บทที่ 6 ได้พบกัน 3 (2) [รีไรท์อ่านฟรี]
บทที่ 6 ได้พบกัน 3 (2)
‘ห่างจากประตูเมืองประมาณ 100 ก้าว’
นั่นคือตำแหน่งที่เชวฮันจะกระโดดข้ามกำแพงเมือง คาร์ลจับเหล้าในมือไว้แน่นก่อนรีบวิ่งไปยังจุดที่คาดว่าจะเจอเชวฮัน ในตอนนี้มีคนอยู่บริเวณถนนรอบเมืองอยู่ไม่มากนักเพราะที่นี่เป็นย่านที่พักอาศัยทำให้คนส่วนใหญ่เลือกที่จะเข้านอนกันแล้ว
คาร์ลสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆเมื่อเขาวิ่งมาถึงที่ที่เขาคาดการณ์ไว้ ถ้าห่างจากประตูเมือง 100 ก้าวจะเป็นย่านที่พักอาศัยของชาวเมืองและตอนนี้เริ่มดึกมากทำให้แสงจากคบเพลิงมีความสว่างไม่มาก จะมีเพียงแต่แสงไฟจากคบเพลิงที่ถูกติดบนผนังบ้านเรือนและแสงที่ที่ลอดผ่านหน้าต่างของบ้านเรือนบางหลังเท่านั้น
แต่นั่นก็เพียงพอแล้ว เขาใช้เวลาในการปรับสายตาให้คุ้นชินกับความมืด
‘อย่างที่คิดไว้’ เขามองเห็นบางอย่างที่ขดอยู่ข้างกำแพงเมือง มันยังมีอีกสิ่งที่อยู่ภายในบริเวณนี้ด้วยแต่คาร์ลกำลังมองสิ่งที่หนาวสั่นด้วยความหนาวเย็น คาร์ลก้าวเท้าด้วยความรวดเร็วเมื่อได้ยินเสียงร้องของสิ่งที่ขดตัวอยู่นั้น
“เมี้ยวววววว.....” ลูกแมว 2ตัวนอนคดคู้อยู่ข้างกำแพงเมือง เขาเริ่มยิ้มออกมาช้าๆ
‘เป็นที่นี่จริงๆด้วย’
เขาพบจุดที่เชวฮันกระโดดข้ามกำแพงเมืองเข้ามาก่อนที่สายตาของเชวฮันจะปะทะกับลูกแมวทั้ง 2 ตัว เขาพยามเบี่ยงตัวหลบเพื่อไม่ให้ตัวเองเหยียบเข้ากับแมว มันเป็นเรื่องบังเอิญที่สามารถเกิดขึ้นได้
‘เขาเป็นคนดีจริงๆ’ เชวฮันพยายามพลิกเท้าของตัวเองหลบอย่างตกใจเพื่อไม่ให้เท้าของเขาสามารถทำร้ายลูกแมวได้ เขาวิ่งมายังเมืองเวสเทิร์นอย่างบ้าคลั่ง หลังจากที่ฆ่าคนนับสิบเป็นครั้งแรกและลงมือฝังศพชาวบ้านเรียบร้อย ร่างกายของเขาถึงขีดจำกัดทำให้ไม่สามารถควบคุมร่างกายของตนได้ดีทำให้ไม่สามารถบังคับทิศทางในการกระโดดลงจากกำแพงเมืองได้
“เมี้ยวววววว.....” คาร์ลจ้องไปที่ลูกแมวที่ขดตัวหนาวสั่นเช่นเดียวกับลูกแมวอีกหนึ่งตัวที่ดูท่าจะเป็นพี่น้องของมันที่กำลังเลียขนให้มันอยู่ จากนั้นเขาก็หันไปมองข้างๆ เขาจ้องไปยังจุดที่ใกล้ๆกับลูกแมวทั้ง 2 ตัวและนั่นเขาจะได้เจอกับเชวฮัน
‘ฉันเจอนายแล้ว’
