ตอนที่แล้วบทที่ 6 โทสะของเจียงซิ่ว ทำตัวเหมือนไอ้ชั่วหัวร้อน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 8 ประกาศสงคราม

บทที่ 7 เส้นสายอันน่าเกรงขามที่ทำให้ทุกคนหวาดกลัว


บทที่ 7

เส้นสายอันน่าเกรงขามที่ทำให้ทุกคนหวาดกลัว

 

แปลโดย : ราตรีสีทา

เกลาสำนวนโดย : ราตรีสีเทา

แก้คำผิดโดย : ราตรีสีเทา

 

หลังจากที่หวังซือบิ๋นล้มลงไปที่พื้น เจียงซิ่วก็จับไปที่หัวของเขา แต่เขาก็ยังคงโอ้อวอำนาจของตัวเองในฐานะผู้อำนวยการฝ่ายกิจการนักเรียนอยู่ เขาสาปแช่งมา “แกไอเด็กเหลือขอสารเลว แกกล้าตีฉัน...”

 

จิตใจของเขาได้มาถึงลิมิตของมันแล้ว เด็กสารเลว แกต้องตาย แกกล้าตีฉัน!!

 

ก่อนที่เขาจะได้มีโอกาสทำสำเร็จ เจียงซิ่วก็เตะเขาอีกครั้ง

 

“ฉันก็แค่กำลังตีไอ้ลูกไม่มีพ่อแค่นั้น!”

 

“อ๊าาาาา... แกจะฆ่าฉัน...” หวังซือบิ๋นกรีดร้องออกมา

 

ฉากที่เจียงซิ่วกำลังตีผู้อำนวยการหวัง ตบเขาและแม้กระทั่งเตะเขา เป็นอะไรที่ระทึกขวัญมาก กระทั่งนักเรียนก็ยังไม่กล้ามอง

 

ถึงแม้นักเรียนที่อยู่ที่นี่จะยังตกตะลึงกันอยู่ แต่ความปรารถนาในใจจริงๆของพวกเขา ก็ยังต้องการให้เจียงซิ่วเตะเขาต่ออีกสักสองถึงสามครั้ง เห็นได้ชัดว่า ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการนักเรียน ไม่ได้เป็นที่ชื่นชอบ

 

แต่ เทพซิ่วได้สร้างเรื่องราวที่ใหญ่โตแล้ว แม้แต่กระทั่งทุบตีผู้อำนวยการฝ่ายกิจการนักเรียน บางทีเขาอาจจะถูกไล่ออก อย่างน้อยที่สุดเขาอาจเพียงแค่ถูกหักคะแนน

 

“เฮ้อ เจียงซิ่วโชคไม่ดีเลย”

 

“ฉันได้ยินมาว่าสถานการณ์ทางบ้านของเขาไม่ค่อยดี ถ้าเขาถูกไล่ออกจากโรงเรียน ฉันเดาว่าเขาคงจะกลายเป็น นีท”

 

“คนประเภทนี้ แม้ว่าเขาจะเข้าเรียนในวิทยาลัย ฉันเดาว่าก็เขาคงจะยังเหมือนเดิม?”

 

การดูถูกต่อเจียงซิ่วเป็นสิ่งที่เห็นได้ชัดจากคำพูดของพวกเขา แม้ว่าเขาจะตอบคำถามที่แก้ปัญหาได้ยากถึง12ข้อในวันนี้ แต่เขาก็ยังคงมีความกล้าที่จะฉีกกระดาษทดสอบ และทุบตีผู้อำนวยการฝ่ายกิจการนักเรียนด้วยเหมือนกัน ในสายตาของนักเรียนเหล่านี้ เขายังคงเหมือนก่อนหน้านี้ ไม่ใช่ใครอื่น นอกซะจากไอ้บ้านวิ่งขายผลไม้

 

ยุคนี้ให้ความสนใจเป็นพิเศษกับภูหลังที่เกี่ยวกับเงิน และมีเพียงหนึ่งผลลัพที่รออยู่สำหรับเยาวชนที่โยนสายคล้องมือแห่งโชตชะตาของตัวเองทิ้งไป - นั่นคือการลงโทษ

 

