บทที่ 12 เหี้ยมหาญ
บทที่ 12
เหี้ยมหาญ
แปลโดย : ราตรีสีทา
เกลาสำนวนโดย : ราตรีสีเทา
แก้คำผิดโดย : ราตรีสีเทา
เป็นอันตกลง แม้ว่าการฝึกฝนความทรหดระดับผู้เชี่ยวชาญจะดูน่าเกรงขาม และอีกทั้งพลังนั้นยังมีมากกว่าผู้เชี่ยวชาญหลายๆ คนเสียอีก ในด้านการทำลายล้าง แต่ทว่านั้นจะเทียบกับคนทั้งสองได้หรือเปล่า? ชูวเที่ยนหนานและหลิวเฉิ้งจิน พ่อแก่ถังเฉิ่นเชียนเข้าใจอย่างชัดเจน ว่าหัวใจของเขาให้ความสำคัญแก่สิ่งใด
แต่อย่างไรก็ตาม เขาก็ยังรู้สึกกระอักกระอวนใจอยู่ดี ถ้าการฝึกฝนความทรหดของเจียงซิ่วนั้นเป็นของจริงละ
ผู้เชี่ยวชาญ เป็นสิ่งที่ละเอียดอ่อนมาก ฉะนั้นเขาจึงไม่มีทางเลือกมากนั้น ทำได้แต่เพียงพูดขอโทษและส่งเขาออกไป หลังจากนั้นด้วยตัวตนของเขา ถังเฉิ่นเชียนด้วยการที่เขาอยู่ในสถานที่แบบนี้ จะไม่มีใครกล้ารุกรานเขากลับอย่างแน่นอน แต่เจียงซิ่วได้ช่วยชีวิตเขาไว้ ฉะนั้นการที่เขาช่วยชีวิตครั้งนั้น เขาจึงถือเป็นผู้มีพระคุณ!
“ผู้เชี่ยวชาญทั้งสอง สิ่งนี้ดูเหมือนจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่” ถังเฉิ่นเชียนเกริ่นนำ “นายเจียงได้ช่วยชีวิตพวกเราเมื่อไม่นานมานี้ การไล่เขาออกไปตอนนี้ ถือว่าไม่สมควรแกการให้อภัย ฉันจะบอกให้การ์ดบางคนเฝ้าประตูไว้เมื่อเวลามาถึง เขาจะอยู่ข้างใน!”
การไล่ผู้มีพระคุณออกไปนั้น ถือว่าไม่ใช่เรื่องที่ดี ชูวเที่ยนหนานและหลิวเฉิ้งจินมองกันและกัน แม้ว่าใบหน้าของเขาจะยังคงความระคายเคืองไว้ แต่พวกเขาก็พยักหน้าในที่สุด
ถังเฉิ่นเชียนปล่อยลมหายใจออกมา “อาด๊ง เธอจัดการเรื่องนี้ ให้การ์ดเฝ้านายเจียงให้อยู่ในห้องไว้ อย่าปล่อยให้เขาออกมาเมื่อถึงเวลา”
อาด๊งเป็นคนขับรถ
“ได้!”
เขาตอบออกมาสั้นๆ
“ศัตรูในตอนนี้เป็นคนค่อนข้างอำมหิต ดังนั้นที่ให้เขาพักอยู่ในห้อง..” ชูวเที่ยนหนานเอ่ย “นี้ก็สอดคล้องกับความปราถนาของเขาเองด้วยเหมือนกัน” พูดได้ดังนั้นเขาก็หัวเราะ มันเป็นการเยาะเย้ยอย่างชัดเจน ในขณะที่คำพูดของเขานั้นเต็มไปด้วยความพอใจ
เพื่อนสนิทของเขา หลิวเฉิ้งจินส่ายหัวอย่างระเหี่ยใจ ดูเหมือนว่าเจียงซิ่วจะได้รับความสะดวกสบายและผลประโยชน์จากพวกเขาไปพอสมควร
“เป็นธรรมดาที่เขาไม่สามารถเปรียบเทียบได้กับผู้ยิ่งใหญ่ชวู!”
