บทที่ 8 ประกาศสงคราม
บทที่ 8
ประกาศสงคราม
แปลโดย : ราตรีสีทา
เกลาสำนวนโดย : ราตรีสีเทา
แก้คำผิดโดย : ราตรีสีเทา
การดูหมิ่นแวบผ่านสายตาของเฉิงหลิงซู ในอดีตที่ผ่านมา เธอเคยชื่นชมเจียงซิ่วเป็นอย่างมาก เพราะเขาเคยวิ่งเร็วมากเมื่ออายุได้ 3ขวบ เธอไม่สามารถตามเขาทันได้ แม้ว่าเธอจะไล่ตามเขาไปตลอดเวลา เธอร้องไห้ไปและก็วิ่งตามไปในช่วงเวลานั้น เธอเคยเชื่อว่าพี่ชายเจียงซิ่วเป็นคนที่น่าประทับใจมาก และไม่มีใครสามารถเอาชนะเขาได้ แต่หลังจากนั้น เธอก็ค้นพบว่าเจียงซิ่วเป็นเพียงกองโคลนในวัยเด็ก ที่ดูน่าขบขันของเธอ
นอกจากนี้ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา มันทำให้เฉิงหลิงซูรู้สึกอึดอัดใจมาก ในส่วนที่ตลกที่สุดก็คือ เขาได้สาบานว่าจะดูแลเธออย่างดี
กับอะไรที่ว่าเขาจะดูแลเธอ? เขาไม่ได้ตระหนักเลยว่าด้วยสถานการณ์ของครอบครัวเขา ทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาค่อยๆ ลอยห่างจากกันไปมากขึ้น อันที่จริงแล้วเจียงซิ่วก็มีนิสัยที่ดี เขาเงียบขรึมและรอบคอบ
หญิงสาวถอนหายใจ ภายใต้การชี้นำของเรือยักษ์ที่ชื่อว่าโชคชะตา สถานการณ์ในตระกลูของนาย รวมทั้งความสามารถที่นายมี เราสามารถกลายเป็นเพื่อนธรรมดาได้ และบางทีอาจเป็นได้แม้แต่กระทั่งคนแปลกหน้าที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน
เนื่องจากเป็นเช่นนี้ ฉันต้องทำให้เขาเข้าใจ ว่าเขาไม่มีโอกาสที่จะกลายเป็นลูกเขยของตระกลูเฉิงอีกต่อไปแล้ว เขาอาจเป็นได้แค่คนแปลกหน้าไปตลอด แล้วเขาก็จะได้ไม่มีความสุขในการใช้ทรัพยากรของตระกลูเฉิงของฉันอีกต่อไป
นี่เป็นสิ่งที่ดีสำหรับตัวเขาเอง ไม่ได้เป็นเช่นนั้นหรือ? แทนที่จะปล่อยให้เขาจมลงในความฝันที่ไม่มีวันเป็นจริง จะดีกว่าไหม ที่จะปลุกเขาขึ้นมาจากมัน และทำให้เขาเข้าใจว่าอนาคตของเขาจะเป็นไปอย่างไร
เจียงซิ่วเป็นนักเรียนประจำ ดังนั้นเขาจึงกลับไปที่หอพักหลังเลิกเรียน
ก่อนอื่นเขาเปลี่ยนชุดกีฬา Adidas ซี่รี่สำหรับเล่นกอล์ฟออก นี่เป็นเสื้อผ้าของคุณพ่อของเย่ปิง แม้ว่ามันจะดีกว่าอดีตที่เคยเป็น แต่ว่ามันก็ยังมีบางอย่างที่ทำให้ผู้ใส่รู้สึกอึดอัด
เขามองหาเสื้อผ้าที่เขาสวมใส่ประจำ ในช่วงเวลาที่เขาเรียนโรงเรียนมัธยมปลาย เหมือนกับเจียงซิ่วได้อาศัยอยู่แบบคนรุ่นหลัง เสื้อผ้าทั้งหมดของเขาเป็นของทางถนน สวมชุดปักแบบดั้งเดิม แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกว่าพวกเขามันดูไม่ดี กลับกันซะอีก เขาคิดว่าพวกมันค่อนข้างสวยเลยทีเดียว
