บทที่ 15 ออกเดินทาง 2 [อ่านฟรี]
บทที่ 15 ออกเดินทาง 2
เพื่อให้บรรลุตามเป้าหมายที่คาร์ลตั้งใจไว้ เขาต้องเลือกการหยุดพักค้างแรมระหว่างทางก่อน ไม่มีหมู่บ้านใดที่อยู่บริเวณนี้จนกว่าจะถึงหมู่บ้านที่อยู่ใกล้ๆกับที่คุมขังมังกรดำ
“เมี้ยว เมี้ยว”
ลูกแมวขนสีแดงจากเผ่าแมว ลูกแมวน้อย ‘ฮง’ เริ่มขยับตัวและแกว่งหางของมันราวกับตื่นเต้น นั่นเป็นเพราะกลิ่นหอมจากเนื้อที่อบอวลเต็มบริเวณนี้นั่นเอง
‘ความสุขในวันนี้ก็คงมาจากการกินมื้อเย็นที่แสนอร่อยนี่ล่ะนะ’
นั่นคือสิ่งที่คาร์ลกำลังคิด อาหารมื้อเย็นที่แสนอร่อยเหล่านี้คือสัญญาณที่บ่งบอกว่าจะสิ้นสุดวันที่เหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางที่แสนยาวนานและเริ่มต้นค่ำคืนที่ผ่อนคลาย
อาหารจานหลักในมื้อเย็นนี้ เป็นซุปเนื้อกระต่าย ซุปเนื้อกระต่าย!
“ให้ตายสิ!”
มันไม่ใช่การกระทำของรอน คาร์ลเหลือบมองไปด้านข้างของเขา เชวฮันเป็นคนที่จัดการมัน ตอนนี้เขากำลังมีความสุขกับการทานซุปที่แสนอร่อยนั่นอยู่
“เมี้ยวววววววววว”
แปะ! แปะ! ตอนนี้ออนและฮงกำลังเอาเท้าเล็กๆของพวกมันแตะไปที่ขาของเขาเพื่อให้คาร์ลมอบซุปนั่นให้พวกมันหากเขาไม่ต้องการที่จะกินซุป ฮันส์เดินเข้ามาด้วยรอยยิ้มเต็มหน้าเมื่อเดินเข้ามาหาลูกแมวทั้งสองตัว
“ลูกแมวน้อย พวกเจ้าอยากกินอาหารที่ข้าเตรียมไว้ให้พวกเจ้าหรือไม่? มันเป็นอาหารที่ดีมีประโยชน์ต่อสุขภาพพวกเจ้ามากเลยนะมันไม่ใส่เกลือและสารกันบูดด้วย”
ออนและฮงไม่ได้สนใจฮันส์มากนัก ฮันส์ผู้ไม่รู้ว่าลูกแมวทั้งสองตัวนี้คือสัตว์อสูรจากเผ่าแมวเขายังคงมองว่าพวกมันน่ารักบอบบางจึงพยายามอยู่ใกล้พวกมันไม่ห่าง
ตรงกันข้ามกับความเป็นจริงที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นความจริงที่ว่าพวกเขาพึ่งมีการต่อสู้ปะทะกับกลุ่มโจรเป็นครั้งแรกสำหรับการเดินทางในครั้งนี้แต่บรรยากาศโดยรอบกับมีแต่ความผ่อนคลายและเงียบสงบ
แต่อย่างไรก็ตามเหล่าทหารองครักษ์กับมีบรรยากาศที่แปลกไปพวกเขาทั้งหมดยังคงจ้องมองมายังเชวฮันที่นั่งกินซุปอยู่ข้างเขา รองหัวหน้าองครักษ์ดูเหมือนจะมีท่าทีที่อึดอัดและทุกข์ทรมานพอสมควร
“เตราะ” คาร์ลเดาะลิ้นของเขาเบาๆอีกครั้ง
