บทที่ 43 ตกใจ

บทที่ 43

ตกใจ

 

นายน้อยกู่ทำหน้าตางุ่มง่าม เขาไม่ให้ความสนใจกับเจียงซิ่วตั้งแต่ต้นเลยด้วยซ้ำ เสื้อผ้าที่เจียงซิ่วใส่ก็มีค่าแค่ 300 หยวน และหลังจากที่เขารู้ว่าบ้านของเขาเข็นผลไม้ขาย เขาแสดงอาการดูถูกจากส่วนลึกของหัวใจ ราวกับว่าเขาได้ยินเรื่องตลกที่สนุดในโลก

 

แต่ตอนนี้ แม่แต่ถังเฉิ่นเชียก็ให้ความเคารพต่อเจียงซิ่วอย่างมาก และแม้แต่กระทั่งชิงเหว่ยผิงก็ยังยกย่องว่าเขาเป็นผู้ที่สามารถช่วยชีวิตของเขาได้ สำหรับหมอผีหวูหลงและศิษของเขาที่สาปแช่งรัฐมนตรีกู่ เขาหมอบคลายและอ้อนวอนดุจสนุขจรจัดข้างถนน

 

ไม่ว่าคนที่ร่ำรวยจะมีพลังอำนาจเท่าไร ต่อหน้าของเจียงซิ่วแล้ว พวกเขาสามารถทำได้เพียงแต่อ้อนน้อมและเชื่อฟังแต่เพียงเท่านั้น พวกเขาไม่กล้าที่จะพูดแม้แต่คำเดียว

 

อะไรคือระเบิดลูกใหญ่? นี่แหละคือระเบิดลูกใหญ่!

 

นายน้อยทั้งสี่คนลดศีรษะลง เมื่อรู้ว่าพวกเขาเป็นได้แค่ เด็กเล่นทรายเมื่ออยู่ต่าหน้าเขา

 

กลิ่นอายของเจียงซิ่ว สามารถสะกดข่มได้ทุกคนในที่แห่งนี้ได้โดยสมบรูณ์

 

“ผะ ผู้เชี่ยวชาญโหลวเซี่ย...” ไบ๋เฟิงกล่าว “ฉะ ฉันคิดว่า... คุณ...” เขามักมีวาจาคมคายตลอดมา แต่ตอนนี้ ดูเหมือนเขาจะเริ่มพูดติดขัด

 

ถังเหวินชงรู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้เห็นฉากนี้ แกไม่ได้ทำตัวได้ค่อนข้างหยิ่งหรือไง? แกทำให้ฉันต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่าอึดอัดใจ ดูวิธีที่แกพบกับจุดสิ้นสุดของแกในตอนนี้สิ

 

“ผู้เชี่ยวชาญ โหลวเซี่ย...”

 

ไม่น่าแปลกใจที่เขากล่าวว่าฉันไม่ได้มีคุณสมบัติที่จะเป็นฝ่ายตรงข้ามของเขาได้ แม้พวกเราสี่คนก็ไม่เพียงพอ อันที่จริงแล้ว แม้แต่ถังเฉ่นเชียน ชิงเหว่ยผิง และยังรวมหมอผีทั้งหมดที่อยู่นี่ด้วย พวกเขาไม่มีคุณสมบัติเพียงพอ และนับประสาอะไรกับพวกเขา พวกคนรุ่นหลัง

 

“ทำไมแกถึงพูดติดอ่างซะหล่ะ...”

 

ชิงเหว่นผิงกล่าวขอโทษไปยังเจียงซิ่ว “ผู้เชี่ยวชาญโหลวเซี่ย โปรดอย่างสนใจมัน เด็กเหล่านี้ไม่เคยมีประสบการณ์ในการเผชิญหน้ากับสิ่งนั้นอย่างใกล้ชิดมาก่อน พวกเขาก็เพียงแค่กลัวฝีมือของผู้เชี่ยวชาญโหลวเซี่ย ฉันโปรดขอให้ผู้เชี่ยวชาญยกโทษให้แก่พวกเขา”

 

เจียงซิ่วกวาดสายตาไปยังไบ๋เฟิงด้วยสายตาที่เย็นชา หลังจากนั้นใบหน้าไบ๋เฟิงก็เปลี่ยนสีไปในทันที ถ้ามีรู เขาก็คงจะไปอยู่ในรูนั้นแล้ว

 

ถังเฉิ่นเชียนกล่าว “เหว่ยผิง เหว่ยผิงหลานชายของแกทำอะไรบางอย่างลงไปจริงๆ ไม่ใช่ว่าเขาต้องการขับผู้เชี่ยวชาญโหลวเซี่ยออกจากสโมสรรึไง?”