หลังจากสวมใส่พวกมัน เขามองตัวเองที่สวมใส่พวกมันเสร็จแล้ว เอาตามตรง เสื้อผ้าหยาบโล่นนี้ถูกสร้างมาเพื่อคนงาน แม้จะเป็นผู้ที่ชื่อเสียงจากทวีปแห่งการต่อสู้นิรันดร์ ผู้นำนิกายของนิกายก้าวย่างสวรรค์ที่มีนามว่าเทพซิ่วได้สวมใส่มัน เจียงซิ่ว ในทันทีเขารู้สึกกลับมาเป็นผู้แพ้ อีกครั้ง รัศมีของ ‘ผู้แพ้’ มันหนาแน่นอย่างเห็นได้ชัดมากเลยทีเดียว
โทรศัพท์มือถือบนเตียงเริ่มดังขึ้นทันที พวกเขาไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้โทรศัพท์ในห้องเรียน แต่พวกเขาเหล่านั้นก็มีโอกาสพกไปโรงเรียนด้วย โดยปกติแล้วนักเรียนที่อาศัยอยู่ในหอพักทั้งหมด จะเก็บโทรศัพท์ไว้ในห้องพัก เพื่อไม่ให้ส่งผลต่อการศึกษา อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีหลายคนที่ละเมิดกฎ และนำโทรศัพท์เข้าห้องเรียน เจียงซิ่วมีโทรศัพท์เพียงแค่เครื่องเดียวเท่านั้น และถึงแม้ว่ามันจะเป็นของมือสอง มันก็ยังคงใช้งานได้ดีอยู่ เขาใช้มันเพื่อโทรหาที่บ้าน
“หืม? เฉิงหลิงซู!” หมายเลขผู้โทรคือ ‘ซูซู’ เจียงซิ่วรู้สึกประหลาดใจมาก ที่เธอเริ่มโทรหาเขาก่อน หลังจากขบคิดสักเล็กน้อย เขาตัดสินใจที่จะรับสาย
“ฮัลโหล?”
เสียงอันเคร่งขรึมและดูร่ำรวยของเทพซิ่วได้ถูกส่งออกไป
“เจียงซิ่ว เราต้องเจอกัน!”
เสียงอีกด้านๆนึงเป็นเสียงที่มีเสน่ห์ แต่โทนเสียงก็ออกหนาวเหน็บและเย็นชา
“ได้!” เจียงซิ่วตอบ “เทพคนนี้อยู่ในหอพัก มาสิ”
เสียงในอีกด้านหนึ่งก็เงียบลง แม้กระทั่งหลังจากนั้น เฉิงหลิงซูก็ไม่ได้พูดอะไร เธอไม่ต้องการให้นักเรียนคนอื่นรู้ว่าพวกเขารู้จักกัน และก็ไม่ต้องการให้พวกเขาพบถึงความสัมพันธ์ของพวกเขา เธอตั้งใจเรียกเจียงซิ่วมาก็เพราะว่าตั้งใจที่จะบอกเลิก แต่ก็ไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะตอบโต้เธอด้วยลักษณะเช่นนี้
ถ้าเธอนักเรียนสาวคนหนึ่ง ไปที่หอพักของชายหนุ่มเพื่อเรียกหาเจียงซิ่ว นี่มันจะไม่เป็นการประกาศให้โรงเรียนรู้หรอว่า พวกเขารู้จักกันและกัน แถมยังความสัมพันธ์ของพวกเขาก็ไม่ธรรมดาอีก?
สายตาของเจียงซิ่วยิ้มขึ้นอย่างเย็นชา เธอคิดว่าเทพคนนี้เป็นเหมือนกับเจียงซิ่วก่อนหน้านี้?
เทพคนนี้จะทำทุกอย่างที่เธอพูดและหลงรักเธอมากจนหมดใจ?
ขาดเขลาและโง่เง่า!
“มันไม่สะดวกสำหรับฉันที่จะไปที่นั่น นายออกมา”
เจียงซิ่วกล่าว “อ่าา เทพคนนี้ไม่ค่อยมีเวลา!”