คณะเดินทางของเขาต้องต่อสู้กับโจรหลายสิบคนในวันนี้คนที่จัดการโจรได้ส่วนใหญ่คือเชวฮัน เขาไม่ได้ฆ่าพวกโจรเหล่านั้นแต่ก็ไม่มีปัญหาในการตัดแขน ตัดขาหรือทิ้งรอยแผลเป็นลึกบนร่างกายของพวกโจรถึงอย่างนั้นเขาก็สามารถจัดการได้ด้วยเวลาที่รวดเร็ว
‘นายน้อย..การต่อสู้ได้จบลงแล้วขอรับ’
รองหัวหน้าองครักษ์กล่าวรายงานต่อคาร์ลด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความตกใจ เขาไม่ได้คาดหวังว่ามันจะจบลงอย่างรวดเร็ว กลุ่มโจรถูกจัดการให้ออกจากพื้นที่โดยรอบด้วยความรวดเร็วพวกมันประมาทเกินไปกับการที่คิดว่าพวกมันสามารถจัดการกับทหารองครักษ์เพียงห้านายได้โดยอาศัยเพียงแค่จำนวนคนที่มากกว่า แต่เป้าหมายของพวกมันกลับต้องจบลงเมื่อรถม้าของเชวฮันมาถึง เหตุผลที่รองหัวหน้าองครักษ์ตกใจจนหน้าซีดเช่นนี้ไม่ใช่เพราะความแข็งแกร่งของโจรแต่เป็นเพราะเชวฮันเดินเข้ามาใกล้ตนที่กำลังยืนกล่าวรายงานแก่คาร์ลอยู่
‘มันเป็นการต่อสู้ที่เบามากนัก ไม่พอให้ข้าได้อุ่นเครื่องเลย’
คาร์ลเห็นรองหัวหน้าองครักษ์สะดุ้งตกใจหลังจากได้ยินคำพูดของเชวฮัน และเขายังได้เห็นเชวฮันยิ้มเต็มปากเมื่อมองไปที่รองหัวหน้าองครักษ์ที่สะดุ้งสุดตัว
‘เขาไม่ใช่คนประเภทที่จะยอมให้คนอื่นมีปัญหากับตนสินะ’
ไม่มีทางที่คนอย่างเชวฮัน ผู้ที่สามารถลงมือทำร้ายคาร์ลบุตรชายของเคานต์เดอรัชได้จะเป็นคนดีและปล่อยให้คนอื่นๆสามารถมาหาเรื่องหรือยุ่งเกี่ยวกับตนได้
“นายน้อย...หิวหรือไม่ขอรับ?”
คาร์ลรู้สึกเหนื่อยหน่ายในใจ ขณะที่รอนเดินเข้ามาหาเขาด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนตามแบบฉบับของเขา คาร์ลจ้องมองไปที่ซุปกระต่ายสลับกับรอน ก่อนจะตระหนักถึงบางอย่างได้ ตาแก่คนนี้กำลังสนุกที่ได้เล่นสนุกกับเขา
“อืม...ข้าไม่หิวเลย”
ก่อนที่เชวฮันจะเอ่ยถามขึ้น
“ท่านรู้สึกไม่สบายหรือ?”
“ไม่มีอะไรเช่นนั้นหรอก”
‘ฉันจะไม่มีปัญหาอะไรเลยถ้านายจับสิ่งอื่นมาแทนกระต่ายนั่น’
คาร์ลมองไปทางเชวฮันและโบกมือเบาๆเพื่อเป็นการยืนยันไม่ให้เชวฮันกังวลเรื่องของเขา อย่างไรก็ตามเชวฮันก็ยังคงจ้องมองเขาอยู่ด้วยสายตาที่จริงจังขึ้น
“เจ้ากำลังมองหาอะไรอยู่?”
“.......นี่เป็นครั้งแรกที่ท่านเจอการต่อสู้?......”
