บทที่ 9 การปลุกตื่นความลึกลับของสวรรค์
บทที่ 9
การปลุกตื่นความลึกลับของสวรรค์
แปลโดย : ราตรีสีทา
เกลาสำนวนโดย : ราตรีสีเทา
แก้คำผิดโดย : ราตรีสีเทา
ย้อนกลับไป7ปี เมื่อเจียงซิ่วได้ยินคำเหล่านี้เป็นครั้งแรก เขาราวกับถูกฟ้าผ่า ตอนนั้นเขากลายเป็นคนขี้อาย และรู้สึกว่าโลกทั้งใบกลายเป็นเฉดสีเทา เขามองไม่เห็นรัศมีของแสงอะไรเลย แต่ในตอนนี้ เขาไม่ได้รู้สึกอะไรเลยแม้แต่อย่างเดียว (ก็พี่ด้านแล้วใช่ไหม555)
หลังจากผ่านไป 3พันปี ประสบการณ์ของเจียงซิ่วก็มีมากพอๆ กับมหาสมุทร หัวใจของเขากลายเป็นเงียบสงบคลายลมที่อ่อนโยน ในระยะเวลาก่อนหน้านี้ เฉิงหลิงซูมีความสำคัญกับเขามาก เธอเป็นทุกอย่างของเขา แต่ในช่วงวลานี้เขาไม่ได้มีความสนใจต่อเฉิงหลิงซูอีกต่อไป ถ้าจะให้เขาพูดจริงๆ ใครคนไหนที่เขาไม่มีที่ให้ในหัวใจอีกแล้ว มันก็คงมีแต่เธอเท่านั้น!
แต่เฉิงหลิงซูในตอนนี้ ไม่ใช่เฉิงหลิงซูในไม่อยู่ในสายตาก่อนหน้านี้ของเขา
สังเกตเห็นว่าเจียงซิ่วสงบมาก เฉิงหลิงซู รู้สึกตกใจมาก เธอคิดว่าเขาจะขอร้องเธอ หรือแม้กระทั่งพุ่งเข้าหาเธอด้วยความโกรธ และอาจแม้แต่บังคับให้เธอต้องฆ่าตัวตายไปกับเขา แต่เธอไม่เคยคาดหวังเลยว่า เขาจะสงบได้ขนาดนี้
เฉิงหลิงซูพูด “สมัยนี้ไม่เหมือนสมัยก่อน แต่ละคนมีสิทธิที่จะเลือกเส้นทางชีวิตของตัวเอง และสามารถเลือกที่จะตัดสินชะตากรรมของตัวเองได้”
มองไปที่หญิงสาวที่สวยงดงาม และน่าหลงไหลนี้ เจียงซิ่วรู้สึกว่าก่อนหน้านี้ เขานั้นเป็นคนโง่เกินไป และก็งี่เง่าอีกด้วย เขาได้มอบความรักทั้งหมดให้กับเธอ แต่ก็ได้สิ่งตอบแทนมาเพียงความโหดร้ายและความไม่แยแส ในทางกลับกัน ขณะสิ่งที่เขาต้องจ่ายออกไปก็คือชีวิตพ่อแม่ของเขาเอง
“ตามเรื่องราว ตระกลูเฉิงของเราจะจ่ายค่าตอบแทนให้แก่นายแน่นอน”
ค่าตอบแทน?
พ่อของฉันร่วงลงมาจากการเป็นข้าราชการชั้นนำ กลายมาเป็นนักโทษชั้นต่ำ สิ่งนี้มันได้ทำลายเขาย่อยยับและพังพินาศ แม่ของฉันร่วงลงมาจากการเป็นผู้หญิงที่งดงาม มาเป็นเพียงแม่ค้าที่หาบเร่ขายผลไม้ และเทพคนนี้ได้รับความทุกข์ทรมาน มากซะจนฉันไม่สามารถแม้แต่จะยกศีรษะของตัวเองขึ้นต่อหน้าเพื่อนร่วมชั้น และเพื่อนของฉัน ทั้งหมดนี้มันเกิดขึ้นเพราะการกระทำของตระกลูเฉิงของเธอ ถ้าเธออยากชดเชย ก็นำเกรียติยศทั้งหมดคืนมา ความงดงาม ความมั่งคั่งและตำแหน่งที่พวกเธอได้รับทั้งหมด!
แต่... เธอจะสามารถชดเชยได้หรือไม่... เงื่อนที่เป็นแบบนี้นะ?