ถ้าเป็นเจียงซิ่วในช่วงเวลาก่อนหน้านี้ เขาจะกระโดดสูงขึ้น 3ฟุต และจะตอบนัดหมายกับเธอ ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร แต่คราวนี้ เขาได้ปฏิเสธยืนกรานอย่างหนักแน่น
เจียงซิ่วก็ไม่ได้มีเวลามากจริงๆ เขาต้องการที่จะบ่มเพาะ ในตอนนี้เขามีพลังภายในอยู่เล็กน้อยภายในร่างกายของเขา เขาต้องการจะเดินบนเส้นทางการบ่มเพาะเพื่อความอมตะอีกครั้ง โลกภายนอกไม่ได้พลังจิตวิญญาณมากนัก ดังนั้นเขาจึงสามารถบังคับมันออกมาจากภายในเส้นเลือดได้แต่เพียงแค่นั้น
เขาต้องการที่จะปลุกสายเลือดให้ตื่นขึ้น!
สายอีกด้านนึงเงียบไปหลังจากที่คุยกันอีกครั้ง
ปัจจุบันเฉิงหลิงซูได้มาถึงพันขนนกและความหวังเรียบร้อยแล้ว เธอไม่เคยคิดว่าเจียงซิ่วจะปฏิเสธเธอ ได้อย่างหนักแน่นเกินไป ตั้งแต่การเริ่มต้นของการโทร เธอรู้สึกว่าเขาค่อนข้างเย็นชา เมื่อไหร่ก็ตามที่เธอได้ริเริ่มที่จะโทรหาเขา เธอจะรู้สึกเบื่อหน่ายกับความหลงใหลของเขาที่มีต่อตัวเธอเอง แต่วันนี้เหมือนจะแตกต่างออกไป
“ฉันจะไม่กวนเวลาของนายมากหรอก แค่5นาทีเอง”
ขณะที่เธอกล่าว เฉิงหลิงซูก็รู้สึกแปลกๆ ทำไมคำพูดของฉัน... และเสียงเองก็ดูเหมือนฉันกำลังอ้อนว้อนเขา? ฉันกำลังเป็นประสาท?
“เธอสามารถปรุงอาหารได้หรือไม่?” เจียงซิ่วถาม
ทำไมเขาถึงพูดถึงเรื่องนี้?
ในฐานะหญิงสาวที่ยิ่งใหญ่ของตระกลูเฉิง เธอมีคนรับใช้มากมายที่บ้าน และมีโรงแรมระดับไฮเอนด์มากมายอยู่ข้างนอก ดังนั้นเวลาที่ฉันใช้ในการเรียนรู้เพื่อทำอาหารจะไปอยู่ไหนหล่ะ? “ไม่!” เธอตอบออกมาทันที
“งั้นเธอไม่สามารถทำอาหารได้ แล้วเธอสามารถซักผ้าได้ไหม?” เจียงซิ่วถามอีกครั้ง
มีคนรับใช้ที่บ้านและซักแห้งที่ด้านนอก ย้อนกลับไป หญิงสาวเฉิงไม่เคยใส่เสื้อผ้าเกินสามครั้งหลังจากสวมใส่พวกมันไปสองครั้ง พวกมันเหมือนจะกลายเป็นประวัติศาสตร์
อืมมม มีบางอย่างผิดปกติ!
หญิงสาวเฉิงที่ดูน่ารักสารมารถเข้าใจได้ และตระหนักได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น ทุกคำถามที่เจียงซิ่วถามคือสิ่งที่เธอทำได้ไม่ค่อยดี เธอไม่สามารถทำอาหารหรือซักผ้าได้ นี่เป็นสิ่งที่ผู้หญิงไม่ชอบมากที่สุด และก็จะไม่พูดถึง เธอรู้สึกราวกับว่าเธอกำลังถูกละเลย และแม้กระทั่งก้มมองลงต่ำเพื่อเธอจะได้ตอบสนองได้ทันที “ฉันทำได้ตั้งแต่เกิดแหละ ทำไมนายถึงถามเรื่องนี้?”
