บทที่ 25 ตอบแทนบุญคุณ 5 (1) [อ่านฟรี]
บทที่ 25 ตอบแทนบุญคุณ 5 (1)
ตกกลางดึกสงัดในบ้านหลังเล็กๆสองชั้นในเขตชานเมืองพัซเซิล แสงสว่างเพียงแห่งเดียวในบริเวณนั้นคือแสงจากคบเพลิงที่ชั้นแรกของบ้านหลังเล็กๆที่ลอดผ่านหน้าต่างออกมา ‘เทย์เลอร์’บุตรชายคนโตของมาร์ควิสสแตนคือเจ้าของบ้านหลังนี้ และในตอนนี้เขากำลังเริ่มขมวดคิ้วมุ่น
“เกิดอะไรขึ้น?”
“ให้ตายสิ! รอก่อนเถอะ! อย่าเพิ่งพูดอะไรในตอนนี้”
‘เคจ’ นักบวชหญิงของพระเจ้าแห่งความตายกำลังก้มศีรษะลงด้วยความเจ็บปวด
เคร้ง!
แก้วเบียร์ในมือของเธอตกลงไปที่พื้น ก่อนที่เทย์เลอร์และคนอีกสามคนจะขยับเข้าหาเธออย่างรวดเร็ว
“มีอะไร?.....พระเจ้าได้แจ้งอะไรกับเจ้าอีกงั้นหรือ?”
เทย์เลอร์มองไปที่เธอด้วยความห่วงใย พระเจ้าแห่งความตายมักจะติดต่อพูดคุยกับเคจเป็นครั้งคราว จู่ๆมันก็เกิดขึ้นในวันหนึ่งและมันก็ปรากฏอาการเช่นนี้เป็นระยะๆ เคจได้ปิดบังเรื่องนี้กับนักบวชคนอื่นๆมีเพียงเทย์เลอร์และข้ารับใช้ของเขาอีกสามคนที่รู้เรื่องนี้
“อ่า.....น่าหงุดหงิดชะมัด”
หลังจากที่ทนอาการปวดศีรษะได้สักพัก เคจก็ลุกขึ้นไปยังบานประตูหลังบ้านทันที เธอยังคงเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วแม้ว่าจะยังปวดศีรษะและมึนงงเล็กน้อยแต่สายตาของเธอยังคงมุ่งมั่นเพื่อไปยังประตูหลังบ้านให้ได้
เทย์เลอร์บอกให้ข้ารับใช้รออยู่ในบ้านก่อนจะใช้มือส่งแรงผลักไปที่รถเข็นที่ตนนั่งอยู่มุ่งหน้าตามหลังเคจไปทันที
‘หรือมีคนแอบเข้ามา?’
พวกเขาอาจจะแอบอยู่ในบ้านเล็กๆแต่มีสัญญาณเตือนภัยที่ทำจากพลังเวทย์อยู่ทุกแห่ง เทย์เลอร์หวาดระแวงน้องชายของตน เขาจะไม่สามารถข่มตาให้หลับได้หากไม่มีสัญญาณเตือนเหล่านี้
หลังจากที่ขาทั้งสองข้างของเขาถูกทำลายจากมือสังหารในห้องนอนของตนเองในคฤหาสน์สแตนก็ไม่มีที่ไหนที่เทย์เลอร์ถือว่าปลอดภัยอีกต่อไป
“เคจ....เกิดอะไรขึ้น?”
“รอก่อน......”
ปั๊ง!
เคจปิดประตูหลังบ้านอย่างแรง เทย์เลอร์สามารถมองเห็นเพียงสวนหลังบ้านที่เงียบสงบเท่านั้น มันยังคงเงียบสงบและเงียบสงบเหมือนเช่นเคย มีคบเพลิงสองดวงที่ทำให้สวนเป็นพื้นที่ที่มีความสว่างมากที่สุดในบริเวณบ้านหลังนี้
เคจเริ่มออกวิ่งไปในสวนหลังบ้านและเทย์เลอร์ก็ยังเข็นรถเข็นตามเธอไปอย่างไม่ละสายตา เธอวิ่งตรงไปยังรั้วของบ้านหลังนี้และเริ่มหอบเหนื่อย
“แฮ่ก......แฮ่ก”
บริเวณนี้เป็นตำแหน่งที่อยู่นอกเหนือจากสัญญาณเตือนภัยพลังเวทย์ ด้านบนของรั้วมีหอคอยศิลาขนาดเล็กที่ทำจากหินขนาดเล็กห้าก้อน มันใหญ่พอสำหรับสายตาทหารองครักษ์ที่สามารถมองเห็นมันได้หากเขาออกตรวจดูความเรียบร้อยในเวลาอันใกล้นี้
“มันบ้ามาก.....แต่นี่มันคือเรื่องจริง”
คำหยาบบางคำออกมาจากปากของเคจ เทย์เลอร์มาถึงบริเวณนี้หลังเคจไม่นานด้วยรถเข็นของเขาและเริ่มจ้องมองไปยังหอคอยศิลาที่อยู่บนรั้วด้วยความสับสน
“นี่มันอะไรกัน?”
