บทที่ 19 ความลับที่น่าอับอาย
บทที่ 19
ความลับที่น่าอับอาย
แปลโดย : ราตรีสีทา
เกลาสำนวนโดย : ราตรีสีเทา
แก้คำผิดโดย : ราตรีสีเทา
ทุกคนในโรงเรียนเข้าใจอย่างแจ่มชัดว่าเจียงซิ่วได้ทุบตีคุณครู แต่กลับไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเขา แถมเขายังถูกปล่อยตัวไปเฉยๆอีกด้วย และในทางกลับกัน เขากลับได้รับความดีความชอบที่ยิ่งใหญ่มาก ทุกคนลงความเห็นว่าถูกต้องแล้วที่ทุบตีครูคนนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับพวกนักเรียนหญิง พวกเธอประทับใจเขามากมาย
ทัศนคติของเย่ปิงที่มีให้เจียงซิ่วนั้น เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ตอนนี้เธอคิดว่าเขาไม่ใช่คนที่น่ากลัวอะไร นอกจากนี้ มันยังมีความชื่นชมนิดหน่อยในสายตาของเธอ ไม่ว่าพื้นหลังของเขาจะเป็นยังไง เกรด หรือรูปลักษณ์ นักเรียนชายที่กล้าหาญ สมควแล้ว ที่จะได้รับการยกย่องจากทุกคน
แม้กระทั่งเฉิงหลิงซูที่ไม่ชอบเจียงซิ่วมาก ก็ไร้คำที่จะกล่าว และยังคิดอีกว่า เขาเองก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีดีอะไรเลย ถึงแม้ว่าเจียงซิ่วจะทำเรื่องราวต่างๆโดยชอบธรรม แต่นี้ก็ไม่ได้เปลี่ยนความคิดของเธอ ที่จะยิกเลิกการหมั้นแต่อย่างใด เธอเข้าใจอย่างแจ่มชัดว่า เจียงซิ่วและเธอ เป็นคนของสองโลกที่แตกต่างกัน หนึ่งเป็นชายหนุ่มธรรมดาๆ สามัญ และอีกหนึ่งเป็นลูกสาวของตระกลูผู้ดี ที่ครอบครัวมีอิทธิพล ระดับชนชั้นของพวกเขาไม่เข้าคู่กัน แม้ว่าจะถูกบังคับให้อยู่ด้วยกัน มันก็คงจะไม่จบลงด้วยความสุข นับประสาอะไร กับการที่เธอไม่ได้อะไรชอบเขาเลย
มองไปที่เจียงซิ่ว ซึ่งยืนอยู่บนเวทีด้วยลักษณะที่ผ่อนคลาย เฉิงหลิงซูส่ายศีรษะเบาๆ “ตั้งแต่นายกล้าที่จะต่อสู้กับความชั่วร้าย และทำไมนายถึงไม่กล้าที่จะยุติงานหมั้นจอมปลอมนี่ และก็ออกไปใช้ชีวิตของนายกันหล่ะ?”
เฉิงหลิงซูตัดสินใจที่จะไปคุยกับเจียงซิ่วอีกครั้ง
เธอค่อนข้างกังวลเกี่ยวกับงานหมั้นระหว่างเธอและเจียงซิ่ว เธอรู้สึกราวกับว่ามีห่วงโซ่มาคอยพันตามอยู่รอบร่างกายเธอ มันทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก ในความเป็นจริงแล้ว เธอยังอยู่ในช่วงแรกที่กำลังหารักแรกพบของเธอ เธอกระหายที่จะมีความรัก และแม้แต่กระทั่งเชื่อว่า