บทที่ 25 ตอบแทนบุญคุณ 5 (2) [อ่านฟรี]
บทที่ 25 ตอบแทนบุญคุณ 5 (2)
เทย์เลอร์เงยหน้าขึ้นไปมองบ้านสองชั้นหลังเล็กๆนี้ เขารู้สึกหงุดหงิดที่มาพักที่นี่ในช่วงเวลาไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เขาไม่รู้ว่าเรื่องทั้งหมดมันจะเป็นจริงหรือไม่? แทนที่จะอยู่เฉยๆกับสิ่งที่ไร้ประโยชน์นี้อาจจะเป็นการดีกว่าที่เขาจะลองไปเผชิญกับมันดู
อย่างน้อยพระเจ้าแห่งความตายไม่ได้โกหก เทย์เลอร์ต้องการความเปลี่ยนแปลงก่อนจะเริ่มพูดออกมา
“หากมันเกี่ยวกับองค์ชายรัชทายาท เราก็ต้องเลือกช่วงเวลาที่มีการจัดงานพระราชพิธี...เราต้องรีบแล้วล่ะ”
“อืม...มารีบกันเถอะ”
“มันจะดีหรือเปล่า? เราจะเข้าไปร่วมงานกับกลุ่มคนที่มาจากวิหารเป็นจำนวนมากหากเราต้องไปยังเมืองหลวง”
“แล้วพวกเขาจะทำอะไรได้? ไล่ข้าออกมาเช่นนั้นหรือ? ตอนนี้ข้าเป็นห่วงเจ้ามากกว่า”
“ขอบคุณเจ้ามาก”
“ไม่จำเป็นต้องขอบคุณข้าหรอกนะ”
พวกเขายิ้มไปหัวเราะไปพูดคุยกันไปในเวลาเดียวกัน ก่อนที่เคจจะยกจดหมายฉบับนั้นขึ้นมาดูอีกครั้ง
“ผู้มีพระคุณ....”
พวกเขาไม่แน่ใจว่าบุคคลนี้เป็นผู้มีพระคุณหรือไม่แต่ทั้งคู่รู้สึกว่าผู้เขียนจดหมายฉบับนี้คือผู้มีพระคุณของพวกเขาและมีความตั้งใจที่จะตามหาผู้มีพระคุณให้เจอพร้อมกับตอบแทนบุญคุณคืนให้ได้
สายตาสองคู่ที่กระจ่างใสและปราศจากอาการเมาจากการดื่มเบียร์ได้ก้มลงมองจดหมายฉบับนั้นอีกครั้งอย่างเงียบๆ มันเป็นสายตาของคนที่ได้พบจุดเปลี่ยนในชีวิตของพวกเขาแล้ว
ลูกแมวขนสีแดงที่กำลังเฝ้ามองเหตุการณ์นี้จากหลังคาบ้านหลังอื่นเอ่ยกระซิบกับพี่สาวของตน
“พี่สาว..เรากลับกันได้แล้วเช่นนั้นหรือ?”
“ใช่แล้ว....งานของเราเสร็จแล้ว ไปกินเนื้อกันเถอะ”
“เย้!”
