บทที่ 3 เมื่อผมลืมตาตื่น 2 (2) [รีไรท์อ่านฟรี]
บทที่ 3 เมื่อผมลืมตาตื่น 2 (2)
“รอน”
“ ขอรับ....นายน้อย”
“ทำไมเงียบไป....มีอะไรหรือเปล่า?”
“ขอโทษด้วยขอรับ...นายน้อย”
“ไม่ต้องขอโทษข้าหรอกนะ...”
รอนมีสีหน้าที่ดูแปลกไปแต่คาร์ลไม่ได้สนใจเขาเพียงแค่เก็บเช็คที่ได้ใส่ในกระเป๋าก่อนจะนึกได้ว่าเขายังไม่ทราบวันเดือนปีตั้งแต่ที่ได้เข้ามาอยู่ในนิยายเรื่องนี้
“วันนี้วันที่เท่าไหร่?”
คำถามนี้อาจจะดูน่าแปลกหากคนอื่นได้ยินแต่ไม่ใช่สำหรับรอนเขาเพียงตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“ วันที่ 29 เดือน 3 ปีเฟลิกซ์ที่ 781 ขอรับ”
“อืม....มีปัญหาแล้วสิ”
“อะไรนะขอรับนายน้อย?”
“ไม่มีอะไร..”
คาร์ลจับเช็คที่มีมูลค่า 10 ล้านแกลลอนในกระเป๋าอย่างแน่นหนา เขารู้สึกว่ามีเพียงเงินเท่านั้นที่เขาวางใจได้ เมื่อวานคือวันที่ 28 เดือน 3 ปีเฟลิกซ์ที่ 781นั่นเป็นวันที่ชาวบ้านในหมู่บ้านแฮร์ริสซึ่งเป็นหมู่บ้านที่พระเอกชื่อ ‘เชวฮัน’ อาศัยอยู่หลังจากที่สามารถหนีออกจากป่าแห่งความมืดได้หมู่บ้านแห่งนี้เป็นหมู่บ้านที่ทำให้เชวฮันสัมผัสได้ถึงความเป็นมนุษย์และมิตรภาพหลังจากที่หลุดเข้ามาในมิติแห่งนี้ ก่อนที่คนในครอบครัวที่เชวฮันนับเป็นครอบครัวที่สองของเขาจะถูกลอบสังหารโดยกลุ่มนักฆ่าที่ไม่รู้จัก แม้กระทั่งเขาผู้ที่อ่านหนังสือนิยายเล่มนี้จนถึงเล่มที่ 5 ก็ยังไม่รู้ว่าใครคือผู้ที่อยู่เบื้องหลังในการฆาตกรรมชาวบ้านตาดำๆนี้ มีนักอ่านบางคนที่อาจพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ว่า
‘เขาคือคนที่แข็งแกร่งมาก ไม่แปลกที่เขาจะเป็นเช่นนั้นหลังครอบครัวบุญธรรมที่เขารักถูกฆ่า’
มันเป็นเรื่องปกติที่จะคิดเช่นนั้นแต่ถึงอย่างไรก็ตามมันมีเหตุผลที่ทำให้นิยายเรื่องนี้ชื่อ ‘กำเนิดวีรบุรุษ’ แทนที่จะชื่อว่า ‘วีรบุรุษผู้แข็งแกร่ง’หรือ ‘สงครามแห่งวีรบุรุษ’
‘กำเนิดวีรบุรุษ’
นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องราวของพระเอกที่เอาชนะอุปสรรคต่างๆและจากความเจ็บปวดในอดีตทำให้เขาสามารถฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆเพื่อพิสูจน์ความเป็นวีรบุรุษ เรื่องราวของความรักและมิตรภาพที่เกิดขึ้นระหว่างที่เขาได้เจอกับศัตรูและเพื่อนๆในทีม
มีบางสิ่งที่ไม่สามารถหายไปจากนิยายนี้ได้คือ แรงกระตุ้น พระเอกอาจจะมีพรสวรรค์และมีชีวิตอยู่ได้นานนับสิบปีในป่าแห่งความมืด แต่เพราะเหตุนี้จึงทำให้เชวฮันยังคงเป็นคนที่ไร้เดียงสาและอ่อนโยน เขาอาจสามารฆ่าเหล่าปีศาจได้แต่เขาไม่เคยแม้แต่จะทำร้ายใครได้
เพื่อที่จะเปลี่ยนให้เขาเป็นคนที่แข็งแกร่งและเหมาะสมกับการเป็นวีรบุรุษ นิยายจึงสร้างสถานการณ์กระตุ้นให้เชวฮันพบกับผู้หญิงที่เขารักและเคารพเปรียบดังแม่คนที่สอง
เชวฮันได้เดินทางเข้าป่าแห่งความมืดเพื่อหาสมุนไพรที่มีคุณค่าราคาแพง เขาต้องเดินทางลึกเข้าไปในป่าแห่งความมืดและใช้เวลาหลายวันในการหาสมุนไพร ครั้นเมื่อเขากลับมายังหมู่บ้านอีกครั้งเขาก็ได้พบกับซากศพของชาวบ้าน พร้อมกับบ้านที่ถูกเพลิงเผาไหม้เป็นจุณ และได้เจอกับเหล่านักฆ่าที่กำลังจะเดินทางจากไป เชวฮันถูกความโกรธเข้าครอบงำและได้เรียนรู้การฆ่าคนเป็นครั้งแรก แน่นอนคนที่เขาฆ่าคือสมาชิกของเหล่านักฆ่านั่นเองและนักฆ่าในองค์กรลับแห่งนี้ต่างต้องปะทะกับเชวฮันตลอดทั้งเรื่อง