เธอช่างเป็นผู้หญิงที่อวดดี!
เจียงซิ่วหยุดเธอ “เทพคนนี้ไม่ต้องการ!”
“นาย...”
เฉิงหลิงซูโกรธมาก เธอคิดว่าตั้งแต่เขาเงียบสงบ เขาก็อาจจะยอมรับมันได้ เนื่องจากความไม่แยแสที่เจียงซิ่วได้แสดงในเวลานี้ หัวใจเธอก็รู้สึกหงุดหงิดเล็กๆ แต่หลังจากคบคิดเล็กน้อย เธอก็เชื่อว่าเขาจะไม่ทิ้งมันไปอย่างง่ายๆ ตระกลูเฉิงเป็นอาหารที่พร้อมกินในจานสำหรับเขา มันเป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์ที่ไม่สามารถจินตนาการถึงความสำเร็จของตัวเองได้ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถละทิ้งความมั่งคั่งนี้ได้อย่างง่ายดาย
“เจียงซิ่ว นายต้องสังเกตว่าฉันไม่ได้ชอบนาย”
เจียงซิ่วหัวเราะอย่างเย็นชา ในอดีตที่ผ่านมา คำเหล่านี้ มันรู้สึกเหมือนมีดที่ได้แทงเข้าไปในหัวใจของเขา
เฉิงหลิงซูแนะนำเขาอีกครั้ง “คิดเกี่ยวกับมันให้รอบครอบ!”
“ความรักที่ถูกบังคับจะไม่เกิดขึ้น นายก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว ดังนั้นนายควรจะเข้าใจเรื่องนี้ หากนายยังกังวลเกี่ยวกับการชดเชย โล่งใจได้เลย นายก็รู้ว่าพ่อของฉัน เขาจะไม่ทำร้ายครอบครัวของนาย เขาจะตรวจสอบเพื่อรับประกันว่าพ่อแม่ของนายจะสามารถผ่านวันเวลาของพวกเขาไปได้ในตอนที่ว่าาง ลุงและป้าก็จะไม่ต้องทำงานอย่างเช่นขายผลไม้อีกต่อไป”
พนักงานนำอาหารมาเสิร์ฟ สเต๊กเนื้อที่ถูกนำเข้าโดยตรงจากประเทศฝรั่งเศส คืนนี้ เจียงซิ่วว่างแผนที่จะทำการปลุกสายเลือดให้ตื่นขึ้น ซึ่งจะต้องใช้พลังกายภาพของเขาเยอะมาก ดังนั้นการกินสเต็กสำหรับมื้อเย็นจึงเหมาะสมมาก
เต๋าบ่มเพาะเพื่อความอมตะ มีอยู่นับไม่ถ้วน แต่ก็มีการบ่มเพาะที่แท้จริงอยู่มั่ง การสกัดกลั่นพลังฉี ผู้ใช้อาคม หยิน-หยางฝึกหัด... และอีกหลายๆ อย่างในเส้นทางอื่นๆ แต่ทุกคนต้องการพลังทางจิตวิญญาณเพื่อสร้างรากฐานของบ่มเพาะ แต่ทว่าที่นี้ไม่มีจิตวิญญาณพลังฉี ดังนั้นเขาจึงสามารถใช้ได้แต่ทางลัดเท่านั้น กระตุ้นและปลุกศักยภาพที่ซ่อนอยู่ภายในสายเลือดเพื่อให้มันได้ตื่นขึ้นมาได้เต็มที่
รูปแบบของการบ่มเพาะนี้ เป็นที่รู้จักกันในชื่อ การบ่มเพาะของพระเจ้า!