แม้เจียงซิ่วจะช่วยชีวิตเขาไว้ด้วยการจับที่น่าตกใจนั้น เขาช่วยชีวิตเราไว้โดยการคว้ามาย-บาสช์ ที่หนักมากกว่า1.5ตันเอาไว้เหนือหัว อาด๊งเข้าใจอย่างชัดเจนว่าพระคุณก็เป็นพระคุณ และพละกำลังก็เป็นพละกำลัง เขาเห็นด้วย ที่ว่าเจียงซิ่วนั้นมีศักยภาพอันน่าเกรงขาม แต่เขาก็ยังคงห่างออกไปเป็นไมล์ เมื่อเทียบกับชูวเที่ยนหนาน
เขามาถึงประตูห้องพักของเจียงซิ่ว และยืนเฝ้าอยู่ที่นั่น!
เขาเชื่อฟังอย่างเคร่งครัดตามคำสั่งของเถ่าแก่ และเขาจะไม่ให้เจียงซิ่วออกมาจากห้องแม้แต่เพียงครึ่งก้าว นี้ก็เพื่อไม่ให้ท่านผู้ยิ่งใหญ่ชวูและท่านผู้ยิ่งใหญ่หลิวตำหนิเขาได้ มันมีพวกสิบแปดมงกุฎมากมายในวงการศิลปะการต่อสู้ และครั้งหนึ่งเคยมีผู้เชี่ยวชาญที่มีความสุขอยู่ในจุดด้านบน เขาเพลิดเพลินและดื่มด่ำไปกับตัวเอง เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ อาด๊งคิดว่าที่เจียงซิ่วมาช่วยเขาไว้นั้นมันก็เป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าปล่อยเขาไปนั้นมันอาจจะส่งผลถึงชื่อเสียงของท่านผู้ยิ่งใหญ่ชวูได้ (ประโยคนี้แอดก็งง555)
และในตอนนี้ เจียงซิ่วก็ได้หลับไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว! สายเลือดของเขาได้ถูกปลุกตื่นขึ้นมา และเขาก็ยังได้เข้าไปสู่การปลุกตื่นระดับที่1 ที่เป็นขอบเขตในตำนาน มันจึงทำให้เขาเหนื่อยเนื่องจากถูกบริโภคพลังฉีและเลือดไปเป็นจำนวนมาก นั้นจึงเป็นที่คาดเดาได้ว่าเมื่อหัวเขาถึงหมอนและเขาก็ได้หลับไปในทันที
เขานอนหลับเหมือนเด็กทารก แม้แต่กระทั้งกรนออกมา!
เมื่อเสียงกรนเข้าหูอาด๊ง เส้นเลือดสีดำปรากฏขึ้นบนที่หน้าผากของเขา เขาหลับไปแล้วจริงๆ ผู้เชี่ยวชาญยังคงตื่นตัวด้วยการนั่งขัดสมาธิและจมลงไปในสมาธิของตัวเอง ถ้าไม่ใช่ว่าเจียงซิ่วชีวิตช่วยพวกเขาไว้ อาด๊งคงจะพลิกเตียงเขาคว่ำ
เขาไม่ได้มาที่นี่เพื่อปกป้องพ่อแก่หรือ?!
เวลาได้ผ่านไปและมันเป็นช่วงเวลาเริ่มวันใหม่ ประมาณ2นาฬิกา(ตี2) ทันใดนั้น เสียงกรีดร้องที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวก็ดังขึ้น มันมาจากบริเวณที่ทหารอยู่และดังขึ้นอย่างเงียบๆ ทุกคนถูกปลุกให้ตื่นโดยพวกนั้น ไม่นานหลังจากนั้น ก็ได้ยินเสียงปืน ในทันทีตาของเจียงซิ่วเปิดออก และฉากที่เขาเห็นก็เพียงพอที่จะทำให้ทุกคนเป็นใบ้
ที่หน้าต่างห้อง และแม้กระทั่งบนพื้น งูสีฟ้าทุกขนาดกำลังเลื้อยอยู่ มีไม่กี่ตัวที่กำลังเลื่อยมาข้างหน้า ทิ้งร่องรอยสีใสไว้บนพื้นขณะที่พวกมันกำลังเลื่อยไปมา
ถ้าเป็นคนทั่วไป ใจของพวกเขาก็จะหวาดผวาและตกอยู่ในความกลัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้านบนของเตียง งูหลายๆตัวส่งเสียงขู่มายังเจียงซิ่ว แต่เขาทำเพียงแค่หัวเราะ “งูพิษ? พวกมันถูกฝึกฝนมา!”