 

“อะไรนะ?”

 

ชิงเหว่ยผิงจ้องมองไปที่ไบ๋เฟิง ซึ่งเขาก็ลดศรีษะลงทันที ชิงเหว่ยผิงโกรธอย่างแท้จริง ในเวลานี้ ความหวังของเขาทั้งหมดอยู่กับเจียงซิ่วที่อยู่ตรงนี้ และมันก็ถูกทำให้เน่าเฟะ เพราะเจ้าสารเลวตัวนี้ แม้ฆ่าเขาก็คงจะไม่เพียงพอที่จะชดใช้มัน

 

“ขอประทานโทษผู้เชี่ยวชาญโหลวเซี่ย”

 

เจียงซิ่วหัวเราะอย่างไม่เอาใจใส่ “เขาไม่มีคุณสมบัติมากพอ!”

 

ไบ๋เฟิงและส่วนที่เหลือรู้สึกมืดมน ในขั้นต้น พวกเขากำลังวางแผนที่จะขอโทษเขา พวกเขาถึงกับต้องวางความภาคภูมิใจของพวกเขาลง และแม้แต่กระทั้งเขาคิดจะประจบประแจงด้วย แต่ตอนนี้ แม้ว่าพวกเขาจะไม่จำเป็นต้องขอโทษก็ไม่เป็นไร นี้ก็เป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขาที่จะใช้กล่าวขอโทษแล้ว

 

เราไม่มีค่าอะไรเลยในสายตาของเขา!

 

ชิงเหว่ยผิงกล่าว “ใช่ แน่นอน โดยธรรมชาติแล้วคุณย่อมไม่ลดระดับตัวเองลงไปเทียบเท่ากับเด็ก”

 

สำหรับการขอโทษ ชิงเหว่ยผิงเป็นคนที่ควรทำมากที่สุด ในเวลานั้น เจียงซิ่วยินดีที่จะช่วยเหลือเขา เนื่องจากเห็นแก่ใบหน้าของหนานก๋งโควเอ๋อ แต่เขากลับดูถูกเจียงซิ่ว เขาหวังว่าจะแสดงมารยาทที่คู่ควรเกี่ยวกับสำหรับเรื่องนั้นได้ แต่คนประเภทอย่างเจียงซิ่วเป็นคนประเภทไหนกัน? ด้วยทักษะดังกล่าว มันไม่ได้พูดยากเลยว่าเขาจะได้รับความเคารพที่แท้จริงจากหมู่คนจำนวนมากได้ เขาอาจได้ความเคารพมาอย่างง่ายๆ

 

ชิงเหว่ยผิงเลียริมฝีปากของเขา หลังจากที่เพิ่งพูดประจบประแจงไป

 

“ผู้เชี่ยวชาญซางเที่ยชานนั้น ที่แท้จริงแล้วเป็นนักต้มตุ๋นจริงๆ แม้แต่ฉันก็ถูกหลอกลวงไปโดยเขา ด้วยคำพูดที่ว่า เชื่อใจแม่งผมเถอะ ปรากฏการณ์แปลกประหลาดที่โครงการอนันทรัพย์พร่าซ่า เริ่มทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนส่งผลไปยังถนนเหลียงหือที่อยู่ด้านหน้าของโครงการ”

 

เจียงซิ่วยังคงสงบ แม้ว่ามนตร์คาถาของซางเที่ยชานจะไม่สามารถเทียบเคียงกับเขาได้ แต่มันก็เป็นระดับเดียวกันกับหมอผีหวูหลงที่คุกเข่าลงอยู่ต่อหน้าเขาในตอนนี้ เขามีทักษะที่แท้จริง ดังนั้นมันจึงเป็นการพูดเกินเลยไปบ้าง ที่จะบอกว่าเขาเป็นนักต้มตุ๋น

 

“ฉันอยากขอร้องให้ผู้เชี่ยวชาญไปแก้ไขปัญหาที่อนันทรัพย์ให้หน่อย”

 

เจียงซิ่วได้คาดเดาไว้แล้ว ว่าจุดประสงค์ที่แท้จริงของงานนี้ ไม่ใช่การชมดูสิ่งประดิษฐ์โบราณ แต่เพื่อการเฟ้นหาหมอผีที่แท้จริง ที่สามารถจัดการกับเหตุการณ์อันแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นรอบๆ โครงการอนันทรัพย์พร่าซ่าได้

 

ถังเฉิ่นเชียนก็ยังเห็นพ้อง “ใช่ มิสเตอร์เจียง โปรดแก้ปัญหานี้ด้วย”

 

“เทพคนนี้ โดยธรรมชาติแล้วย่อมสามารถแก้ไข้มันได้”

 

ชิงเหว่ยผิงรู้สึกร่าเริง

 

“แต่คุณจะสามารถเสนออะไรให้เทพคนนี้พอใจได้บางหล่ะ?”