เย่เหวินเฉิน เป็นเป้าหมายที่ดี ที่จะทำให้เธอได้รู้จักกับคำว่ารักแรก แต่เธอก็ไม่กล้าสืบสานต่อ มันไม่ใช่เพราะเธอยังคงเป็นนักเรียนอยู่ เนื่องเพราะมีคู่รักหลายคู่อยู่ในโรงเรียนอยู่แล้ว แม้แต่ครูในชั้นเรียนก็ไม่เข้มงวดเหมือนกาลก่อน เป็นเพราะการหมั้นครั้งนี้ตั้งหาก เธอรู้สึกเหมือนกับว่ามันจะเป็นการไปทรยศคนๆนั้น ถ้าหากเธอไปเดททั้งๆ ที่การหมั้นครั้งนี้ยังมีผลของมันอยู่ มันไม่ใช่ความซื่อสัตย์หรือภักดี เพียงแต่ว่าเธอไม่สามารถทนต่อการทำเช่นนั้นได้
เพราะฉะนั้น เธอจึงต้องการยกเลิกงานหมั้นนี้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เธอร่างสัญญาไว้กับตัวเอง เพื่อให้เจียงซิ่วสามารถลงชื่อได้ตลอดเวลา เมื่อมันบรรลุผล สุดท้ายแล้วเธอก็จะได้หลุดพ้นจากโซ่ตรวนเหล่านี้ซักที
เฉิงหลิงซูส่งข้อความไปให้เจียงซิ่ว – มาเจอกัน หลังจากเรียนตอนเช้าเสร็จแล้ว
ที่ไหน? – เจียงซิ่วตอบกลับ
เฉิงหลิงซูพึมพำกับตัวเอง ในตอนเที่ยงพวกเขาไม่สามารถออกไปข้างนอกโรงเรียนได้ เพราะฉะนั้นพวกเขาจะพบกันได้เพียงแค่ในโรงเรียนเท่านั้น สถานที่ที่ปลอดภัยที่สุดในโรงเรียนคือตึกที่ถูกทิ้งร้าง เนื่องจากไม่น่าจะมีใครไปที่นั่น
อาคารร้าง
เทพคนนี้จะไป เมื่อถึงเวลา
มีสี่วิชาในตอนเช้า เฉิงหลิงซูไม่ได้ให้ความสนใจกับการเรียนเลย ความคิดของเธอนั้นเต็มไปด้วยวิธีเกลี่ยกล่อมเจียงซิ่ว เธอแม้แต่กระทั้งหลอกตัวเอง ว่าเขาอาจจะเห็นด้วยกับการยกเลิกการหมั้น เธอกลุ้มใจอยู่ชั่วขณะนึง ก่อนที่จะกลับมามีความสุขอีกครั้ง เธอเหม่อลอยไปโดยสมบรูณ์
ราชินีโรงเรียนเฉิง ยามขมวดคิ้วกับรอยยิ้มนั้น ส่งผลกระทบต่อบุคคลทั้งหลาย ประธานสภานักเรียนเย่เหวินเฉิน ก็เป็นหนึ่งในพวกเขา เขาเป็นคนที่มีความรู้สึกว่องไวและเป็นชายที่ฉลาด ดังนั้นเขาจึงรู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกๆไป
เฉิงหลิงซูมักจะตั้งใจฟังในคาบเรียน ทำไมวันนี้จิตใจของเธอจึงฟุ้งซ่าน?!
หลังเรียนในชั้นเรียนเสร็จ เงาที่สวยงาม ซึ่งกำลังฉุนเฉียวก็ปรากฏ ณ อาคารเก่าที่ถูกทิ้งร้าง เธอสวมชุดนักเรียนสีฟ้าขาว จับคู่กับรองเท้าผ้าใบแบบง่ายๆ เธอเดินผ่านพุ่มไม้ และวัชพืชที่กำลังเติบโตที่นั่นเพื่อเข้าไปภายในซอกซอย
เจียงซิ่วอยู่ที่นั้นอยู่ก่อนแล้ว “เธอมีอะไรจะพูดกับเทพคนนี้?”