งูพิษหลังจากที่เห็นเจียงซิ่วเต็มตา พวกมันก็เปิดเผยความกลัวออกมา ใช่ มันเป็นความกลัว เพราะพวกมันรู้สึกว่ามนุษย์ข้างหน้านั้นห่างไกลจากบางสิ่งที่เรียกว่าความธรรมดา
“ศัตรู พวกมันมาถึงแล้ว?”
เจียงซิ่วเมินเฉยต่อกลุ่มงูนี้ เขาเป็นพิษร้ายแรงมากกว่าพวกมันเสียอีก เขายืนขึ้น งูพิษถอยหลังกลับไปอย่างรวดเร็ว พวกมันเหมือนกำลัจะงพยายามหลีกเลี่ยงสิ่งที่อันตรายมากๆอยู่ ถอยกลับไปที่มุมและออกไปทางหน้าต่าง
เจียงซิ่วเปิดประตู และพบว่าอาด๊งกำลังเฝ้าอยู่ด้านนอก เขาใช้มือของตัวเองขวางเขาไว้หลังจากที่ประตูเปิดออกมา “นายเจียง เพื่อความปลอดภัยของคุณเอง โปรดอยู่ภายในห้องไว้”
“และรู้สึกมั่นใจได้เลย ว่ามันจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับคุณ!”
“ตั้งใจจะทำอะไร?” เขามาเพื่อช่วย และศัตรูมาถึงแล้ว ทำไมพวกเขาถึงอยากให้เขาอยู่แต่ภายในห้อง?
อาด๊งหัวเราะ “ไม่มีอะไร คุณเป็นแขกที่นับถือของเรา ดังนั้นเราจะให้คุณเผชิญกับอันตรายได้อย่างไร? โปรดรออยู่ภายในห้องอย่างปลอดภัย ท่านผู้ยิ่งใหญ่ชวูและท่านผู้ยิ่งใหญ่หลิวจะแก้ปัญหาได้ในเร็วๆนี้”
หลังจากพูดแบบนี้แล้ว เขาก็ปิดประตู
กริ๊ก! มันแม้แต่กระทั่งถูกล็อค!
การป้องกันของทหารนั้นเข้มงวดมาก แต่มันก็ถูกทำลายลงด้วยงูพิษที่มาอย่างไม่ให้สุ่มเสียง ยามรักษาการณ์ด้านนอกและยามที่ซ่อนอยู่ ทั้งหมดของพวกนั้นถูกโจมตีโดยพิษ
ถ้ามันสว่างพอ มันก็อาจจะเป็นไปได้ที่จะเห็นว่ามีหมอกสีเขียวปกคลุมทั่วท้องฟ้าเต็มไปหมด
มีคนกำลังเดินเข้ามาด้วยการก้าวเท้ากว้างๆ มันราวกับเขากำลังเดินอยู่ในสวนหลังบ้านตัวเอง “ถังเฉิ่นเชียน วันนี้เป็นวันตายของแก!”
เสียงของเขาเปรียบเสมือนกับนกฮูก ทำให้มันดูเหมือนกับเป็นบุคคลที่เลือดเย็น
“หลินเฉิ่นไบ๋!”
ถังเฉิ่นเชียนกลายเป็นวิตกเมื่อเห็นคนที่มาถึง เขากำหมัดของเขาแน่น เขาได้เข้าร่วมกองทัพตั้งแต่วัยเยาว์ อยู่ในวงการทหารมาตลอดชีวิต และเขาเองก็ไม่แม้แต่จะรู้ว่า ตัวเขาเองได้ผ่านความเป็นและความตายมาแล้วกี่ครั้ง ระยะเวลายาวนานได้ผ่านไป หัวใจของเขาก็แข็งแกร่งดุจเหล็กกล้า แต่ทว่าตอนนี้เขากลับเกิดความกลัวขึ้นมา
“แกควรจะกลับไป!”