 

ชิงเหว่ยผิงไม่แปลกใจกับเรื่องนี้ เขารู้ดีว่าเขาจะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขบางอย่าง เพื่อที่จะสามารถให้ผู้เชี่ยวชาญที่หาใครเปรียบไม่ได้อย่างเช่นเจียงซิ่วยินยอมตกลงด้วย “ฉันเองก็สงสัยว่าสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญโหลวเซี่ยต้องการคืออะไร? อนันทรัพย์ของเราจะต้องประสบความสำเร็จในการหามันมาอย่างแน่นอน”

 

เจียงซิ่วกล่าว “สิ่งที่เทพนี้ต้องการ คือสิ่งที่คุณไม่เต็มใจที่จะปล่อยให้มันหลุดมือไป และนี่ก็เป็นสิ่งที่ค่อนข้างหยาบคาย”

 

“นั้นก็คือฉันต้องการถือหุ้น 50% อย่างเสมอภาคกับคุณ”

 

บึม!

 

ทุกคนกลายเป็นโกลาหล

 

ความเป็นจริงแล้วมันมากเกินไป ดวงตาของชิงเหว่ยผิงแทบจะโผล่ออกมา หุ้นของเขาและหนานก๋งฉินรวมกันมีเพียงแค่ 70% เท่านั้น ถ้าเขาส่งมอบเจียงซิ่วกว่า 50% นั้นก็คือการปล่อยให้พวกเขาถือหุ้นแค่ 20% พวกเขาก็จะสูญเสียหุ้นที่มีอยู่ใน บริษัทไป นั่นก็เท่ากับเป็นการบอกว่า พวกเขาเป็นคนที่ทำงานให้กับเจียงซิ่วเพื่อให้เขาได้ใช้เงิน

 

“ผู้เชี่ยวชาญโหลวเซี่ย นี้ไม่ใช่การล้อเล่น ใช่ไหม?”

 

“ลองคิดดูสิ 50%ของจำนวนหุ้น ไม่น้อยหรือมากไปกว่าหนึ่งเปอร์เซ็นต์ ถ้าคุณยินดี ฉันจะจัดการกับเรื่องนี้ให้ หรือไม่งั้น ก็หาคนอื่นมาจัดการกับมันซะเถอะ”

 

มันเป็นข้อตกลงที่ยุติธรรม และเขาก็ไม่ได้บังคับให้ชิงเหว่ยผิงให้เห็นด้วย

 

ใบหน้าขงอชิงเหว่ยผิงกลายเป็นหน้าเกลียดที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เมื่อหนานก๋งโควเอ๋อนำเจียงซิ่วมา มันเป็นข้อตกลงฟรีๆ ตั้งแต่ที่เขาปฏิเสธมันไป ค่าตอบแทนมันกลับกลายเป็นมากกว่าครึ่งหนึ่งของหุ้นบริษัทเขาถูกเดิมพัน เขาอยากจะตบตัวเองให้ตายเสียจริงๆ

 

ไม่มีทางที่เขาจะมอบจำนวน 50% ของอนันทรัพย์ให้ได้

 

ตามการคำนวณของเขา ราคาระหว่าง 10-50 ล้านก็เพียงพอแล้ว

 

เจียงซิ่วกล่าว “เนื่องจากเป็นเช่นนี้แล้ว เทพคนนี้ก็คงต้องขออำลา”

 

มองไปที่เจียงซิ่วซึ่งกำลังจากไป ถังเฉิ่นเชียนและถังเหวินชงไล่ตามเขาไป แม้ว่าตระกลูชิงไม่เต็มใจที่จะจัดการเรื่องนี้ แต่ตระกลูถังไม่สามารถปล่อยให้เขากลับไปได้ ในเมื่อพวกเขาได้เชิญเขามาด้วยความยากลำบากมาก

 

“มิสเตอร์เจียง ได้โปรดรอพวกเราก่อน!”

 

“งานไม่ได้เพิ่งเริ่มต้นขึ้น? ทำไมคุณจึงรีบร้อนที่จะออกไป? คนธรรมดาที่อยู่ด้านนอก ธรรมชาติแล้วพวกเขาย่อมไม่มีคุณสมบัติที่จะนั่งร่วมกับคุณ ฉันจะให้เหวินชงนจัดโต๊ะเลี้ยงแยกตั้งหาก โปรดมาพร้อมกับฉัน แล้วก็ดื่มซักถ้วยสองถ้วย”

 

เจียงซิ่วรู้สึกหิวจริงๆ ในความเป็นจริง มันต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการใช้พลังของศักดิ์สิทธิ์เพื่อควบคุมสายฟ้า ซึ่งมันทำให้เขาหิวกระหายมากมาย

 

“เอาหล่ะ!”

 

หมอผีอีกคนนึงผ่อนคลายหลังจากที่เห็นเจียงซิ่วออกไปแล้ว โดยเฉพาะหมอผีหนานกุ๋ยและท่านอาจารย์น้อย กับหวูหลง พวกเขาเป็นเพื่อนสนิทกัน โชคดีที่พวกเขาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย สำหรับหลงเอ๋อเทียน สารเลวนี้ไปหาเรื่องกับเทพเจ้านั้น โดยที่ไม่แม้แต่รู้เรื่องราวความเป็นอยู่ของอาจารย์ตัวเอง

 

หวูหลงไม่ได้มีลักษณะนิสัยที่ดี ดังนั้นจึงเห็นได้ชัดว่าศิษย์ของเขาเอง ก็ไม่ได้เป็นตัวดีเช่นกัน

 

“ผู้อำนวยการชิง พวกเรายังเป็นหมอผีชั้นยอด มนตร์คาถาของพวกเราย่อมไม่แพ้กับผู้เชี่ยวชาญโหลวเซี่ยอย่างแน่นอน!” คนที่พูดคำเหล่านี้คือหนานกุ๋ย อย่างไรก็ตาม เจียงซิ่วได้ออกไปแล้ว และพวกเขาจึงสามารถพูดอะไรได้ตามที่ต้องการ มันเป็นความผกผันจากสภาวะความกลัวของเขาที่มีก่อหน้านี้

 

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่น่าทึ่งของเจียงซิ่วจะเป็นอย่างไร แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่า มันจะทำให้ผู้อื่นหยุดโอ้อวดได้

 

“โอ้?”

 

ชิงเหว่ยผิงดวงตาส่องประกายระยิบระยับ ใช่ เจียงซิ่วไม่ใช่คนเดียวที่จัดการปัญหานี้ได้ ไม่ใช่ว่าที่นี่ก็มีหมอผีหนานกุ๋ยอยู่? ยังไงเขาเองก็เป็นหมอผีชั้นยอดเหมือนกัน

 

หมอผีหมายเลข1ของกวางตุ้ง!

 

“ถ้าท่านหนานกุ๋ยสามารถแก้ไขปัญหาที่อนันทรัพย์กำลังเผชิญอยู่ตอนนี้ได้ ฉันสามารถให้ได้ถึง 10 ล้าน ไม่สิ 50ล้านไปเลย...” เขาไม่สนใจเรื่องเงินจำนวนแค่นี้ถ้าปัญหาสามารถแก้ไขได้ละก็นะ

 

ถ้าเรื่องนี้ยังยังไม่เรียบร้อยในเร็วๆนี้ละก็ เขาก็คงต้องเตรียมประกาศล้มละลายแล้ว แค่มากว่า 40 ล้านนิดหน่อย มันไม่ใช่เรื่องสำคัญ

 

นี่ไม่ใช่เวลาที่จะต้องตระหนี่

 

“เอาหล่ะ!”

 

หมอผีหนานกุ๋ยไม่ได้อยากได้เงิน เป็นเรื่องง่ายสำหรับพวกเขาในการหาเงิน สิ่งที่พวกเขาต้องการก็คือชื่อเสียงที่เขาได้รับจากการแก้ไขปัญหาในสิ่งที่เจียงซิ่วปฏิเสธที่จะทำมัน

 

“เอาหล่ะ ไห่วิญญาณอยู่ไหน?”