สายตาเขาตกลงไปบนใบหน้าที่สวยงามของเฉิงหลิงซู เธอรู้สึกได้ว่ามีความรักชนิดนึง ออกมาจากสายตาคู่นั้น มีแม้แต่กระทั้งความหลงใหลปะปนอยู่ เธอพบมันอยู่บ่อยๆจากการจ้องมองของนักเรียนชายทั้งหลายที่มีต่อเธอ แต่เทียบกับการแสดงออกที่ตรงไปตรงมาของพวกนั้น การจ้องมองของเจียงซิ่ว มีร่องรอยแห่งความเศร้าโศกปะปนอยู่ มันเป็นบางสิ่งบางอย่าง ที่ทำให้ตัวคนตกไปสู่ความมึนเมา และหัวใจเหมือนถูกบีบรัดไปด้วยความโศกเศร้า
การแสดงออกลักษณะนั้น วูบผ่านไปมาชั่วขณะนึง ก่อนการแสดงออกเช่นนั้นจะหายออกไปจากสายตาของเขาหลังจากนั้นไม่นานนัก เฉิงหลิงซูรู้สึกราวกับว่า เขากำลังซ่อนบางสิ่งบางอย่างจากตัวเอง แต่ก็เห็นได้ชัดว่าเขาควบคุมตนเองได้อย่างเข้มแข็ง
เฉิงหลิงซูกล่าว “เจียงซิ่ว ฉันชื่นชมนาย ที่รักษาความยุติธรรมให้เด็กที่ตกเป็นเหยื่อได้ แต่นั้นก็... จริงๆ แล้วมันทำให้ฉันเปลี่ยนความคิดของตัวเองที่มีกับนายไปเลย แต่ฉันเองก็ค่อนข้างจริงจังเมื่อคิดถึงความสัมพันธ์ของเรา จริงๆแล้วพวกเราไม่เหมาะกันเลย ในทุกๆด้าน”
เจียงซิ่วไม่ได้พูดอะไรออกมา
เฉิงหลิงซูกล่าวต่อ “ฉันรู้ว่าสิ่งนี้มันทำให้นายเจ็บ เราเล่นด้วยกันในวัยเด็กและยังได้เป็นเพื่อนกันอีกด้วย ฉันยังเห็นนายเป็นพี่ชายอยู่เสมอมา และฉันเองก็คิดเหมือนนาย ว่าไม่ต้องการให้ความสัมพันธ์สุดท้ายที่เหลืออยู่นี้ถูกทำลายลง ใช่ไหม?”
ดวงตาเหล่านั้น คล้ายกันจริงๆ
สายตาของเจียงซิ่วดูเหมือนจะเบลอไป การแสดงออกเช่นนี้ เป็นสิ่งที่เขาไม่สามารถลืมมันได้ แม้จะผ่านไปหลายร้อยปี แม้ว่าเขาจะพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะหยุดมันก็ตาม ดวงตาคู่นั้นกำลังส่องประกายไปด้วยน้ำตา ลักษณะที่เกิดขึ้นเต็มไปด้วยความหมดหวัง มันคล้ายกับมีดที่แทงเข้าไปในหัวใจของเขา
จมูกของเธอ ดูอ่อนโยนและสูงส่ง
เจียงซิ่วยังจำได้ว่าน้ำตาได้ล่วงลงมาจากปลายจมูกของเธอ ไหลลงมาเพื่อข้ามผ่านโลก เวลานั้นราวกับว่า ทุกอย่างคล้ายจะแตกสลายไป
ริมฝีปากสีแดงของเธอ
ทุกๆครั้งที่เธอขมวดคิ้ว หรือยิ้ม วิธีที่เธอบุ้ยปากอย่างน่ารัก การแสดงความโกรธปลอมๆของเธอ
เจียงซิ่วรู้สึกว่าการเต้นของหัวใจเขามันแรงขึ้น
เฉิงหลิงซูกล่าว “เป็นไงบ้างเกี่ยวกับเรื่องนี้? เจียงซิ่ว เราเป็นเพื่อนธรรมดาๆกันแล้ว ใช่มั้ย?” เสียงของเธอแทบจะเหมือนการอ้อนว้อน “นายจะได้ไปพบกับผู้หญิงอีกคนที่รักนาย และนายก็รักเธอไง”
ร่องรอยแห่งความเจ็บปวดกระพริบผ่านใบหน้าของเจียงซิ่ว มือขวาที่สั่นเครือของเขาเอื่อมไปหาเฉิงหลิงซู ต้องการที่จะลูบไล้ใบหน้าของเธอ เฉิงหลิงซูรีบวิ่งออกไปทางด้านข้าง ขณะเดียวกันเมื่อใบหน้าที่ไม่แจ้มชัดอันนั้นใกล้มือของเขา เจียงซิ่วก็ตื่นขึ้น
เขากล่าว “ให้เทพคนนี้จูบเธอ และเทพคนนี้จะให้สัญญากับเธอ!”
“อะไรนะ?”
