บทที่ 22 นายน้อยเย่ที่น่าอนาถ
บทที่ 22
นายน้อยเย่ที่น่าอนาถ
แปลโดย : ราตรีสีทา
เกลาสำนวนโดย : ราตรีสีเทา
แก้คำผิดโดย : ราตรีสีเทา
ผู้ที่มาลอบโจมตีดูแลพวกเขาอย่างโหดร้ายทารุณดุจปศุสัตว์ตัวนึง มากไปกว่านั้นก็คือ เย่เหวินเฉิน และหลินชวูได้ตะโกนขอความช่วยเหลือ แต่ยิ่งดังมากเท่าไหร่ พวกนั้นก็จะทุบตีพวกเขาแรงขึ้นเท่านั้น สุดท้ายแล้วพวกเขาก็โอดครวญออกมาอย่างเชื่อฟัง และไม่กล้าตะโกนขอความช่วยเหลืออีก
การทุบตีกินเวลาไปเพียงไม่กี่นาที แต่ความเจ็บปวดเกิดขึ้นที่นายน้อยทั้งสอง เย่เหวินเฉินและหลินชวู ชั่วเวลาไม่กี่นาทีนี้ ราวกับมันผ่านไปเป็นวันๆ ช่วงเวลาสั้นๆแบบนี้ พวกเขาคงจำมันไปได้เป็นปี หัวของพวกเขาถูกจุ่มลงในชักโครกห้องน้ำสาธารณะ! จะมีอะไรที่น่าอัปยศอดสู่มากไปกว่านี้?
ในที่สุด เมื่อคนเหล่านั้นแยกย้ายกันออกไปดุจฝูงผึ้ง พวกเขาก็ดึงกระสอบที่ครอบหัวอยู่ออก สิ่งแรกที่พวกเขาทำไม่ใช่ตรวจสอบอาการบาดเจ็บ แต่กลับวิ่งไปที่อ่างล้างหน้า และสำรอกออกมาอย่างรุนแรง
หลินชวูสำรอกไปอีกครั้งและมองไปที่กระจก ใบหน้าของเขามีสีม่วงฟกช้ำ มันสรุปได้ด้วยคำๆเดียว ‘อนาถ’ “แม่มันเถอะ! ใครซุ่มโจมตีเรา?! มาโจมตีพ่อคนนี้ต่อหน้าสิว่ะ ถ้าแกมีความกล้ามากพอ!”
เย่เหวินเฉินอยู่ด้านข้าง อย่างไรก็ตาม ตัวเขากำลังสั่นอยู่ เขาปัดสบู่เหลวสำหรับล้างมือทิ้ง และกู่ร้องคำรามราวกับสัตว์ป่า คนอย่างนายน้อยเย่คือคนประเภทไหน? เขาเป็นคนนึงที่เอาชนะคนอื่นๆเสมอมา จนกระทั่งวันนี้ เขากลับได้รับความพ่ายแพ้
“ฉันจะไม่ปล่อยให้เรื่องนี้จบง่ายๆ”
หลินชวูกล่าว “มันเป็นเพราะสารเลวเจียงซิ่วนั้นรึเปล่า?!”
เขาไม่สามารถนึกภาพใครออก นอกเสียจากเจียงซิ่วที่มีความต้องการเอาชนะพวกเขา แผนการนี้เป็นแผนที่พวกเขาคิดขึ้นมาเพื่อให้เจียงซิ่วโดยเฉพาะ เขารู้สึกเหมือนว่าเจียงซิ่วจะรู้เรื่องนี้ และก็ใช้แผนการอันนั้นมาจัดการกับพวกเขาทั้งสองเสียเอง
เย่เหวินเฉินเช็ดคราบเลือดที่ปากของเขา สภาพของเขาน่าสังเวชยิ่งกว่าหลินชวู จมูกที่เปื้อนเลือด และใบหน้าที่ปูดบวม แว่นตาของเขาเองก็แตก ซึ่งมันทำให้เขาเศร้ามาก “มันไม่มีทางที่จะเป็นเขา ที่นี้มีผู้ชายหลายคน และเขาก็เป็นแค่หนึ่งในนั้น”
ส่วนที่ทำให้พวกเขาหม่นหมองไปอีกก็คือ กล้องวงจรปิดไม่อนุญาตให้ติดในห้องน้ำสาธารณะ
“นั้นไง! นายไม่ได้บอกว่าที่นี้พี่ใหญ่เหล่ยคุม?”