คาร์ลเพิ่งตั้งคำถามแก่เชวฮันก่อนที่เขาจะสวนกลับมาด้วยคำถามที่เคร่งเครียดกว่าเดิม
“ต่อสู้อะไร? เจ้าหมายถึงพวกโจรก่อนหน้านี้”
“ใช่”
“แน่นอน ข้าไม่เคยเห็นโจรจำนวนมากเช่นนี้มาก่อน”
“อ่า...ข้าเข้าใจ”
เชวฮันพยักหน้าและนั่งพึมพำกับตัวเองเงียบๆ
“....นี่ต้องเป็นครั้งแรกที่ท่านเฉียดใกล้ความตายเช่นนี้”
ห๊า....มีเสียงอุทานดังขึ้นของทหารนายหนึ่ง
ห๊า....ส่วนคาร์ลอึ้งเพราะเชวฮันทำให้เขาตกใจ
‘ครั้งแรกที่เฉียดใกล้ความตาย...ตูดแกนะสิ! นายรู้หรือไม่ว่าฉันกังวลใจในช่วง2-3วันที่ผ่านมาก็เพราะนายนั่นล่ะ’
มันไม่ได้หยุดอยู่แค่ตรงนั้นเมื่อตอนที่รอยยิ้มของรอนปรากฏขึ้นในตอนที่เห็นเชวฮันนำกระต่ายกลับมาก่อนจะมองเห็นบารอคกำลังลับมีดทำครัวของเขา คาร์ลรู้สึกกระวนกระวายใจเช่นกัน คาร์ลเริ่มคิดถึงช่วงเวลาที่หลอนประสาทที่เขามี ตั้งแต่พวกเขาเดินทางออกจากอาณาเขตเฮนิตัส
‘ตอนนี้ฉันไม่รู้สึกอยากกินอะไรเลย’
เขาสูญเสียความอยากอาหารทั้งหมดของเขาไป
เคร้ง!
ช้อนในมือของคาร์ลตกลงไปในชามซุป นั่นเป็นเหตุผลที่เขาไม่เข้าใจว่าเหล่าทหารกำลังมองเข้าด้วยความเข้าอกเข้าใจหรือเป็นเพราะเชวฮันได้หยุดความสนใจที่จะแกล้งคนที่อยู่รอบตัวเขาในตอนนี้กันแน่ ก่อนที่คาร์ลจะอยู่กับภวังค์ความคิดของตนต่อไป
“ท่านคาร์ล”
“มีอะไรรึ?”
คาร์ลกำลังคิดว่าเขาไม่จำเป็นต้องกังวลอะไรอีกต่อไปเพราะเขาพยายามหลีกเลี่ยงการถูกทำร้ายร่างกายและยังได้รับโล่นิรันดร์กาลมาไว้ที่ตัวแล้ว ก่อนที่เสียงของเชวฮันจะแทรกผ่านและดึงเขากลับสู่ความเป็นจริง
‘หมอนี่จะพูดอะไรกับเขากันนะ’
“ครั้งแรกเป็นเรื่องยากที่จะจัดการได้”
“เจ้าพูดถึงเรื่องอะไร?”
ก่อนที่คาร์ลจะเอ่ยถามกลับไป เชวฮันมีรอยยิ้มน้อยๆบนใบหน้าของเขา ก่อนที่จะจ้องมองเขาด้วยสายตาที่เคร่งเครียดยิ่งกว่าเดิม
“ท่านคาร์ล....ท่านไม่ได้เรียนรู้ศิลปะป้องกันตัวใดๆเลยหรือขอรับ?”
“ไม่จำเป็น”
“ไม่เลยสักนิดหรือขอรับที่คนแข็งแรงเช่นท่านจะเรียนสิ่งเหล่านี้ไว้ป้องกันตัว?”
มีความห่วงใยอย่างจริงใจกับเรื่องร้ายแรงดังกล่าว คาร์ลสงสัยว่าทำไมเชวฮันถึงกลายเป็นคนที่จริงจังเช่นนี้แต่ตัดสินใจที่จะตอบคำถามนี้เช่นกัน
“ข้ามีวิธีการมากมายอยู่แล้ว”
คาร์ลละสายตาของตนออกไปจากเชวฮัน และมองไปบริเวณรอบๆ เขามองไปที่ทหารจำนวน 15 นายที่แข็งแกร่งกว่าเขา เหล่าทหารองครักษ์จำนวน 5 นายที่จะทำหน้าที่ของพวกเขาให้ดีที่สุดแม้ว่าจะไปที่ใดก็ตาม เหล่าข้ารับใช้ที่ติดตามมาส่วนหนึ่งที่อยู่ข้างๆพวกเขา หรือแม้แต่รอน บารอค ลูกแมวสองตัว และฮันส์ต่างก็มีความแข็งแกร่งกว่าเขาทั้งนั้น
คาร์ลมองสบตาของแต่ละคนก่อนที่จะหันกลับไปหาเชวฮันอีกครั้ง
“เจ้าเห็นพวกเขาเหล่านี้หรือไม่?”