เฉิงหลิงซูแทบจะไม่เชื่อหูของตัวเอง เจียงซิ่วกล้าที่จะเรียกร้องคำดังกล่าวอย่างไร้เหตุผล ฉันบอกว่าฉันไม่ชอบนาย แล้วนายก็ยังต้องการที่จะจูบฉัน? แต่เธอก็เข้าใจว่านี่เป็นความปรารถนาที่นักเรียนชายแต่ละคนมีต่อหญิงสาวที่พวกเขาหลงรัก เขาคิดจะทำตัวเหมือนพวกคนพาลที่กำลังหาโอกาสทำเรื่องเช่นนั้นหรือไม่? ความรู้สึกแปลกๆ เกิดขึ้นในหัวใจของเธอ สิ่งนี้ทำให้ใบหน้าของเธอร้อนขึ้น
“ถ้าฉันปล่อยให้นายจูบครั้งนึง นายจะยกเลิกงานหมั้นนี้ไปจริงๆ ใช่ไหม?”
“คำพูดของเทพคนนี้ เป็นจริงเสมอ”
เฉิงหลิงซูกัดฟันของเธอ คิดกับตัวเองว่า เธอต้องสละจูบแรกของเธอ เพื่อที่จะได้อิสระภาพของเธอคืนมา เมื่อทำมัน เธอก็จะได้รับการปลดปล่อยแล้ว เธอปิดตาของเธอลง คล้ายกับกำลังได้รับความทุกข์ทรมาณจากสมรภูมิรบ
ผิวที่สะอาดไร้มลทินดุจหิมะของเธอ แทบจะโปร่งแสงภายใต้แสงแดดนี้ อาจจะเนื่องมาจากความรู้สึกผิด คิ้วที่น่ารักของเธอถูกขมวดเข้าหากัน ส่งผลให้ความน่ารักและน่าสงสารของเธอไหลทะลักออกมา และบางทีอาจเป็นเพราะเธอรู้สึกกังวล ขนตาที่ถูกปิดของเธอสั่นเล็กน้อยเหมือนการกระผือปีกของผีเสื้อ ริมฝีปากสีชมพูอันนุ่มนวล ถูกบดเข้าหากันค่อนข้างแน่น กลัวว่าเจียงซิ่วจะทำเกินขอบเขตของตัวเอง
ความเศร้าโศกในดวงตาของเจียงซิ่วเริ่มหนาแน่นขึ้น เฉิงหลิงซูถึงแม้จะหลับตาลง เธอก็ยังรู้สึกได้ว่าเจียงซิ่วกำลังเฝ้าดูเธอ มันจึงช่วยไม่ได้ที่เธอจะเปิดตาขึ้น ความโกรธที่ลึกซึ้ง ปรากฏอยู่ที่รูม่านตาของเธอ ส่งผลให้เธอดูมีรสชาติความดุร้ายที่มากขึ้น “นายมองพอรึยัง? สุดท้ายแล้วนายต้องการจะจูบฉันรึเปล่า?”
ถ้าความดุร้ายไม่ได้ปรากฏขึ้น เฉิงหลิงซูรู้สึกว่าสุดท้ายแล้วก็คงจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริงๆ
“อย่ารีบร้อนไป!”
เจียงซิ่วบอกเป็นนัยๆ ว่าจะไม่ทำให้เธอเสียเวลาอีก มันช่วยไม่ได้ เธอจึงต้องหลับตาลงอีกครั้ง เมื่อนั้นเอง เธอก็รู้สึกว่าลมหายใจของเจียงซิ่วเริ่มร้อนแรงขึ้น ขณะที่มันมุ่งตรงมายังหน้าเธอ และวินาทีถัดไป ราวกับว่าเธอถูกช็อตโดยไฟฟ้า เป็นตอนนี้เอง ที่จิตใจของเธอว่างเปล่าอย่างสิ้นเชิง
หลังจากนั้นเป็นระยะเวลานาน ในที่สุดเธอก็รู้สึกได้ว่าเธอสูญเสียอะไรไป ทันใดนั้นเธอกัดลงไปทันที แม้ว่าเจียงซิ่วจะมีประสบการณ์มากมาย แต่ตอนนี้เขากำลังอยู่ในช่วงระหว่างกลางของการกระทำ(กำลังจูบอยู่นั้นหล่ะ ทำไมฟิน อ๊า) ความเจ็บปวดรุนแรงได้โจมตีเขา ทำให้เขากรีดร้องออกมา เขาปิดปากด้วยมือของเขา มันเป็นเลือด “เธอเป็นบ้าอะไรของเธอ!”
เฉิงหลิงซูมองเขาอย่างดื้อรั้น “นายนั้นแหละที่บ้า นายควรจะพอใจกับการจูบนั้นนะ!”