คำถามจากเทย์เลอร์ทำให้เคจอ่านข้อความที่ถูกเขียนด้วยชอล์คทันที
“มันถูกเขียนไว้ว่า ‘ทำลายมันซะ แล้วเจ้าจะได้รับในสิ่งที่ปรารถนา’”
ความสับสนวุ่นวายและความอยากรู้อยากเห็นปรากฏเต็มหน้าของเทย์เลอร์ไปพร้อมๆกัน เคจถอนหายใจยาวหลังจากมองไปที่เขาและกุมขมับของตนด้วยนิ้วของเธอ
“ข้าสนับสนุนให้เจ้าทำลายมันซะ...ไม่...มันอาจจะดูเหมือนบ้าแต่พระเจ้าบอกให้ทำลายมันซะ”
“......อะไรนะ?”
“นี่เป็นครั้งแรกที่พระเจ้าไม่ได้พูดเรื่องไร้สาระทำไมวันนี้เขาถึงพูดกับข้ามากมาย?ทั้งๆที่เขาจะพูดกับข้าแค่ปีละครั้งเท่านั้น”
“แล้วหอคอยศิลาแห่งนี้มันเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้กัน?”
เคจหันไปสบตากับเทย์เลอร์
“มันคือจุดเปลี่ยนของชีวิตเรานั่นคือสิ่งที่เขาพูด”
พระเจ้าแห่งความตายจะติดต่อกับเคจเฉพาะในตอนที่หลับเพราะการหลับใกล้เคียงกับความตายนั่นเป็นเหตุผลว่าการนอนหลับเป็นวิถีของพระเจ้าแห่งความตายเท่านั้น แต่คราวนี้เธอได้ยินพระเจ้าของเธอในตอนที่กำลังดื่มเบียร์
ในครั้งแรกเคจคิดว่าเป็นเพราะพระเจ้าแห่งความตายโกรธเธอที่ดื่มเบียร์มากเกินไป นั่นคือเหตุผลที่ได้ต้อนรับการกลับมาของพระเจ้าแห่งความตาย เธอต้องการให้พระเจ้าองค์นี้เลิกสนใจในตัวเธอแต่ในครั้งนี้พระเจ้าแห่งความตายได้มอบข้อความที่แตกต่างจากครั้งก่อน
“ ‘การตัดสินใจขึ้นอยู่กับตัวเจ้าเองแต่ถ้าหากเจ้าทำลายมันชีวิตเจ้าจะไม่สงบสุขอีกต่อไป’ นั่นคือสิ่งที่พระเจ้าได้บอกกับข้า”
เธอมองไปที่หอคอยศิลามันมีบางอย่างอยู่ด้านล่างของมัน
“มีจดหมายอยู่ใต้หอคอยศิลานั่น ข้าคิดว่าพวกเขาอาจจะสร้างหอคอยศิลานี้เพื่อซ่อนจดหมายนั่น”
เคจหันกลับไปมอง ‘เทย์เลอร์’เพื่อนที่ดีที่สุดของเธอ เขาต้องเงยหน้าขึ้นมองเธอจากเก้าอี้รถเข็นแม้ว่าเขาจะมองเห็นหอคอยศิลาได้แต่ไม่สามารถมองเห็นจดหมายที่อยู่ด้านล่างได้
“ข้าไม่รู้สึกถึงพลังที่ผิดปกติรอบๆหอคอยศิลานั่น”
แม้ว่าเธอจะไม่ได้มีความรู้สึกไวเหมือนนักเวทย์ก็ตาม แต่การใช้อำนาจของพระเจ้าแห่งความตายเข้ามาช่วยทำให้เธอเป็นคนที่มีความรู้สึกที่ไวขึ้นและประเมินสภาพแวดล้อมโดยรอได้เป็นอย่างดี เธอจะสามารถรู้สึกได้ว่ามีการสาปแช่งหรือพลังในด้านลบที่ล้อมรอบสิ่งของหรือบริเวณต่างๆได้ นั่นคือข้อดีของการรับใช้พระเจ้าแห่งความตาย
เธอกำลังรอคอยคำตอบจากปากเทย์เลอร์
เทย์เลอร์เงยหน้ามองท้องฟ้ายามค่ำคืนก่อนที่จะหันมามองเคจช้าๆ
“ทำลายมันซะ!”
เคจต่อยลงไปที่หอคอยศิลาที่อยู่ตรงหน้าของเธอทันที
พลั่ก! โครม!โครม!
หอคอยศิลาที่อยู่ด้านบนของรั้วโค่นลงมากระทบพื้นจนหมดและเทย์เลอร์ไม่สามารถมองเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดได้ถนัดนัก
‘อย่าทำลายมันถ้าข้าอยากจะมีชีวิตที่สงบสุขเช่นนั้นหรือ?’