เสียงแววมาจากที่ไกลๆ มีคนออกมาจากฝั่งซ้ายของลาน ดุจดั่งม้าที่รวดเร็ว เขาออกมาจากบ้านอย่างรวดเร็วด้วยการเคลื่อนไหวที่ทรงพลัง มันเป็นชูวเที่ยนหนานจริงๆ หลิวเฉิ้งจินในทางกลับกัน เขาได้ออกมาจากทางขวาของลานบ้าน
สองผู้เชี่ยวชาญที่ยิ่งใหญ่!
หลินเฉิ่นไบ๋กวาดสายตาผ่านทั้งสองบุคคลก่อนที่เขาจะระเบิดหัวเราะออกมา “คนเหล่านี้... คือคนที่แกมั่นใจ?” กลิ่นอายของเขาเพิ่มสูงขึ้นในทุกๆครั้งที่ก้าวไปข้างหน้า
กลิ่นอายฆ่าฟันอันเสมือนจริง ถูกระเบิดออกมา!
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า….”
ชูวเที่ยนหนานแสดงออกอย่างโอ้อวดขณะที่ชี้ไปยังบุคคลนั้น “หลินเฉิ่นไบ๋ ความผิดพลาดที่ใหญ่สุดในชีวิตแก คือการที่มาเป็นศัตรูของพ่อแก่ สิ่งที่โง่เขลาที่สุดของแก ก็คือการได้มาเห็นฉัน ชูวเที่ยนหนาน ที่นี่ไม่มีทางหนีสำหรับแกอีกแล้ว”
“ทำไมมัวแต่พูดไร้สาระ? ทำให้เขาพิการ!” หลิวเฉิ้งจินพุ่งทะยานไป เขาลอยขึ้นเหมือนขนนก แต่ทว่าร่วงลงมาด้วยแรงดึงดูดอันหนักหน่วง บูมม! เขากระแทกพื้นด้วยกำลังทั้งหมดที่มี ส่งผลให้กระเบื้องทั้งหมด กลายสภาพเป็นเหมือนระลอกคลื่นทะเล
“ไร้ประโยชน์!”
หลินเฉิ่นไบ๋มองพื้นที่เป็นระลอกคลื่นซึ่งกำลังไหลเข้ามา เขายกเท้าขวาขึ้น และในทันทีก็กระแทกมันลงไป พลังงานไร้ตัวตนได้วิ่งแล่นเข้าไปยังพื้นดิน ก่อให้เกิดการชนกันและกันของทั้งสองพลังงาน
รูยักษ์ได้เกิดขึ้นบนพื้น ทำให้มันดูยุ่งเหยิง...
ภายในหมอกควัน หลินเฉิ่นไบ๋พุ่งไปยังข้างหน้า หนามอันแหลมคมกระพิบผ่าน ชูวเที่ยนหนานตื่นตระหนกและก้มลงต่ำเพื่อหลีกเลี่ยง
ลักษณะของหนามอันเย็นเยียบนั้นมองเห็นได้อย่างชัดเจน เมื่อมันเข้ามาใกล้ลำตัวของหลิวเฉิ้งจิน มันเป็นกริช กริชสีขาวใส มันดูน่ากลัวอย่างสุดขีดเมื่อมันปรากฏโดยมีกลางคืนเป็นฉากหลัง และในตอนนี้มันนก็เปียกปอนไปด้วยเลือดแล้ว
“น่ารังเกียจ!”
หลิวเฉิ้งจินสาปแช่งด้วยความโกรธ แต่เขาก็ผวาอย่างมาก ความเร็วของศัตรูเร็วมากเกินไป ตอนนี้เขาอยู่ห่างไป 20 เมตร และในพริบตา เขาก็ได้มาอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว และแม้แต่กระทั่งเขาได้รับอาการบาดเจ็บจากมัน
“ฮืม?”