“ให้เขาจัดการมัน!”
แม้ว่ากล้องวงจรปิดจะไม่อนุญาตให้ติดในห้องน้ำ แต่ถนนก็มีมากมาย ดังนั้นมันน่าจะให้เบาะแสบางอย่างกับพวกเขาได้
“ไปที่แผนกรักษาความปลอดภัย!”
นายน้อยหนุ่มทั้งสอง ไม่เคยรับความอับอายเช่นนี้มาก่อน นี่เป็นครั้งแรกตั้งแต่เกิดมาที่พวกเขาถูกทำร้ายโดยคนอื่น เห็นได้ชัดว่าหัวใจของพวกเขาถูกแผดเผาไปด้วยความเกรี้ยวโกรธ เดินไปถึงแผนกรักษาความปลอดภัย หลินชวูเตะเพื่อเปิดประตูโดยตรง
การ์ดที่อยู่ข้างในทั้งหมดล้วนตกตะลึง คิดว่าการมาทำงานที่เมืองสถานบังเทิงแห่งนี้เป็นเรื่องง่าย? การ์ดรีบพุ่งเข้าไป ขณะที่หนึ่งในคนที่มีพละกำลังมากที่สุดในหมู่พวกเขา เป็นคนพูดขึ้น “เชี่ยไรกัน! แกต้องการที่จะตาย? แกกล้าที่จะสร้างปัญหาขึ้นที่นี้?”
หลินชวูกล่าว “พ่อคนนี้ถูกทำร้ายในสถานที่ของพวกแก แกต้องให้คำอธิบายสำหรับเรื่องนี้!”
หัวหน้าการ์ดมองสารรูปที่ถูกทุบตีของพวกเขา พวกเขาเพิ่งถูกทุบตีมา และแม้แต่กระทั้งมีกลิ่นเหม็น เชี่ย! “เวรสารเลวคนไหนเป็นคนทำ? ไม่ใช่ว่าแกโยนพวกความมาให้เมืองสถานบังเทิง?”
เย่เหวินเฉินถูกปกคลุมไปด้วยความโกธร เห็นการ์ดกล้าที่จะพูดเพ้อเจ้อกับเขา เพี๊ยะ! เขารู้สึกดีขึ้น ที่ได้ตบใบหน้าชายคนนี้อย่างรุนแรง “แกไม่รู้จักพ่อคนนี้? โทรหาผู้จัดการของพวกแกซะ”
หัวหน้าการ์ดถึงกับมึนงงขณะที่ลูบแก้มไปด้วย
“ยายมันเถอะ ใครกล้าที่จะสร้างปัญหาให้กับฉัน? ในที่ของ ยิ่งใหญ่เหล่ย?” พร้อมกับเสียง ชายวัยกลางคนได้มาพร้อมกับกลุ่มวัยรุ่น การ์ดหน้าประตูให้เขาผ่านเข้าไป เขาถือซิการ์ขนาดใหญ่อยู่ในนิ้วมือ
หญิงสาวคนสวย ผู้คุมกัน การ์ด และอันธพาลทั้งหมดของเมืองสถานบันเทิงที่อยู่ใกล้เคียงทั้งหมดลุกขึ้น และเดินไปอยู่ข้างๆ พวกเขาอาศัยอยู่ที่นี่ ดังนั้นพวกเขาจึงรู้ว่าต้องปฏิบัติตัวแบบไหน กับคนๆ นี้ ที่เมืองเจียง
ยิ่งใหญ่เหล่ย คือชื่อของชายคนนึง เขามีตัวตนอยูทั้งโลกสีขาวและโลกใต้ดิน มือของเขาย้อมไปด้วยความบาป มากกว่า 60% ของธุรกิจในเมืองเจียงเป็นของเขา นี่ยังไม่รวมถึง ธุรกิจที่ผิดกฎหมาย และที่ซ่อนเร้นอยู่มากมายนับไม่ถ้วน
เขาคือมังกรแห่งเมืองเจียง!