ลูกแมวสองตัวกระโดดลงจากหลังคาบ้านหลังหนึ่งไปยังหลังคาอีกหลังหนึ่ง มันทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆจนถึงโรงแรมที่พักของพวกมัน
เช้าวันต่อมา
คาร์ลยืนกอดอกและขมวดคิ้วมุ่น สายตาของเขากวาดขึ้นกวาดลงไปยังคนที่อยู่ข้างหน้าเขาในตอนนี้
ชุดของคาร์ลในวันนี้เต็มไปด้วยสีสันสดใสและความหรูหรากว่าทุกวัน
‘นายน้อย! แม้ว่ากระผมจะไม่ได้อยู่ที่นั่นด้วย นายน้อยจะไปกลิ้งบนภูเขาได้อย่างไร?’นี่คือสิ่งที่ฮันส์เอ่ยกับเขา
‘กระผมควรจะเป็นคนพานายน้อยไป!’นี่คือเสียงของรองหัวหน้าองครักษ์
‘โธ่...นายน้อยกระผมเสียใจเป็นยิ่งนัก’และนี่คือคำพูดของตาแก่รอน
คาร์ลต้องแต่งตัวจัดเต็มเช่นนี้เพราะรำคาญสายตาที่จ้องมองเขาหลังจากกลับมายังโรงแรมด้วยสภาพเนื้อตัวมอมแมมและเสื้อผ้าสกปรกยับยู่ยี่หลังจากที่คลานออกมาจากถ้ำ ชุดแฟนซีที่เขาใส่มันเข้ากันดีกับผมสีแดงอ่อนของเขาทำให้เขาไม่ได้รู้สึกแย่กับสภาพตัวเองในตอนนี้นัก แต่ยังมีเหตุผลอีกอย่างหนึ่งที่คาร์ลกำลังจ้องมองด้วยความหงุดหงิดในตอนนี้
“เจ้าจะออกไปแบบนั้นหรือ?”
ในตอนนี้พวกเขาทั้งหมดยืนอยู่หน้าโรงแรม คาร์ลยืนกอดอกและมองไปที่เชวฮันเขามีเพียงกระเป๋าใบเล็กและดาบประจำตัวของเขา
“ใช่.....”
ไม่มีงานเลี้ยงฉลองอำลาใดๆสำหรับเชวฮัน ทั้งคาร์ลและเชวฮันไม่ต้องการให้มีการจัดงานเลี้ยงขึ้นนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมการอำลาครั้งนี้จึงมีขนาดเล็กเช่นนี้
มีเพียงแค่คาร์ล ลูกแมวสองพี่น้อง ฮันส์ รอน บารอคและรองหัวหน้าองครักษ์เท่านั้น ความจริงที่ว่ารองหัวหน้าองครักษ์ไม่ค่อยถูกกับเชวฮันเท่าไหร่แต่เขาก็มายืนกล่าวลาด้วยใบหน้าที่ขมวดคิ้วมุ่นเช่นเดียวกับคาร์ลได้
“เฮ้อ......”
คาร์ลถอนหายใจยาวก่อนหยิบกระเป๋าใบเล็กๆออกจากกระเป๋าของตนและโยนมันไปให้เชวฮันที่สามารถคว้ากระเป๋าได้อย่างง่ายดาย เชวฮันจำได้ว่ามันมีลักษณะเหมือนกับกระเป๋าใบเล็กๆที่คาร์ลได้ให้มังกรไป เขารีบเปิดกระเป๋าค้นดูยาและอุปกรณ์ที่สามารถใช้ประโยชน์ได้ก่อนจะเงยหน้าจากกระเป๋าเพื่อมองไปที่คาร์ล ก่อนที่คาร์ลจะรีบพูดด้วยน้ำเสียงโผงผางและร้อนรนเมื่อพวกเขาได้สบตากัน
“อะไร? เจ้าต้องการอะไร? ถ้าไม่อยากได้มันก็แค่โยนมันทิ้งไปก็เท่านั้น”
เชวฮันไม่ได้พูดอะไรออกมาแต่คาร์ลก็ยังคงต้องพูดในสิ่งที่เขาต้องทำอยู่ จากนั้นเขาก็หันหลังกลับและมุ่งหน้าไปยังห้องพักของตน
“....ลาก่อน....”
