บทที่ 18 ไล่ออกจากโรงเรียน?
บทที่ 18
ไล่ออกจากโรงเรียน?
แปลโดย : ราตรีสีทา
เกลาสำนวนโดย : ราตรีสีเทา
แก้คำผิดโดย : ราตรีสีเทา
ได้ยินอาจารย์ใหญ่ประกาศเรื่องนี้ในที่สาธารณะ ในหัวใจของเฉิงหลิงซูก็ปราศจากความกังวล เธอเชิดคางขึ้น เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเพราะตัวนายเอง ความชั่วร้ายที่ฉันได้มานั้น ยากจะทานทนจริงๆ ตอนที่เธอมองไปยังเจียงซิ่ว แน่นอนเธอเลี่ยงไม่ได้ที่จะคิดว่ามันแปลก ผู้ชายคนนี้ไม่ได้สำนึกผิดอะไรเลย เขาดูไม่เศร้าหมอง มือของเขาไขว้อยู่ที่ด้านหลัง ยืนตัวตรงเหมือนใบมีดอันคมกริบ เขามองไปยังทุกคน ตากรอกไปมา ราวกับว่าเขารังเกียจทุกคนที่อยู่ภายใต้สรวงสวรรค์ มันเหมือนกับว่า คนที่ถูกไล่ออกจากโรงเรียนไม่ได้เป็นเขา และกลับกัน เป็นเขาเองที่จะขับไล่ใครบางคนออก
ยิ่งเธอมองเขามากเท่าไหร่ เฉิงหลิงซูก็ยิ่งรู้สึกโกรธเขามากเท่านั้น
“เจียงซิ่ว เธอถูกไล่ออก เธอไม่ได้เป็นนักเรียนมัธยมของเซ็กเก้นไฮอีกต่อไปแล้ว!”
อาจารย์ใหญ่ได้ตัดสินใจครั้งสุดท้าย
ครูทุกคนนอกเหนือจากอาจารย์ใหญ่มีใบหน้าที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจ และความเกลียดชัง
“เจียงซิ่วเธอมีอะไรจะพูดเพิ่มเติมไหม?” อาจารย์ใหญ่มองไปทางเจียงซิ่ว เขาหวังว่าเจียงซิ่วจะยอมรับความผิดพลาดของตัวเอง ขอโทษออกมาอย่างถูกวิธี และขอบคุณโรงเรียนเก่าของเขาที่เคยให้การศึกษาแก่เขา
อาจารย์ใหญ่พูดเปรยๆ และมอบไมโครโฟนให้แก่เจียงซิ่ว
ตอนนี้ เจียงซิ่วเป็นศัตรูของครูทั้งหมด แต่ละคนอยากจะชี้หน้าเพื่อดูถูกเขา มีครูเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ดูตกใจมาก คนๆนั้นคือหวังซือบิ๋น เขารู้ว่า ถ้าเจียงซิ่วถูกไล่ออกจากโรงเรียน เขาจะพูดออกมาแน่ ว่าตัวเขาเคยรังแกนักเรียนหญิง
เขาขว้าครูเหว่ย รองอาจารย์ใหญ่ที่อยู่ข้างๆตัวเขา แผดเสียงไปที่เธอ “ทำไม? ทำไมถึงซ้อนเรื่องสำคัญแบบนี้กับฉัน?”
“ทำไม?”
ครูเหว่ยรู้สึกตกใจและอธิบาย “เรื่องนี้ถูกตัดสินอย่างเป็นเอกฉันท์ของทุกคนในโรงเรียน และได้รายงานไปยังกระทรวงศึกษธิการเรียบร้อยแล้ว”
“ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ไม่ว่าคุณจะไม่ยอมรับว่าถูกนักเรียนทำร้ายอย่างรุนแรง แต่นักเรียนหลายคนได้เห็นมันด้วยตาของตัวเอง เรื่องนี้ ท้ายที่สุดแล้ว ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้!”
ใบหน้าของหวังซือบิ๋นกลายเป็นซีดเผือก
“ครูหวัง โล่งใจได้ นักเรียนคนนี้ภูมิหลังครอบครัวไม่ได้ดี พ่อแม่ของเขาขายผลไม้ แม้ว่าจะไล่เขาออกไปก็ตาม พวกเขาก็จะไม่สามารถทำอะไรคุณได้”
“ไม่เป็นไร!”