มองเห็นยิ่งใหญ่เหล่ย เย่เหวินเฉินและหลินชวูกลายเป็นคนเรียบๆร้อยๆ มันเหมือนกับการพบกันระหว่างเด็กอนุบาลและเด็กมัธยม พวกเขากลายเป็นเชื่อฟังอย่างสมบูรณ์ “สารเลวทั้งสองแกเก่งจริงๆ แกกล้าตีคนของฉัน ยิ่งใหญ่เหล่ยจะจัดการพวกแก”
เขาเลื่อนซิการ์ไปที่อยู่ในง้ามนิ้ว เลื่อนไปข้างหน้า และชายสองคนสวมที่สวมเครื่องแบบคล้ายการ์ด ก็รีบวิ่งไปด้านหน้า แล้วคุมตัวนายน้อยทั้งสองไว้
หลินชวูโวยวาย “แกรู้ไหมฉันเป็นใคร?”
“พ่อฉันคือ หลินด้งผิง!”
ยิ่งใหญ่เหล่ยถามคนข้างๆ “ไอ้นั้นแม่งเป็นใครว่ะ?!”
คนๆนั้นกล่าวอย่างเงียบๆ “เจ้าของร้านอาหารตระกลูหลิน ธุรกิจของเขาค่อนข้างดี และมีทรัพสินย์ 20-30 ล้านหยวน เขาสามารถถือได้ว่าเป็นหนึ่งในคนรวย”
ในปีนี้ ‘08’(2008) ราคาบ้านยังไม่แพงมากนัก เมื่อกล่าวถึง 20-30 ล้านในช่วงเวลานี้ มันก็เพียงพอที่จะทำให้ใครบางคนตกใจ
ยิ่งใหญ่เหล่ยตาขุ่นเขียว “แม่แกเถอะ! ฉันคิดว่ามันเป็นคนที่น่าทึ่ง! แค่ 20-30 ล้าน พอที่จะเรียกว่ารวย? นั้นคงจะไม่มีขอทานยากจนหลังจากนี้แล้วหล่ะ”
นักเรียนในโรงเรียนแต่ละคน อดทนและเงียบไว้ การโอ้อวดเกินจริงมากเกินไปอาจจะทำให้ตกนรกได้ แต่คำที่ยิ่งใหญ่เหล่ยกล่าวมานั้น ไม่ใช่เรื่องเกินจริงแต่อย่างใด ความแข็งแกร่งที่เขาเปิดเผยต่อสาธารณชนนั้นค่อนข้างทรงพลัง และมันก็เพียงพอที่จะควบคุมเมืองสถานบังเทิงแห่งนี้ไว้ได้ ซินเฉิงถูกลงงทุนไปมากกว่า 50ล้านหยวนแล้ว
พ่อของหลินชวูที่อยู่ตรงหน้าเขานับเป็นอะไร?
หลินชวูกล่าว “คนที่อยู่ข้างๆฉันคือ เจ้าชายเย่...”
“เจ้าชายแม่แกเถอะ!” ยิ่งใหญ่เหล่ย ถามออกมาอย่างอ่อนเพลีย “พ่อที่ยิ่งใหญ่ของแกเป็นใคร?”
เย่เหวินเฉินกล่าวอย่างภาคิภูมิใจ “เย่เหว่ยกู่!
ยิ่งใหญ่เหล่ยสวนขึ้นมาอย่างลวกๆ “นายอำเภอเย่!”
พ่อของเย่เหวินเฉินจะกลายเป็นบุคคลสำคัญของเมืองเจียงในอีก7-8ปีต่อจากนี้ แต่ตอนนี้ เขายังเป็นเพียงผู้ว่าราชการจังหวัด ตำแหน่งนี้ไม่เล็กน้อยเลย แต่ก็ยังไม่อยู่ในสายตาของยิ่งใหญ่เหล่ยอยู่ดี
“แก ตีมันกลับเหมือนที่มันได้ทำกับแกไว้ ตีคืนกลับซัก10เท่า!”
