HK ตอนที่ : 71
หลังจากชิเล่ยวางสาย เขายิ้มพูดกับมู่ชวงด้านข้างว่า "มู่ชวง ตัวแทนจากบริษัทไอโกชวนเราไปทานข้าวกลางวัน!"
ใบหน้ามู่ชวงสงบนิ่งไม่สามารถมองเห็นสิ่งที่เธอคิดได้ "ชิเล่ย แม้ว่าไอโกจะดูดี แต่เมื่อเทียบกับไลก้ากับโกดักพวกเขาค่อนข้างด้อยกว่ามาก!"
วิลเลี่ยมที่ยืนอยู่ด้านข้างจู่ๆก็พูดภาษาเซี่ยทื่อๆขึ้นมาว่า: "คุณมู่พูดถูก! ในอุตสาหกรรมวงการกล้องบริษัทไอโกเหมือนกับเด็กที่กำลังหัดเดิน พวกเขาไม่ใช่คู่แข่งบริษัทไลก้าของเรา!"
ชิเล่ย หลิงหยูโม่และมู่ชวงดูประหลาดใจมาก ที่วิลเลี่ยมสามารถพูดภาษาเซี่ยได้!
โชคดีที่พวกเขาไม่ได้คุยความลับกันด้วยภาษาเซี่ย ไม่อย่างนั้นไผ่มือคงถูกมองออก!
"วิลเลี่ยม ผมไม่คิดเลยว่าคุณจะพูดภาษาเซี่ยได้!" ชิเล่ยเหลือบมองไปที่คนประเทศยีสซิคนนี้ ดูจากความตั้งใจของเขาที่กำลังแสดงเป็นหมูกินเสือ เห็นได้ชัดว่าพูดภาษาเซี่ยได้ แต่ก็จงใจไม่พูดออกมา
วิลเลี่ยมที่กำลังถูกมองเขาไม่ได้รู้สึกอึดอัดใจเลย ใบหน้าของเขายังสงบอยู่และพูดว่า "ตอนผมอยู่ในมหาลัย ผมได้ลงวิชาภาษาเซี่ย ชิเล่ย คุณกำลังไปเจรจากับบริษัทไอโก? เป็นไปได้ไหม ผมจะเข้าร่วมด้วย?"
คำขอของเขาค่อนข้างไม่สุภาพอย่างมาก!
ชิเล่ยกำลังจะปฏิเสธ แต่มู่ชวงก็พูดขัดขึ้นมาว่า "คุณลุดวิก เนื่องจากคุณอยากไปร่วมด้วย งั้นก็ได้!"
"หืม?" ชิเล่ยหันหัวไปมองมู่ชวงและถามด้วยสายตา
มู่ชวงพยักหน้าด้วยความมั่นใจ มองชิเล่ยกลับเหมือนกำลังบอกว่าให้ไว้ใจเธอ
ในล็อบบี้โรงแรมกรีนเลค ชายคิ้วหนารูปร่างใหญ่ ดูเหมือนชายวัยกลางคนอายุ 30 ปี กำลังมองสำรวจไปรอบๆ และมีชายสองคนที่ยืนอยู่ข้างๆคนหนึ่งแก่คนหนึ่งวัยรุ่น ทั้งสองสวมแว่นตา คนที่ดูอายุเยอะน่าจะอายุประมาณ 50 ปีและคนที่อายุน้อยกว่าดูเหมือนวัยรุ่นอายุ 20 ปีเท่านั้น
เมื่อวิลเลี่ยมกับช่างเทคนิค ชิเล่ยและสองสาวเดินออกมาจากลิฟท์ด้วยกัน ชายคิ้วหนาตัวโตเพียงแค่ปรายตามองพวกเขาครั้งเดียวและหันกลับมองไปที่ประตู
ชิเล่ยสามารถมองเห็นได้อย่างรวดเร็วและรู้ในทันทีว่าทั้งสามคนนี้ ควรจะเป็นตัวแทนจากบริษัทไอโก
"พี่ชายซ่ง?" ท่างชิเล่ยมีความสุขมากและตะโกนเรียก
ชายวัย 30 ปี ที่มีขนคิ้วหนาและรูปร่างใหญ่คนนี้คือซ่งหม่าอัน!
ซ่งหม่าอันที่มีดวงตาคู่ใหญ่จ้องมองไปที่ชิเล่ยด้วยท่าทางลังเลว่า "น้องชายชิเล่ย?"
"สวัสดีพี่ซ่ง!" ชิเล่ยยื่นมือขวาออกมาและเช็คแฮนด์
ซ่งหม่าอันพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า "น้องชายชิเล่ย ฉันไม่คิดเลยว่านายจะอายุน้อยขนาดนี้! จริงๆมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร! ป่ะ เดินไปด้วยกัน หาอะไรกินกันก่อนแล้วค่อยคุยเกี่ยวกับโปรแกรมตรวจจับรอยยิ้ม" ซ่งหม่าอันปรบมือด้วยท่าทางใจร้อน
"รอก่อนพี่ชายซ่ง ผมมีคนจะแนะนำให้รู้จัก!" ชิเล่ยเรียกซ่งหม่าอันให้หยุด ก่อนจะแนะนำคนรอบตัวเขาให้ซ่งหม่าอันรู้จัก
ซ่งหม่าอันมองวิลเลี่ยมและคอนราดอย่างวิตกกังวล เขาไม่คิดเลยว่าต่างชาติสองคนนี้จะมาจากบริษัทไลก้าที่มีชื่อเสียง!
ในโลกของอุตสาหกรรมกล้อง กล้องไลก้าถือว่าเป็นตำนานที่ยังมีชีวิตอยู่!
"คุณลุดวิก คุณคอนราด สวัสดีครับ!" ซ่งหม่าอันกล่าวทักทายด้วยภาษาเซี่ย
วิลเลี่ยมตอบกลับด้วยภาษาเซี่ยว่า "สวัสดีครับคุณซ่ง!" หลังจากนั้นวิลเลี่ยมใช้ภาษาเยอรมันแปลให้คอนราดฟัง
"คุณซ่ง ผมได้ยินว่าบริษัทไอโกของคุณกำลังสนใจโปรแกรมตรวจจับรอยยิ้มอยู่ ไม่ทราบว่าคุณจะรังเกียจไหม ถ้าผมจะร่วมทานอาหารกับชิเล่ยด้วย" วิลเลี่ยมถามออกมาตรงๆ
ซ่งหม่าอันอยากจะพูดว่าเขารังเกียจมาก แต่ดีที่เขายังมีสติอยู่ ถึงแม้ในใจเขาจะไม่มีความสุข แต่ซ่งหม่าอันก็ยังปั้นรอยยิ้มและพูดว่า "ได้ทานข้าวร่วมกับเพื่อนจากไลก้า แน่นอนว่ามันเป็นสิ่งที่น่ายินดีมาก!"
บนใบหน้าของวิลเลียมปรากฏรอยยิ้มออกมา "ได้รับคำเชิญเพื่อนจากบริษัทไอโกอย่างนี้ ทำให้ผมมีความสุขมาก"
ตัวแทนจากบริษัทไอโกพาเข้าไปในห้องอาหารที่ได้ทำการจองไว้ บนโต๊ะอาหารแบ่งออกเป็นสามกลุ่ม กลุ่มแรกชิเล่ยกับสองสาวสวยที่นั่งอยู่ด้วยกัน กลุ่มสองเป็นชายสามคนจากไอโก กลุ่มสุดท้ายเป็นชาวต่างชาติสองคน
บนโต๊ะอาหารเต็มไปด้วยความหลากหลายของอาหาร และมีเหล้าอู่เหลียงเย่สองขวด ซ่งหม่าอันหยิบมาเปิดขวดหนึ่ง "คุณลุดวิก ผมเคยได้ยินมาว่าผู้ชายจากประเทศยีสซิจะดื่มกันเก่งมาก คุณสนใจดื่มกับผมไหมครับ?"
ถึงแม้ว่าซ่งหม่าอันจะดูเหมือนเป็นคนไร้การศึกษา แต่จริงๆแล้วไม่ใช่! มิฉะนั้นเขาจะนั่งตำแหน่งรองประธานของบริษัทไอโกได้อย่างไร? เขาถือหุ้นบริษัทไอโกถึง 17% ได้อย่างไร? แม้ในคำพูดของเขาจะดูผิวเพินว่ากำลังยกย่องประเทศยีสซิอยู่ แต่จริงๆแล้วเขากำกดวิลเลี่ยมอยู่ ในคำพูดบอกว่าผู้ชายประเทศยีสดื่มกันเก่งมาก แต่ถ้าวิลเลี่ยมตอบว่าเขาไม่ดื่ม นั่นไม่เท่ากับว่า เขาไม่ยอมรับว่าตัวเองเป็นคนประเทศยีสซิ?
ในสายตาของมู่ชวงและหลิงหยูโม่กำลังมองการแสดงอย่างสนุกสนาน ส่วนชิเล่ยไม่ได้พูดอะไรเขาจะไม่ดื่มเด็ดขาด!
ปริมาณแอลกอฮอล์ในอู่เหลียงเย่สูงมาก เพียงแค่จิบเล็กๆ ก็ทำให้ชิเล่ยลงไปนอนกองได้แล้ว!