ตามตำนาน มนุษย์นั้นเป็นลูกหลานของพระเจ้า และด้วยเหตุนี้ มนุษย์แต่ละคนจึงมีสายเลือดของพระเจ้าอยู่ในตัว มันเพียงแต่ว่าหลังจากผ่านมาหลายยุคหลายสมัย สายเลือดได้กลายเป็นเจือจางลงอย่างมาก การบ่มเพาะของพระเจ้านี้ เป็นกระบวนการที่ดึงศักยภาพทางสายเลือดออกมา และเสริมสร้างความแข็งแกร่งไปทีละขั้นตอน วิธีการนี้อาศัยความสามารถพิเศษทางธรรมชาติมากกว่าสิ่งอื่นใด
ขั้นตอนแรกคือ การปลุกสายเลือด มันมีทั้งหมด 9ขอบเขตตามตำนาน ในกรณีที่การปลุกสายเลือดประสบความสำเร็จ นั่นคือการเกิดขึ้นของการดำรงอยู่ที่ไม่ซ้ำใคร การเกิดเชื้อสายที่พิเศษ – มันไม่ผิดเลยสักนิดที่จะเรียกว่าคนเหล่านี้ว่า เชื้อสายพระเจ้า แม้แต่การขยับมือเพียงครั้งเดียวก็จะไม่สามารถระบุได้ว่าพละพลังกำลังและความเร็วนั้นมีเท่าไหร่ หลังจากปลุกตื่นขึ้น ในช่วงหลังๆ เหาะเหิน เคลื่อนย้ายฉับพลัน หรือแม้กระทั่งควบคุมสภาพอากาศ อย่างเช่น ลม เมฆ ไฟ และเรียกฟ้าร้อง ทุกสิ่งดังกล่าวสามารถเป็นไปได้
เจียงซิ่วเองก็อยากรู้เกี่ยวกับทักษะทางสายเลือดของเขาเอง และเกี่ยวกับกับการสืบทอดเชื้อสายพระเจ้าที่เขาจะได้รับ มันก็เป็นไปได้ที่พวกเขาจะผสมสายเลือดกัน และก็เกิดเชื้อสายพระเจ้าที่ไม่ซ้ำใครเกิดขึ้น
เฉิงหลิงซูถามขึ้น “นายคิดว่ามันจบแล้ว?”
เจียงซิ่วกล่าว “คำพูดของฉันยังคงเหมือนเดิม เทพคนนี้ไม่ต้องการ!”
เฉิงหลิงซูเธอโกรธและฉุนเฉียวมาก “เจียงซิ่ว อย่าหวังว่าพ่อของฉันจะช่วยนายเมื่อนายได้ถูกขังไปแล้ว แม้ว่ามันจะค่อนข้างดูโชคร้าย ฉันจะพูดให้ฟังว่าพ่อของฉันได้ออกไปต่างประเทศ และจะไม่กลับมาภายใน 6เดือนสั้นๆนี้ เมื่อถึงเวลานั้น นายก็คงอยู่ในคุกเรียบร้อยแล้ว”
เจียงซิ่วยิ้มออกมานิดหน่อย “เป็นเช่นนั้น?”
เขาเชื่อคำพูดของเฉิงหลิงซู ปาป๋าเฉิงมักจะเดินทางไปต่างประเทศ และก็เป็นไปตามที่เขาคาดการณ์ไว้ กับช่วงเวลาปัจจุบันนี้ ปัจจุบันตระกลูเฉิงกำลังยุ่งอยู่กับธุรกิจของเมือง ดังนั้นความเป็นไปได้ที่ปาป๋าซู จะอยู่ต่างประเทศนั้น ก็ค่อนข้างสูง
และสำหรับคุณแม่ที่สนใจแต่ตัวเองของเฉิงหลิงซู เธอกระตือรือล้นที่จะถอนหมั้นระหว่างเขากับลูกสาวของเธอ
“ตอนนี้เราอยู่มัธยมปลายปี3แล้ว” เฉิงหลิงซูกล่าว “ถ้านายถูกขังคุกในเวลานี้ นายจะพลาดการสอบเข้ามหาวิทยาลัย 3-5ปีต่อมา เมื่อนายออกมาจากเรือนจำ คนอื่นๆ จะจบการศึกษาจากวิทยาลัย ในขณะที่นายทำได้แต่เพียงแต่แบกรับความอับอายจากคดีทางอาญา ที่อยู่บนหลังของตัวเอง โอกาสไหนเล่า ที่มันจะเหลือให้นายบ้าง?”
“อย่าให้อารมณ์ของนาย มีผลต่อการตัดสินใจของนายเอง คิดมันให้ถี่ถ้วน...”
เจียงซิ่วพยักหน้าขณะที่เขาฟัง ถ้าเขามีโอกาสได้วิ่งเข้าไปเจอเรื่องพวกนี้ ในช่วงเวลาก่อนหน้านี้ เขาก็คงยอมความไปนานแล้ว
“คำพูดของเธอมีความหมายจริงๆ เอาหล่ะ เทพคนนี้เห็นด้วยที่จะยกเลิกการหมั้น”
เฉิงหลิงซู เธอรู้สึกดีใจที่ได้ยินข่าวดีแบบนี้ “จริงหรอ?”
ในความเป็นจริง ไม่ว่าจะเป็นบุคคลไหนก็เลือกที่จะยอมแพ้เมื่อเผชิญหน้ากับการจำคุก
เจียงซิ่วพยักหน้า “แต่ไม่ว่าอะไรก็ตาม เราก็ยังถือว่าเป็นคู่ได้อยู่เหมือนกัน...” พูดได้เช่นนั้น เขาจึงนำถุงออกมาจากใต้โต๊ะ เอาออกมาวางไว้ด้านบน “เธอต้องทำเรื่องบางอย่าง เพียงอย่างหนึ่งให้เทพคนนี้!”
เฉิงหลิงซูถามอย่างสงสัย “นี่คืออะไร?”
เธอเปิดซิปออก และก็สังเกตมัน ในกระเป๋าเต็มไปด้วยเสื้อผ้าที่เหม็นอับ เฉิงหลิงซูเกือบจะหมดสติจากกลิ่นนี้ และเธอปิดจมูกของเธออย่างรวดเร็ว เธอโวยวาย “เจียงซิ่ว นายต้องการเล่นแบบนี้กับฉันหรอ?”
“ซักผ้าของฉันสิ! เธอไม่เคยทำอะไรให้กับเทพคนนี้เลย นี่ถือได้ว่าเป็นหน้าที่สุดท้ายที่เธอจะได้รับ ในฐานะคู่หมั้นของฉัน” เจียงซิ่วกล่าว
ฟังคำพูดของเจียงซิ่ว เฉิงหลิงซูต่อต้านเล็กน้อย ถ้าคิดเกี่ยวกับมัน การหมั้นนี้เกิดขึ้นตั้งแต่วัยเด็กของพวกเรา และแม้กระทั่งความสัมพันธ์ก็กำลังจะจบลงในเร็วๆ นี้ ฉันก็ไม่เคยทำอะไรให้เขาเลย ซักผ้าให้เขาครั้งเดียวจะเป็นอะไรไป!
“ก็ได้ ฉันสัญญา”
“บริกร นำเนื้อสเต็กมาอีกชิ้นหนึ่ง ไม่ เอามันมาสอง เอาพวกมันกลับบ้าน!” เจียงซิ่วกล่าว คืนนี้ เขาต้องการที่จะปลุกสายเลือดของเขา และมันต้องใช้พลังงานเป็นจำนวนมาก ดังนั้นเขาจะรู้สึกหิวมากในเวลานั้น
เฉิงหลิงซูกลับไปที่บ้าน ตระกลูของเธอทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ดังนั้นโดยธรรมาชาติ วิลล่าที่เธออาศัยอยู่ ย่อมเป็นอันดับหนึ่งและสวยสดงดงาม มันตระงานตาตั้งแต่ภายนอก และละเอียดอ่อนที่ด้านใน
“นายหญิงสอง ผ้าพวกนี้ ให้ได้ฉันช่วยคุณ” สังเกตเห็นหลิงซูยืนเหม่ออยู่บนระเบียง คนรับใช้ ป้าหวูได้รีบวิ่งเข้าไปหา
“ไม่ ฉันจะซักเสื้อผ้าเหล่านี้แค่เวลานี้เท่านั้น” เฉิงหลิงซูกล่าวอย่างเคร่งขรึม
“นายหญิงสอง คุณไม่เคยซักเสื้อผ้ามาก่อนเลยนะ”
“ได้โปรดปล่อยให้ฉันทำมัน”
“เวลานี้มันแตกต่าง นี้จะเป็นจุดจบแล้ว และก็ยังเป็นจุดเริ่มต้นใหม่ หลังจากซักเสื้อผ้าเหล่านี้ ฉันก็จะได้แยกตัวออกมาจากเขาได้ในที่สุด” เฉิงหลิงซูตอบอย่างมีความสุข
คนรับใช้ป้าหวู ไม่สามารถทำความเข้าใจถึงสิ่งที่เฉิงหลิงซูพูดได้ ดังนั้นเธอจึงยืนกรานและถามว่า “ถ้างั้น นายหญิงสอง คุณวางแผนที่จะใช้เครื่องซักผ้า หรือซักผ้าด้วยมือของคุณเอง?”
เฉิงหลิงซูพึมพำกับตัวเองว่า “ซักมือ”
เจียงซิ่ว ดูสิว่า ฉันมีเมตตาต่อนายมากแค่ไหน
“อะไรนะ?”
หญิงที่สวยงาม ที่สวมเสื้อผ้าที่มีราคาแพงได้ยินเสียง และได้เดินเข้ามา คนรับใช้ป้าหวูอธิบายให้ฟัง “คุณนายค่ะ นายหญิงสอง ยืนกรานที่จะซักผ้าด้วยตัวเอง”
ผู้หญิงที่งดงามคนนี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากแม่บังเกิดเกล้าของเฉิงหลิงซู สานเซียวหง(Sun Xiaohong แนะนำได้เหมือนเดิม) เธอประหลาดใจมาก ลูกสาวของเธอใช้ชีวิตตามใจมาเสมอ ดังนั้นเธอจึงถามเธอเกี่ยวกับเรื่องนี้ “ซูซู หนูกำลังทำอะไรอยู่? วันนี้หนูดื้อน้อยมากแค่ไหน?”
เมื่อสายตาของเธอตกลงไปบนเสื้อผ้าสกปรกเหล่านั้น เธอตกใจมากยิ่งขึ้น เป็นเสื้อผ้าของนักเรียนชาย และยังเป็นเสื้อผ้ามือสอง ลูกสาวของฉันกำลังซักผ้าให้นักเรียนชาย? ท่าทางของเธอเปลี่ยนไป แม้แต่เธอที่เป็นแม่ของเธอเอง ก็ไม่เคยชอบกับการกระทำแบบนี้ “เสื้อผ้าพวกนี้เป็นของใคร?”
“เจียงซิ่ว”
ตาของสานเซียวหงเกือบจะทะลักออกมา “อะไรนะ?! เจียงซิ่ว? หนูแน่ใจหรอ? ทำไมหนูถึงซักเสื้อผ้าให้เขา…”
“แม่!” เฉิงหลิงซูกอดแขนแม่ของเธอไว้ “เจียงซิ่วสัญญากับฉัน ว่าเขาจะยกเลิกการหมั้นของเรา” เธอพูดอย่างมีความสุข
“อะไรนะ? หนูพูดอะไรนะ? เจียงซิ่วสัญญาว่าจะเลิกงานหมั่น?!” สานเซียวหงกล่าว “จะเป็นไปได้อย่างไร? ตระกลูเจียงที่แท้กลายเป็นโง่?”
เฉิงหลิงซูอธิบายถึงเหตุกาณ์ที่เกิดขึ้นให้สานเซียวหงฟังครั้งนึง สานเซียวหงมีความสุขมาก เธอเป็นคนที่ต่อสู้กับการแต่งงานครั้งนี้มากที่สุด ภายในบ้านหลังนี้เธอได้ทะเลาะกับเฉิงฮันหลินหลายครั้งเนื่องจากเรื่องนี้ แต่เขาก็ยืนกรานที่จะทำมันต่อไป “ดีมาก ความชั่วร้ายที่เราสร้างมานั้นสุดจะทนแล้ว เผชิญหน้ากับการจำคุก ตระกลูเจียงจะไม่สามารถยอมรับได้อย่างไร”
“เอาหล่ะ เราก็จะไม่ต้องกังวลลูกเขยที่ยากจนจากตระกลูเจียงคนนี้อีกต่อไป”
เธอเสริมทันทีว่า “แต่เรื่องนี้จริงๆ แล้วไม่สะดวกนิดหน่อย พูดไปเท่าไหร่ก็ไม่พอ หลังจากที่เจียงซิ่วเขียนคำรับปากแล้ว เราจะช่วยเขาแก้ปัญหาเรื่องการโจมตีจากชายคนนั้น”
“ถ้าเขาไม่เซ็นสัญญา พวกเราก็ไม่จำเป็นต้องทำอะไร”
เฉิงหลิงซูหัวเราะคิกๆ “เข้าใจแล้วแม่”
สานเซียวหงดึงมือลูกสาวของเธอที่เปียกไปด้วยของเหลวจากการซักผ้าออกมา “เด็กสารเลวคนนี้จำเป็นต้องสั่งสมบุญถึงแปดชั่วโครตอายุคนมา เขาถึงได้โชดดีที่เสื้อผ้าของเขาถูกชำระล้างด้วยมือลูกสาวของฉัน”
ติดตามข่าวสารได้ก่อนใครที่ เพจ INdy-Novel