เทย์เลอร์ไม่เคยมีชีวิตอย่างสงบสุขและเขาไม่มีความปรารถนาที่จะใช้ชีวิตอย่างสงบสุขด้วย เขากำลังมองหาวิธีที่จะทำให้ขาของเขากลับมาเป็นปกติและเดินไปข้างหน้าต่อไปอีกครั้ง หลังจากนั้นเขา.....
‘ข้าจะทำลายตระกูลของข้า ตระกูลที่น่ารังเกียจขยะแขยงเช่นนี้ให้ได้’
เทย์เลอร์ยื่นมือไปรับจดหมายที่เคจยื่นให้ตนทันที เมื่อเปิดซองจดหมายออกจึงได้พบว่าจดหมายนี้ถูกเขียนด้วยพลังเวทย์เพื่อป้องกันไม่ให้ใครทราบถึงเจ้าของลายมือฉบับนี้ได้ซึ่งพวกขุนนางส่วนใหญ่จะใช้วิธีนี้ในการส่งข่าวเช่นกัน
เทย์เลอร์เปิดจดหมายออกอ่านโดยไม่มีความลังเล สองบรรทัดแรกของตัวอักษรแม้จะไม่สามารถมองเห็นได้ผ่านแสงคบเพลิงในสวนหลังบ้านได้อย่างชัดเจนแต่เขาก็ไม่ได้สนใจ
[ องค์ชายรัชทายาทเป็นผู้ครอบครองพลังศักดิ์สิทธิ์โบราณ มันมีชื่อเรียกว่า ‘ดาราแห่งการเยียวยา’และมันไม่มีประโยชน์อะไรกับเขาเพราะมันเป็นพลังที่สามารถใช้ได้ครั้งเดียวที่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บประเภทใดก็ได้ให้หายขาด]
[เขากำลังที่จะทำการขายมันโดยมอบหมายให้องค์ชายรองและองค์ชายสามเป็นคนตรวจสอบ]
มือที่จับจดหมายของเทย์เลอร์เริ่มสั่นขึ้นอย่างช้าๆ
“เกิดอะไรขึ้น?”
เคจตัวแข็งขึ้นทันทีเมื่อเห็นสีหน้าและมือที่สั่นของเทย์เลอร์ก่อนที่จะเริ่มผ่อนคลายลงในเวลาต่อมา
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า” นั่นเป็นเพราะเทย์เลอร์กำลังหัวเราะและยื่นจดหมายฉบับนั้นให้กับตน
“แน่นอน...ว่ามันจะเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตเรา”
“เจ้ากำลังพูดถึงเรื่องอะไร?”
เคจหยิบจดหมายในมือของเทย์เลอร์และเริ่มอ่านมัน เธอชะงักไปชั่วครู่หลังจากอ่านเรื่องเกี่ยวกับพลังศักดิ์สิทธิ์โบราณขององค์ชายรัชทายาทแต่เธอก็ยังคงอ่านส่วนที่เหลือเพิ่มก่อนที่จะเงยหน้าตนขึ้นเมื่ออ่านส่วนสุดท้ายของจดหมายแล้ว
[ ขาของท่านไม่สามารถขยับได้แต่ศีรษะ แขน ตาและปากสามารถขยับได้ส่วนที่เหลือของท่านยังคงมีชีวิตอยู่]
[ การตัดสินใจมันเป็นของตัวท่านเอง... นายน้อยเทย์เลอร์บุตรชายคนโตของมาร์ควิสสแตน]
เทย์เลอร์มองไปที่มุมที่มืดที่สุดในสวนหลังบ้านและเอ่ยขึ้น
“เคจ....”
“หืม?”
“ปล่อยที่นี่ให้พ่อบ้านจัดการแล้วมุ่งหน้าไปยังเมืองหลวงให้ไว้ที่สุด”
“ตกลง”
เธอตัดสินใจที่จะทำตามความต้องการของเทย์เลอร์ผู้ที่ยังคงอยากมีชีวิตอยู่ เธอเป็นคนที่เคยประสบกับความตายมาหลายครั้งกว่าคนอื่นเพราะเธอเป็นนักบวชของพระเจ้าแห่งความตายซึ่งนั่นทำให้เธอเห็นคุณค่าของชีวิตได้อย่างชัดเจนมากขึ้น
“ข้ามั่นใจในตัวอัจฉริยะเช่นเจ้าว่าจะดูแลทุกสิ่งทุกอย่างได้อย่างยอดเยี่ยมเพราะเจ้ามีความสามารถทุกด้าน”
เคจเชื่อมั่นในความคิดและความสามารถของเทย์เลอร์
“เจ้าพูดถูก...ข้าอาจเคยมีความสามารถ”
‘เคยมี’ เคจมองไปที่เทย์เลอร์หลังจากที่ได้ยินเขาพูดถึงความสามารถที่ผ่านมาของตน
“ข้าควรจะรู้วิธีการดูแลตัวเอง”
น่าเสียดายที่เทย์เลอร์ได้รับบาดเจ็บที่ขาเพราะเขาไม่รู้วิธีการดูแลป้องกันตัวเองเขาปล่อยให้เป็นหน้าที่องครักษ์ดูแลเขามาโดยตลอด