ตอนที่แล้วบทที่ 22 นายน้อยเย่ที่น่าอนาถ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 24 ต่อสู้เป็นร้อย

บทที่ 23 ดูแคลนคนขายผลไม้?


บทที่ 23

ดูแคลนคนขายผลไม้?

 

แปลโดย : ราตรีสีทา

เกลาสำนวนโดย : ราตรีสีเทา

แก้คำผิดโดย : ราตรีสีเทา

 

บอสเหล่ยโบกมือของเขา เพื่อเป็นสัญญาณให้บอดี้การ์ดข้างตัว พุ่งเข้าไปจับพวกเธอมา ระหว่างโอหยางเชียนและหลี่ดั่นใครบ้างหล่ะ ที่ไม่ได้มีภูมิหลังที่ดี? ด้วยเหตุนี้ พวกเธอจึงมีอารมณ์ที่หยิ่งจองหองอยู่บ้าง แต่พวกเธอเองก็ตระหนักได้ว่า ชายที่อยู่ข้างหน้าพวกเธอ โบกมือให้ผู้คุ้มกันที่ดูหยาบคายเหล่านั้น เข้ามาจับพวกเธอไป นั้นเอง จึงทำให้พวกเธอเกิดความรู้สึกกลัวขึ้น และในที่สุดพวกเธอก็กรีดร้อง และเริ่มวิ่งหนี

 

เปรียบเทียบกับเฉิงหลิงซูแล้ว เธอดูใจเย็นกว่ามาก เธอมั่นใจอย่างยิ่ง ว่ายิ่งใหญ่เหล่ยจะไม่เข้ามาก้าวก่ายเธอ ทรัพย์สินของตระกลูเฉิงมีอยู่ประมาณ 200-300 ล้านหยวน นับอะไรกะแค่เมืองเจียง ชื่อตระกลูเธอมันย่อมอยู่ในรายชื่อด้านบนๆจากทั้งจังหวัด จำนวนภาษีที่ต้องจ่ายต่อปีนั้นมีค่าพอๆกับ GDP* ของหมู่บ้านทั้งหมดในหนึ่งปี ในยุคนี้ GDP เป็นเกณฑ์ในการตัดสินความสำเร็จของผู้คน และยังมีผู้นำเมือง แม้แต่กระทั่งผู้นำจังหวัด ก็เคารพทรัพย์สินที่ตระกลูเฉิงมี อิทธิพลของตระกลูเฉิงค่อนข้างชัดเจนมาก!

*(GDP คือ ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หมายถึง มูลค่าตลาดของสินค้าและบริการขั้นสุดท้ายที่ผลิตในประเทศในช่วงเวลาหนึ่งๆ ใครงงลองไปหาข้อมูลเพิ่มเอา แอดก็ไม่รู้จะบอกยังไง)

 

ด้วยพื้นหลังดังกล่าว ยิ่งใหญ่เหล่ยกล้าที่จะก้าวก่ายเธอ?

 

เธอมีความเชื่อว่ายิ่งใหญ่เหล่ย จะไม่กล้าทำร้ายเธอ มากสุดเขาคงแค่อาจทำให้เธออับอาย หรืออาจทำให้เธอหวาดกลัว นายหญิงคนที่สองของตระกลูเฉิง กับความโกธรของตระกลูเฉิง เขาจะเลือกสิ่งใด?

 

เฉิงหลิงซูวางแผนที่จะอยู่ต่อ เพื่อที่เธอจะได้ช่วยเหลือเพื่อนนักเรียนหญิงของเธอ!

 

เธอกล่าว “ฉันจะอยู่ที่นี่ ปล่อยให้เพื่อนทุกคนของฉันออกไป”

 

“ซูซู!”

 

เมื่อได้ยินคำพูดของเธอ นักเรียนทุกคนมองเธอด้วยความประหลาดใจ

 

แววตาแปลกๆ กระพิบพาดผ่านดวงตาของยิ่งใหญ่เหล่ย “สาวน้อย เธอกล้าหาญมาก แม่งตระกลูของหญิงสาวเช่นเธอเป็นยังไง?”

 

เฉิงหลิงซูเชิดคางของเธอขึ้น และตอบด้วยน้ำเสียงที่ค่อยข้างดุร้าย “กลุ่มบริษัทในเครือตระกลูเฉิง ลูกสาวคนสุดท้องของเฉิงฮันหลิน เฉิงหลิงซู!”

