บทที่ 4 อดีต
บทที่ 4
อดีต
แปลโดย : ราตรีสีทา
เกลาสำนวนโดย : ราตรีสีเทา
แก้คำผิดโดย : ราตรีสีเทา
เจียงซิ่วยังคงจำสถานที่แห่งนี้ได้ มันเป็นเขตวิลล่าในพื้นที่ราบลุ่ม และถนนกวางขาวก็อยู่ใกล้ๆที่ราบนี้เช่นกัน ในความทรงจำของเขา ราคาของบ้านในบริเวณนื้ แพงมหาศาลมากในเวลาต่อจากนี้ มันเป็นเรื่องยากที่จะซื้อบ้านบริเวณนี้ เว้นแต่พวกเขาจะมีเงินมากกว่า10ล้านหยวนขึ้นไป และถ้าตำแหน่งถูกหลัก เชื่อมต่อกับสายน้ำในพื้นที่ราบลุ่ม เช่นเดียวกับบ้านของเย่ปิง ราคาของมันจะมากถึง20ล้านหยวนเลยทีเดียว
อาาา... เย่ปิงจริงๆ แล้วเธอช่างเป็นผู้หญิงที่สมบรูณ์แบบโดยแท้จริง
แต่ถ้าเขาไม่ได้จำผิด ชีวิตในภายหลังของเย่ปิงไม่ได้ราบลื่น และแม้แต่กระทั่งต้องได้รับความสงสาร ภายใต้การควบคุมของพ่อแม่เธอ เธอจะถูกบังคับเลิกกับแฟนหนุ่มในมหาวิทยาลัย และในที่สุดเธอก็ได้แต่งงานกับผู้มีอิทธิพลรุ่น2 เป็นนักธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ในเมืองหลวง แต่เป็นที่แน่นอน ว่าสิ่งดีๆนั้นไม่ได้คงอยู่ตลอดไป นักธุรกิจได้ทอดทิ้งเธอ เจียงซิ่วได้ยินมาว่า ต่อมาเธอได้ฆ่าตัวตาย เป็นเหตุทำให้ตัวเธอได้หายจากโลกนี้ตลอดไป ขณะที่เธออายุได้เพียง27ปีเท่านั้น
เมื่อเห็นว่าเจียงซิ่วยังเดินไปได้ไม่ไกล หลิวเซียวหยิ่นดันเย่ปิง
“ปิงปิง นั้นแฟนของเธอ...”
ก่อนที่เธอจะพูดจบ เย่ปิงก็ได้วิ่งไปข้างหน้าเพื่อไปหาเขาเรียบร้อยแล้ว
“ให้ตายเถอะ ความรักแบบนี้ไม่ใช่ว่ามันร้อนแรงเกินไปหรอ”
“อ๊า... เธอหายพยศแล้วจริงๆ!”
หลิวเซียวหยิ่นไม่สามารถทำความเข้าใจได้ อะไรที่เจียงซิ่วทำ เพื่อให้เย่ปิงเป็นบ้าได้เพราะเขา? แต่สิ่งเดียวที่เธอไม่เห็นคือการแสดงออกที่เต็มไปด้วยความโกรธของเย่ปิง เธอหวังไว้ว่าจะกัดเขาจนกว่าจะตาย
“เจียงซิ่ว!”
มันไม่ผิดที่จะพูดว่าความสวยงามอันยิ่งใหญ่เย่ปิง และความบริสุทธิ์ไร้เดียงสาของเธอนั้น ได้ถูกทำลายลงด้วยมือของเจียงซิ่ว มันเป็นไปไม่ได้ที่จะอธิบายเรื่องแบบนี้ ถูกจับได้.. ที่บนเตียง นอกจากนี้ทางออกสำหรับคำพูดเธอคืออะไร? แม้จะมีบางคนที่พูดว่าโคลนสีเหลืองอยู่ในกางเกงในของเขา เรื่องนี้มันก็จะถูกมองว่าบ้า แม้จริงๆ แล้วเขาจะไม่ได้บ้าก็ตาม (เหมือนประมาณว่ายิ่งพูดความจริงก็จะยิ่งดูผิด แม้จริงๆมันก็จะไม่ได้เป็นแบบนั้นก็ตาม)
“มีเรื่องอะไร?”