หวังซือบิ๋นตกตะลึงจนพูดไม่ออกเมื่อมองไปที่ครูเหว่ย ไม่เป็นไร.. น้องสาวแกสิ! แต่ประเดี๋ยวก่อน บางทีเธออาจพูดถูก ฉันแค่กลัวมากเกินไป ถ้าเขาไปที่สถานีตำรวจเพื่อรายงานเรื่องนั้นหลังจากที่เจียงซิ่วถูกไล่ออกจากโรงเรียน แม้ว่าเราอาจจะถูกสงสัยเมื่อมันได้พูดถึงเขา แต่ถ้านักเรียนที่ตกเป็นเหยื่อไม่กล้าเปิดเผยเรื่องนี้กับกรมตำรวจ บางที นี้ก็อาจจะไม่สามารถทำอะไรฉันได้
คิดถึงเรื่องนี้ และตั้งแต่เรื่องนี้ได้เกิดขึ้นแล้ว หวังซือบิ๋นก็ค่อยๆ สงบลง
เจียงซิ่วหยิบไมโครโฟนมา แต่ประโยคแรกของเขาก็เพียงพอที่จะทำให้ครูและนักเรียนทุกคนร้องไห้ออกมาด้วยความตื่นตระหนก
“อาจารย์ใหญ่ฉินหลิน...”
“ขยะ!” (5555)
ฮือฮา!
“เขาบ้า? เขาตำหนิอาจารย์ใหญ่อย่างเปิดเผย!”
สำหรับอาจารย์ใหญ่ การแสดงออกของเขากลายเป็นน่าเกลียดทันที เขาประเมิณค่าการศึกษาของเจ้านี้สูงมากเกินไป และเขาก็ยังดูเบาความคิดของเยาวชนยอดแย่คนนี้ไปอีกด้วย เจียงซิ่ว!
“ขยะของวงการการศึกษา บุคคลที่น่ารังเกียจ คนประเภทนี้ไม่เหมาะที่จะเป็นครู มากกว่านี้ก็คงไม่เหมาะสมสำหรับการเป็นอาจารย์ใหญ่”
ใบหน้าของฉินหลินกลายเป็นเหมือนมะเขือยาวที่ถูกแช่แข็ง และใบหน้าของเขาก็เริ่มสั่น
“ไป เอาไมโครโฟนออกมาจากเขา...”
ในเวลาเดียวกันในโรงเรียนที่กำลังเงียบสงบ เสียงไซเรนก็เริ่มดังขึ้น ทุกคนในปัจจุบันเริ่มรู้สึกสับสน ความสับสนวุ่นวายแต่เดิม ก็กลายเป็นความวุ่นวายที่มากขึ้นไปอีกขั้น
“เหตุการณ์แบบนี้หมายความว่าไง?”
“พวกเขามาจับกุมเจียงซิ่ว?”
เฉิงหลิงซูช่วยไม่ได้ที่จะหัวเราะ ประกายแห่งความตื่นเต้นวูบวาบผ่านในสายตาที่สวยงามของเธอ ตอนแรกเธอกังวลว่าเขาจะถูกไล่ออกจากโรงเรียนไปก่อนซะแล้ว เจียงซิ่วคงจะไม่ยอมความ และเขาก็จะพาตัวเองไปอยู่ในกรณีที่ร้ายที่สุด แต่ตอนนี้ดีแล้ว เนื่องจากตำรวจได้มาถึง ในไม่ช้าเขาก็ต้องเผชิญหน้ากับการจำคุก เขาจะต้องยอมความแม้ว่าเขาจะไม่ต้องการก็ตาม
กลุ่มตำรวจในชุดเครื่องแบบหกคน สวมหมวกผู้พิทักษ์ราษฎรอันทรงเกียรติ พวกเขามาพร้อมกับเครื่องหมายอันแวววาวภายใต้แสงแดด พวกเขาก้าวเข้ามา
“ดีใจที่คุณมา”
อาจารย์ใหญ่ที่กำลังประสาทเสีย เมื่อเขามองเห็นตำรวจ เขาก็มองดูพวกนั้นราวกับว่าเขากำลังมองเห็นพ่อแม่ของเขาเอง
“จับกุมตัวเขา!”