หัวหน้าการ์ดที่ถูกกระตุ้น ก็พยักหน้าอย่างรุนแรง
“ทุบตีลูกนอกคอกนี่! แม่งกล้าที่จะแตะต้องพ่อคนนี้”
เย่เหวินเฉินกลายเป็นโง่ แม้แต่การใช้ชื่อบิดาของเขาก็ไร้ประโยชน์ หัวหน้าการ์ดถูกทำให้อัปยศมากแค่ไหน เหมือนเขาจะได้รับมันกลับมาเวลานี้? เขาถูกตบไปหลายครั้ง แต่ละครั้งของมันทำให้เกิดเสียงดัง มันทำให้เย่เหวินเฉินเห็นดวงดาว ขณะที่เขากำลังพ่นเลือดออกมาด้วย เขาร้องออกมาอย่างโศกเศร้า
เมื่อไม่นานมานี้ เขาถูกปิดหัวโดนและทุบตี ตอนนี้มันยีงก็มากไปกว่านั้นอีก เขาถูกตบหน้าจังๆหลายสิบครั้ง
ตลอดช่วงชีวิตของเขา นายน้อยเย่ไม่เคยได้รับความโศกเศร้าและความอัปยศเช่นนี้มาก่อน
เมื่อนักเรียนฝ่ายสภานักเรียน ได้ยินว่าเย่เหวินเฉิยถูกทำร้ายโดยใครบางคน พวกเขาทั้งหมดรีบวิ่งออกมาอย่างรวดเร็ว หนึ่งในเพื่อนร่วมชั้นของเย่เหวินเฉิน โชวชิเฉ่า ไม่รู้จักมาก่อนว่าเขาเป็นใครบางคนที่ถูกเรียกว่าพี่ใหญ่เหล่ย เขาตะโกน “หยุด!”
“ฉันขอเตือนคุณ หยุดทำเรื่องเหลวไหลแบบนั้น พวกเราไม่ได้กลั่นแกล้งได้ง่ายๆ”
สาวๆ เฉิงหลิงซู โอหยางเชียน และหลี่ดั่น เต็มไปด้วยความคุ้นเคือง นี่มันมากเกินไปแล้ว พวกเขาถูกทุบตีโดยคนที่ไม่ดี
“ถูกต้อง! คุณทุบตีคนโดยที่ไม่มีเหตุผลได้อย่างไร?!”
พี่ใหญ่เหล่ยไม่ได้ให้ความสำคัญแก่พวกเขา มีผู้ชายแข็งแรงยืนอยู่ที่นั่นมากกว่าสิบคน ดังนั้นจึงไม่มีใครในหมู่คณะกรรมการนักเรียนกล้าที่จะออกไปช่วยเหลือพวกนั้น และในขณะที่พวกเขาพูดออกไปไม่กี่คำ คนเหล่านั้นก็กระหน่ำตบไปมากกว่าหลายสิบที ตบไปยังใบหน้าของเย่เหวินเฉิน
“พี่ใหญ่เหล่ย โปรดยกโทษให้เรา พวกเราจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว” เย่เหวินเฉินพูดอย่างเชื่อฟัง หรือเป็นเพราะว่าเขากลัวคนอื่นๆ จะทำให้เขาถูกตบมากขึ้นไปอีก ก็ไม่อาจทราบได้
“เอาหล่ะๆ หยุด ปล่อยเขาไป!”
