บทที่ 8 เอามันออกมา 1 [รีไรท์อ่านฟรี]
บทที่ 8 เอามันออกมา 1
ตกดึกสงัด
ขณะนี้รองพ่อบ้านฮันส์ยืนอยู่ต่อหน้าท่านเคานต์เดอรัช เขากำลังรายงานเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นในขณะที่เคานต์เดอรัชนั่งฟังเงียบๆจนกว่าฮันส์จะรายงานจบ
“นายน้อยกำลังพักผ่อนในห้อง”
ฮันส์เสร็จสิ้นการรายงานก่อนที่ท่านเคานต์เดอรัชจะเอ่ยสรุปขึ้น
“คนขับรถม้ารายงานว่าคาร์ลไปที่ร้านกลิ่นชากับบทกวี ที่เป็นร้านของบุตรชายนอกสมรสของหัวหน้าสมาคมการค้าฟลินน์ แล้วพาเด็กหนุ่มคนหนึ่งกลับมาด้วย ส่วนการดื่มเหล้าก็ไม่ได้เมาแล้วก็ไม่ได้อาละวาดอะไรด้วย”
รายงานของฮันส์นั้นสั้นแต่เคานต์เดอรัชกลับคิดว่ามันน่าสนใจ
“เราส่งคนไปติดตามนายน้อยดีหรือไม่ขอรับ?”
เขาโบกมือปฏิเสธกับคำถามของฮันส์เขาไม่ได้อยากรู้ว่าลูกชายของตนทำอะไรอยู่ข้างนอกจนถึงขั้นต้องใช้คนติดตาม
“ไม่จำเป็นตราบใดที่คาร์ลอยู่ที่เมืองนี้ สิ่งที่เขาทำก็ล้วนอยู่ภายใต้การจัดการของข้าแล้ว”
เคานต์เดอรัชรักและไว้ใจฮันส์มากที่สุดในบรรดาข้ารับใช้เพราะเขาเป็นคนที่ทำตามคำสั่งได้ครบถ้วนและเป็นคนดี
“ทำในสิ่งที่นายพอทำได้แล้วกัน คอยดูแลและสังเกตคาร์ลเวลาที่เขาอยู่ในบ้านและคอยรายงานข้าเรื่อยๆก็พอ”
“ขอรับ นายท่าน.....”ฮันส์ไม่ได้พูดอะไรอีกเพียงแค่ก้มศีรษะรับคำของท่านเคานต์เท่านั้น
ท่านเคานต์เดอรัช เฮนิตัส เป็นคนไม่มีความสามารถพิเศษหรือมีเครือข่ายที่มั่นคง อย่างไรก็ตามเขาก็ยังคงปฏิบัติสืบทอดตามผู้นำคนก่อนได้ดี เขาสามารถปกครองเมืองเฮนิตัสและสร้างความมั่งคั่งด้วยการขายหินอ่อนและไวน์ อีกทั้งเขายังเป็นคนที่สามารถปกครองเมืองได้อย่างดีที่สุดอีกด้วย
‘คาร์ลเปลี่ยนไป’ คาร์ลต่างไปจากเดิม อาจไม่ได้รู้สึกว่าเขาฉลาดหรือเข้มแข็งขึ้นแต่การกระทำของเขาแตกต่างไปจากเดิมอย่างชัดเจน
“อา....ฮันส์”
“ขอรับนายท่าน...?”
“ไปหาข้อมูลเกี่ยวกับหัวหน้าสมาคมการค้า ฟลินน์ มาให้ข้าที...”