เมื่อเชวฮันกลับมาเป็นปกติหลังจากลงมือฆ่าเหล่านักฆ่าตายทั้งหมด เขาพยายามรวบรวมข้อมูลทั้งหมดแต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อไม่ได้ข้อมูลที่มากพอเพื่อจะสืบหาว่าใครคือผู้ที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์สังหารหมู่ในครั้งนี้ เขาค่อยๆฝังร่างของชาวบ้านก่อนที่จะปฏิญาณกับตนเอง
‘ฉันจะฆ่าพวกมันให้หมด ฉันจะฆ่าพวกมันไม่ว่าพวกมันจะเป็นใครก็ตาม พวกมันต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่มันทำ’
เชวฮัน ได้เข้าใจถึงความเศร้าและความตาย แต่การฆ่าคนในครั้งแรกทำให้ใจเขาแกร่งขึ้นพร้อมกับความโหดที่เพิ่มขึ้นแต่เขาก็สามารถกับมาเป็นคนที่อ่อนโยนได้อีกครั้งหลังจากที่ได้พบกับสมาชิกคนอื่นๆในนิยายและเติบโตขึ้นเพื่อเป็นวีรบุรุษอย่างแท้จริง
“รอน”
“ขอรับนายน้อย”
“ขอน้ำเย็นให้ข้าแก้วหนึ่งสิ”
“ได้ขอรับ นายน้อย”
หลังจากที่รอนทิ้งเขาให้อยู่คนเดียวตามลำพังเขาถึงกับต้องเอามือกุมขมับ
ปัญหาคือเมืองที่เชวฮันผู้ที่มาพร้อมกับความโกรธเกรี้ยวจะเดินทางมาถึงคือเมือง ‘เวสเทิร์น’ซึ่งเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ใจกลางดินแดนเฮนิตัสแห่งนี้ คาร์ลผู้โง่เขลาได้เข้าไปหาเรื่องเชวฮันจนโดนทำร้ายร่างกายพร้อมกับการปะทะที่ร้ายแรงในที่สุดและเขาก็ได้พบสมาชิกในทีมเป็นคนแรกนั่นคือ ‘บารอค’ พ่อครัวผู้น่าเกรงขามบุตรชายของรอนนั่นเอง
‘ฉันต้องไปที่นั่นล่วงหน้าและต้องช่วยพวกเขาให้เจอกัน’
สถานการณ์ในการหลบเลี่ยงการทำร้ายจากเชวฮันไม่ใช่ประเด็นสำคัญแต่เขาสนใจเรื่องการช่วยเหลือคนในเมืองให้รอดพ้นจากการปะทะนี้ต่างหาก แต่เขาไม่สามารถทำอะไรได้เลย ตอนนี้สิ่งที่ทำได้คือเขาต้องแน่ใจว่าเขาจะต้องไม่ทำอะไรที่ไปกระตุกต่อมความโกรธของเชวฮัน จนโดยอีกฝ่ายทำร้ายร่างกายได้
‘การหลีกเลี่ยงจากพระเอกไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง’
เขาจำเป็นต้องเข้าหาเชวฮันเพื่อให้รอนและบารอคก้าวเข้าไปช่วยเหลือเขาเพื่อให้เป็นจุดเริ่มต้นให้คนทั้ง 3 ได้พบกันและกลายเป็นจุดเริ่มต้นการผจญภัยของพระเอกต่อไป
‘ให้พวกเขาได้เริ่มต้นเดินทางและออกจากวงจรชีวิตของฉันสักที’
ต้องสร้างสถานการณ์ที่น่าประทับใจและหลีกเลี่ยงการเจ็บตัวให้ได้มากที่สุดสินะ
“นายน้อย”
“อา...ขอบใจนะ”
คาร์ลหยิบแก้วน้ำขึ้นจิบก่อนอารมณ์โกรธจะเริ่มปะทุขึ้น
“ไม่ใช่น้ำเย็น?”
“มันคือน้ำมะนาวขอรับ”
ช่างเป็นคนที่ร้ายกาจจริงๆพ่อบ้านคนนี้ก็น่าจะรู้เหมือนดังที่คิมร็อกโซ รู้ว่าคาร์ลตัวจริงนอกจากจะเกลียดในสิ่งที่น่ากลัวแล้ว เขายังเกลียดรสชาติเปรี้ยวอีกด้วย แต่เขาก็ยังเลือกทำน้ำมะนาวให้แก่คาร์ล เขาอยากระบายความโกรธนี้ออกมาแต่ทำได้แค่กลั้นใจดื่มน้ำมะนาวต่อไปช้าๆ เขายังไม่อยากต่อกรกับนักฆ่าอย่างรอนในตอนนี้
“ขอบคุณมากนะ...มันวิเศษมาก”
“ไม่มีปัญหาขอรับนายน้อย...เราควรเตรียมตัวเพื่อไปเรียนได้แล้วนะขอรับ”
“ดีเลย”
รอยยิ้มที่แสนอ่อนโยนของรอนทำให้เขาขนลุกอีกครั้ง เขาจับเช็คมูลค่า 10 ล้านแกลลอนว่ายังคงอยู่กับตัวเองอีกครั้งหนึ่งคงมีเพียงเงินเท่านั้นล่ะที่จะทำให้เขาเชื่อมั่นมันได้