“แต่ยังไงก็ตาม ปล่อยให้สามสาวนั้น อยู่ที่นี่...” พี่ใหญ่เหล่ยชี้ไปทาง เฉิงหลิงซู โอหยางเชียน และหลี่ดั่น
ลักษณะของหลี่ดั่น และโอหยางเชียน วพกเธอเป็นที่หนึ่ง มันเพียงพอแล้วที่พวกเธอจะถูกเรียกว่าราชินีของโรงเรียน และก็ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรเกี่ยวกับเฉิงหลิงซูมากนัก ความงดงามของเธอ เพียงพอที่จะทำให้เกิดความเจ็บปวดรวดร้าวต่อประชาชน และเกิดหายนะต่อประเทศ ผู้หญิงนางนี้โดนเด่นมากเกินไป
ผิวของเย่เหวินเฉินเปลี่ยนสีขึ้นมาในฉับพลัน
ยิ่งใหญ่เหล่ยเป็นใคร? เขาเป็นคนในโลกใต้ดิน เขาทำเลวมามากมายในแวดวงเมืองเจียง เมื่อคิดถึงผลที่ตามมา เมื่อหญิงสาวทั้งสามคนตกไปอยู่ในมือเขา นั้น มันน่ากลัวเกินไป
เก็บข้อเท็จจริงเรื่องหน้าตาของเฉิงหลิงซูกลับไป ผู้หญิงที่เหลือเหล่านั้นเอง ก็แทบจะเป็นเป้าหมายของทุกคนในสมาชิกสภานักเรียนชายทั้งหมด เย่เหวินเฉินถ้าเลือกที่จะทิ้งผู้หญิงทั้งสามคนในวันนี้และหนีไป เขาจะต้องเผชิญหน้ากับสิ่งใด? พวกเขาทั้งหมดจะต้องตีหน้าประนามตัวเขา
โอหยางเชียนกล่าวออกมาด้วยความโกรธ “ทำไมคุณต้องการให้พวกเราอยู่ที่นี่?”
“พวกเรายังไม่ได้แจ้งความว่าคุณทำร้ายคนเลย!”
พี่ใหญ่เหล่ยหัวเราะอย่างเบิกบานใจ เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น แต่พี่น้องของเขาไม่มีเลยซักคนที่หัวเราะ ขณะที่พวกการ์ดกลับหัวเราะออกมา ความหนาวเหน็บนี้มากพอที่จะทำให้หัวใจของผู้คนเยือกแข็ง
เย่เหวินเฉินและนักเรียนที่เหลือ รู้สึกว่าหัวใจของพวกเขากำลังสั่นเครือ
หญิงสาวเหล่านี้เองไม่ทราบว่าชายที่อยู่ข้างคนนี้ เขาเป็นคนแบบไหน
“พี่ใหญ่เหล่ย เธอเป็นเพียงสาวน้อย เธอไม่เข้าใจอะไรเลย ฉันจะขอโทษในนามของเธอ แด่พี่” เย่เหวินเฉินรีบไปขออภัย เขารู้ดีว่าเหตุผลที่พี่ชายเหล่ยปล่อยพวกเขาไปในวันนี้ก็เพราะเห็นแก่หน้าของพ่อเขา
“ไสหัวไป!” เสียงของยิ่งใหญ่เหล่ยเย็นยะเยือก “ถ้าแกไม่ออกจากที่นี่ตอนนี้ เมื่อนั้น เวรตัวนี้แหละ ที่จะโยนพวกแกออกไป!”
“ผู้หญิงมากมายที่ได้อยู่กับพ่อคนนี้ มันเป็นโชคดีแล้ว ที่พ่อคนนี้ได้เลือกพวกเธอเอง!”
“หืมม?” เมื่อเจียงซิ่ว ผู้ที่พิงผนังอยู่ใกล้ๆ ได้ยินประโยคนี้ เขารู้สึกว่าพวกมันฟังดูคุ้นๆ คำพูดเหล่านี้ ไม่ใช่คำพูดอันมีเมตตา ที่เทพคนนี้เอาไว้พูดกับเหล่าสาวๆ? ใครกล้าขโมยพวกมันไป? (เอิ่ม 555)
ใครกันที่อวดดี ถึงกลับกล้าท้าทายและตีตัวเสมอภาคกับเทพคนนี้?
ในทวีปการต่อสู้นิรันดร์ สถานะของเจียงซิ่วสูงส่งยิ่งกว่าพระมหากษัตริย์ อันธพาลชั่วร้ายท้องถิ่น ถึงกับกล้าตีตัวเสมอเทียบเท่าเขา?
R.I.P ยิ่งใหญ่เหล่ย
นิยาเรื่องนี้มี*กลุ่มลับ*แล้วนะครับ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ปักหมุนเพจ
ติดตามข่าวสารได้ก่อนใครที่ เพจ INdy-Novel