นักเรียนในชั้นเรียนที่มาจากครอบครัวชั้นสูง และมีภูมิหลังอันสูงส่ง เมื่อใดก็ตามที่พวกเขาเผชิญหน้ากับเจียงซิ่ว พวกเขาก็จะหลีกเลี่ยงด้วยความรู้สึกที่เหนือกว่า และก้มมองต่ำลงไปเพื่อที่จะมองไปยังเขาได้ ไม่ว่าเขาจะทำอะไร ในมุมมองของพวกเขา มันจะไม่เปลี่ยนอัตลักษณ์ของคนชั้นต่ำ

 

“ละ เลือด...” หวังซือบิ๋นสัมผัสที่หัวของเขา เลือดไหลเหมือนน้ำพุ ครอบคลุมทุกส่วนบนใบหน้าของเขา ด้วยลักษณะเช่นนี้ มันน่าสังเวชอย่างมาก ในที่สุดเขาก็รู้สึกกลัว คนๆ นี้เหี้ยมโหดเกินไป เขาร้องขอทันที “ได้โปรดไว้ชีวิตฉันด้วย... นักเรียน ได้โปรด อ๊าาา...”

 

ความโกรธของเจียงซิ่วได้หมดลงไปในที่สุด โชคดีที่เจ้าลูกไม่มีพ่อคนนี้ อยู่ภายใต้การปกครองกฏหมายของเมืองเจียง ถ้าอยู่ในทวีปการต่อสู้นิรันดร์ เจียงซิ่วจะฆ่าเขาโดยไม่แม้แต่กระพริบตา

 

“หุนหันเกินไปแล้ว เขาจะไม่สามารถจะจัดการกับผลกระทบของเรื่องนี้ได้”

 

“ฉันได้ยินมาขี้เหนียวหวังมีเบื้องหลังสนับสนุนอยู่เล็กน้อย บางที เจียงซิ่วอาจจะถูกคุมขัง”

 

ได้ยินเรื่องนั้น นักเรียนหญิงสองสามคนมองเขาด้วยความเห็นอกเห็นใจ

 

“เรื่องนั้นคงจะไม่เกิดขึ้น ใช่ไหม?”

 

“ทำไมมันถึงจะไม่ละ? เขามีเลือดไหลออกมา ดังนั้นแล้วนี้จึงถูกจัดเป็นความผิดทางอาญา”

 

หวังซือบิ๋งมองไปที่เจียงซิ่วด้วยความกลัวและความโกรธ “แกกำลังก่ออาชญากรรม แกจะถูกคุมขัง!”

 

“คุมขัง?”

 

เจียงซิ่วหัวเราะโดยความโกรธ คว้าไปที่ผมของหวังซือบิ๋ง เขากระซิบไปที่ข้างหูของเขา “หลานชาย แม้ว่าคนอื่นๆ จะไม่ทราบสิ่งที่แกได้กระทำ แต่เทพคนนี้เห็นแกลวนลามไบ๋หลั่ว(Bai Ruo )ในห้องเรียนนะ”

 

บูมม!

 

ความคิดของหวังซือบิ๋งแตกกระจาย ดวงตาขนาดเท่าถั่วของเขาเบิกกว้างออกมาเต็มที่ เหมือนมันจะหลุดออกมา

 

เจียงซิ่วยังคงจำวันนั้นได้ ท้องฟ้าแทบจะกลายเป็นมืดมิด และเขาก็ได้ไปที่โรงเรียน เขาลืมสัมภาระไว้ในห้องเรียน ดังนั้นเขาจึงต้องกลับไปหาพวกมัน แต่เขาก็ได้เห็นฉากที่เขาจะไม่มีวันลืมไปตลอดชั่วชีวิตของเขา หวังซือบิ๋ง ตัววายร้ายระย่ำนี้ รู้สึกเหมือนจะมองนักเรียนหญิงเป็นเพียงแกะที่ไร้อำนาจ แม้ว่าเขาจะไม่สามารถมองเห็นใบหน้าของหวังซือบิ๋งได้ ในเมื่อมันได้หันหลังให้กับเขา แต่เขาก็ยังสามารถมองเห็นใบหน้าของหญิงสาวคนนั้นได้อยู่ดี

 

เขาไม่เคยลืมมันเลย เด็กผู้หญิงคนนั้นขอความช่วยเหลือจากเขา ผ่านสายตาของเธอ ด้วยความลังเล ความไร้อำนาจ และมากไปกว่านั้นก็คือความกลัวการอัปยศ คนขี้กลัวเจียงซิ่วได้เลือกที่จะหลบหนีในเวลานั้น และไม่กล้าพูดถึงเรื่องนี้กับใครคนอื่นอีก

 

เจียงซิ่วกล่าว “เอาหล่ะ ขอโทรเรียกตำรวจ ขอให้พวกเขาจัดการเรื่องนี้เลยทันที”

 

“ไม่!”