คนผู้นั้นกำลังหงุดหงิดขณะมองไปรอบๆ เขาดูเหมือนคนจรจัดที่อาศัยในสลัม คาร์ลสามารถมองเห็นเส้นผมดำเข้มและเสื้อผ้าที่เปื้อนไปด้วยเขม่าควันไฟ ตามนิยายเรื่องนี้คาร์ลกับเชวฮันจะได้พบกันในวันรุ่งขึ้นหลังจากที่คาร์ลเมาอาละวาดทำร้ายตนเองด้วยการแทงสีข้างของตนจนกลายเป็นแผล แต่ตอนนี้มันต่างจากนิยายไปแล้วแม้ว่าจะเป็นเพียงรายละเอียดเล็กน้อยก็ตาม
คาร์ลเดินเข้าไปใกล้ๆลูกแมวก่อนก้มลงมอง เชวฮันต้องรู้สึกได้ถึงสายตาที่มีคนจ้องมองตนเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา ก่อนที่เขาจะยกศีรษะหันมาสบสายตากับคาร์ลผ่านเส้นผมสีดำที่ตกลงปรกดวงตาของเขา
‘ทำไมตัวฉันต้องสั่นด้วยนี่’
คาร์ลได้ยินเสียงหัวใจของตนที่เต้นด้วยความคลุ้มคลั่ง ถึงแม้ว่ามันจะมืดมากแต่เขาก็เห็นสายตาที่คมกล้าของเชวฮัน คาร์ลคิดว่ามันเป็นความคิดที่ดีมากที่ตนตัดสินใจดื่มเหล้าเพื่อปลุกใจตนเอง เขารู้สึกดีใจกับการตัดสินใจอันชาญฉลาดของตนเอง ต้องกระตุ้น...เขาต้องการปรากฏตัวต่อหน้าเชวฮันด้วยภาพลักษณ์ที่ดีและสร้างความประทับใจให้ได้มากที่สุด เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนเริ่มพูดคุยกับเชวฮันที่กำลังจ้องมาที่เขา
“ดูท่าเจ้าจะหิวมาก?” เตราะ!! เขาเดาะลิ้นของตนพลางหยิบอกไก่ย่างออกจากถุงเสื้อก่อนจะเคลื่อนไหวด้วยท่าท่างที่อ่อนโยน เขาเสนออกไก่ย่างนั้น....ให้ลูกแมว....ไม่ได้ให้เชวฮัน
“พวกเจ้าน่าสงสาร ไปกินมันสิ อร่อยนะ....”
คาร์ลไม่แน่ใจว่าลูกแมวจะสามารถกินอกไก่ย่างได้หรือเปล่าเพราะพวกมันยังเล็กมากก่อนจะเดาะลิ้นตัวเองอีกครั้งพลางฉีกอกไก่ย่างเป็นชิ้นเล็กๆเพื่อให้ลูกแมวสามารถกินได้สะดวก เขากำลังสงสัยว่าตนกำลังทำอะไรอยู่ที่นี่ ด้วยความสัตย์จริงคาร์ลไม่ชอบแมวแต่ถึงอย่างนั้นเชวฮันกับเป็นคนที่รักสัตว์ตัวเล็กๆพวกนี้
กรรรจ์ กรรรจ์!!!!!
ลูกแมวที่ถูกบุกรุกและกำลังหนาวสั่นอาจสัมผัสได้ถึงความไม่เป็นมิตรจากคาร์ล พวกมันเริ่มแยกเขี้ยวขู่ ถึงยังไงพวกมันก็เป็นสัตว์หน้าขนมีสัญชาตญาณความเป็นสัตว์เมื่อเจอผู้บุกรุกก็ไม่แปลกที่พวกมันจะไม่ชอบใจ เมื่อเขาจ้องมองไปยังลูกแมวที่มีตาสีทองมันพยายามหลบเลี่ยงมือของคาร์ล
“พวกเจ้าดูน่าสงสาร? มากินนี่สิ มาเอาไปกินไวๆ” เขาไม่ได้มองเชวฮันแต่เขามั่นใจว่าเชวฮันต้องมองดูเขาอยู่
“เจ้าจะไปไหนเหรอ?”