คาร์ลพยายามไม่แสดงอาการอะไรออกมาเมื่อเขาหันหลังกลับทันทีหลังจากที่กล่าวลาเชวฮันแล้ว เขาไม่มีเหตุผลที่จะต้องได้เจอกับเชวฮันอีก...ไม่สิ...ยังเหลืออีกครั้ง.....พวกเขาจะต้องได้พบกันอีกครั้งที่เมืองหลวงก่อนที่เขาจะส่งเชวฮัน รอนและบารอคออกเดินทางไปด้วยกันพร้อมกับคำสั่งอีกไม่กี่คำ และหลังจากนั้นเขาก็วางแผนที่จะไม่ติดต่อกับเชวฮันอีกเลย
“กระผมจะกลับมาเร็วๆนี้”
การตอบรับของเชวฮันที่ดูเหมือนคนมีความสุขเช่นนั้นทำให้คาร์ลรู้สึกขนลุกขึ้นมาแม้แต่คำเรียกแทนตัวเองของเชวฮันก็เปลี่ยนเป็นสุภาพมากกว่าเดิมแต่เขาก็ไม่คิดที่จะหันกลับไปมองเชวฮันอีกครั้ง เชวฮันรู้สึกเสียใจเล็กน้อยที่คาร์ลไม่หันกลับมาหาตนทำให้เขามุ่งความสนใจไปที่คนอื่นแทน
“แล้วเจอกันอีกครั้งที่เมืองหลวงนะท่านเชวฮัน”
“ฮึ๊!.....ข้าจะฝึกฝนตัวเองเพิ่มขึ้นเพื่อจะได้คุ้มครองนายน้อยด้วยกันเมื่อเจอกับเจ้าอีกครั้งในเมืองหลวง”
รองพ่อบ้านฮันส์กล่าวคำอำลาอย่างกระตือรือร้นขณะที่รองหัวหน้าองครักษ์เอ่ยด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดเล็กน้อย
“ข้าจะรักษาดาบของข้าให้คมยิ่งขึ้น”
“อืม....แล้วเจอกันภายหลัง”
บารอคและรอนก็บอกลาด้วยเช่นกัน ลูกแมวสองตัวแตะไปที่เท้าของเขาเบาๆเพื่อบอกลา
และสุดท้ายมังกรดำที่ยังคงใช้เวทย์ล่องหนโดยในตอนกลางวันจะอยู่บริเวณสวนนอกโรงแรมพอตกกลางคืนมันก็นอนอยู่ริมหน้าต่างห้องพักของคาร์ล ในตอนนี้มันกำลังมอบเวทย์ล่องหนไปให้เชวฮันได้ใช้บ้าง
“ข้าได้รับมามากพอแล้วแต่ดูเหมือนว่ามันจะคงอยู่จนถึงตอนสุดท้าย”
เชวฮันใส่กระเป๋าเวทย์ขนาดเล็กที่คาร์ลให้ลงในกระเป๋าของตนก่อนจะเริ่มยิ้มออกมา คาร์ลไม่สามารถมองเห็นรอยยิ้มนี้ได้เพราะเขาหันหลังกลับไปก่อน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่คนทั้งหมดที่ยืนอยู่ตรงนี้ได้เห็นรอยยิ้มสดใสของเชวฮัน
“ข้าจะได้เห็นพวกท่านทั้งหมดที่เมืองหลวง”
เชวฮันเอ่ยลาก่อนมุ่งหน้าออกไปจากโรงแรม คนเช่นเขาที่ใช้ชีวิตโดดเดี่ยวมาตลอดสิบปีซึ่งมันเป็นสิ่งที่แย่กว่าความตายเสียอีก แต่ตอนนี้เขามีที่ให้กลับมาพักพิงได้และยังมีกลุ่มคนที่เขาต้องตอบแทนความดีที่พวกเขามอบให้แก่ตนเช่นกัน
‘ข้าต้องแน่ใจว่างานนี้จะสำเร็จด้วยดี’
เชวฮันค่อยๆห่างจากคาร์ลและคนอื่นๆและมุ่งหน้าออกจากเมืองพัซเซิลทันที
เช้าวันรุ่งขึ้น
คณะของคาร์ลจัดข้าวของใส่รถม้าเพื่อเตรียมออกเดินทางจากเมืองพัซเซิลเช่นกัน
“นายน้อย...เราพร้อมออกเดินทางแล้วขอรับ”
“อืม......”