 

วิญญาณของหวังซือบิ๋งเกือบจะโบยบินออกไป หากเรื่องนี้ถูกเปิดเผย อาชีพของเขา ชื่อเสียงของเขา ทุกอย่างที่เขามีจะหายไป เขาอาจจะต้องเผชิญหน้ากับการจำคุก

 

“อย่าเรียกตำรวจ!”

 

ปัง! หวังซือบิ๋งคุกเข่าลงแทบเท้าของเจียงซิ่ว

 

“ได้โปรดอย่าเรียกตำรวจ”

 

“ฉันจะเชื่อฟังทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอพูด แค่อย่าโทรหาตำรวจ ฉันขอร้อง...”

 

นักเรียนรอบข้างทุกคนกลายเป็นมึนงง สถานการณ์นี้คืออะไร? คนที่ทุบตีคนอื่นต้องการที่จะโทรเรียกตำรวจ ขณะคนที่ได้รับการทุบตี กลับไม่ต้องการให้โทรเรียกตำรวจ? ของแบบนี้มันเกิดขึ้นบนโลกได้จริงๆ? ขี้เหนียวหวัง เสียการควบคุมความคิดของตัวเองเนื่องจากได้รับการทุบตีจากเจียงซิ่วเยอะเกินไปใช่หรือไม่? เขากลายเป็นแบบนั้น และเขาไม่ได้โทษเจียงซิ่วเลย แม้กระทั่งบอกว่าเขาจะปฏิบัติตามคำสั่งที่เจียงซิ่วพูด

 

บางที...

 

เฉียนเซาจุ๋น(Qian Xiaojun) ผู้ที่อยู่ข้างๆ ผู้คุมชั้นเรียน เขาพูดอย่างแผ่วเบา “ผู้คุม เรื่องนี้แปลกเกินไป เจียงซิ่วคนนี้ไม่ใช่ว่าเป็นเสือปลอมตัวเป็นหมู ใช่ไหม? บางทีเขาอาจจะเป็นเจ้าชายที่มาจากครอบครัวที่มั่งคั่ง”

 

คำพูดเหล่านี้ทำให้เขาตะลึงงัน

 

หลิวยุ่ยหยางหันกลับไปมอง เขาคิดว่าคำพูดของเฉียนเซาจุ๋น มีความหมายจริง ในตอนนั้น เจียงซิ่วพูดอะไรบางอย่างที่หูของขี้เหนียวหวัง และมันก็ทำให้เขากลัวมากจนดวงตาของเขาแทบทะลักออกมา แน่นอนว่าเขาต้องเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขา

 

โดยปกติแล้วเขาจะใส่สินค้าข้างถนน แต่ในวันนี้ เขาสวมชุดกีฬา Adidas รุ่นลิมิเต็ดมา และยังเป็นซี่รี่สำหรับเล่นกอล์ฟอีกด้วย ชุดนี้มีค่าใช้จ่ายหลายพัน

 

ไม่มีใครค้นพบมัน

 

นายน้อยซิ่ว คุณเก่งจริงๆ คุณปกปิดตัวตนของคุณไว้ได้อย่างลึกซึ้ง!

 

“มันอาจเป็นไปได้ มองไปที่ขี้เหนียวหวัง ว่าเขากลัวมากแค่ไหน แม้กระทั่งบอกว่าเขาจะฟังคำสั่งทั้งหมดของเขา ฉันกลัวว่าเขาจะไม่เพียงแต่รวยเท่านั้น แต่ภูมิหลังของเขาเองก็อาจจะลึกซึ้ง”

 

ภายในโรงเรียนได้รับข่าวใหม่ อาจารย์ใหญ่ฉินหลิน(Qin Lin) ผู้ที่อายุ50ในปีนี้ รีบเดินเข้ามาพร้อมกับยามรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่งเพียงไม่กี่คน เห็นได้ชัดว่าหวังซือบิ๋นถูกทุบตีจนสาหัสจากนักเรียน และที่มากไปกว่านั้นคือเขากำลังคุกเช่าขอร้อง อาจารย์ใหญ่ฉินหลินระเบิดความโกรธ “กะ แก... แกไม่เหมาะสมที่จะเป็นนักเรียน! ดูสิว่าแกทำอะไรลงไป กับผู้อำนวยการฝ่ายกิจการนักเรียน”

 

หวังซือบิ๋นในทันทีรีบวิ่งเข้าไปพูด “ไม่ ไม่ อาจารย์ใหญ่ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับนักเรียนเจียงซิ่ว มันเป็นฉันที่ลื่นล้ม ฉันไม่ระวังเอง และได้ล้มลง”

 

เวรเอ้ย เกิดอะไรขึ้นกับความเคารพต่อตัวของคุณเอง?

 

ทำไมคุณถึงพูดโกหกแบบนี้? คนบางคนจะสามารถเลือดออกเพียงแค่ล้มได้อย่างไร?

 

นักเรียนทุกคนเริ่มสงสัยในตัวเองอย่างแท้จริง

 

ผู้คุมชั้นเรียนและเฉียนเซาจุ๋นเหลือบมองกันและกัน ยืนยันความคิดของพวกเขาด้วยตา จริงๆแล้ว มันเป็นไปตามที่พวกเขาได้คาดไว้ เมื่อมองดูว่าขี้เหนียวหวังนั้นกลัวมากแค่ไหน

 

อาจารย์ใหญ่นั้นไม่ง่ายที่จะหลอก “อะไร? คุณจะปล่อยให้มันจบลงแบบนี้ได้อย่างไร? หัวของคุณมีเลือดออก และมีแม้กระทั่งรอยรองเท้าที่ถูกประทับไว้บนตัวคุณ”

 

“ซือบิ๋น ไม่ต้องกลัว ฉันจะอยู่ที่นั้นเพื่อคุณ โรงเรียนนี้จะอยู่เบื้องหลังคุณ และแม้แต่กระทั้งรัฐบาลก็เช่นกัน!”

 

หวังซือบิ๋นทำได้เพียงแต่เหยียดรอยยิ้มที่น่าเกลียดออกมาเท่านั้น “ฮ่าฮ่า มันไม่มีอะไร ไม่มีอะไร ฉันเพียงแลกเปลี่ยนข้อมูลกับเจียงซิ่วเท่านั้น และนั่นคือทั้งหมด แต่ฉันก็ไม่ได้คาดหวังว่า ฉันจะล้มลง มันเป็นเพราะฉันไม่ได้เคลื่อนไหวร่างกายมากซักเท่าไหร่ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมานี้ เจียงซิ่วช่วยฉันยืนขึ้น และบังเอิญก้าวมาโดนตัวฉัน มันเป็นการเข้าใจผิดอย่างมหาศาล ใช่มั้ย?”

 

นักเรียนทุกคนเริ่มสงสัยเกี่ยวกับชีวิตของตนเองอย่างแท้จริงเป็นครั้งที่ 2

 

เรื่องการประทับรอยเท้าจากเจียงซิ่วที่ตัวเขา มันไม่เกิดขึ้นจริงหรือ?

 

“นักเรียนเจียงซิ่ว คุณทำได้ดีทีเดียว สภาพร่างกายของคุณดูดีทีเดียว!”

 

คนที่กล่าวสิ่งนี้ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นคนที่เป็นเหยื่อของการถูกทุบตี เขาได้ยกย่องว่าสภาพร่างกายของคู่ต่อสู้เป็นอะไรที่น่าเลื่อมใส่

 

“นักเรียนทุกคนต้องเรียนรู้จากนักเรียนเจียงซิ่ว ความกดดันที่คุณเผชิญในมัธยมปลายปี3 หนักกว่าที่คุณเผชิญในวิทยาลัย และนั่นคือสาเหตุที่คุณควรจะทำให้ร่างกายของคุณผ่อนคลายและสงบ คุณจะต้องเตรียมตัวรับมือกับแรงกดดันการค้นคว้าก่อนที่จะเข้าห้องสอบ”

 

นักเรียนทุกคนเริ่มสงสัยเกี่ยวกับชีวิตของตนเองอย่างแท้จริงเป็นครั้งที่ 3

 

วิญญาณของพวกเขาเกือบจะลอยขึ้นสู่สวรรค์

 

ที่มุมใกล้หน้าต่าง เด็กนักเรียนหญิงธรรมดาๆ คนหนึ่ง ได้ลดศีรษะลง เธอสวมแว่นตาบนใบหน้าของเธอ ตอนนี้ เธอนำมือปกปิดใบหน้าของเธอไว้ครึ่งหน้า และมืออีกข้างของเธอได้กำปากกาลูกลื่นเอาไว้ ขณะเดียวกัน มือและไหล่ของเธอก็กำลังสั่นสะท้าน