ครืด! แม้แต่รถตู้นักข่าวก็เข้ามาในสนามกีฬาหลังจากที่ขับเข้ามาในโรงเรียน มีกลุ่มคนถือเครื่องบันทึกภาพและไมโครโฟน ขณะที่พวกเขารีบเร่งที่จะพกพากล้องเข้ามา
“แม้แต่สื่อข่าวก็มาถึงแล้ว เรื่องนี้จะสร้างความวุ่นวายมากขึ้น”
แต่ ตำรวจไม่ได้ไปทางเจียงซิ่ว ในทางกลับกัน พวกเขาตรงไปหาผู้อำนวยการฝ่ายกิจการนักเรียน หวังซือบิ๋น “นายหวังซือบิ๋น สำหรับการข่มเหง... และล่วงละเมิดนักเรียนหญิง คุณถูกจับกุม”
เมื่อตำรวจมาถึงด้านหน้าของหวังซือบิ๋น เขาก็ตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ ขาของเขากลายเป็นวุ้น ขณะที่เขาแทบล้มลงกับพื้น เขาถูกจับกุมด้วยกุญแจมือ
สถานที่ทั้งหมดเซ็งแซ่ไปด้วยเสียง
ครูและนักเรียนทุกคนไม่สามารถสงบตัวเองลงได้
“ฉันรู้อยู่แล้วว่าหวังซือบิ๋นเป็นพวกนอกรีต”
“เขากล้าล่วงละเมิดนักเรียน”
“สารเลว!”
นักข่าวได้ใช้จังหวะนี้เพื่อก้าวเข้าไปยังข้างใน หญิงสาวนักประกาศข่าวเกือบจะยื่นไมโครโฟรทะลุใบหน้าของหวังซือบิ๋น “ขอโทษนะคะ จิตใจของคุณวิปลาสขนาดไหน ถึงได้ทำลงมือทำเรื่องที่ผิดศีลธรรมเช่นนั้น?”
“มันเป็นเพราะปมในวัยเด็กของคุณ?”
“หรือเป็นเพราะการแต่งงานอัปมงคล?”
ในตอนนี้เอง หวังซือบิ๋นก็มีใบหน้าที่เหมือนคนที่ตายไปแล้วปรากฏขึ้น ราวกับว่าวิญญาณของเขาได้ถูกพรากจากไปเรียบร้อยแล้ว
“โปรดตอบด้วยค่ะ!”
ทีมตำรวจไม่ได้รออะไรอีก ลากหวังซือบิ๋นออกไปในทันที ใช่ เขาถูกลากออกไป ขาของเขาไม่ทำงานอีกต่อไป เขาเข้าใจอย่างชัดเจน ว่าอะไรกำลังรอเขาอยู่
นักสื่อข่าวเห็นว่าพวกเขาไม่ได้รับอะไรเลยจากหวังซือบิ๋น ดังนั้นแล้วเขาจึงมุ่งตรงไปยังหน้าของเจียงซิ่ว “ขอโทษนะคะ คุณคือเจียงซิ่ว? คุณเป็นหนึ่งในคนที่เปิดเผยอาชญากรรมของครูคุณใช่ไหมค่ะ?”
เจียงซิ่วยังคงถือไมโครโฟนไว้ “ใช่... เทพคนนี้... แค๊ก... แค๊ก.. ฉันเห็นมันเอง เพาะฉะนั้นแล้ว ฉันจึงตีตัวชั่วร้ายตัวนี้ เพื่อเป็นแบบอย่างให้นักเรียนหญิงที่ได้รับการทารุณได้เห็น เมื่อเผชิญหน้ากับอาชญากร พวกเราไม่ควรจะกลัว หรือควรอดทนกับมัน สิ่งที่ฉันทำได้ เหยื่อที่เป็นนักเรียนหญิง ก็สามารถทำด้วยได้เช่นกัน”
ตามความเป็นจริงแล้วเจียงซิ่วไม่ได้แจ้งความ เจ้าทุกข์คงเป็นคนทำมัน
“แต่มันช่างหน้าเสียดาย แม้ว่าฉันจะรักษาความยุติธรรม และได้ช่วยเหลือนักเรียนหญิง ฉันกลับถูกไล่ออกโดยอาจารย์ใหญ่ที่ไร้ค่าผู้นี้”
“ทำไม?” หญิงสาวผู้ประกาศข่าวถาม
“เป็นเพราะฉันได้ทุบตีหวังซือบิ๋นคนนั้น และอาจารย์ใหญ่ต้องการที่จะปกป้องเขา ดังนั้นเขาจึงต้องการที่จะขับไล่ฉันออก”
วูส! ปัจจุบันได้เกิดความวุ่นวายขึ้นคนระหว่างนักเรียนและครูอาจารย์
ความโกธรปรากฏอยู่บนแก้มของผู้ประกาศข่าวสาว เธอถามคำถามเพิ่มเติม แต่อาจารย์ใหญ่ฉินหลินก็คำรามออกมา “แกกำลังพูดเรื่องไร้สาระ ฉันเพียงแค่...”