 

คนรอบตัวเริ่มกระซิบเสียงแผ่ว แม้แต่ท่าทางการแสดงออกของยิ่งใหญ่เหล่ยก็เปลี่ยนไป ตระกลูเฉิง ไม่เพียงแต่เป็นตระกลูเล็กๆที่เติบโตอย่างรวดเร็ว แต่นั้นคือสำเร็จที่เป็นตำนานของเมืองเจียง

 

“คุณเป็นลูกสาวของเฉิงฮันหลิน!”

 

“ใช่!”

 

ยิ่งใหญ่เหล่ยหัวเราะออกมาตามสัญชาติญาณ และเมื่อเขากำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ดูเหมือนโทรศัพท์มือถือของเขาเริ่มดังขึ้น เขาจึงเดินไปที่ด้านข้างเพื่อรับสาย แต่ในความเป็นจริง เป็นเขาเอง ที่นำโทรศัพท์ออกมา เพื่อที่จะโทรออก

 

ที่ยิ่งใหญ่เหล่ยสามารถครอบครองที่ดินในเมืองเจียงได้ โดยธรรมชาติแล้ว เขาย่อมไม่ใช่คนโง่

 

“พี่ชายด๊ง!”

 

ณ กองทหารประจำเขต อาด๊งกำลังยืนเฝ้าอยู่ข้างพ่อแก่ถังเฉิ่นเชียน แขนของพ่อแก่ที่ถูกตัดออก ได้รับการรักษาจากแพทย์แล้ว และมันก็ไม่มีอันตรายต่อชีวิตอะไร เพียงแต่เขาต้องใช้ชีวิตต่อไปด้วยความพิการ หลังจากที่แผลหายสนิท แพทย์หวังจะต่อมือเครื่องกลให้กับพ่อแก่ วิทยาศาสตในปัจจุบันร์ค่อนข้างที่จะรุดหน้าไปมากเลยทีเดียว และมันก็เป็นไปได้ ที่จะเสริมแขนขาที่ขาดไป ให้กลับมาใช้การได้

 

หนุ่มสาวสองสามคนของตระกลูถังก็อยู่ในห้องเช่นเดียวกัน อาด๊งรู้สึกได้ว่าโทรศัพท์ของเขากำลังสั่น ดังนั้นเขาจึงออกไปนอกห้องเพื่อรับมัน “เฮ้!”

 

“พูดในสิ่งที่แกต้องการมาเร็ว ต้อนนี้ฉันกำลังยุ่งอยู่!”

 

ยิ่งใหญ่เหล่ยกล่าว “มันเป็นแบบนี้ ลูกสาวของเฉิงฮันหลิน จากบริษัทในเครือตระกลูเฉิง เดินทางมาที่เขตสถานบังเทิง และมีปัญหาโดยชายคนนึงที่มาด้วยกัน ฉันอยากจะถามพี่ชาย ว่าฉันควรทำอะไรกับเธอดี?”

 

ตั้งแต่ที่เขาได้สัมผัสกับโลกใต้ดิน กับการที่เปิดเมืองแห่งสถานบังเทิงขึ้นมา เขาต้องโหดเหี้ยมให้มากขึ้น ขณะที่จัดการเรื่องราวเช่นนี้ ดังนั้นเขาต้องทำเป็นตัวอย่าง เพื่อที่จะได้สร้างความกลัวให้มากขึ้น ถ้าเขาไม่สามารถจัดการได้แม้แต่นักเรียนไม่กี่คน เขาก็คงไม่สามารถที่จะจัดการเรื่องอื่นๆ ในโลกใต้ดินได้

 

“ใช้สมองอันน้อยนิดของแกสิ แกต้องการจะสื่ออะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้? ถ้าหากตระกลูเฉิงสร้างปัญหาให้แก ฉันจะเล่นพวกมัน จนกว่าพวกมันจะหายไปอย่างสมบูรณ์!” การแสดงออกอย่างไร้ความปราณีปรากกฏขึ้นบนใบหน้าเขา เขาโกรธมาก เพราะแขนของพ่อแก่ถูกตัดทำให้พิการ

 

“ดะ ได้…”

 

ยิ่งใหญ่เหล่ยตัดสาย และเอาที่ตัดซิการ์ออกมา เขาเดินย้อนกลับไป เขาเดินคลายกับจะลอยได้

 

เฉิงหลิงซูกล่าว “บอสเหล่ย โปรดเห็นแก่หน้าพ่อฉัน...”