‘นี่คือสิ่งที่สามารถปกป้องบุตรชายของท่านเคานต์ผู้มั่งคั่ง’
คาร์ลเริ่มยิ้มเขารู้ว่าพวกคนเหล่านี้จะต้องปกป้องเขา ถึงแม้ว่าเขาจะไม่มั่นใจในตัวรอนและบารอคแต่เขาก็แน่ใจว่าอย่างน้อยสองคนนั้นอาจยังไม่ลงมือฆ่าคนได้ในเวลานี้
‘นี่ไม่ใช่แค่การปกป้องเท่านั้น’
คาร์ลตัดสินใจที่จะเปิดเผยต่อเชวฮันผู้ซึ่งกำลังนั่งจ้องเขาอยู่ไม่วางตา เขาตบลงไปที่หัวใจของตนเบาๆก่อนจะเอ่ย
“ข้าเชื่อใจหัวใจของข้า.....ข้าจะไม่ตาย”
แน่นอน.....โล่นิรันดร์กาลอยู่รอบหัวใจของเขามันจะปกป้องชีวิตเขาได้เป็นอย่างดี ตราบที่เขาหลีกเลี่ยงการปะทะจากคนอย่างเชวฮัน นั่นมัน.....เขาเหลือบมองใบหน้าของเชวฮันอีกครั้งก่อนที่จะเห็นสายตานั่น
เชวฮันกำลังมองมาที่เขาด้วยแววตาที่สั่นไหว
“เมี้ยว เมี้ยว”
“ฮืม....พวกเจ้าจะทำสิ่งใด?”
ออนและฮงเดินเข้ามาใกล้คาร์ลก่อนจะแตะมาที่ขาของเขาด้วยอุ้งเท้าเล็กๆนั่น กรงเล็บที่อยู่บนเท้าของพวกมันทำให้คาร์ลรู้สึกเจ็บก่อนจะขมวดคิ้วมุ่น ลูกแมวสองพี่น้องจากเผ่าแมวได้หยุดการกินอาหารและเริ่มถูแก้มของพวกมันไปมากับขาของคาร์ล
เคร้ง!
เชวฮันวางชามใส่ซุปที่ว่างเปล่าของเขาและลุกขึ้นยืนจากที่นั่งของตน
“.......ข้าจะฝึกดาบของข้าตอนนี้”
“หลังจากกินอาหารเสร็จนี่เหรอ?”
“ข้ารู้สึกว่าข้าต้องการที่จะแข็งแกร่งขึ้น”
‘ให้ตายเถอะ นายจะพยายามแข็งแกร่งจนสามารถระเบิดโลกนี้ทั้งใบไปเลยหรือไง?’