เจียงซิ่วสังเกตกางเกงในที่ไม่เคยซักอยู่บนเตียง และเขาก็กล่าว “เอาหล่ะ ตอนนี้เราจะไปที่ไหน?”
“พันขนนกและความหวัง ถนนเบ๋ยถัง”
“เทพคนนี้จะไปถึงในไม่ช้า!”
ตั้งแต่คนรับใช้ได้เสนอตัวเอง มันก็ไม่จำเป็นที่จะให้เขารำคาญอะไรกับมัน
ที่พันขนนกและความหวัง เฉิงหลิงซูนั่งอยู่เงียบๆ กับถ้วยกาฟที่อยู่ข้างหน้าเธอ เธอจิบในปริมาณเล็กน้อย ชื่อเสียงตัวเธอในโรงเรียนมัธยมมีค่อนข้างมาก และหลายคนก็รู้จักเธอ ดังนั้น เธอจึงต้องนัดเขา ที่ถนนเบ๋ยถัง ซึ่งห่างจากโรงเรียนไป20นาทีโดยใช้เส้นทางรถประจำทางวัด มันก็เพื่อหลีกเลี่ยงการพบเจอกับนักเรียนคนอื่น หรือคนอื่นที่อาจรู้จักเธอ
แม้ว่าเขาจะจากไปมากกว่า3000ปีก็ตาม แต่นี่ก็คือบ้านเกิดของเจียงซิ่ว เขาอาศัยอยู่ที่นี่ โดยธรรมชาติมันเป็นไปไม่ได้ที่เทพคนนี้จะหลงทาง ภายใน 20นาที เขาก็มาถึงทางเข้าของพันขนนกและความหวัง
หญิงสาวได้รับทราบทันทีเมื่อเขามาถึง เธอโบกมือของเธอ มือสีขาวลิลลี่ถูกโบกไปที่เขา “ตรงนี้!”
เจียงซิ่วพยักหน้าเล็กน้อย เขาสงบอย่างสมบรูณ์
เขาไม่โกรธอีกต่อไป และก็ไม่ได้ปิดบังความรู้สึกที่หนักใจไว้ด้วยเหมือนกัน
“นายมา!”
เจียงซิ่วนั่งอยู่ตรงหน้าเธอทันทีด้วยท่าทางที่สูงส่ง “ตั้งแต่เทพคนนี้ได้พูดคำของเขาออกไป เขาก็จะมาอย่างแน่นอน” โดยผ่อนคลาย เขาวางถุงไว้ใต้โต๊ะอาหาร
เฉิงหลิงซูยิ้มเล็กน้อย
“นายต้องการกินอะไรไหม?”
เจียงซิ่วกล่าว “แขกจะต้องปฏิบัติตามความประสงค์ของเจ้าภาพ ตั้งแต่เธอขอให้ฉันมาในวันนี้ เธอก็คงต้องมีเรื่องสำคัญที่ควรพูดถึง?”
เฉิงหลิงซูคิดว่าวิธีพูดของเขาเป็นเรื่องไร้สาระ และมันดูน่าขบขันอย่างแท้จริง แม้แต่กระทั่งใช้ภาษาโบราณ? นายทำแบบนี้เพื่อดึงดูดความสนใจของฉัน เพราะอยากจะให้ฉันรู้สึกถึงพฤติกรรมของนายที่เปลี่ยนไปใช่หรือไม่? นายไร้เดียงสาเกินไป
“นายสั่ง”
เฉิงหลิงซูมอบเมนูให้เขา นี่เป็นร้านสเต็ก และไม่สามารถเปรียบเทียบกับสเต็กที่ขายในร้านค้าริมถนนได้ และมันก็ไม่ใช่ราคาที่เล็กน้อยเหมือนพวกนั้น สถานที่แห่งนี้เป็นหนึ่งในร้านอาหารระดับสูงที่สุดในเมือง และพ่อครัวทั้งหลายก็คือชาวฝรั่งเศส
ราคาของเนื้อสเต็กในเมนูคือ 1888 หยวน!