ความสูงของเย่ปิงอยู่ที่ประมาณ160-170 เซ็นติเมตร เธอสวมชุดกี่เพ้าสีขาวและมันก็ถูกประดับลวดลายของดอกไม้ที่สวยงาม รองเท้าผ้าใบของเธอ มีสีขาวลายฟ้าสลับกันไปมา ดูโดยรวม ด้วยใบหน้าที่ประณีตและอ่อนเยาว์ของเธอ ทำให้เธอดูค่อนข้างน่าสนใจ
“มีเรื่องอะไร? แม่ของฉันอาจจะให้อภัยนาย แต่ฉันไม่มีทางแน่ นายได้ทำลายความบริสุทธิ์ของเลดี้คนนี้ ดั้งนั้นนายต้องให้คำอธิบายแก่ฉัน ฉะ ฉัน… ฉันจะไม่ให้ยกโทษนายแน่”
เย่ปิงกำ กำปั้นเล็กๆ ของเธอด้วยความโกรธ
เธอต้องการที่จะโจมตีเทพคนนี้?
เจียงซิ่วหัวเราะเยาะ “ฉันไม่ได้พูดมันไปแล้วหรือไง? เทพคนนี้ได้ถูกเคลื่อนย้ายร่างจากทวีปการต่อสู้นิรันดร์ และด้วยอะไรบางอย่างมันก็ได้นำให้ฉันไปภายในบ้านของเธอ เธอก็สามารถคิดได้ว่านี้เป็นโชคดีสำหรับเธอ”
สาวสวยที่ยิ่งใหญ่เย่ปิง เสียงของเธอแหบแห้งลงด้วยโทสะ “โชคดีสำหรับฉัน? ขอบคุณทุกคนในตระกลูนายเถอะ”
“เทพคนนี้รู้แล้ว เหตุผลที่ทำให้เธอดูเหมือนจะเป็นบ้าแบบนี้ เพราะเธอต้องการให้ฉันรับผิดชอบเธอ ถูกไหม?” เจียงซิ่วกล่าว ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้โง่ เทพคนนี้แม้แต่กระทั่งเปลี่ยนชะตากรรมตามธรรมชาติได้ เขาคิด
สาวสวยที่ยิ่งใหญ่เย่ปิง เธอรู้ไปต่อไม่ถูก เธอไม่กล้าเชื่อหูของตัวเอง
“แต่มันช่างหน้าเสียดาย ที่เทพคนนี้ไม่ได้เห็นเธออยู่ในสายตา”
“นาย...”
สาวสวยที่ยิ่งใหญ่เย่ปิง เธอแทบจะไอออกมาเป็นเลือด2-3ครั้ง
นายไม่ได้เห็นเลดี้คนนี้อยู่ในสายตา? โอ้พระเจ้า ใครปล่อยเดรัจฉานตัวนี้ออกมาข้างนอก?
“นายรู้ไหมว่าเลดี้คนนี้กำลังโกธร”
มองไปยังสาวสวยที่ยิ่งใหญ่เย่ปิง กำลังจะระเบิดความโกธรออกมา หลิวเซียวหยิ่นได้รีบเข้ามาไกล่เกลี่ย “เอาหล่ะ... เอาหล่ะ หยุดทะเลาะกันได้แล้ว พวกเราไปกันเถอะ เราจะสายนะถ้าเสียเวลาไปมากกว่านี้ มันเป็นชั้นเรียนของครูเหม่ยจิ๋วในวันนี้ มันจะเป็นหายนะแน่ถ้าเราไปสาย”
ในมัธยมปลายปีที่3 การเรียนทฤษฎีวิชาการของพวกเขาค่อนข้างจะน่ากลัว พวกเขาต้องไปเรียนแม้แต่กระทั้งเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ มันถึงเป็นที่มาของชื่อ ‘การเรียนพิเศษ’ นอกจากนี้มันก็หมายถึงการที่พวกเขาต้องจ่ายค่าใช้จ่ายที่มากขึ้นด้วย
เจียงซิ่วตกใจมาก เขาเกือบจะลืมเรื่องนี้ เขายังคงเป็นนักเรียนอยู่
“ฉันจะไม่ไป”
เจียงซิ่วปฎิเสธมันอย่างหนักแน่น ผู้นำนิกายของนิกายก้าวย่างสวรรค์ที่ยิ่งใหญ่ ต้องเดินทางไปโรงเรียนเพื่อเรียนรู้ และฟังสิ่งต่างๆ จากครูที่โง่เขลาเหล่านั้น? มันเป็นเรื่องตลกอินเตอร์แบบไหนกัน? วิชาเคมีที่พวกนั้นสอนอยู่บนกระดานมันไร้ประโยชน์อย่างแท้จริง และพวกเขาก็จะพูดอยู่เสมอๆ เกี่ยวกับเส้นทางที่ต้องทำว่า : นักเรียน เวลาเป็นสิ่งที่มีค่า เหลือเวลาเพียง 300 วันจนกว่าจะสอบเข้ามหาวิทยาลัย ฉันควรจะต้องไปฟังอะไรเช่นนี้หรือไม่?
“นายมันบ้า” เย่ปิงกล่าว “ถ้านายไม่ได้วางแผนที่จะเข้าเรียนในมหาลัย เมื่อนั้นนายก็จะกลายเป็น นีท เข้าใจไหม? หรือนายจะไปสืบทอดการขายผลไม้ต่อจากแม่ของนาย?” (ขอขยายความคำว่า นีท สำหรับคนที่ไม่รู้ นีทก็คือกลุ่มคนที่ว่างงานด้วยความสมัครใจนั้นเอง)
เจียงซิ่วยิ้มอย่างจางๆ และปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นออกมา เขาไม่ได้ต้องการที่จะเป็นเหมือนคนเหล่านั้น ในฐานะที่เป็นผู้นำนิกายของนิกายย่างก้าวสวรรค์ที่ยิ่งใหญ่ ฉันถูกบังคับ... เหอะ “ไปโรงเรียนกันเถอะ”
เจียงซิ่ว ทุกๆ คนเรียกเขาว่าเทพซิ่ว และที่เรียกว่าเทพซิ่วก็เพราะว่ามมีเมฆรวมตัวอยู่รอบๆเขา และสายฟ้าก็ฟาดลงในขณะที่เขาเดิน รัศมีของเขาได้ไหลออกมาในขณะที่เขากำลังเดิน ความสง่างามของกริยาท่าทางของเขา ราวกับมันเป็นของจักรพรรดิ ซึ่งแม้แต่พระมหากษัตริย์ก็ไม่สามารถเปรียบเทียบได้
“ปิงปิง มองไปที่เขาสิ เขาวางท่าแม้ในตอนที่กำลังเดิน ราวกับว่าตัวเองเป็นจักรพรรดิ” หลิวเซียวหยิ่นชี้ไปที่ศรีษะเธอ “ฉันคิดว่าเขาน่าจะมีปัญหาที่ตรงนี้?”
เย่ปิงหัวเราะในขณะที่ปิดปากของเธอ ได้ยินหลิวเซียวหยิ่นว่าร้ายเจียงซิ่ว มันทำให้หัวใจของเธอสุขใจ
“เขาดูเหมือนพระมหากษัตริย์ที่ภรรยากำลังมีชู้มากกว่า”
การได้ยินของเจียงซิ่ว มันหลักแหลมมาก ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผู้หญิงสองคนกำลังกระซิบข้างหลังเขา ทั้งหมดมันได้เข้ามาอยู่ในหูของเขา มันถึงกับทำให้เส้นเลือดสีดำบนหน้าผากของเขาโผล่ออกมาด้วยโทสะ เธอกล้าว่าร้ายเทพคนนี้ จากด้านหลัง? เทพคนนี้จะอดทนในตอนนี้ แต่เมื่อวันใดที่อำนาจของเทพคนนี้กลับมา ชีวิตเล็กๆของพวกเธอ ก็คงต้องตกมาอยู่ในมือของเทพคนนี้แล้ว
บนรถบัส…
เจียงซิ่วพยายามหมุนเวียนลมปราณภายในร่างกาย และเขาก็ได้ขมวดคิ้วขึ้นมา คุณภาพของอากาศช่างเลวร้าย ไม่มีแม้แต่สายใยเดียวของจิตวิญญาณในอากาศ
แม้จะมีทักษะโดยธรรมชาติของเขา ที่ถือว่าเป็นอัจฉริยะ แต่ความก้าวหน้าของเขาก็คงจะค่อนข้างช้า ด้วยสภาพแวดล้อมแบบนี้
“เฮ้ ให้ปากกาและกระดาษกับเทพคนนี้!”
เจียงซิ่วกล่าวกับสาวสองคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าเขา
“จะเอาพวกมันไปทำอะไร?”
“วาดยันต์”
สาวๆเหมือนจะเหลือบมองกัน แม้แต่เย่ปิงก็แสดงออกมาอย่างมีความสุข พวกเธอก็ค่อนข้างอยากรู้อยากเห็น รูปที่เจียงซิ่วจะวาดมันจะออกมาแบบไหนกัน? เพราะฉะนั้นพวกเธอจึงหยิบปากกาและกระดาษจากกระเป๋าให้แก่เขา
หลังจากนั้น พวกเธอก็เห็นเจียงซิ่ววาดอะไรบางอย่างลงบนกระดาษ ซึ่งเหมือนกับการเขียนแบบคราวๆให้สองสาวดู
“นี่ยันต์อะไร?”
เจียงซิ่ววาดมันขึ้นมาด้วยความรวดเร็วและตอบ “ยันต์เผยแพร่การสังเวยสู่ความว่างเปล่า!” (ใครมีชื่อดีกว่านี้คอมเม้นหน่อย Void Sacrifice Transmission Talisman) เขาถือมันไว้ระหว่างนิ้วชี้และนิ้วกลาง นำมันไปอยู่ใกล้ริมฝีปากของเขา พวกเธอเห็นริมฝีปากของเขาเปิดและปิดอย่างรวดเร็ว ราวกับว่าเขากำลังพูดพึมพำบางอย่าง แต่พวกเธอก็ไม่ได้ยินอะไรเลย
“ไป!”
ภายใต้การจ้องมองของสาวๆ เจียงซิ่วเปิดหน้าต่างและโยนยันต์ออกไปข้างนอก รถบัสก็ยังวิ่งต่อไป และยันต์ก็ลอยลงไปที่พื้นพร้อมกับลม มันเป็นแบบเดียวกันกับการทิ้งขยะลงจากรถ ยิ่งไปกว่านั้น ยานพาหนะด้านหลังแม้แต่กระทั่งเลี้ยวหลบมัน
“นั้นคือทั้งหมดแล้วหรอ?”
เจียงซิ่วพยักหน้าขึ้นลง และค่อนข้างจะจริงจังกับมัน เขาได้เผยแพร่ข้อความเสียงไปยังศิษย์ของเขาในโลกการต่อสู้เพื่อความอมตะ ณ ที่อีกปลายด้านหนึ่งของจักรวาล ที่ๆเต็มไปด้วยดวงดาว เขาป้อนคำสั่งมัน และใช้มันได้ครั้งเดียวเท่านั้น เขาให้มันบินออกไปเหมือนกับกระบี่บิน เพื่อที่จะได้ส่งทรัพยากรสำหรับการเพาะปลูกกลับมา
“ฮ่าฮ่า...”
หลิวเซียวหยิ่นหัวเราะขณะที่กำท้องด้วยมือสองข้าง และเย่ปิงก็หัวเราะในขณะที่ปิดปากของเธอ เธอช่างเป็นหญิงสาวที่ดูบริสุทธิ์ ด้วยการหัวเราะของเธอ มันทำให้ดวงตาของเธอเปลี่ยนไปเป็นดวงจันทร์เสี้ยว
เจียงซิ่วขมวดคิ้วของเขา วัดตามหลักการที่รู้ หลังจากที่เขาโยนยันต์ออกไป มันควรจะหายไปพร้อมกับแสงสีทอง เขาไม่คิดว่ามันจะตกลงมาที่พื้นเหมือนกับขยะแบบนั้น
“มันเป็นแบบนี้ได้ยังไง?”
ประมาณช่วงเวลาที่รถบัสถึงสัญญาณไฟจราจรถัดไป ยันต์ที่ปลิ้วออกไปด้วยรถหลายคัน ได้ลอยขึ้นต่อหน้าคนจำนวนมาก และก็เป็นแสงสีทองหายไป...
“เรามาถึงโรงเรียนที่เป็นอันดับ2ของเมืองเจียงแล้ว ผู้โดยสารทุกคนโปรดลง...”
บริเวณเขตก่อนหน้านี้ ก็เป็นเช่นเดียวกันจากในความทรงจำเขา แม้แต่รอยเปื้อนบนถ้วยชา ในมือของยามหน้าประตูที่เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มคนนั้น ก็เหมือนกันกับในความทรงจำของเขา
นักเรียนได้ไปข้างในอย่างต่อเนื่อง ทั้งหมดเป็นนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่3 เนื่องจากเป็นคลาสพิเศษในวันหยุดสุดสัปดาห์ ทุกคนจึงไม่จำเป็นต้องใส่ชุดนักเรียน และในยุคนี้ทุกคนก็ไล่ตามแนวทางที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของตัวเอง พวกเขาใช้โอกาสที่หายากแบบนี้ทำให้ตัวเองดูดีขึ้น
“เจียงซิ่ว รอก่อน!”