 

“ปล่อยให้เราออกไป”

 

ยิ่งใหญ่เหล่นพ่นควันออกมา “ฟูวว เฉิงฮันหลินเลี้ยงลูกออกมาได้ดีจริงๆ เขาถึงทำให้ลูกสาวแม่งกล้าหาญได้แบบนี้”

 

“แต่ก็เถอะ ลูกเมียน้อยนั้น จะมีปัญญาทำให้ฉันไว้หน้ามันได้รึเปล่า?”

 

“เขายิ่งใหญ่มากรึไง?”

 

การแสดงออกของเฉิงหลิงซูกลายเป็นแข็งทื่อ ไม่ไว้หน้าเลยแม้แต่น้อย ยิ่งใหญ่เหล่ยแม้แต่กระทั่งพูดคำว่า ‘ลูกเมียน้อย’ และไม่กระเตื้องกับคำว่าเฉิงฮันหลินเลย สีเลือดบนใบหน้าของเธอหายไปในทันที ขณะนั้น หน้าของเธอก็ซีดลงเรื่อยๆ เวลานี้ แม้แต่เธอก็รู้สึกหวาดกลัว

 

ความเชื่อมั่นทั้งหมดของเธอนั้นมาจากตระกลู และทรัพย์สินของตระกลู

 

มันมักก็จะมีคนที่เหนือกว่าเสมอ บางทีความแข็งแกร่งของตระกลูเฉิงนั้นอาจแข็งแกร่งมากในสายตาของเธอ แต่ก็ยังมีตระกลูแบบเธออยู่มากมายนับไม่ถ้วน เช่นเดียวกับที่ยิ่งใหญ่เหล่ยได้กล่าวไป ตระกลูเฉิงมีสถานะอะไรบ้าง?

 

เฉิงหลิงซูตระหนักได้ตอนนั้นเองว่า ตัวเองเหมือนกบที่อยู่ในบ่อน้ำ เธอรู้สึกอับอาย และมีความเกลียดชังอยู่ในหัวใจเธอ!

 

“ทุกคนควรจะหายไปจากที่นี่ เพื่อพ่อคนนี้ ส่วนทั้งสามสาวก็อยู่ที่นี่ต่อ ฮี่ฮี่!”

 

เย่เหวินเฉิน หลินชวู และนายน้อยคนอื่นๆ ทำหน้าตาน่าสมเพช ถ้าพวกเขาไม่ออกไป พวกเขาก็จะถูกโยนออกไปอยู่ดี และแม้ว่าพวกนักเรียนหญิงต้องการที่จะออกไปด้วย พวกเธอก็คงไม่สามารถทำมันได้แน่ ท่าทางของพวกเขาเปลี่ยนเป็นซีดเผือก ขณะที่พวกเขาเผยสายตาน่าสงสารออกมา

 

“บอสเหล่ย ปล่อยพวกเราไป ได้โปรด”

 

“ปล่อยเรา!”

 

แม้ว่าพวกเขาจะมีภูมิหลังที่ไม่ธรรมดา และมีประสบการณ์ที่มากมาย อาจจะมากกว่าคนอื่นเป็นร้อยเท่า หรือพันเท่า อาจจะมากกว่านักเรียนมัธยมปลายทั้งหมด แต่ท้ายที่สุด พวกเขายังคงเป็นเพียงนักเรียนมัธยมปลาย ประสบการณ์วันนี้ เป็นเหมือนหายนะแก่พวกเขา เช่นเดียวกับการลงไปนรกชั้นที่18 (เลวร้ายมาก)

 

“ออกไป!”

 

นักเรียนหญิงกำลังกรีดร้อง แต่เด็กนักเรียนชายก็หมดหนทาง

 

เทียบแล้วช่วงเวลานี้ดูน่าสิ้นหวังอย่างมาก แต่ในเวลาเดียวกัน ก็มีมือมาหยุดพวกบอดี้การ์ดอย่างกระทันหัน ทุกคนมองไปที่คนๆ นั้นด้วยความประหลาดใจ และพวกเขาก็เห็นเจียงซิ่วกำลังกั้นพวกนั้นอยู่ที่ด้านหน้า

 

เมื่อเห็นนักเรียนคนอื่นออกมาสร้างปัญหา ยิ่งใหญ่เหล่ยกล่าว “สัตว์! เจ้าชายจากตระกลูไหนอีกตอนนี้!”