วิลเลี่ยมมองไปปริมาณแอลกอฮอล์ที่บอกอยู่บนขวดอู่เหลียงเย่ เขาประหลาดใจเล็กน้อย แต่เขาดื่มได้อยู่แล้ว จึงพูดว่า "คุณซ่งพูดถูกต้องแล้ว ผู้ชายจากประเทศยีสซิไม่มีใครปฏิเสธการดื่ม!"
ซ่งหม่าอันพูดอย่างไม่อ้อมค้อมว่า "นั่นเยี่ยมมาก งั้นคุณลุดวิกวันนี้เรามาดื่มกันเถอะ! บริกรเปิดขวด!"
ด้านข้างบริกรเปิดเหล้าอู่เหลียงเย่ได้อย่างคล่องแคล่ว และรินให้ซ่งหม่าอันกับลุดวิกเต็มแก้ว!
วิลเลี่ยมมองชิเล่ยที่อยู่วงนอกของสงครามฝีปากครั้งนี้ "ชิเล่ย คุณบอกว่าคุณเป็นนักดื่มที่เก่งมาก ตอนนี้ไม่สนใจร่วมวงกับเราหรอ?"
ชิเล่ยส่ายหัวไปมา "วิลเลี่ยมผมชอบเบียร์จากเมืองมิวนิกของประเทศคุณมากกว่า แต่ไม่ใช่เหล้าขาวของประเทศผม คุณดื่มกันเลย!"
ซ่งหม่าอันที่ด้านข้างก็ช่วยพูดขึ้นมา "คุณลุดวิก ไม่ต้องหาคนช่วยแล้ว แค่เราสองคนก็พอ!" จากนั้นซ่งหม่าอันหันไปพูดกับชายหนุ่มที่อยู่ด้านข้างว่า "เกิงจินตอนนี้นายไปเรียนรู้จากคุณคอนราดเอาไว้ เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญเทคนิคอุตสาหกรรมกล้องของบริษัทไลก้า พยายามเรียนรู้เทคโนโลยีขั้นสูงให้มากไว้!" หลังจากพูดเสร็จหม่าซ่งอันก็หัวเราะเสียงกัง ทุกคนรู้ดีว่าประโยคสุดท้ายนี้เป็นเรื่องตลก
เกิงจินพยักหน้าและพูดว่า "หัวหน้าซ่ง คุณสามารถมั่นใจได้เลยว่าผมจะอยู่กับคุณคอนราดเอง!"
บนโต๊ะอาหารตัวแทนจากไลก้าและไอโกกำลังต่อสู้กัน ส่วนกลุ่มชิเล่ยสามคนกำลังดูเรื่องสนุก!
ทานอาหารกันมาเป็นเวลาเกือบสามชั่วโมงแล้ว เหล้าอู่เหลียงเย่ที่มีแอลกอฮอล์อยู่ 52% หมดไปแล้วดื่มทั้งสี่ขวด! ซ่งหม่าอัน วิลเลี่ยม คอนราด และชายหนุ่มที่ชื่อเกิงจิน แต่ละคนได้กินเหล้าหมดไปคนละขวด!
มองไปที่วิลเลี่ยมและซ่งหม่าที่กำลังได้ที่ ชิเล่ยส่ายหัวเล็กน้อย ไม่ควรดื่มกันจริงๆ!
"วิลเลี่ยม พี่ชายซ่ง ดูเหมือนว่าการเจรจาของเราเลื่อนไว้เป็นวันพรุ่งนี้แล้วกัน"
ซ่งหม่าอันที่ดูเหมือนกำลังเมาแต่ก็ยังมีสติอยู่พูดว่า "น้องชายชิเล่ย...ไม่ต้อง..พรุ่งนี้ก็ได้ วันนี้เรา...ก็คุยได้! เป็นเรื่องยาก...ที่เพื่อนจากไลก้า...จะทำให้ฉันเมาได้ เรา...ไม่สามารถให้พวกเขาขัดขวางได้!"
วิลเลี่ยมที่ได้ยินหลังจากได้ยินสิ่งที่ซ่งหม่าอัน เขาด็พูดด้วยเสียงเย็นชาว่า "คุณซ่ง! คุณร้ายกาจมาก!"
ซ่งหม่าอันมองที่วิลเลี่ยมและหัวเราะต่อหน้าเขาตรงๆ "ร้ายกาจ....อะไร ธุรกิจ..ก็เหมือนกับสนามรบ เป็นธรรมที่เราจะทำทุกอย่างเพื่อชัยชนะ! คุณลุดวิก วัฒนธรรมของประเทศเซี่ย...แค่นี้คุณก็ไม่ได้ศึกษามา! เล่าเสี่ยว อีกสักครู่..คุณมีอำนาจเต็มที่..กับการเจรจาต่อรองกับน้องชายชิเล่ย!"
เล่าเสี่ยวที่ดูเหมือนอายุ 50 คนนีั คือช่างเทคนิคของบริษัทไอโก
"มั่นใจได้เลยครับหัวหน้าซ่ง ผมจะทำให้คุณชิเล่ย ตกลงร่วมมือกับเราได้แน่นอน!" เล่าเสี่ยวกล่าวอย่างใจเย็น
ซ่งหม่าอันสะอึก "ดี! งั้นฉัน...ก็โล่งใจแล้ว!"
วิลเลี่ยมมองซ่งหม่าอันด้วยสายตาเย็นชา ในใจกำลังสาปแช่งไอ้คนเซี่ยเจ้าเล่ห์คนนี้ "ชิเล่ย บริษัทไลก้าของเราเห็นด้วยกับราคาของคุณ เรามาลงเซ็นสัญญากันได้เลย!"
ซ่งหม่าอันเบิกตากว้างมองไปที่วิลเลี่ยม "นาย...ฮืม!"
ชิเล่ยยิ้มและพูดว่า "เรื่องเซ็นสัญญาไม่มีปัญหาวิลเลียม! แต่โปรแกรมตรวจจับรอยยิ้มของเราจะไม่ได้ขายให้แค่คุณเท่านั้น บางทีเราอาจจะขายให้กับบริษัทไอโกด้วย!"
วิลเลี่ยมส่ายหน้าอย่างหนัก "เอ่อ...ชิเล่ยเงื่ยนไขนี้เราไม่สามารถยอมรับได้! นอกจากบริษัทไลก้าของเราที่ซื้อสิทธิในใช้แอพแล้ว คุณจะขายให้กับบริษัทอื่นไม่ได้!"
"นั่นไม่ค่อยดีเท่าไหร่นะ!" ชิเล่ยปฏิเสธโดยไม่ต้องคิด "ถ้าผมขายให้แค่เฉพาะบริษัทไลก้าของคุณ มันไม่เท่ากับว่าคุณมีสิทธิบัตรอยู่ในมืองั้นหรอ?"
วิลเลี่ยมที่กำลังเมาอยู่ตั้งสติขึ้นมาได้ "ชิเล่ยถ้าคุณไม่ขายสิทธิบัตรให้กับบริษัทอื่น ผมสามารถจ่ายให้คุณได้ 500,000 ดอลล่าร์ได้เลยตอนนี้ แล้วเราจะปิดดีลกันตรงนี้เลย!"
ชิเล่ยมองไปที่มู่ชวง มู่ชวงพยักหน้าเล็กน้อย ราคานี้เป็นผลกำไรสูงสุดที่ชิเล่ยเขียนเอาไว้ และไม่ได้ขายสิทธิบัตรออกไป แต่เขายังขายสิทธิในใช้แอพให้กับไอโก โกดัก และแคนน่อนได้!
"เยี่ยม! ไม่มีปัญหา!" ชิเล่ยพยักหน้าและตกลง
ในเวลาเดียวกัน ขี้เมาซ่งหม่าอันที่กำลังมึนอยู่ ก็มีรวบรวมสติ เขารีบพูดขึ้นอย่างรวดเร็วว่า "น้องชายชิเล่ย แล้วบริษัทไอโกล่ะ? น้องจะลืมบริษัทไอโกของเราไม่ได้!"
ชิเล่ยเอียงหัว "พี่ชายซ่ง พี่คุยกับมู่ชวงได้เลย เธอเป็นตัวแทนที่มีอำนาจเต็มที่ของเรา!"
มู่ชวงพ่นลมหายใจเย็นชา ชิเล่ยพูดว่าเธอเป็นตัวแทนของเขา แต่ชิเล่ยก็ยังมาแทรกแซงการต่อราคาได้อย่างไร?
"คุณซ่ง ถ้าบริษัทไอโกของคุณต้องการโปรแกรมตรวจจับรอยยิ้มของเรา ราคาของมันอยู่ที่ 2 ล้านดอลล่าร์!" พอมู่ชวงเปิดปากเธอก็เรียกราคาสูงทันที
ซ่งหม่าอันเต็มด้วยความไม่พอใจ "คุณมู่ ผมได้ยินว่าบริษัทไลก้าจ่ายแค่ 500,000 ดอลล่าร์เองถูกไหม? แต่ทำไมบริษัทไอโกของเราต้องจ่ายถึง 2 ล้านดอลล่าร์ด้วย? หรือว่าบริษัทเราไม่มีชื่อเสียงเท่ากับบริษัทนไลก้า? หรือนี่เป็นเพราะอีกฝ่ายได้รับการสนับสนุนจากประเทศยีสซิ?"
มู่ชวงส่ายหัว "ไม่ใช่ทั้งหมด!"
ซ่งหม่าอันกระวนกระวายใจ "งั้นคุณบอกผมหน่อยซิว่ามันเป็นเพราะอะไร?"