ในเวลานี้ เขาไม่ได้วางท่าอีกต่อไป หลังจากที่เย่ปิงจากค่าโดยสารให้เขาในเวลานี้
“เทพคนนี้จะคืนค่ารถโดยสารให้เธอ2หยวน เมื่อกลับมาในวันพรุ่งนี้”
“นอกจากนี้ ฉันก็จะส่งเสื้อผ้าเหล่านี้คืนในวันพรุ่งนี้เช่นกัน”
เยปิงกล่าวด้วยท่าทางจริงจังที่ปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของเธอ “ฉันจะไม่หยุดให้นายทำเรื่องพวกนั้น แต่เรื่องเมื่อเช้านี้ นาย... นายควรจะเก็บมันไว้เพื่อตัวนายเอง และก็อย่าเรียกฉันถ้าหากว่านายพบฉัน ถ้ามีข่าวลือแพร่กระจายภายในโรงเรียน เลดี้คนนี้แน่นอนว่าจะไม่ให้อภัยนาย”
เจียงซิ่วพูด “เธอล้อเล่นใช่ไหม? เรื่องนี้เป็นเรื่องที่แปดเปื้อนในชีวิตของเทพคนนี้ ทำไมฉันจะต้องพูดมัน?”
ความโกรธของเย่ปิงถูกจุดขึ้น
เจ้าบ้านี้ เป็นคนที่น่าชังจริงๆ
“นั้นหล่ะดีที่สุด!”
เย่ปิงและหลิวเซียวหยิ่นเดินเข้าไปในโรงเรียน โดยการจับมือกัน
หลิวเซียวหยิ่นถามราวกับกระซิบ “ปิงปิง พวกเธออจะเลิกกันไปแบบนี้หรอ?”
เย่ปิงกล่าว “ไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างพวกเรา ต่อไป ก็หยุดพูดเรื่องไร้สาระพวกนี้ได้แล้ว”
“ใช่! เธอเองก็เหมือนกัน อย่าบอกเรื่องนี้กับทุกคนเข้าใจไหม!”
หลิวเซียวหยิ่วกล่าว “เธอคิดว่าฉันไม่รู้เรื่องนั้น? ฉันมีอย่างเดียวที่ผิดพลาด นั่นก็คือริมฝีปากของฉันปิดแน่นเกินไป และเพื่อนก็น้อยด้วย”
การสอนราวกับทอนไม้ที่คุ้นเคย ทางเดินที่คุ้นเคย สนามเด็กเล่น เขตโรงเรียน ชื่อที่ดูเก่าเกินไป เจียงซิ่วก้าวเดินเข้าไปให้เหมือนกับคนธรรมดาๆ ปรับตัวกับทัศนียภาพภายในโรงเรียนด้วยความตื่นเต้น
แต่การจ้องมองของเขาก็ได้หยุดชงักลง!
รอบๆเขามีคนเดินเข้ามาใกล้ เป็นผู้ชายและผู้หญิงคนหนึ่ง ที่อยู่ในชุดนักเรียน ชายหนุ่มดูหล่อเหลาอย่างน่าทึ่ง และผู้หญิงก็สวย แล้วก็ยั่วยวนใจไม้แพ้เย่ปิงเลยแม้แต่น้อย เธอถูกเรียกว่า เฉิงหลิงซู(Cheng Lingsu) ค่อนข้างเป็นชื่อที่งดงาม
เธอกับเจียงซิ่วมีความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างพิเศษ เธอสำหรับเจียงซิ่วแล้ว เธอคือ... คู่หมั้น!
สุดท้าย พวกเราก็ได้พบกันอีกครั้ง?
ฉากจากอดีตได้กระพริบอย่างช้าๆ ผ่านใจของเขา เปลือกตาของเจียงซิ่วก็กลายเป็นดูน่าเกลียด ความเคียดแค้นที่เห็นได้ชัดภายในตัวพวกเขา ในขณะที่ทั้งสามคนมองผ่านกันและกัน เฉิงหลิงซูไม่ได้มองมาที่เขาเลยแม้แต่ครั้งเดียว
ติดตามข่าวสารได้ก่อนใครที่ เพจ INdy-Novel
9500คำจุใจกันเลยทีเดียว คำเตือนสำหรับเรื่องนี้คือเจียงซิ่วของเราหยิ่งเกินไปแค่นั้นหล่ะ 5555 อย่าลืมเข้าไปนินทาเทพซิ่วในเพจด้วยละ