 

เธอไม่กล้ายกศีรษะขึ้น และไม่กล้ามองใคร

 

แต่เธอก็รู้ว่าปีศาจนั้นได้ถูกทุบตีโดยเจียงซิ่ว ครั้งหนึ่งเธอเกลียดเจียงซิ่วมาก เกลียดที่เขาไม่สามารถช่วยเธอได้ แต่ตอนนี้ เจียงซิ่วได้มอบความพ่ายแพ้ให้กับปีศาจนั้น ปีศาจนั้น... แต่เดิมก็ไม่ได้ดูน่ากลัว

 

ในที่สุด หลังจากเกิดสงครามจิตในเวลาไม่กี่นาที เธอเงยหน้าขึ้นเพื่อมองไปที่เจียงซิ่ว ด้วยความสุขในสายตาของเธอ นี่คือสายตาที่เต็มไปด้วยความชื่นชม

 

เจียงซิ่วไม่สนใจว่าเธออยากจะขอบคุณเขาหรือไม่ เขาเพียงแต่แค่อยากจะชดใช้ความบาปของเขาเท่านั้น

 

ดูท่าทางโล่งใจของเธอ เจียงซิ่วรู้ว่าเธอจะไม่เหมือนกับตัวเธอในช่วงเส้นเวลาก่อนหน้า ทิ้งบันทึกไว้ และฆ่าตัวตาย ตัดหนทางในการใช้ชีวิตต่อไปข้างหน้า

 

“เอาหล่ะ ทุกคน มันเป็นช่วงเวลาของนักเรียน!”

 

อาจารย์ใหญ่ฉินหลิงจะเชื่อในคำพูดของหวังซือบิ๋งได้อย่างไร? เขาได้ถูกทำร้ายอย่างรุนแรง แต่เนื่องจากตัวเขาเองที่เป็นเหยื่อเขาจึงต้องตัดสินใจเอง ฉินหลินยังไม่สามารถทำอะไรได้ สังเกตเลือดที่ไหลผ่านหน้าของหวังซือบิ๋ง เขาพูด “อันดับแรก ก่อนอื่น เราต้องไปโรงพยาบาลเพื่อรับการรักษา”

 

เรื่องเช่นนี้ได้เกิดขึ้น ทั่วทั้งเขตโรงเรียนกลายเป็นเหมือนกับพายุ

 

ภายในชั้นเรียนอื่น เด็กนักเรียนคนหนึ่งกำลังคุยกับเย่เหวินเฉิน “นายเคยได้ยินไหม? ที่ขี้เหนียวหวังถูกทุบตีโดยนักเรียนที่เรียกว่าเจียงซิ่ว ในคลาสเรียนเบอร์5 และอาการการบาดเจ็บเขาก็รุนแรงมาก”

 

“หัวของเขามีเลือดออก!”

 

“มีนักเรียนคนนี้อยู่จริงๆใช่มั้ย? เจียงซิ่วมีพื้นหลังเป็นยังไงบ้าง?” เย่เหวินเฉินเป็นผู้มีอิทธิพล เขาจะให้ความสำคัญกับนักเรียนขี้แพ้ ตัวเล็กจ้อยได้อย่างไร?

 

สำหรับเฉิงหลิงซูผู้นั่งข้างเขา แม้เธอจะมีรูปลักษณ์ที่สงบและสำรวม บนใบหน้าของเธอ แต่จิตใจของเธอตกใจมาก ผู้ชายคนนั้นกล้าที่จะตีหวังซือบิ๋นหรือ? เขาได้ความกล้าที่จะทำแบบนั้นมาได้ยังไง? แม้ว่าจะเป็นวิธีการดึงดูดความสนใจจากผู้คนได้ดี แต่นี่คืออะไร ความองอาจของคนโง่เขลา แน่นอนนายจะไม่สามารถจัดการกับผลที่ตามมาได้ เมื่อเวลามาถึง นายจะทำให้พ่อของนาย ต้องไปที่ตระกลูของฉันเพื่อขอความช่วยเหลือ

 

เธอตัดสินใจว่าจะไปเยี่ยมเจียงซิ่วเพียงอีกแค่ครั้งเดียวเท่านั้น นายคิดว่าทรัพยากรของตระกลูเฉิงเป็นของตัวเองหรือไม่?

 

 

 

 

ติดตามข่าวสารได้ก่อนใครที่ เพจ INdy-Novel

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด