HK ตอนที่ : 72
ในโรงแรมกรีนเลค ทางด้านตัวแทนของบริษัทไอโกทั้งสามคนกำลังโวยวายกับมู่ชวงเพื่อให้เธอหาคำอธิบายที่สมเหตุสมผลกับพวกเขา! ทำไมบริษัทไลก้าจากประเทศยีสซิถึงจ่ายแค่ 500,000 ดอลล่าร์ แต่แล้วทำไมบริษัทไอโกของพวกเขาต้องจ่ายถึง 2 ล้านดอลล่าร์ด้วยมันเพราะอะไรกัน?
ชิเล่ยและหลิงหยูโม่ทั้งคู่ต่างมองไปที่มู่งชวงด้วยความไม่เข้าใจ ว่าทำไมมู่ชวงถึงคิดราคาแตกต่างกัน
มู่ชวงที่นั่งบนเก้าอี้ด้วยลักษณะบนใบหน้าของเธอที่ไม่แยแส พูดด้วยน้ำเสียงที่สงบว่า "ทางไลก้าต้องการแค่ซอร์สโค้ดของโปรแกรมตรวจจับรอยยิ้มกับสิทธิ์การขายในประเทศเซี่ยเท่านั้น ดังนั้นเราจึงคิดพวกเขาแค่ 500,000 ดอลล่าร์ อย่างไรก็ตามเราจะให้สิทธิบัตรกับบริษัทของคุณ เพื่อที่คุณจะได้กลายเป็นเจ้าของสิทธิบัตรมัน ดังนั้นแล้วคุณเลยจำเป็นต้องจ่ายถึง 2 ล้านดอลลาร์!"
ถึงแม้ว่าซ่งหม่าอันจะเป็นคนฉลาด แต่เขาก็ไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิค ดังนั้นเขาจึงไม่เข้าใจถึงมูลค่าของมัน จากนั้นซ่งหม่าอันจึงตะโกนออกมาว่า "เราไม่ต้องการสิทธิบัตรอะไรทั้งนั้น ผมต้องการแค่ซอร์สโค้ดกับสิทธิ์การขายเท่านั้น!"
มู่ชวงเผยรอยยิ้มออกมา "คุณซ่ง คุณแน่ใจนะว่าคุณไม่ต้องสิทธิ์บัตรใช่ไหม?"
เล่าเสี่ยวต้องการที่จะเปิดปากพูดเตือนซ่งหม่าอัน แต่ในที่สุดแล้วเขาก็ไม่ได้พูดออกมา
"คุณมู่ ผมตัดสินใจแล้ว! แค่เพียงซอร์สโค้ดกับสิทธิ์การขาย ราคาแค่ 500,000 ดอลล่าร์ ใช่ไหม?" ซ่งหม่าอันไม่ได้พิจารณาอะไรทั้งสิ้นแต่ถามออกมาตรงๆ
มู่ชวงพยักหน้า "ใช่ค่ะ แค่ 500,000 ดอลล่าร์ แต่ฉันคิดว่าจะให้คุณกับไปพิจารณาอีกครั้งและเราค่อยมาพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้กันอีกทีในวันพรุ้งนี้!"
ซ่งหม่าอันต้องการจะบอกว่าเขาอยากเซ็นสัญญาตอนนี้เลย แต่ในที่สุดเล่าเสี่ยวก็ทนไม่ไหว ดึงชายเสื้อของเขาเพื่อส่งซิกให้
"ขอบคุณคุณมู่ เราจะกับไปพิจาณเรื่องนี้ใหม่!"