 

หมอผีหนานกุ๋ยรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เหตุการณ์แปลกประหลาดที่เกิดขึ้นในโครงการอนันทรัพย์พราซ่า มีความเกี่ยวข้องกับไห่วิญญาณ

 

“คุณหมายความว่าปรากฏการณ์ที่แปลกประหลาดเหล่านี้เกี่ยวกับไห่นั้น?”

 

“ใช่” หมอผีหนานกุ๋ยตอบกลับ

 

หมอผีที่ด้ายข้างกล่าวถาม “หมอผีหนานกุ๋ย ไห่วิญญาณถูกผนึกไว้อย่างสมบูรณ์ นั้นก็หมายความว่าสิ่งของที่อยู่ภายใน ไม่สามารถส่งผลกระทบต่อโลกภายนอกได้ สาเหตุเบื้องหลังของเหตุการณ์แปลกประหลาด ที่เกิดขึ้นในโครงการ ย่อมต้องไม่เกี่ยวข้องกับไห่วิญญาณ”

 

ชิงเหว่ยผิงพยักหน้าหลังจากได้ยินเรื่องนี้

 

หมอผีหนานกุ๋ยตอบด้วยรอยยิ้มสงบ ตอนนี้เขาเริ่มฟื้นตัวขึ้น เมื่อเจียงซิ่วไม่ได้อยู่ที่นี้ “แม้ว่าไห่วิญญาณยังคงจะถูกปิดผนึกไว้อยู่  แต่คุณต้องไม่ลืมว่ามันถูกฝังลึกถึง10ฟุตจากพื้นดิน ตามตำนาน สถานที่10 ฟุตใต้ดินนั้น เชื่อมโยงกับนรกอเวจี ตอนนี้ไห่จิตวิญญาณถูกพรากไปจากที่นั่น ตราประทับที่สำคัญที่สุดมันได้สูญหายไปแล้ว ด้วยตราประทับที่น้อยลง คุณคิดว่าตราประทับอื่นๆ จะสามารถเก็บสิ่งที่อยู่ภายในได้อยู่?”

 

การแสดงออกของหมอผีเปลี่ยนไปเมื่อเขาได้ยินเรื่องนี้

 

ท่าอาจารย์น้อยหัวเราะเบาๆ “นั้นถูกต้องแล้ว!”

 

หมอผีคนนั้นไม่สามารถแบกรับความอัปยศนี้ได้ “ไห่วิญญาณนั้นมีอายุหลายร้อยปี และถูกผนึกไว้อย่างประณีต หมอผีหนากุ๋ยมีทักษะที่น่าเลื่อมใสเช่นเดียวกับผู้เชี่ยวชาญโหลวเซี่ย เพื่อที่จะกำจัดพลังชั่วร้ายนั้นหรือไม่?”

 

หมอผีหนานกุ๋ยส่ายหัว “มองไปที่ตราประทับอักษระโบราณ มันดูเหมือนยันต์ระดับสูง บุคคลที่ทำยันต์เช่นนี้ได้ ต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับก่อรากฐาน ถึงแม้ว่าเขาจะไม่สามารถฆ่าผีและปีศาจได้ แต่เขาก็ยังสามารถผนึกมันลงไปได้ เราหมดหนทางจริงๆ”

 

เขาแทบไม่ได้เข้าไปอยู่ในขอบเขตสกัดกลั้นฉีระดับ1ด้วยซ้ำ

 

มันไกลจากขอบเขตก่อรากฐานมากมายนัก

 

“ฉันมีวิธีจัดการกับมัน โดยการเสริมพลังของตราประทับที่มีอยู่ และฝั่งมันลงไปลึกลงไป10ฟุตจากพื้นดินอีกครั้งหนึ่ง นั้นเป็นวิธีที่จะแก้ปัญหาได้ดีที่สุดแล้ว”

 

ชิงเหว่ยผิงพยักหน้า “คำพูดของคุณดูสมเหตุสมผล ไห่วิญญาณตอนนี้อยู่ที่ไหนแล้วหล่ะ?”

 

“นั้นไห่วิญญาณ!”

 

สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ไห่วิญญาณร่วงลง มาแล้วก็แตกออกเป็นชิ้นๆ มีวัตถุสีดำอยู่ข้างใน ซึ่งกำลังลุกออกจากของเหลวสีดำที่น่ารังเกียจ แม้แต่ไอระเหยสีขาวก็ออกมาจากที่นั่น

 

ในขณะนั้นเอง ทุกคนที่อยู่ที่นี้ ก็พากันเงียบไปหมด