“อะไร?” เจียงซิ่วกล่าว “ต้องการให้ฉันหยุดที่จะกล่าวความจริง? คุณ ในฐานะอาจารย์ใหญ่ กลับปกป้องอาชญากรอย่างเปิดเผย เปลี่ยนโรงเรียนที่สมบูรณ์แบบและดีเยี่ยมแห่งนี้ ให้กลายเป็นสถานที่ที่ชั่วร้าย ฉันบอกว่าคุณเป็นขยะ บอกว่าคุณเป็นคนที่น่ารังเกียจ ฉันพูดผิดไหมละ?”
“ผู้สื่อข่าวสื่อก็อยู่ที่นี่ในตอนนี้ มา มาพูดคุยเกี่ยวกับความถูกผิดของเรื่องนี้ ภายใต้การตรวจสอบข้อเท็จจริงจากส่วนรวม!”
ได้ยินคำพูดของเขา ใบหน้าของฉินหลินกลายเป็นขาวซีด
เจียงซิ่วได้ทุบตีหวังซือบิ๋นเพื่อปกป้องผู้เป็นเหยื่อ แต่เขากลับต้องการไล่เขาออก ดูแล้วเขาเหมือนมีข้อหาในการปกป้องหวังซือบิ๋นจริงๆ นี่เป็นเรื่องที่ค่อนข้างต้องจริงจัง
ฉินหลินตอบโต้อย่างรวดเร็ว “ฮ่าฮ่าฮ่า เราไม่เคยวางแผนที่จะไล่นักเรียเจียงซิ่วออก มันตรงกันข้าม นี้คือการพามายกย่อง!”
ตกตะลึง! ทุกคนกลายเป็นโง่งม!
อาจารย์ใหญ่ คุณรักษาหน้าตัวเองไว้ซักเล็กน้อยได้หรือไม่? หรือคุณคิดว่าพวกเราโง่?
“นักเรียน นักเรียน!”
“ทุกคนสงบลงก่อน!”
“ทุกคนอาจจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้แล้ว ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการนักเรียน หวังซือบิ๋น ได้ลวนลามนักเรียนหญิง จึงถูกจับโดยตำรวจ พระเอกตัวน้อยของเรา นักเรียนเจียงซิ่วเขาไม่ได้จำนนให้แก่อาชญากรชั่วร้าย และเขาได้รักษาความยุติธรรมให้คงอยู่เอาไว้ และถึงแม้ว่าอาจจะเกิดความอาคาดแค้นส่วนตัวกับเขาได้ เขาก็ยังเผชิญหน้ากับผู้ทำผิดทางอาญากรรมอย่างกล้าหาญ เราควรจะเอาเขามาเป็นตัวอย่าง ทุกคน โปรดปรบมือให้เขา...”
เขาเป็นผู้นำในการเริ่มตบมือ แต่ก็รู้สึกอึดอัดมาก เพราะไม่มีใครเลยที่ตบมือตอบรับเขา
คำสาปแช่งที่เจียงซิ่วกล่าวเมื่อไม่นานมานี้ยังคงก้องวนเวียนอยู่ในหู คุณพลิกลิ้นเรื่องนี้ได้ไม่แนบเนียนเลย อาจารย์ใหญ่ คุณกำลังทำลายหน้าตัวเองด้วยวิธีแบบนี้ มันเจ็บหรือไม่?
“รางวัล! เร็ว ไปนำรางวัลมา!”
“โอ้…” อาจารย์ที่อยู่ข้างๆเขาออกไป เพื่อไปนำรางวัลมา
“ฉันจะมอบรางวัลให้กับฮีโร่ตัวน้อยเจียงซิ่ว ที่ได้ต่อสู้อย่างกล้าหาญกับปีศาจวิปลาส...”