เขาไม่ได้ยินคำตอบจากเชวฮัน แต่อย่างไรก็ตามคาร์ลก็ยังพูดต่อไป เขารู้ว่าอีกไม่นานทหารจะมาลาดตระเวนบริเวณนี้และเขาจำเป็นต้องทำทุกอย่างให้จบลงก่อนที่เชวฮันจะพยายามหลบหนีการจับกุมของเหล่าทหารรักษาประตูเมืองไปก่อน
“หรือเจ้าอยู่ที่นี่?”
คาร์ลกำลังลูบลูกแมวตาสีทองและผลักลูกแมวขนสีแดงที่พยายามส่งเสียงขู่ทำร้ายเขาทุกวิถีทางในขณะที่เขาเอ่ยปากถาม ลูกแมวขนสีแดงก็ยังพยายามจะทำร้ายคาร์ลให้ได้ แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะสาเหตุใดลูกแมวตาสีทองพี่น้องของมันกลับมีแววตาที่ส่องประกายสดใสแม้อยู่ในความมืดแต่ตอนนี้เขากำลังมุ่งความสนใจไปที่เชวฮันคนเดียว
“เจ้าหิวมั้ย?” ยังคงไม่มีการตอบสนองใดๆกลับมา เชวฮันอาจจ้องมองเขาอยู่แต่เขาก็อาจต้องการพักผ่อน ทั้งร่างกายและจิตใจของเขาอาจถึงขีดจำกัดแล้ว เพราะความรู้สึกช็อกเสียใจจากเหตุการณ์ที่ต้องสูญเสียคนที่เขารักไป สำหรับคนที่เขาให้ความคุ้นเคยด้วยอาจมีเพียงแค่คนในครอบครัวบุญธรรมและชาวบ้านในหมู่บ้านเล็กๆแห่งนั้น เมื่อเขาก้าวเข้ามายังเมืองเวสเทิร์นจึงเป็นเรื่องที่แปลกสำหรับเขาพอควร เขาอาจจะอาศัยอยู่ที่นี่มาเป็นเวลาหลายสิบปีแต่ตัวเขาก็ยังคงเป็นเด็กอยู่
“เจ้าจะไม่พูดอะไรหน่อยเหรอ?”
“......ทำไมเจ้าถึงพูดกับข้า?” ดูเหมือนเชวฮันจะตัดสินได้แล้วว่า...คาร์ลเป็นคนที่อ่อนแอ
คาร์ลดูอ่อนแอพอที่เขาจะสามารถฆ่าได้แม้ว่าเขาจะอยู่ในถิ่นของคาร์ล นั่นเป็นเหตุผลที่เชวฮันสามารถยอมรับคาร์ลได้ แม้ว่าเขาจะไม่รู้เหตุผลว่าทำไมคาร์ลถึงดีต่อเขาก็ตาม
คาร์ลลุกขึ้นยืนและเดินออกไป ก่อนที่ทหารรักษาประตูเมืองจะมาลาดตระเวนในบริเวณนี้
“เฮ้!!!!!” คาร์ลสามารถมองเห็นความวุ่นวายใจของเชวฮันเมื่อเขาก้าวเข้ามาใกล้ๆ เขาดูเป็นคนยุ่งเหยิงกับชีวิตน่าดู อย่างไรก็ตามการที่เขาเป็นพระเอก ทำให้ตาของเขาดูคมโตส่องกระกายกล้า มีผมสีดำและตาสีดำนับว่าเป็นคนเกาหลีที่ดูดีทีเดียว นั่นเป็นเหตุผลให้คาร์ลส่งยิ้มให้เชวฮันก่อนพูดอย่างไม่เป็นทางการ
“ทำตามที่ข้าบอก ....เดี๋ยวข้าเลี้ยงข้าวเจ้าเอง”
ความประทับใจในการเจอกันครั้งแรกก็คือการได้เป็นคนเลี้ยงอาหารที่แสนอร่อยนี่ล่ะ