หลินเฉิ่นไบ๋รู้สึกถึงการโจมตีของหมัดที่แข็งแกร่งจากด้านข้าง เขาเหวี่ยงกริชในมือของเขาออกไปในลักษณะที่แปลกประหลาด ก่อให้เกิดเส้นโค้งตามลักษณะที่มันเฉือนไป ถ้ายังไปตามทิศทางนี้ต่อไป กริชของเขาก็จะไปปะทะกับหมัดชูวเที่ยนหนาน ซึ่งเป็นถึงผู้เชี่ยวชาญเจ้าของหมัดจระเข้ดารา ดังนั้นถึงแม้ว่าจะเป็นกริช มันก็จะไม่สามารถทำร้ายหมัดเขาได้อยู่ดี
แต่ทว่าร่างกายของหลินเฉิ่นไบ๋ขยับตัวไปด้านข้างอย่างพิสดาร 10 เซนติเมตร ทำให้กริชไม่ได้ปะทะกับหมัด แต่มันกลับเฉือนลงไปภายในข้อมือแทน
ฉึบ! กริชเฉือนลงไป ทำให้เลือดสีแดงพุ่งออกมาเต็มไปหมด
หมัดจระเข้ดาราไม่ได้เปลี่ยนทิศทางของมัน และมันปะทะเข้ากับซี่โครงของหลินเฉิ่นไบ๋ การโจมตีครั้งนี้เพียงพอที่จะทำให้เขาบาดเจ็บสาหัสได้ แต่ทว่ารอยยิ้มแปลกๆ ก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหลินเฉิ่นไบ๋ เอวของเขากลับกลายเป็นนุ่มพริ่วเหมือนงู และบิดตัวออกไปจากโจมตีนั้น กำปั้นของชูวเที่ยนหนานกลายเป็นไร้เป้าหมาย มันเฉียดผ่านออกไปด้านข้างของเขา มันส่งผลให้พุ่งผ่านไปอย่างไร้ประโยชน์
หลินเฉิ่นไบ๋มองไปที่กริชตัวเองอย่างภาคภูมิใจ และเปิดเผยความหลงใหลภายในสายตา มันเป็นเพราะเขาหลุ่มหลงในการใช้ทักษะเฉือน และเขาเองก็ยังชอบศิลปะและการเต้นรำด้วยเช่นกัน
“แก...”
“วัตถุประสงค์ที่แท้จริงของฉันในการมาเยือนครั้งนี้ก็คือ... ผู้รับใช้แห่งเต๋า!”
“ย๊าห์!” ชูวเที่ยนหนานและหลิวเฉิ้งจินร้องออกมาอย่างตื่นตระหนกในเวลาเดียวกัน ท่าทางของเขาเปลี่ยนไปเป็นซีดเผือก
“ปะ เป็นไปได้อย่างไร?”
“เปิดตาของพวกแกให้กว้าง และมองดูให้ชัดเจน!” ด้วยเสียง พรึบ หลินเฉิ่นไบ๋ในกะทันหันก็หายตัวไป ความเร็วของเขารวดเร็วเกินไป ถังเฉิ่นเชียนที่อยู่คนเดียวในที่ห่างไกลก็มองไปเห็น แม้พวกเขาจะอยู่ใกล้ชิดชูวเที่ยนหนานและหลิวเฉิ้งจินก็ยังไม่สามารถมองเห็นได้อยู่ดี เขามีโอกาสมองเห็นเพียงภาพติดตาที่เหลืออยู่เท่านั้น
ปิ๊ส... ปิ๊ส...
เงาวูบวาบไปมา หมุนวนรอบชูวเที่ยนหนานและหลิวเฉิ้งจินอย่างต่อเนื่อง เลือดสีแดงพุ่งออกมาจากร่างกายของพวกเขา สร้างฉากที่สะเทือนขวัญออกมา
“32 33...”
เขากล่าวการเฉือนแต่ละครั้งของเขาออกมาอย่างชัดเจน
ชูวเที่ยนหนานและหลิวเฉิ้งจินโจมตีเงาอย่างบ้าคลั่ง แต่การโจมตีทั้งหมดของเขาโดนแต่เพียงภาพติดตา พวกเขาตะโกนเหมือนคนบ้า... ‘ย๊าห์’ … แต่พวกเขาก็ยังถูกเหยียดหยามคล้ายจัวเองเป็นเกะที่ไม่มีพิษภัย การตะโกนของเขาเปลี่ยนมาเป็นการร้องอย่างปวดร้าว ขณะที่พวกเขากำลังเผชิญหน้ากับความตาย
“103 104...”
เลือดย้อมดินเป็นสีแดง สร้างภาพอันน่าสยดสยองออกมา มนุษย์มีเลือดมากเท่าไหร่กัน? และมันจะไหลออกมานานแค่ไหน?
“208 209...”
เสียงตะโกนของพวกเขากลายเป็นแผ่วลง และการเคลื่อนไหวก็ยังดูเชื่องช้าอย่างมาก ในที่สุด เสียงของพวกเขาก็หยุดลง แม้แต่กระทั้งความเร็วของพวกเขาก็เหมือนกับเป็นผู้หญิงสูงอายุ พวกเขาไม่สามารถทนอีกต่อไป และทรุดตัวลงไปในสระเลือดนั้น
ทรวงอกของพวกเขายังขยับขึ้นลง เป็นสัญญาณบ่งชี้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ที่บ่งบอกว่าพวกเขายังมีชีวิตอยู่!
“321!”
สถานที่แห่งนี้กลายเป็นเงียบลง ถังเฉิ่นเชียนที่แนบอยู่กับประตูทางเข้า เหมือนจะอ่อนเพลียและเลือดสีแดงเหมือนจะไม่มีอยู่บนหน้าเขาอีกต่อไป ผู้เชี่ยวชาญสองคนที่เขาเชิญมา เหมือนเป็นการเล่นกับเด็กๆ สำหรับหลินเฉิ่นไบ๋
สิ่งที่ทำให้หัวใจของถังเฉิ่นเชียนสั่นสะท้านคือความเร็วของเขาน่ากลัวอย่างมาก การเคลื่อนไหวเพียงหนึ่งครั้ง ก็เพียงพอที่จะเอาชีวิตพวกเขา แต่กระนั้น เขาก็เฉือนพวกนั้นไปมากกว่า 300 ครั้ง เพื่อทรมานทั้งๆ ที่มีชีวิตอยู่ ทำให้พวกเขาค่อยๆ ตายด้วยความสิ้นหวังและความหวาดกลัว
น่าสะพรึงกลัว... นี่มันน่าสะพรึงกลัวเกินไป
หลินเฉิ่นไบ๋… เขาก็เป็นเช่นเดียวกับเมื่อก่อน
“ปะ เป็นไปได้อย่างไร?”
เปลือกตาของชูวเที่ยนหนานเริ่มมืดมัว
“นี่คือความแข็งแกร่งที่ควรจะมี ของการเป็นผู้รับใช้เต๋า?” ความแข็งแกร่งแตกต่างกันมากมายไพศาลเกินไป ไม่มีโอกาสแม้แต่น้อยนิดในการเอาชนะ
ตอนนี้ ชูวเที่ยนหนานเต็มไปด้วยความเสียใจและความเกลียดชัง ทำไมฉันถึงยุ่มยามแทรกแซงเรื่องนี้? ตอนนี้ แม้แต่ชีวิตของฉันก็กำลังหายไป
“ฉันเล่นกับแกมามากพอแล้ว ถึงเวลาที่จะส่งแกไปเที่ยวไกลๆแล้ว”
“บาย บ๊าย…”
ทันใดนั้น มีเสียงอันก้องกังวานดังขึ้น “ชูวเที่ยนหนาน ถ้านายคุกเข่าลง และขอร้องเทพคนนี้ บางทีนั้นฉันอาจจะช่วยชีวิตพวกนายได้”
ติดตามข่าวสารได้ก่อนใครที่ เพจ INdy-Novel