เธอเอาสัญญาที่เตรียมไว้ออกมา “ลงชื่อมันเดี๋ยวนี้”
เจียงซิ่วแตะไปที่ปากของเขา เนื่องจากการกัด เลือดจำนวนมากจึงเข้าไปในปากตัวเขาเอง เขาหยิบสัญญามา และมองไปที่มัน หลังจากนั้น เขาก็หันกลับออกไป โดยไม่ได้มองย้อนกลับมาอีกเลย
“เฮ้!”
“ฉันจะมอบให้เธอหลังจากที่เซ็นเสร็จแล้ว” เจียงซิ่วพูด
เฉิงหลิงซูยังคงถือปากกาไว้อยู่ในมือ แต่เจียงซิ่วก็ไปไกลแล้ว เธอรู้ว่าเจ้าวายร้ายตัวนี้ จงใจทำเพื่อแก้แค้นให้กับตัวเขาเองที่ถูกกัด “เซ็นมันเดี๋ยวนี้นะ”
อีกด้านหนึ่ง มีคู่รักที่เห็นทุกสิ่งทุกอย่าง
“โอ้พระเจ้า! นั้นมันราชินีของโรงเรียนเฉิงหลิงซู!”
“เธอไม่ได้กำลังคบอยู่กับเย่เหวินเฉิน? เธอมาอยู่กับคนที่ทำร้ายครูคนนั้นได้อย่างไร?”
“นี่เป็นข่าวใหญ่!”
แม้กระทั่งก่อนที่เฉิงหลิงซูจะกลับชั้นเรียน ข่าวก็ได้มาถึงหูของเย่เหวินเฉินเรียบร้อยแล้ว แผ่นจานถูกบดขยี้ดัง ปั๊ง ขณะที่หน้าอกของเขากระเพื้อมขึ้นลงอย่างรุนแรง “นายบอกว่าเจียงซิ่วจูบเฉิงหลิงซู?”
“มันเป็นความจริงอย่างแน่นอน”
เพื่อนที่ดีที่สุดของเขาถอยไปด้านข้าง หลินชวู บอกใบ้ให้กับคนที่มาแจ้งข่าว ว่าให้ออกไป เขาเข้าใจเย่เหวินเฉินเป็นอย่างดี เขาดูอ่อนโยนและสุภาพมาก แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้นเขาโหดเหี้ยมมาก
“เขาต้องการที่จะวางมวยกับซูซู?!” เสียงในตอนนี้ของเย่เหวินเฉิน เพียงพอที่จะทำให้คนสั่นสะท้านเมื่อได้ยินได้ฟังมัน
“นายน้อยเฉิน แผนคืออะไร?”
“ไม่ใช่ว่าเขาได้รับความดีความชอบหรือไง? สภานักเรียนของพวกเรา ควรจะไปแสดงความขอบคุณ ชวนเขาออกไป และให้สมาชิกของแผนกศิลปะการต่อสู้เล่นเขาให้พิการ”
ตอนนี้มันอารายยย ทำไมเทพซิ่วที่เมากาวคนนั้น ถึงทำให้ผมใจสั่นได้ 5555 จากที่ผมไปดำรีวิวของอังกฤษมา เหมือนคะแนนมันจะอยู่ที่กลางๆนะ เรื่องนี้ส่วนใหญ่แล้วไม่ได้เน้นไปที่เนื้อเรื่อง(หรือเน้น) แต่จะเน้นไปที่จิตใจของตัวละครเทพซิ่ว ดูว่า3000ปีที่ผ่านมาเขาจิตใจเขาเป็นแบบไหน และเมื่อมาอยู่โลกนี้ตัวเขาก็ต้องเปลี่ยนตามไปอย่างช้าๆ จนอาจทำให้คนร้องไห้ได้(เหมือนตอนนี้ที่ผมใจสั่น อิอิ) ช่วง 200ตอนแรก อาจจะหน้าหงุดหงิดซักหน่อย แต่จะที่ดูมาผ่านช่วงนี้ไปก็ไม่มีใครบ่นเทพซิ่วอีกเลย เรื่องนี้มี800กว่าตอน ค่อยติดตามไปด้วยกันครับ หุหุ
ปล.ถ้ามีผู้หญิงอยู่ในตอนแอดจะแปลดีขึ้น30เท่า 5555
ติดตามข่าวสารได้ก่อนใครที่ เพจ INdy-Novel