คาร์ลพยักหน้าตอบรับกับคำบอกของรอนและรีบปิดหน้าต่างรถม้าเมื่อรถเริ่มเคลื่อนที่ออกไป พวกเขาทั้งหมดกลับมาเริ่มต้นการเดินทางกันอีกครั้ง
“พวกเจ้ามองอะไรกันอยู่?”
คาร์ลกำลังจ้องมองลูกแมวสองพี่น้องซึ่งมีท่าทางกระสับกระส่ายขณะพยายามที่จะหลบสายตาเขาก่อนที่จะเห็นพวกมันสะดุ้งและหันกลับมามองเขาอย่างตกใจ คาร์ลเริ่มยิ้มออกมาช้าๆพลางเอ่ย
“อะไร? พวกเจ้าพบมังกรหรืออะไร?”
“เอื้อก!”
คาร์ลไม่ได้สนใจกับอาการตกใจจนตาค้างของลูกแมวทั้งสอง ตอนนี้เชวฮันได้จากไปแล้วแต่มังกรกลับมาติดตามพวกเขาแทน ถึงมันจะเป็นเช่นนั้นเขาก็ไม่ได้มีเวลาสนใจกับเรื่องพวกนี้
หลังจากที่เดินทางมาตลอดทั้งวันพวกเขาก็พร้อมที่จะสร้างที่พักค้างแรมกันข้างนอกอีกครั้ง
“เอ่อ.....ขอโทษนะขอรับหากไม่เป็นการรบกวนพวกเราสามารถใช้พื้นที่เดียวกับพวกท่านสร้างที่พักได้หรือไม่?”
มีรถม้าเดินทางมาหยุดบริเวณที่พักค้างแรมของคาร์ลและคนที่ดูเหมือนจะเป็นคนขับรถม้าก็ตรงเข้ามาสอบถามรองหัวหน้าองครักษ์ทันที
“ท่านเป็นใคร?”
รองหัวหน้าองครักษ์ถามออกไปแม้ว่าจะรู้คำตอบหลังจากได้เห็นตราประจำตระกูลเป็นงูสีแดงบนชุดเกราะของคนขับรถม้าคนนี้แล้วก็ตาม เขาได้โค้งคำนับแก่รองหัวหน้าองครักษ์และคาร์ลที่ยืนอยู่ด้านหลังก่อนจะเอ่ยยแนะนำตัวขึ้น
“ข้าน้อยชื่อ ‘ทอม’ มาจากคฤหาสน์มาร์คควิสสแตนขอรับ”
‘ฮึ๊!’
คาร์ลเกือบสบถออกมาด้วยเสียงอันดัง ขณะที่มองไปยังรถม้าคันเก่าๆที่ไม่มีตราประจำตระกูลก่อนที่หน้าต่างรถม้าจะถูกเปิดออกและนั่นทำให้คาร์ลมองเห็นใบหน้าของ‘เทย์เลอร์ สแตน’ได้
“ข้าชื่อเทย์เลอร์ สแตน ข้ามองเห็นตราประจำตระกูลของท่านเคาน์เฮนิตัสจึงมาเพื่อขอความช่วยเหลือ แม้ว่ามันจะดูไม่เหมาะสมนักก็ตาม”
หากเป็นที่พักค้างแรมของเคานต์เฮนิตัสที่แข็งแกร่งเช่นนี้ เทย์เลอร์คิดว่าเขาจะปลอดภัยสำหรับคืนนี้
แต่มันไม่ดีสำหรับคาร์ล ตอนนี้เขาได้พบกับ ‘เทย์เลอร์’บุตรชายคนโตของมาร์ควิสสแตนและ ‘เคจ’นักบวชหญิงผู้บ้าคลั่งและในตอนนี้เขากำลังนึกถึงมังกรดำที่ออกไปล่าหมูป่าหรืออาจจะเป็นกวางมาให้เขาอยู่ก่อนจะเริ่มขมวดคิ้วมุ่น
‘ให้ตายสิ!’
หนึ่งเพิ่งจากไปและอีกสามเริ่มปรากฏ คาร์ลอยากจะบ้าตายให้ได้