เฉิงหลิงซู รู้ว่าค่าใช้จ่ายที่เจียงซิ่วได้ในทุกๆ เดือน ได้เพียงแค่300หยวนเท่านั้น กล่าวอีกนัยหนึ่ง ถ้าเขาไม่ได้กินหรือดื่มครึ่งปี เขาก็สามารถที่จะกินสเต็กชิ้นนี้ได้ เธอแม้แต่เพิ่มคำพูดบางอย่างลงไป “อย่ากังวลเรื่องเงิน ฉันจะจ่ายมันเอง!”
มันเป็นการเปลือยกายอย่างไม่ปกปิด มันคือการสบประมาท!
ใบหน้าของเจียงซิ่วปราศจากความรู้สึก “เอาหล่ะ เลือกได้แล้ว ฉันจะสั่งอาหารชุด A”
เฉิงหลิงซูได้พูดคุยกับพนักงานเสิร์ฟด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนและสุภาพ “เนื้อเซ็ตAหนึ่งเซ็ต และเซ็ตBอีกหนึ่ง ขอบคุณค่ะ!”
“โอเคครับ โปรดรอสักครู่”
“เธอไม่ได้โทรหาฉันในวันนี้ เพียงแค่ทานอาหารค่ำ ใช่ไหม?” เจียงซิ่วพูด
ในระยะเวลาก่อนหน้า มันก็มีความหรูหราพร้อมกับหญิงสาวที่อยู่ตรงข้ามกับเขา
“ฉันได้ยินมาว่านายมีปัญหาที่โรงเรียนในวันนี้ และทำให้ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการนักเรียนหวังได้รับบาดเจ็บหนัก”
จริงๆแล้ว เธอได้ให้ใครบางคนไปดูอาการบาดเจ็บของผู้อำนวยการหวัง
เชาเย็บ12เข็มบนหัวของเขา และถูกกระทบกระเทือนที่สมองอย่างรุนแรง และยังมีซี่โครงหักแล้วเขาก็ยังมีรอยช้ำหลายรอยทั่วตัวของเขา นี่เป็นการกระทำที่ทำก่อเกิดความผิดทางอาญาไปแล้ว
“ใช่!” เจียงซิ่วยอมรับ
เฉิงหลิงซูย่นคิ้วของเธอ “นายคิดถึงผลที่ตามมาในตอนนั้นหรือเปล่า?
“โรงเรียนจะไม่เพียงแต่จะขับไล่นายออก แต่นายต้องเผชิญกับการจำคุก ตัดสินแล้วน่าจะ3-5ปีเลยนะ”
เจียงซิ่วเงียบลงเหมือนเมื่อสมัยก่อน
“แผนของนายคืออะไร?” เห็นพฤติกรรมของเจียงซิ่วซึ่งดูเหมือนจะบอกว่าเขาไม่ได้ให้ความสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ เฉิงหลิงซูรู้สึกโกรธมาก ใครที่ทำให้นายกล้าแสดงท่าทีปราศจากกังวลนี้? มันคงไม่ใช่ตระกลูเฉิงใช่ไหม
“เจียงซิ่ว นายไม่ได้เป็นแบบนี้ในช่วงวัยเด็กของนาย...” เฉิงหลิงซูอยากจะพูดออกไปถึงหนึ่งในจุดดีก่อนหน้านี้ของเขา แต่น่าเสียดาย โปรดยกโทษให้ความไร้ความสามารถของหญิงสาวเฉิงคนนี้ เธอไม่สามารถหามันได้แม้แต่อย่างเดียวเลยจริงๆ หลังจากนั้นเธอก็ไม่สามารถพูดได้อะไรออกมาได้อีก ‘นายเคยวิ่งได้เร็วกว่าฉันในช่วงวัยเด็ก’
“นี้เป็นครั้งสุดท้ายที่ตระกลูเฉิงจะช่วยนาย จากนี้ไป ตระกลูของเราจะมีวิถีทางที่แตกต่างกัน”
“ขอยุติความสัมพันธ์ระหว่างเราเถอะนะ!”
“ล้มเลิกการหมั้น!”
ติดตามข่าวสารได้ก่อนใครที่ เพจ INdy-Novel