 

ความอดทนของเขาใกล้จะหมดลง วายร้ายตัวน้อย แต่ละคนได้ออกมาสร้างปัญหา คิดว่ายิ่งใหญ่เหล่ยคนนี้เป็นใคร? พวกแกคิดว่าทุกคนสามารถปรากฏตัวขึ้นมา เพื่อหยุดฉันได้?

 

“เทพคนนี้ไม่ใช่เจ้าชายของตระกลูไหน”

 

“พ่อของแกเป็นใคร?”

 

แม้ว่าเขากำลังอยู่ในวิกฤตแห่งหายนะ เย่เหวินเฉินก็ไม่ต้องการที่จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเจียงซิ่ว เขาเกลียดชังเขามาก ถ้ามันไม่ใช่เพราะเจียงซิ่ว เรื่องวันนี้ก็คงจะไม่เกิดขึ้น ประสบการณ์ที่เขาได้รับมาในวันนี้ ทำให้เขารู้สึกอับอาย เขาไม่สามารถยกหน้าของเขาขึ้นได้อีกต่อไปแล้ว เมื่อพูดถึงเรื่องที่กำลังเกิดขึ้น “ครอบครัวของเขาเข็นผลไม้ขาย”

 

“อะไรนะ?” ยิ่งใหญ่เหล่ยสงสัยว่าหูของเขาไม่ดี

 

เขามองไปที่เจียงซิ่วด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยข้อสงสัย

 

“ครอบครัวของแกเข็นผลไม้ขาย?”

 

“ถูกแล้ว ครอบครัวของฉันเข็นผลไม้”

 

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า…”

 

แม้แต่พนักงานเมืองสถานบังเทิง ก็ไม่กล้าพูดคำใดๆ ออกมา เนื่องจากกลิ่นอายของยิ่งใหญ่เหล่ย นั้นไม่ชวนหัวเราะด้วยเลย

 

“แม่งเอ้ย!”

 

แกกล้าที่จะออกมาทั้งๆ ที่บ้านของแกเข็นผลไม้ขาย?

 

เจียงซิ่วกล่าวอย่างไม่แยแส “อะไรละ? นายดูถูกการขายผลไม้?”

 

“ฮ่าฮ่า…”

 

ยิ่งใหญ่เหล่ยตอบด้วยเสียงหัวเราะ

 

สายตาของเจียงซิ่วค่อยๆ เปลี่ยนเป็นเย็นชาอย่างช้าๆ “บอสยิ่งใหญ่อะไรซักอย่าง นายกล้าพูดว่า ‘มันเป็นโชคดีแล้วที่แกได้เลือกพวกเธอ’ แกเป็นแค่อันธพาลท้องถิ่น แกไม่สามารถมาขัดใจคนขายผลไม้ได้คนนี้ได้ แกคิดว่าตัวแกเองเป็นใคร?”

 

บึม! สถานที่ทั้งหมดกลายเป็นที่เงียบสงบอีกครั้ง สายตาที่พวกเขาทุกคนจ้องมองเจียงซิ่วราวกับกำลังมองไปที่คนบ้า

 

“เชี่ย! เขาบ้า?”

 

“พูดกับบอสเหล่ยแบบนั้น!”

 

“ใช่ เขากำลังแสวงหาที่ตาย!”

 

นักเรียนชายสองสามคน ได้เก็บความเคารพนับถือต่อเจียงซิ่ว กลับคืนไปในหัวใจของพวกเขาเรียบร้อยแล้ว น้องสาวแกเถอะ! ไปให้ไกลจากตรงนี้ ถ้าไม่ต้องการที่จะตาย เขาไม่เกี่ยวข้องกับเรา

 

เย่เหวินเฉินและหลินชวูอยากจะร้องไห้แต่ก็ไม่มีน้ำตา เจ้าเพื่อนยากคนนี้ แม่งโง่บดซบรรลัย ต้องมีบางอย่างผิดปกติกับสมองของเขา เขาคิดว่าตัวเองเป็นฮีโร่? เพียงเพราะแค่ตีครูที่โรงเรียนและได้รับเหรียญรางวัล?

 

แกคิดว่าตัวแกเองเป็นใคร.. ยายมันเถอะ?!