ชิเล่ยกับสองสาวและตัวแทนบริษัทไลก้า ย้อนกลับมาที่ห้องประชุมขนาดเล็กที่พวกเขาจองไว้ มู่ชวงและวิเลี่ยมได้ทำการปรึกษาหารือกันได้และลงนามในสัญญาข้อตกลงเบื้องต้น
ในสัญญากำหนดไว้อย่างชัดเจนว่า บริษัทไลก้าสามารถใช้ซอร์สโค้ดของโปรแกรมตรวจจับรอยยิ้ม เพื่อดำเนินการพัฒนารุ่นต่อไปได้ แต่แหล่งที่มาของซอร์สโค้ดไม่สามารถเปิดเผยได้ และชิเล่ยต้องให้การสนับสนุนด้านเทคนิคเพื่อช่วยไลก้า ลงระบบโปรแกรมตรวจจับรอยยิ้มเข้ากับระบบกล้องดิจิทัลของไลก้า
หลังจากลงนามในสัญญาข้อตกลงเบื้องต้นกันเสร็จแล้ว ชิเล่ยบอกกับวิลเลี่ยมถึงการประกวดซอฟต์แวร์มหาลัยชวนกิ่ง และหวังว่าวิลเลี่ยมจะส่งอีเมลไปยังมหาลัยชวนกิ่งในชื่อของบริษัทไลก้าอย่างเป็นทางการ และจะกลายมาเป็นหนึ่งในคณะกรรมการในการประกวดซอฟต์แวร์มหาลัย
วิลเลี่ยมฟังเรื่องราวอย่างตั้งอกตั้งใจมากบอกว่าไม่มีปัญหา และทั้งสองฝ่ายตกลงกันว่าโปรแกรมตรวจจับรอยยิ้มจะทำการประกาศต่อสาธารณชนเกี่ยวการลงนามในสัญญาอย่างเป็นทางการ เมื่อตอนประกาศผลการประกวดซอฟต์แวร์!
เมื่อเสร็จจากเรื่องกับทางไลก้าแล้ว ชิเล่ยรู้สึกโล่งใจเล็กน้อย เขาก็พร้อมที่พาหลิงหยูโม่กับมู่ชวงกลับไปที่มหาลัยแล้ว แต่หัวหน้าจอร์ชตัวแทนจากทีมเจรจาของโกดัก ก็โทรกลับมาหาชิเล่ยอีกครั้งและเชิญมาเจรจาต่อรองในโรงแรมกรีนเลค
ชิเล่ยเดินนำหลิงยูโม่กับมู่ชวงสองสาวงาม ไปที่ห้องประชุมที่ถูกจองโดยบริษัทโกดัก เพื่อเริ่มต้นการเจรจาใหม่อีกครั้ง
ในห้องประชุมของโกดัก หัวจอร์ชเบลคที่กำลังถือเอกสาร เมื่อเห็นชิเล่ยเดินเข้ามา จอร์ชจึงหันไปพูดทักทายอย่างสุภาพว่า "คุณชิ คุณมาเร็วมาก!"
ชิเล่ยพูดโดยตรงแบบไม่ปกปิดว่า "ผมมาโรงแรมกรีนเลคตั้งแต่เช้าแล้ว มาคุยกับทางบริษัทไลก้าจากประเทศยีสซิตอนเช้า ส่วนตอนบ่ายผมไปคุยกับทางบริษัทไอโกจากประเทศผมเอง"
หัวหน้าจอร์ชขมวดคิ้ว ส่วนผู้ช่วยของเขาไมค์ไม่สามารถอดทนรอได้จึงพูดขึ้นว่า "คุณชิ ทางเรามีข้อสงสัยว่า ทำไมสิทธิบัตรทั่วโลกของโปรแกรมตรวจจับรอยยิ้มถึงอยู่กับโซนี่?"
ชิเล่ยยักคิ้ว "คุณไมค์ ผมขอแก้ไขคำพูดคุณนิดหนึ่ง สิทธิบัตรของโปรแกรมตรวจจับรอยยิ้มประเทศเซี่ยเป็นของพวกเรา ไม่ใช่โซนี่ นอกจากนี้โปรแกรมตรวจจับยิ้มของผม ก้าวหน้าไปไกลกว่าของโซนี่มาก!"
ไมค์พูดด้วยน้ำเสียงข่มขู่ว่า "คุณชิ ทำไมเมื่อตอนเราเริ่มเจรจากันทำไมคุณถึงไม่พูดเรื่องนี้ออกมา?"
"คุณไมค์ ผมขอพูดตรงๆเลยนะ ถ้าสิทธิบัตรเป็นสิทธิบัตรทั่วโลก คุณคิดว่าโปรแกรมตรวจจับรอยยิ้มจะมีมูลค่าเท่าไหร่?" ชิเล่ยจี้ถามไมค์!
หลังจากการเปิดโปรแกรมตรวจจับรอยยิ้มที่อยู่ในตัวกล้องแล้ว พูดได้เลยว่า 99.999% กล้องโทรหรือศัพท์มือถือรุ่นต่อๆไป จะต้องมีโปรแกรมนี้ติดตั้งอยู่ในนั้นแน่นอน
จะมีคนใช้โปรแกรมนี้จำนวนมากและเพียงแค่ค่าธรรมเนียมของสิทธิบัตรใบนี้ละก็ นั่นก็เท่ากับว่านี่คือจำนวนเงินมหาศาล! แล้วราคามันจะไปถูกได้อย่างไร?
"คุณชิ ถ้าคุณมีแค่สิทธิบัตรในเฉพาะประเทศเซี่ยกับซอร์สโค้ดของโปรแกรมตรวจจับรอยยิ้ม ทางบริษัทโกดักของเรา สามารถเสนอราคาได้แค่เพียง 50,000 ดอลล่าร์เทาั้น!" จอร์ชพูดพร้อมขมวดคิ้ว
ใบหน้าชิเล่ยแข็งค้างเล็กน้อย 50,000 ดอลลาร์? บริษัทโกดักคิดว่ากำลังทำทานหรือไง?
แม้แต่มู่ชวงช่วยไม่ได้ที่จะเผยรอยยิ้มออกมา!
"หัวจอร์ช บริษัทโกดักของคุณ ไม่มีความจริงใจเอาซะเลย!" ชิเล่ยไม่อาจระงับความโมโหได้ จึงพูดด้วยความรังเกียจ
จอร์ชเบลคพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า "คุณชิ ทางบริษัทโกดักของเรานั้น จริงใจมากๆแล้วและเงิน 50,000 ดอลล่าร์มันไม่ใช่จำนวนน้อยๆเลยนะครับ ถ้าเปลี่ยนเป็นเงินสกุลเซี่ย มันเท่ากับเงิน 400,000 หยวน! คุณชิ เงิน 400,000 หยวน นี่พอจะซื้อบ้านเดี่ยวแถวมหาลัยคุณได้เลยนะครับ!"
ชิเล่ยหัวเราะออกมา ทางโกดักได้ตรวจสอบตัวตนของเขา พวกเขาคิดว่าเขาที่เป็นนักศึกษาง่ายที่จะหลอก? ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมในปี 2012 ยักษ์ใหญ่ของวงการอุตสาหกรรมกล้อง ถึงทรุดตัวลงและประกาศล้มละลาย!
จากทัศนคติของพวกเขาต่อเทคโนโลยีใหม่ๆ จะเห็นได้ว่าเลยว่าบริษัทนี้ทั้งหัวโบราณและเสื่อมโทรม!
"หัวหน้าจอร์ช เงิน 50,000 ดอลล่าร์นี้คุณเก็บไว้เองเถอะ!" ชิเล่ยลุกขึ้นยืนและพร้อมที่จะประกาศยกเลิกการเจรจา
จอร์ชพยายามพูดอีกเป็นครั้งสุดท้ายว่า "คุณชิ สิทธิบัตรของโปรแกรมตรวจจับรอยยิ้มส่วนใหญ่อยู่ในมือของพวกโซนี่ พวกเขาจะไม่ปล่อยสิทธิบัตรของประเทศเซี่บไว้กับคุณแน่ อีกไม่นานเดี๋ยวพวกเขาก็ไปฟ้องคุณกับศาลแน่นอน! ถ้าคุณยินดีขายสิทธิบัตรนี้ให้ทางโกดักของเราตอนนี้ เรายินดีที่จะจ่ายให้คุณ 100,000 ดอลลาร์!"
ชิเล่ยช่วยไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเสียงดัง บริษัทโกดักนี่มันน่าผิดหวังมากเกินไป!
ตอนแรกชิเล่ยOriginally, Shi Lei most is willing with the Kodak Company cooperation, this hundred years of enterprise, to be enormous in the entire Xia Nation influence, ‚share time, share life.’ Knows in the Xia Nation person widely!ตั้งใจที่จะให้ความร่วมมือกับทางบริษัทโกดักอย่างมาก เพราะบริษัทนี้ก่อตั้งมาร่วม 100 กว่าปีแล้ว และมีอิทธิพลอย่างมากทั่วประเทศเซี่ย 'แชร์ช่วงเวลาเพื่อแบ่งปันชีวิต' มันเป็นที่รู้จักกันดีในประเทศเซี่ย!
ช่างน่าเสียดายที่บริษัทโกดักน้อยมากที่จะใส่ใจกับเทคโนโลยีใหม่ๆ! มันฝังลึกอยู่ในโกดักนี่คือโศกนาฏกรรมของการประกาศล้มละลายในที่สุด!
"หัวหน้าจอร์ช พวกเรามีบางอย่างที่ต้องไปทำ ไว้เราค่อยคุยกันครั้งหน้าละกันครับ!" ชิเล่ยทิ้งคำพูดสุดท้ายกับโกดัก แล้วเดินจากไป
หัวหน้าจอร์ชเต็มไปด้วยความเสียใจอย่างแท้จริง "คุณชิ ทางเราต้องขออภัยจริงๆครับ เราก็ต้องไปเตรียมตัวบินกลับประเทศลี่เจียงเหมือนกัน ผมขอให้คุณโชคดีครับ!"
ชิเล่ยพาสองสาวเดินออกมาจากห้องประชุมโดยไม่ได้หันกลับไปมอง!
ในลิฟท์ หลิวหยูโม่พูดขึ้นมาด้วยความโมโหว่า "พิสดารหิน คนจากบริษัทโกดักนี่น่ารังเกียจมาก!"
มู่ชวงพูดอย่างเห็นด้วยว่า "ร้อยปีที่ผ่านมาทำให้บริษัทพวกเขาเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่ง แต่พวกเขาไม่ได้ตระหนักถึงวิกฤตที่ซ่อนอยู่ของตัวเองเลย!"
ชิเล่ยตกใจเล็กน้อย ขนาดมู่ชวงเธอยังรู้? แล้วทำไมบริษัทโกดักถึงยังไม่รู้ตัว?
"มู่ชวง จะเกิดอะไรขึ้นกับบริษัทโกดัก?" ชิเล่ยหลอกถาม
มู่ชวงเหลือบมองไปที่ชิเล่ยแล้วอธิบายว่า "อนาคตในการถ่ายภาพต้องใช้กล้องดิจิทัลที่จะทำให้สะดวกสบายมากขึ้น ไม่ใช่กล้องฟิล์มที่ล้าสมัย! ถ้าบริษัทโกดักไม่ยอมปล่อยวางอดีต แน่นอนว่าพวกเขาต้องถูกเขี่ยทิ้ง!"
ในใจของชิเล่ยกำลังตกใจ! วิสัยทัศน์ทางธุรกิจของมู่งชวงมันกว้างมากขนาดไหนกัน?
"มันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ!"
ทั้งสามคนกำลังเดินออกจากโรงแรมกรีนเลคและกำลังจะเรียกรถแท็กซี่เพื่องนั่งกลับไปที่มหาลัยชวนกิ่ง แต่โทรศัพท์ของชิเล่ยก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง
หลังจากรับสายแล้ว เสียงทุ้มต่ำก็ดังขึ้นมา "ขอโทษครับ ใช่คุณชิเล่ยหรือเปล่าครับ? ผมเป็นตัวแทนจากบริษัทแคนน่อน ชื่อโคโนะ อิจิโระครับ!"
ภาษาเซี่ยที่ออกมาจากปากขอโคโนะอิชิโระแทบฟังไม่ออก ทำให้ชิเล่ยยากที่จะเข้าใจ!
"ผมชิเล่ย คุณโคโนะ ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน?" ชิเล่ยสอบถาม ถ้าอีกฝ่ายกำลังจะมาถึงโรงแรมกรีนเลค อย่างงั้นพวกเขาก็จะรอและพยายามคุยกันให้ได้ในวันนี้!
โคโนะอิจิโระหันไปถามด้วยภาษาญี่ปุ่นกับล่ามที่ชื่อว่ามัตสึชิตะ ทาคาโกะ "ทาคาโกะ ตอนนี้เราอยู่ที่ไหน?"
มัตสึชิตะทาคาโกะเป็นผู้หญิงที่มีลักษณะหน้าตาจัดได้วาสวยในระดับหนึ่ง มองไปที่โคโนะอิจิโระด้วยรอยยิ้มที่มีเสน่ห์ของเธอและพูดว่า "โคโนะซัง ตอนนี้เราอยู่ที่มหาลัยชวนกิ่งค่ะ อีกประมาณ 5 นาที เราก็จะถึงโรงแรมกรีนเลคแล้ว"
โคโนะอิจิโระที่กำลังถือโทรศัพท์อยู่ก็ได้ยืนโทรศัพท์ให้มัตสึชิตะทาคาโกะและพูดว่า "ทาคาโกะบอกชายคนนั้นว่า พวกเรากำลังไปที่โรงแรมกรีนเลค ให้เขาไปรอเราที่นั่น!"
ชิเล่ยที่กำลังถือสายอยู่ได้ยินทุกอย่างชัดเจน ชิเล่ยมีความเชี่ยวชาญในภาษาภาษาญี่ปุ่นและก็ยังพูดภาษาญี่ปุ่นได้ด้วย!
อย่างไรก็ตาม ชิเล่ยก็ทำแบบเดียวกับวิลเลี่ยมที่เข้าใจภาษาของคนอื่น แต่ก็แกล้งทำเป็นไม่เข้าใจ
มัตสึชิตะทาคาโกะรับโทรศัพท์มาและพูดด้วยน้ำเสียงที่มีเสน่ห์ว่า "สวัสดีค่ะคุณชิเล่ย ฉันเป็นล่ามให้กับทางตัวแทนของบริษัทแคนน่อน ชื่อมัตสึชิตะทาคาโกะค่ะ เรากำลังจะถึงโรงแรมกรีนเลคแล้ว คุณชิเล่ยกรุณารีบมาที่โรงแรมกรีนเลคเลยนะคะ เราจะได้เจรจาเกี่ยวกับโปรแกรมตรวจจับรอยยิ้มให้เร็วที่สุดถ้าเป็นไปได้"
ชิเล่ยตอบว่า "ตกลงคุณทาคาโกะ ผมจะรอพวกคุณที่โรงแรมกรีนเลค!"
ไม่กี่นาทีต่อมา รถยนต์ธุรกิจสีดำก็ได้ขับมาจอดที่ทางเข้าของโรงแรมกรีนเลค ก็มีชายอ้วนที่สูงไม่ถึง 160 เซนติเมตรลงมาจากที่นั่งด้านหลัง ตามมาด้วยผู้หญิงที่สูงประมาณ 165 เซนติเมตร จากนั้นก็มีชายสองคนที่ใส่ชุดสูททางการและท่าทางดูจริงจรงและคนที่ดูเหมือนผู้ช่วยลงจากรถด้านหลังตามลำดับ
ชายอ้วนที่ตัวเตี้ย อ้วนและน่าเกลียดก็คือโคโนะอิจิโระ แขนของเขากำลังโอบรอบเอวของหญิงสาวที่ชื่อมัตสึชิตะทาคาโกะอย่างหยาบคาย บนใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความอึดอัดใจที่จะทำให้คนรู้สึกว่าไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้!
ถึงแม้ว่าโคโนะอิจิโระจะตัวเตี้ย อ้วนและน่าเกลียด แต่เขาก็เป็นถึงรองผู้อำนวยการแผนกประชาสัมพันธ์ของบริษัทแคนน่อนและครอบครัวของเขาในบริษัทแคนน่อนก็มีหุ้นอยู่ในมือเป็นจำนวนมาก!
ครั้งนี้มาเจรจาต่อรองกันที่ประเทศเซี่ย ตอนแรกพวกเขาจะไม่ส่งไอ้อ้วนอัปลักษณ์คนนี้มา แต่ไอ้อ้วนที่น่าเกลียดคนนี้ยืนยันว่าคนจากประเทศเซี่ยนั้นไม่น่าจะทำการค้าใหญ่โตอะไรและนี่คือเหตุผลที่เขาได้ตัวแหน่งของหัวหน้าทีมเจรจาต่อรอง
โชคดีที่บริษัทแคนนอนไม่ได้เป็นบริษัททีไม่มีสมอง พวกเขาได้ส่งผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคสองคนตามไอ้อ้วนอัปลักษณ์คนนี้มาด้วย
เมื่อไอ้อ้วนอัปลักษณ์โอบเอวมัตสึชิตะทาคาโกะเดินเข้ามาในล็อบบี้ของโรงแรมกรีนเลค สายตาของเขาก็ไปหยุดลงที่หลิงหยูโม่กับมู่ชวง ในแววตาเต็มไปด้วยความหื่นกระหาย!