจากที่เข้าสู่ไซต์ก่อสร้างแล้ว พวกเขาทั้งหมดก็ล้มลงกับพื้น และหยุดการเคลื่อนไหวลง ราวกับพวกเขากำลังนอนหลับอยู่
เจียงซิ่วกล่าว “นายเอาไก่ตัวผู้ ที่ฉันขอให้นายเตรียมเอาไว้ มาไหม?”
“โยนมันเข้าไปข้างใน!”
ถังเหวินชงเหวี่ยงไก่ตัวผู้เข้าไปในไซต์ก่อสร้าง ไก่พยายามกระพือในอากาศ หลังจากที่หลุดออกจากมือมาแล้ว มันร้องออกมา “กะต๊ากกก”
เสียงร้องของไก่ตัวผู้ปลุกทุกคนที่นอนอยู่บนพื้น
พวกเขาทั้งหมดยืนขึ้นทีละคนๆ
“ที่นี่ที่ไหน?”
“ฉันมาที่นี่ได้อย่างไร?”
ชิงเหว่ยผิงคลานขึ้นมาจากพื้นอย่างรวดเร็ว โดยธรรมชาติแล้ว เขาย่อมจำได้ว่าที่นี่คือไซต์ก่อสร้างของเขาเอง สิ่งนี้มันทำให้ใบหน้าของเขาซีดลง