ถูกแล้ว... การชุมนุมเพื่อไล่ออกจากโรงเรียน ถูกพิจารณาไปๆมาๆจึงกลายเป็นการชุมนุมเพื่อยกย่องสรรเสริญซะงั้น ฉินหลินค่อนข้างสมควรที่จะเป็นอาจารย์ใหญ่ ในช่วงเวลาที่ครูคนอื่นออกไปเพื่อนำรางวัลมา เขาก็ยืนโม้เกี่ยวกับการกระทำที่กล้าหาญของเจียงซิ่วเป็นเวลา 5 นาทีถ้วน ละมันก็ค่อนข้างห่วยแตกเสียด้วย แม้แต่เจียงซิ่ว ผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งที่สุดในทวีปการต่อสู้นิรันดร์ ผู้ซึ่งเคยชินกับคำพูด ประจบประแจงสอพอ และก็พวกคำพูดเหลวไหล เขาก็ยังรู้สึกเกิดอาการขนลุกขึ้น
ภายใต้เสียงเพลงอันยิ่งใหญ่ อาจารย์ใหญ่ได้มอบเหรียญรางวัลให้แก่เจียงซิ่วด้วยตัวเอง
“ทุกคนโปรดปรบมือ!”
ด้านล่าง ใบหน้าของเฉิงหลิงซูสั่นสะเทือน ในตอนแรกเธอต้องการที่จะเห็นเจียงซิ่วอับอายขายขี้หน้า แต่ตอนนี้ เขาไม่ได้ถูกไล่ออกจากโรงเรียน กลับกัน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ดูเหมือนจะสนับสนุนเขาอย่างมาก สำหรับการกระทำที่กล้าหาญของเขา เขาจะได้รับโควต้าพิเศษในการสอบเข้ามหาวิทยาลัย ประมาณ 20-25 หน่วยกิต
“วันนี้การประชุมยกย่องสรรเสริญจบลงแล้ว ทุกคน โปรดกลับไปเขียนเรียงความเกี่ยวกับเรื่องราวของเจียงซิ่วมา จำนวนคำต้องไม่น้อยกว่า 10,000 คำ ต้องกินใจ ลึกซึ้ง เอาให้ลึกซึ้งเท่าที่เป็นไปได้...”
หลังจากที่แยกย้ายกันออกไป นักสื่อข่าวก็ยังคงสัมภาษณ์อาจารย์ใหญ่ต่อไป ถามว่าเขาคิดอย่างไรเกี่ยวกับเหตุกาณ์ของหวังซือบิ๋น อาจารย์ใหญ่เตรียมจัดระเบียบคำพูดของเขา แต่จู่ๆท่าทางของเขาก็กลายเป็นขาวซีดในฉับพลัน ทำให้เขาตะโกนออกมา “ฉันพูดเสร็จแล้ว!”
เขาส่งเอกสารการขับไล่เจียงซิ่วออก ไปยังกระทรวงศึกษาธิการเมื่อวานนี้ ถ้าเซ็กเก้นไฮขับไล่เขาออกไปจริงๆ เรื่องที่เขาถูกสงสัยว่าปกป้องหวังซือบิ๋นหรือไม่ก็จะเป็นจริง และเขาจะไปมีเวลาสำหรับการสัมภาษณ์แบบนี้ได้ยังไง? เขารีบวิ่งไปที่กรทรวงศึกษาธิการ เหงื่อขึ้นทั่วหน้าผากของเขา
แม้ว่าอาจารย์ใหญ่ได้หนีไปแล้ว รองอาจารย์ใหญ่ก็ยังคงอยู่ที่นี่ ครูเหว่ยเผชิญหน้ากับผู้สื่อข่าว “อืมม ใช่ เจียงซิ่วเป็นนักเรียนที่มีคุณธรรม เขาเป็นเด็กที่มีโอกาสอันยอดเยี่ยม นอกจากนี้เขายังมีความกล้าหาญมาก ฉันเองก็ยังอยากจะเห็นอนาคตของเขา”
แต่ละคนนี้ลิ้นทองทั้งนั้น 55555
ติดตามข่าวสารได้ก่อนใครที่ เพจ INdy-Novel