เจ้าของร้านชาที่คาร์ลไปเยือนคือบิลอส เขารู้จักลูกชายคนนี้ของพ่อค้าฟลินน์เนื่องจากผู้ที่เป็นพันธมิตรการค้าไวน์ที่ใหญ่ที่สุดของเฮนิตัสก็คือหัวหน้าสมาคมการค้าฟลินน์นั่นเอง
“กระผมจะจัดการให้เร็วที่สุดขอรับ”
“ดี”
เคานต์เดอรัชมองฮันส์ที่เดินออกจากห้องทำงานของเขา ขณะที่เขาเริ่มคิดมีหลายสิ่งหลายอย่างที่เขาต้องนึกถึงนอกจากการเปลี่ยนไปของคาร์ล บรรยากาศรอบๆเมืองเป็นสิ่งที่น่ากังวลมันเหมือนภูเขาไฟที่รอเวลาปะทุขึ้นมา เขาสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่อันตรายแม้ว่าเขาจะอยู่ในมุมที่ปลอดภัยที่สุดของอาณาจักรก็ตามแต่เป็นเพราะเขาได้รับรายงานถึงสถานการณ์ที่ผิดปกติอยู่ตลอดเวลาอีกทั้งจดหมายที่เขาได้รับจากพระราราชาในวันนี้ยิ่งทำให้เขามั่นใจกับสถานการณ์ปัจจุบันในเมืองของตน
หากเขาต้องส่งต่อการสืบทอดการปกครองเมืองเฮนิตัส เขาจะส่งข้อความไปยังผู้ครองอำนาจคนต่อไปว่า
‘ไม่จำเป็นต้องเป็นที่จดจำในบันทึกประวัติศาสตร์เพียงแค่ใช้ชีวิตเพื่อสันติภาพและความสุขก็พอ’
“ข้าคิดว่าจำเป็นต้องเสริมความแข็งแรงให้กำแพงเมืองซะแล้วสินะ”
เขาอาจไม่ใช่นักสู้ที่ดีนักแต่เคานต์เดอรัชมักจะคิดถึงวิธีที่จะปกป้องตนเองและครอบครัวอยู่เสมอ
*************************************************************************************
มีบางครั้งที่ร่างกายอาจแข็งแรงกว่าจิตใจเช่นเดียวกับที่จิตใจอาจแข็งแรงกว่าร่างกายได้
“นายน้อยหลับสนิทจนกระผมไม่กล้าปลุกเลยขอรับ...”
คาร์ลนอนเพลินและยังคงสะลึมสะลือเล็กน้อย แต่ความจริงที่ว่ารอนนำน้ำมะนาวมาให้เขาดื่มแทนน้ำเย็นมันยิ่งทำให้อะไรๆแย่ลง แต่ถึงเป็นเช่นนั้นคาร์ลก็ไม่ได้กล่าวอะไรออกไปเพราะสายตาไปปะทะกับผ้าพันแผลรอบคอของรอน
“เจ็บไหมรอน?....”
“นายน้อยเป็นห่วงกระผมหรือขอรับ?”
“ไม่!! มันรกหูรกตาข้ามากกว่า.....”
“มันไม่มีอะไรมากแค่รอยแมวข่วนเท่านั้นขอรับ.....”
เป็น ‘แมว’ หรือหมายถึงคนบริสุทธิ์กันนะ? เขามั่นใจว่าต้องมีใครบ้างคนสู้กับรอนเมื่อคืนนี้ เขาเลี่ยงการจ้องมองของรอนที่มีรอยยิ้มเต็มหน้าและเดินไปยังหน้าต่างห้อง เขาต้องไปจัดการทุกอย่างให้เร็วกว่านี้เพราะเขาเผลอหลับเพลินไป
“นายน้อยจะออกไปตอนนี้เลยหรือขอรับ?”
“ใช่...ข้าจะไปจัดการธุระข้างนอก”
“อ้อ!! เข้าใจแล้วขอรับนายน้อย...”
คาร์ลปล่อยมือจากขอบหน้าต่างและหันไปมองรอน เขามีรอยยิ้มแปลกๆบนใบหน้า
“นายน้อยคิดยังไงกับน้ำมะนาวขอรับ?”
“ก็ดีนะ...มันอร่อยมาก” เสียงของรอนกดต่ำลงก่อนเอ่ย
“เป็นเช่นนั้น?”
“ใช่...”
คำถามแบบนั้นมันคืออะไร? เนื่องจากรอนไม่ใช่คนที่เขาจะสามารถละเลยได้จึงพยายามตอบคำถามให้ได้มากที่สุดขณะเปิดประตูออกไป
ปัง!
เสียงกระแทกของประตูดังขึ้นเมื่อคาร์ลเปิดประตูแต่ยังไม่ทันได้ก้าวออกจากห้องเขาก็ต้องรีบปิดคืนด้วยความตกใจ
“รอน...”
รอนรีบเดินเข้ามาหาคาร์ลทันทีที่ได้ยินเสียงเรียกชื่อตนก่อนจะกระซิบด้วยรอยยิ้มเต็มหน้า
“นายน้อยคงแปลกใจ? แขกของนายน้อยกำลังรออยู่ข้างนอก”
ใช่...เขาแปลกใจที่เห็นเชวฮันยืนจ้องเขาทันทีที่เปิดประตูจนเผลอปิดประตูก่อนพาตัวเองกลับเข้ามาด้านในเหมือนเดิมเพราะความตกใจ......มือของเขาก้มจับกระเป๋าเสื้อของตัวเองที่ด้านในมีเช็คเงิน 10 ล้านแกลลอนก่อนที่จะทำให้เขาสงบลง
รอนมองไปที่คาร์ลขณะพูดต่อ
“กระผมไม่มีโอกาสได้บอกเพราะนายน้อยรีบเปิดประตูออกไปก่อน กระผมได้บอกให้เขารออยู่ภายในห้องของเขาแล้วแต่เขายืนกรานที่จะมาพบนายน้อยให้ได้ เลยรออยู่ที่หน้าห้องของนายน้อยขอรับ”
‘ไม่มีโอกาสบอกงั้นเหรอ?’
คาร์ลไม่สามารถพูดอะไรกับตาแก่คนนี้ได้ แน่นอนว่าย่อมมีโอกาสบอกแต่เลือกที่จะไม่บอกเขามากกว่า คาร์ลก้าวออกห่างจากรอนก่อนเปิดประตูออกไปอีกครั้ง
“มีอะไรงั้นเหรอ?”
คาร์ลแสร้งทำเป็นเหมือนไม่เคยกระแทกประตูใส่หน้าเชวฮันก่อนจะเริ่มสนทนากับเชวฮัน ตอนนี้เขาสนใจกับรูปลักษณ์ของเชวฮันที่ปรากฏตรงหน้ามากกว่า หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่เขาสัมผัสได้ถึงความสะอาดและบริสุทธิ์ของเชวฮัน แต่มันก็เป็นเรื่องยากที่จะคิดเช่นนั้นเมื่อมองเห็นแววตาของเขา เชวฮันยังอยู่ในสถานะที่จิตใจบิดเบี้ยวนั่นทำให้คาร์ลรู้สึกกลัวเล็กน้อย เชวฮันจ้องมองมาที่คาร์ลก่อนที่จะเริ่มพูด
“มาจ่ายเงินคืน.....”
“ฮ๊ะ?”
“ข้าจะจ่ายเงินค่าอาหารคืนให้กับเจ้า”
เชวฮันพูดอย่างไม่เป็นทางการไม่เหมือนเมื่อวานที่สำคัญกว่านั้นคาร์ลเริ่มขมวดคิ้วเมื่อได้ยินประโยคที่ว่า ‘จ่ายเงินคืน’
‘จ่ายเงินคืนฉันนี่นะ? เขากำลังทำให้ฉันหัวใจวายตายได้....’
เหมือนมีใครสักคนจะให้เชวฮันทำงานใช้แรงในการหาเงินมาใช้คืนแก่คาร์ล เขาเพียงแค่อยากให้เชวฮันออกไปจากเมืองนี้ให้เร็วที่สุด แน่นอนว่าเชวฮันจะต้องหาทางใช้เงินคืนคาร์ลแน่ถ้าเขาปรารถนาให้เป็นแบบนั้น แต่มันไม่มีอะไรที่คาร์ลอยากได้จากเชวฮัน
“ไม่จำเป็น..มีอะไรอีกมั้ยที่เจ้าต้องการ?”