 

พวกเขากลัวเยี่ยวแทบเล็ด เย่เหวินเฉิน และหลินชวู รู้สึกว่า ขาของพวกเขากำลังสั่น บอสเหล่ยนั้นเป็นใคร? เขาได้ทำทุกอย่างเพียงเพราะยามของเขาถูกตี ตอนนี้เขายังถูกตำหนิอย่างเปิดเผยในที่สาธารณะ และผลที่ตามมาก็ไม่อาจคาดเดาได้เลย ไม้รู้ว่ามันจะเป็นฉากที่น่ากลัวแบบไหน เขากำลังก่อให้เกิดฉากที่บ้าคลั่ง!

 

“แกบอกว่าฉันไม่สามารถขัดใจคนขายผลไม้ได้?”

 

“ฮ่าฮ่า.. ฮ่าฮ่า...”

 

ยิ่งใหญ่เหล่ยหัวเราะด้วยความโกรธสุดขีด เขาชี้ชิกก้าร์ไปทางเจียงซิ่ว กลิ่นอายอันยิ่งใหญ่และกลิ่ยอายแห่งความชั่วร้ายเกิดขึ้น ทุกคนเข้าใจดีว่าบอสเหล่ยเต็มไปด้วยเปลวไฟแห่งความโกรธ และอาจระเบิดได้ตลอดเวลา

 

“เด็กเหลือขอ วันนี้ฉันจะทำให้แกรู้ว่า ฉันจะทำให้คนขายผลไม้อย่างแก ขัดใจได้ไหม” เสียงของเขา ดูเหมือนว่ามันเปล่งมาจากรอยแยกระหว่างฟันของตัวเอง ผู้ชายที่เคยสัมผัสโลกใต้ดินแน่นอนว่าเป็นชายที่หน้ากลัวอย่างยิ่ง หัวใจของพวกเขาทั้งหมดย้อมไปด้วยความมืดมิด

 

พวกนั้นเหมือนจะดูแลเอาใจใส่ใบหน้าตัวเองอย่างมาก และมันก็ส่งผลให้ยิ่งใหญ่เหล่ย ยิ่งอยากจะจัดการมัน ยิ่งใหญ่เหล่ยจ้องไปทางเจียงซิ่วเขม็งเกลียว ราวกับว่าเขาต้องการให้มันเป็นเป็นก้อนเนื้อให้ได้ “ทำให้มันพิการเพื่อพ่อคนนี้!”

 

“ฉันจะรับผิดชอบเอง!”

 

“จัดการเขา!”

 

เฉิงแหลิงซูถอนหายใจ เขาทำมันได้ดีเยี่ยมจริงๆ  เธอเคลื่อนไหวมือของเธอ แม่ของเธอมีพี่สาวซึ่งก็คือป้าของเธอ เธอแต่งงานกับคนจากกองทหาร ถูกกองทัพส่งไปประจำการที่หมู่บ้านหลิวหย่าง ห่างออก จากทางใต้ของเมืองเจียงไป 50 กม. ถ้ายิ่งใหญ่เหล่ย ใช้ความรุนแรงกับเธอจริงๆ เธอสามารถโทรศัพท์เพื่อไปขอความช่วยเหลือเขาได้

 

แต่สถานการณ์ปัจจุบันได้หลุดออกจากการควบคุมไปแล้ว

 

บอดี้การ์ดมีความสูงถึง 1.9 เมตร เขาวิ่งไปข้างหน้าพร้อมด้วยการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วและรุนแรง แขนของเขา หนากว่าต้นขาของคนธรรมดาเสียอีก ทุบไปที่หัวของเจียงซิ่วด้วยแรงลมโหมกระหน่ำ

 

“เอ๋!!! เขาหลบมันได้!”

 

กำปั้นนั้นดูใหญ่กว่าหัวของเจียงซิ่วซะอีก มันดูจะเป็นกังฟูบอล ถ้าถูกมันโจมตีไปที่หัว ไม่ต้องสงสัยเลย ที่หัวจะต้องรูสึกราวว่ากับถูกบดขยี้

 

สายตาของเจียงซิ่วกวาดผ่านเขาไป “ก็แค่คนธรรมดา!”

 

วูสสส!

 

ร่างของเจียงซิ่วไปพุ่งยังข้างหน้า และหยุดกำปั่นอันหนักหน่วงนั้น มือเขาเคลื่อนไปยังคอของบอดี้การ์ด พร้อมกับเสียงดัง ครึ๊บ ของกระดูก เขาก็ถูกยกขึ้นโดยเจียงซิ่ว

 

 

 

 

 

ติดตามข่าวสารได้ก่อนใครที่ เพจ INdy-Novel

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด