HK ตอนที่ : 75
การมาถึงของเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งสองได้ช่วยตัวแทนจากแคนน่อนเอาไว้ได้ มัตสึชิตะทาคาโกะรีบก้าวไปด้านหน้าของเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งสองและพูดว่า "สวัสดีค่ะคุณตำรวจ ฉันเป็นล่ามให้กับทางตัวแทนจากบริษัทแคนน่อนของประเทศวูซางที่เดินทางมาทำธุรกิจในครั้งนี้ ฉันอยากจะแจ้งความว่ากลุ่มพังค์ทั้งแปดคนนี้ตั้งใจลงมือทำร้ายตัวแทนเจรจาธุรกิจของเรา!"
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งสองนายได้ยินว่าคนที่โดนทำร้ายเป็นคนจากวูซาง นอกจากนี้ยังเป็นคณะตัวแทนที่มาทำธุรกิจากบริษัทแคนน่อนที่มีชื่อโด่งดัง เกิดการทะเลาะวิวาดบนถนนด้านหลังนี้ กรณีคดีนี้จัดการได้ยากมาก! เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งสองจึงรีบติดต่อไปที่สถานีตำรวจชวนฮูอย่างรวดเร็วเพื่อรายงานเรื่องนี้
หลังจากคดีของเย่เฟิง ทางสถานีตำรวจชวนฮูกำลังได้รับแรงกดดันอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกัปตันเฉินกวงเหลียง ถ้ารองผู้กำกับเซี่ยงหยางชุนไม่ได้ช่วยเขาไว้ เฉินกวงเหลียงคงได้สูญเสียตำแหน่งหัวหน้าแผนกอาชญากรรมให้กับเหล่ยหยาคุนไปแล้ว!
แม้ว่าเหล่ยหย่าคุนจะไม่ได้รับตำแหน่งหัวหน้าทีมแผนกอาชญากรรม แต่เขาก็ยังมีโอกาสที่จะจัดตั้งแผนกอาชญากรรมเพื่อทำหน้าที่เป็นกัปตันได้!
หลังจากที่ทีมได้ร้องขอความช่วยเหลือ เฉินกวงเหลียงก็รีบนำทีมมาที่เกิดเหตุทันที เจ้าหน้าที่ตำรวจสองนายที่อยู่ในที่เกิดเหตุเรียกรถพยาบาลมาและส่งทั้งสามคนที่ได้รับบาดเจ็บไปที่โรงพยาบาลชวนฮู ส่วนมัตสึชิตะทาคาโกะรอตามเจ้าหน้าที่ตำรวจกลับไปที่สถานีตำรวจเพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม
เฉินกวงเหลียงเดินเข้ามาในร้านอาหารเฉินจี มองไปที่กลุ่มของซูเอ้อดิงและพูดเสียงเย็นชาว่า "เป็นพวกแกที่เริ่มก่อนใช่ไหม?"
ซูเอ้อดิงแสร้งทำเป็นกำลังได้ความไม่เป็นธรรม "กัปตันเฉินเรื่องนี้คุณไม่สามารถปรักปรำเราได้! คนแถวนี้เป็นพยานได้นะว่าไอ้พวกวูซางน้อยนั่นเป็นคนเริ่มก่อน! อีกอย่างพวกเรายอมมอบตัวด้วย!"
ชิเล่ยพูดแทรกขึ้นมาว่า "กัปตันเฉิน ผมสามารถยืนยันให้พวกเขาได้ว่าคนจากวูซางเป็นคนเริ่มก่อน!"
เฉินกวงเหลียงเมื่อพบว่าชิเล่ยก็อยู่ที่นี่ด้วย เขามองหลิงหยู่โม่กับมู่ชวงอย่างแปลกๆ แล้วแกล้งพูดว่า "พวกเขามีคุณเป็นเพื่อนนี่มันชั่งโชคดีจริงๆ!"
เมื่อได้ยินเฉินกวงเหลียงเรียกชื่อชิเล่ยออกมา ทำให้ตอนนี้บนใบหน้าของมัตสึชิตะทาคาโกะเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่
ชิเล่ยหัวเราะยิ้มและพูดว่า "กัปตันเฉิน คุณสามารถหยิบอะไรขึ้มากินก็ได้ แต่คุณไม่สามารถพูดอะไรไร้สาระได้! ถึงความสัมพันธ์ระหว่างเราทั้งสองคนจะเป็นสิ่งที่ดี แต่ผมก็ยังฟ้องคุณในข้อหาหมิ่นประมาทได้นะ!"
"เอาล่ะๆ ฉันไม่พูดเล่นแล้ว ชิเล่ย นายเห็นเหตุการณ์หมดทุกอย่างใช่ไหม?" เฉินกวงเหลียงถามในฐานะเจ้าหน้าที่ตำรวจ
"แน่นอน" ชิเล่ยยอมรับว่า "ผมกับเพื่อนนักศึกษาสองคน กำลังทานข้าวกันอยู่ในร้านอาหารเฉินจี และเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดครับ!"
เฉินกวงเหลียงเผยรอยยิ้มบนใบหน้าและพูดว่า "ดี งั้นชิเล่ย นายตามฉันไปให้ปากคำที่โรงพัก!"
"ไม่มีปัญหาครับ!" ชิเล่ยแอบยิ้มอยู่ในใจโดยไม่ได้แสดงออกมา
"ชิเล่ย ถ้าเพื่อนนักศึกษาทั้งสองคนของนายเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดด้วยเหมือนกันละก็ ฉันคิดว่าจะให้พวกเธอไปให้ปากคำที่โรงพักด้วยเหมือนกัน" เฉินกวงเหลียงเปิดปากพูด
ชิเล่ยขมวดคิ้วและพูด "กัปตันเฉิน ตอนนี้ไกล้จะหกโมงเย็นแล้ว จะให้นักเรียนหญิงสองไปที่สถานีตำรวจมันคงดูไม่ดีเห็นด้วยไหมครับ? ทำไมไม่สอบปากคำพวกเธอที่นี่แทนล่ะ! ส่วนผมจะตามคุณไปที่สถานีตำรวจเพื่อสอบปากคำ"
เฉินกวงเหลียงมองขึ้นไปทนฟ้าที่กำลังเริ่มมืด พยักหน้าเห็นด้วยและพูดว่า "ตกลงตามนั้น!"
ตำรวจที่เป็นคนสอบปากคำก็คือเต๋าชุน เขาพูดล้อเลียนว่า "ไงชิเล่ย นายชั่งหาเพื่อนได้ดีจริงๆ"
ชิเล่ยตบหลังเต๋าชุน "พี่ชายเต๋าพวกเขาเป็นแค่เพื่อนผม! พี่เต๋าพี่รีบไปสอบปากคำได้แล้ว!"
"ไม่ต้องกังวลไปชิเล่ย ฉันจะถามคำถามง่ายๆกับเพื่อนของนายเพื่อให้พวกเธอไม่รู้สึกอึดอัด!" เต๋าชุนยิ้มและหันไปถามมู่ชวงกับหลิงหยูโม่ "นักเรียนทั้งสอง ผมขอถามพวกคุณหน่อยว่าฝ่ายไหนเป็นฝ่ายเริ่มก่อน?"
"คนวูซางทั้งสามคนเป็นคนเริ่มก่อน!" มู่ชวงพูดอย่างใจเย็นหลิงหยูโม่พูดตามและพยักหน้า
เต๋าชุนถามคำถามอีกสองสามข้อ และเสร็จสิ้นการสอบปากคำในสถานที่ หลิงหยูโม่มองชิเล่ยอย่างกังวล ชิเล่ยจึงเดินมาด้านข้างเธอและจากนั้นพูดว่า "เสี่ยวโม่ มู่ชวง พวกเธอไม่ต้องเป็นห่วง เดี๋ยวฉันไปให้ปากคำที่โรงพักแปปหนึ่ง เดี๋ยวพวกเขาก็ปล่อยฉันกลับหอแล้ว!"
หลิงหยูโม่มองชิเล่ยอย่างจริงจัง "พิสดารหิน นายพูดแล้วนะว่าจะกลับมา!"
มู่ชวงมองชิเล่ยและขมวดคิ้วเล็กน้อย เธอกลัวว่าชิเล่ยจะไม่ได้กลับมาง่ายๆน่ะสิ นอกจากนี้ยังเป็นอาชญากรรมที่ยุยงให้ผู้อื่นทำร้ายชาวต่างชาติ
"หยูโม่เรากลับไปรอชิเล่ยที่หอเถอะ!" มู่ชวงได้มองลึกเข้าไปที่ชิเล่ยและดึงหลิงหยูโม่ขึ้นมา
ชิเล่ยมองมู่ชวงยิ้มและพูดว่า "เสี่ยวโม่ ทำตามที่มู่ชวงพูด!"
"ชิเล่ยนายดูแลตัวเองด้วย!" โทนเสียงของมู่งดูเป็นห่วงแปลกๆ
หลังจากที่สาวสวยทั้งสองกลับหอไป ชิเล่ยก็นั่งรถตำรวจกับเฉินกวงเหลียงและกลับไปที่สถานีตำรวจชวนฮู เฉินกวงเหลียงขับรถ มัตสึชิตะทาคาโกะนั่งข้างคนขับ ชิเล่ยและซูเอ้อดิงกับพังค์อีกคนนั่งอยู่ด้านหลัง ส่วนอีกหกคนที่เหลือนั่งรถตู้กลับไปกับเต๋าชุน
รถตำรวจที่กำลังขับโดยเฉินกวงเหลียงยังคงเป็น Santana 2000 ในเบาะหลังชิเล่ยที่เป็นพยานและไม่ได้ใส่กุญแจมือไว้ เขาหยิบโทรศัพท์มือถือของเขาออกมาและกำลังแก้ไขซอร์สโค้ดในข้อความโทรศัพท์มือถือของเขา
หลังจากนั้นไม่นานชิเล่ยก็กดปุ่มส่ง จากนั้นซูเอ้อดิงที่นั่งอยู่ด้านหลังโทรศัพท์มือถือที่อยู่ในกระเป๋าก็ดังขึ้นมา แต่มือของเขาถูกใส่กุญแจมืออยู่และดึงโทรศัพท์ออกจากกระเป๋ากางเกงด้วยความยากลำบาก
"แปลกแหะ ฉันว่าฉันได้ยินเสียงข้อความเข้า แต่นี่ทำไมไม่เห็นมีอะไรเลย?" ซูเอ้อดิงที่ถือโทรศัพท์อยู่กำลังพึมพำกับตัวเอง ชิเล่ยที่นั่งอยู่ด้านขวาสุด มีรอยยิ้มอยู่ที่มุมปากของเขา
บนหน้าจอโทรศัพท์มือถือของชิเล่ยมีคำภาษาอังกฤษปรากฏขึ้นว่า deleted/ลบ!
ขณะที่กำลังมองชมทิวทัศน์นอกหน้าต่าง แต่ที่มือของชิเล่ยกำลังกดโทรศัพท์มือถือบนแป้นพิมพ์ t9 อย่างรวดเร็วและเชื่อมต่อเข้าสู่เซิร์ฟเวอร์มหาลัยชวนกิ่ง ผ่านการเชื่อมต่อเครือข่ายมือถือแล้วเข้าสู่เซิร์ฟเวอร์มือถือผ่านแบ็คดอร์ของระบบ
เพียงแค่ลบบันทึกในโทรศัพท์มือถือของซูเอ้อดิงแน่นอนว่ามันยังห่างไกลจากคำว่าพอ! เนื่องจากชิเล่ยโทรหาซูเอ้อดิงมันจึงมีการบันทึกไว้บนเซิร์ฟเวอร์มือถือและมีแม้กระทั่งการบันทึกเสียงเอาไว้!
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือทุกรายมีการบันทึก! มาตรการนี้สามารถแก้ปัญหาได้หลายอย่าง! ไม่ต้องพูดถึงเรื่องสิทธิส่วนบุคคลใดๆ โดยทั่วไปธุรกิจบริการโทรศัพท์เหล่านี้จะไม่ตรวจสอบบันทึกเสียงเหล่านี้ แต่เมื่อมีหน่วยงานเข้ามาเกี่ยวข้องจำเป็นต้องใช้ในการสืบสวน! แน่นอนว่าการบันทึกการโทรเหล่านี้จะถูกลบเป็นประจำในทุกๆสองถึงสามวัน!
ความเร็วของเครือข่ายในโทรศัพท์มือถือมีจำกัด จึงไม่ค่อยสะดวกในการควบคุมเซิร์ฟเวอร์มหาลัยชวนกิ่งและเข้าฐานบริการโทรศัพท์มือถือฐานไม่สะดวกนัก และเฉินกวงเหลียงก็ขับรถตำรวจเร็วมาก แป๊ปเดียวก็มาถึงสถานีตำรวจชวนฮูแล้ว
หลังจากลงจากรถชิเล่ยพูดขึ้นมาทันทีว่า "กัปตันเฉินห้องน้ำอยู่ไหนครับ? ผมคงกินอะไรไม่สะอาดเข้าไป ตอนนี้ปวดท้องมากเลย!"
เฉินกวงเหลียงหัวเราะ "ชิเล่ย ฉันจะบอกนายไว้ให้นะฝีมือการทำอาหารของโอวหยางเนี่ยสุดยอดแล้ว แต่นายก็ยังออกไปกินข้างนอกอีก ชั่งโชคร้ายจริงๆ"
ชิเล่ยแสดงท่าทางรีบร้อนและพูดว่า "กัปตันเฉินหยุดพูดได้แล้ว และบอกผมมาห้องน้ำอยู่ที่ไหน?"
"อยู่บนชั้นสามของคดีอาชญากรรม ซ้ายมือ รีบไปๆ!" เฉินกวงเหลียงหัวเราะ
ชิเล่ยรีบเดินขึ้นไปที่ชั้นสาม ซูเอ้อดิงก้มหัวลงต่ำและบนใบหน้ากำลังมีความสุขอยู่ เมื่อตอนอยู่ในร้านอาหารเฉินจีในตลาด เขาเห็นชิเล่ยกับเฉินกวงเหลียงทักทายกัน แค่นั้นก็ทำให้เขาประหลาดใจมากแล้ว จนตอนนี้เฉินกวงเหลียงและชิเล่ยกำลังพูดล้อเล่นกัน ทั้งสองคนดูเหมือนจะมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกกัน ซึ่งทำให้ซูเอ้อดิงประหลาดใจมากขึ้นไปอีก
ในความคิดของซูเอ้อดิงเห็นได้ชัดว่าชิเล่ยเป็นพวกเดียวกันกับเย่เฟิง และจริงๆแล้วก็ยังมีความสัมพันธ์ที่ดีกับตำรวจอีก นั่นหมายความว่าอะไร? อธิบายไดอย่างเดียวว่ากระบวรการความคิดของชิเล่ยเหมือนกับเป็นสุนัขจิ้งจอกเจ้าเล่ห์!
'โชคดีแล้วที่ฉันยืนอยู่ข้างเดียวกับพี่ใหญ่หิน!' ซูเอ้อดิงถอนหายใจอย่างลับๆ
ในห้องน้ำบนชั้นที่สาม ชิเล่ยที่กำลังถือโทรศัพท์มือถือควบคุมเซิร์ฟเวอร์มหาลัยชวนกิ่ง ป้อนคำสั่งลบลงในสถานีบริการโทรศัพท์มือถือ
โชคดีที่ชิเล่ยได้สร้างแบ็คดอร์ของสถานีบริการโทรศัพท์มือถือไว้ก่อนหน้านี้ ไม่อย่างงั้นมันจะเป็นเรื่องลำบากมากขึ้น ในขณะนี้เซิร์ฟเวอร์ในอุตสาหกรรมการสื่อสารถือเป็นซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ที่มีระดับบิ๊กแม็คและประสิทธิภาพการรักษาความปลอดภัยดีเยี่ยม แต่น่าเสียดายที่ในช่วง 6 ปีที่ผ่านมาผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือของประเทศเซี่ยยังไม่ได้รับสิทธิ์ในสถานีบริการโทรศัพท์มือถือ หรือซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของพวกเขา จึงไม่สามารถจัดการกับข้อมูลจำนวนมากได้
การจัดการจัดการข้อมูลการสื่อสารมือถือของผู้ใช้บริการการครั้งแรกจะถูกประมวลผลข้อมูลหลังจากผ่านการประมวลฐานบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่และจัดเก็บไปยังซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของสำนักงานใหญ่ พูดอีกอย่างก็คือสถานีบริการโทรศัพท์มือถือมีอำนาจมากอย่างมาก
ชิเล่ยสั่งคำสั่งลบผ่านการอนุญาตโดยผู้มีอำนาจของสถานีให้บริการโทรศัพท์มือถือเพื่อป้อนเข้าสู่ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ และลบบันทึกการโทรของชิเล่ยกับซูเอ้อดิงออกจากระบบโดยตรง
มองไปข้อมูลบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือ ชิเล่ยหัวเราะและกำลังภูมิใจในความฉลาดของตัวเอง
ชิเล่ยเก็บโทรศัพท์ แล้วเดินเข้าไปในแผนกอาชญากรรม ชิเล่ยมองไปรอบๆ แล้วตะโกนเรียกออกมาว่า "โอวหยางอยู่ไหม?"
ซูเอ้อดิงและคนอื่นๆกำลังยืนอย่างเรียบร้อยอยู่ในแถวและเฉินกวงเหลียงกำลังพูดคุยกับพวกเขาอยู่ เมื่อเขาได้ยินเสียงชิเล่ย เฉินกวงเหลียงก็เปิดปากพูดหยอกล้อว่า "อะไรกัน? ตอนนี้เพิ่งจะมาคิดถึงโอวหยางแล้ว? แต่เมื่อตอนที่กำลังกินข้าวกับเพื่อนนักศึกษาสาวสองคน ทำไมถึงไม่คิดถึงโอวหยางล่ะ!"
ชิเล่ยเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงานของโอวหยางชางอย่างสบายๆ จากนั้นดึงลิ้นออกมาหยิบนมกล่องออกมากิน
"กัปตันเฉิน ผมคิดว่าคุณคงจะไม่บอกให้โอวหยางรู้ใช่มั้ย?"
เฉินกวงเหลียงเหลียงจงใจปั้นหน้าเสือและพูดอย่างจริงจังว่า "ชิเล่ย จากที่ฉันดูพฤติกรรมของนาย ฉันต้องต้องไปบอกเธอ!"
"เฮ้เฮ้เฮ้ กัปตันเฉิน เราสองคนก็ถือได้ว่ารู้จักกันมานาน อย่าใจร้ายกับผมมากนักเลย!" ชิเล่ยถือนมไปนั่งตรงโต๊ะที่เฉินกวงเหลียงกำลังนั่งอยู่
การกระทำตามปกติเช่นนี้ทำให้ซูเอ้อดิงเกิดหวาดกลัวมากขึ้น ผู้สมรู้ร่วมคิดกับอาชญากรระดับ A ที่ทางตำรวจกำลังต้องการตัว ความจริงแล้วเป็นเพื่อนกับตำรวจ!
ในใจของซูเอ้อดิงกำลังคิดว่าคนหนุนหลังของชิเล่ยจะใหญ่ระดับไหนกัน!
ใบหน้าของมัตสึชิตะทาคาโกะดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ และในสายตาของเธอกำลังจ้องมองชิเล่ย ในใจเธอเต็มไปด้วยความกระวนกระวาย
สุดท้ายมัตสึชิตะทาคาโกะก็ตัดสินใจเปิดปากพูดว่า "เจ้าหน้าที่เฉิน ฉันมีเรื่องบางอย่างจะแจ้งให้คุณทราบค่ะ!"