เขารีบปฏิเสธข้อเสนอของเชวฮันและถามถึงความต้องการของเขาเพิ่มเติม เชวฮันมีโอกาสได้สังเกตคาร์ลอย่างใกล้ชิดมากขึ้น สายตาที่จ้องมาที่คาร์ลทำให้นึกถึงตอนที่เขาจะโดนเชวฮันตีเสียยับเยินตามในเนื้อหาในนิยายและตอนนี้เหมือนเขาจะมีปัญหาเพิ่มเมื่อเชวฮันเอ่ยบอกความต้องการของตนอย่างตรงจุด
“ข้ามีบางอย่างที่อยากให้เจ้าช่วย”
คาร์ลหลับตาลงเมื่อได้ยินคำว่าช่วยจากปากเชวฮัน เขาไม่ต้องการที่จะเกี่ยวข้องกับเชวฮัน คำว่าช่วยของเชวฮันก็คงไม่พ้นเรื่องของชาวบ้านในหมู่บ้านแฮร์ริส
คาร์ลในนิยายได้กล่าวว่าชาวบ้านในหมูบ้านแฮร์ริสเป็นเพียงพวกไร้ค่าไม่มีประโยชน์ก่อนที่จะจบลงด้วยการโดนตีเสียยับเยิน คาร์ลนึกถึงเรื่องนี้อย่างระมัดระวังก่อนเอ่ยปากพูด
“บอกความต้องการของนายแก่ฮันส์ได้ เขาจะเป็นคนจัดการเรื่องนี้ ”
หลังจากลืมตาขึ้นอีกครั้งคาร์ลได้สบตากับเชวฮันที่ยังคงยืนนิ่งไม่เคลื่อนไหวใดๆ
“เขาเป็นพ่อบ้านที่มีความสามารถมาก เขาจะสามารถช่วยเหลือเจ้าได้ทุกอย่างตามที่เจ้าต้องการ”
จากนั้นคาร์ลก็ก็จับไปที่ไหล่ของรอน เขาสัมผัสได้ว่ารอนสะดุ้ง แต่ตอนนี้เขาต้องการให้คนทั้งคู่ออกไปให้พ้นสายตาเสียที
“รอนก็มีประโยชน์เช่นกัน เขาจะสามารถช่วยเหลือเจ้าได้.....รอนเขาเป็นแขกของฉันฝากดูแลทุกอย่างให้เหมาะสมกับความต้องการของเขาด้วย”
คาร์ลมอบคำสั่งไปยังรอนก่อนจะขยับมือออกจากไหล่ของรอน ก่อนที่จะได้ยินเสียงของเชวฮันเอ่ยกับตน
“แต่เจ้าไม่รู้ว่าข้าเป็นใคร?”
คาร์ลหันไปมองเชวฮัน เขามีความรู้สึกว่ากลิ่นอายความน่ากลัวที่เปล่งออกมาจากตัวเขาได้หายไปและคาร์ลรู้สึกได้ถึงความบริสุทธิ์ใจบางอย่างเป็นความรู้สึกที่ไม่สามารถอธิบายได้ว่ามันคืออะไรจากเชวฮัน
“ทำไมข้าต้องรู้ด้วยว่าเจ้าเป็นใคร? แล้วมีเหตุผลอะไรที่ข้าจะไม่ช่วยคนที่ด้อยกว่าตัวเองด้วย”
แววตาของเชวฮันเริ่มอ่อนลงเมื่อได้ยินมันและคาร์ลที่สังเกตเชวฮันอยู่ตลอดก็เห็นมันได้อย่างชัดเจน
‘เขารำคาญที่จะยุ่งเกี่ยวกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง’
คาร์ลรีบกล่าวต่อไป “แต่มันก็ขึ้นอยู่กับเจ้า ถ้าเจ้าจะขอในเรื่องที่มันยากเกินไป แต่ข้าก็มั่นใจว่าฮันส์รู้ดีว่าเขาต้องทำยังไง....”
เขาผลักรอนให้มาอยู่ต่อหน้าของเชวฮัน ในขณะที่เขาจะหันหลังหนีไปจากคนทั้งคู่
“ข้าขอตัวก่อน ยังมีธุระให้ข้าต้องทำหลายอย่าง”
คาร์ลรีบเดินมุ่งหน้าไปยังห้องทำงานของเคานต์เดอรัช เขาจำเป็นต้องได้รับเงินเพิ่มเป็นจำนวนมากในวันนี้ ก่อนที่จะได้ยินเสียงของรอนแว่วตามหลังมา
“กระผมจะจำตามที่นายน้อยมีบัญชาขอรับ”
‘ฉันไม่สนว่าเจ้าจะทำหรือไม่ทำ’
หากคนที่พาพวกเขามาเจอพระเอกอย่างเชวฮันไม่ใช่คาร์ล พวกเขาจะมีโอกาสได้พบกันเร็วกว่าเหตุการณ์จากนิยายหรือไม่นะ?
รอนมองไปทางคาร์ลที่ขยับออกห่างจากคนทั้ง 2 ไปก่อนจะก้มลงมองแก้วที่ว่างเปล่าในมือ
“น่าสนใจ....”
ลูกสุนัขผู้กล้าหาญไม่ชอบของเปรี้ยวและเขาก็ยังคงไม่ชอบมัน แต่ว่าในตอนนี้เขากลับดื่มมันได้แล้ว....
รอนแตะที่ลำคอของตัวเอง เขาได้รับบาดเจ็บเป็นครั้งแรกในระยะเวลานานหลายปี แต่สิ่งน่าสนใจยิ่งกว่าการบาดเจ็บของตัวเองคือสิ่งที่เขาได้รู้
ลูกสุนัขผู้กล้าหาญของเขากำลังหวาดกลัวเด็กหนุ่มคนนี้.....
เหมือนคาร์ลจะรู้อะไรบางอย่าง?
“นำไปสิ....”
รอนหันไปยังที่มาของเสียง เขามองเห็นเชวฮันยืนมองเขาด้วยความรังเกียจ ฮึ!ไอ้ตัวโสโครกนี้ดูเหมือนจะลืมคิดไปว่าเมื่อคืนที่ผ่านมาทั้งมันและพวกเขาพยายามจะฆ่ากันตายด้วยมีดสั้นเสียแล้ว
“ได้”
ตัวโสโครกในตอนนี้มีกลิ่นอายที่บริสุทธิ์ นี่มันเรื่องตลกร้ายอะไรกัน?
ตัวโสโครกที่พวกเขาพบเมื่อคืนนี้มีกลิ่นอายของความรุนแรง ความหายนะและการฆาตกรรมจากป่าแห่งความมืด เป็นกลิ่นอายที่รอนและบารอคสามารถแยกได้ทันทีนอกเหนือจากลิ่นอายอื่นๆแต่ตอนนี้กลิ่นอายนั่นได้หายไปจากเจ้าโสโครกนี้แล้ว
แน่นอนว่ากลิ่นอายของการฆาตกรรมไม่ใช่ของเชวฮัน เขาได้รับกลิ่นอายจากฆาตกรที่เขาฆ่าและตอนนี้ที่เขาอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายของตนทำให้กลิ่นอายพวกนั้นได้หลุดหายไป
‘ข้าเดาว่าคนพวกนั้นไม่มีทางที่จะรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นได้หรอก’
รอนคิดถึงเหตุการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมา ขณะที่เขาเริ่มสำรวจเด็กหนุ่มที่เหมือนจะผ่านสถานการณ์ที่โหดร้ายอะไรบางอย่างมาในช่วง 2-3 วันก่อนหน้านี้
“ตามข้ามา..”
รอนเริ่มก้าวออกเดินเพื่อที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของนายน้อยลูกสุนัขที่กล้าหาญของตน เชวฮันเดินตามหลังของรอนและหันหน้าไปยังทิศทางที่คาร์ลเดินจากไปชั่วครู่ก่อนที่จะเดินตามหลังรอนต่อไป