คาร์ลหันหน้าหนีด้วยความรังเกียจ และเวลานั้นบารอคก็เดินเข้ามาหาเขาด้วยอาหารจานใหม่
“ขอให้สนุกกับอาหารนะขอรับ”
“โอ้! ขอบคุณ”
คาร์ลมองจานที่เต็มไปด้วยเครื่องเทศที่มีคุณภาพสูงและเนื้อสเต็กชั้นเลิศก่อนจะเริ่มยิ้มออก
“อาหารและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีรสชาติเหมือนน้ำมะนาวเป็นอาหารที่ดีที่สุดในการช่วยให้นายน้อยเริ่มมีความอยากอาหารมากขึ้นขอรับ”
นี่เป็นครั้งแรกที่รอนได้ส่งน้ำมะนาวมาให้เขาตั้งแต่ครั้งที่เริ่มมีปฏิสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยดีนักในร้านชานั่น คาร์ลไม่ได้สนใจน้ำมะนาวเพราะเขารู้สึกตื่นเต้นเกี่ยวกับสเต็กที่อยู่ตรงหน้า
“ถ้าทุกคนกินเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราจะเริ่มฝึกซ้อมเพิ่มเติมในเร็วๆนี้”
คาร์ลได้ยินเสียงของรองหัวหน้าองครักษ์ดังขึ้นและเริ่มคิด
‘สงสัยได้แรงบันดาลใจมาจากเชวฮัน’
คาร์ลมองไปที่ทหารองครักษ์และทหารยามที่กำลังฝึกซ้อมกันอย่างแข็งขัน ในขณะที่เขาสาละวนอยู่กับสเต็กและซุปกระต่าย แน่นอนว่าซุปกระต่ายเป็นสิ่งที่อร่อยเมื่อเขาได้ลองทาน และแน่นอนว่าเขาปฏิเสธอย่างแข็งขันเมื่อเห็นลูกแมวมีท่าทีเชิญชวนให้เขากินซุปกระต่ายของพวกมัน ไม่มีเครื่องปรุงรสใดๆในนั้นเลย ไม่!เขาจะไม่แตะต้องมันเป็นอันขาด
***********************************************************************************************************************
‘3วัน’
คาร์ลคำนวณเวลาขณะที่พวกเขากำลังเดินทางเข้าไปในหมู่บ้าน
‘มังกรดำจะทำให้เกิดการระเบิดของพลังเวทย์ภายใน 3 วัน’
ตอนนี้พวกเขาเข้ามาอยู่ในอาณาเขตที่อยู่ติดกับอาณาเขตเฮนิตัส มีคฤหาสน์ขนาดกลางที่ท่านไวส์เคานต์สร้างขึ้นบนภูเขาทางทิศขวาของหมู่บ้านแห่งนี้เมื่อไม่กี่ปีก่อน
คนทั่วไปรู้กันว่าคฤหาสน์หลังนี้เป็นของท่านไวส์เคานต์แต่ความเป็นจริงมันเป็นของมาร์ควิสผู้สูงศักดิ์ ผู้ที่เป็นคนทำให้มังกรดำคลุ้มคลั่งอาละวาดไปทั่ว ท่านไวส์เคานต์ผู้ดูแลอาณาเขตนี้ก็คงไม่ต่างจากสุนัขรับใช้ผู้ซื่อสัตย์ของมาร์ควิสผู้นี้
‘และภูเขาเบื้องหลังคฤหาสน์นั่นมีถ้ำที่ใช้ซ่อนมังกรดำอยู่’
มังกรดำทำให้เกิดพลังเวทย์ระเบิดถ้ำและภูเขาจนเสียหายขึ้น คาร์ลมองไปที่ยอดเขาเล็กๆที่อยู่ทางขวาของภูเขาที่เขากำลังใช้ข้ามไปในตอนนี้ คาร์ลเดาะลิ้นของตนอีกครั้ง
‘เวเนี่ยน’ เป็นคนในตระกูลของมาร์ควิสสแตน คาร์ลกำลังคิดถึงบุตรชายคนที่สองของมาร์ควิสสแตน เขาเป็นโรคจิตเป็นคนที่ทำร้ายพี่ชายของตนเองจนพิการและได้ขึ้นมาเป็นผู้สืบทอดตระกูลแทน เจ้าโรคจิตบ้าคนนี้มาพักที่คฤหาสน์นี้บ่อยๆเขามาทรมานมังกรดำเพื่อความสุขและสะใจของตนเอง
“เตราะ”
ฮันส์สะดุ้งไปชั่วครู่เมื่อเห็นว่าคาร์ลเดาะลิ้นของตนเอง ก่อนจะพาเชวฮันเข้ามาหาคาร์ลและเริ่มพูด
“นายน้อย กระผมกับท่านเชวฮันจะเข้าไปหาที่พักด้านในก่อน โปรดรอสักครู่นะขอรับ”
ขณะนี้รถได้หยุดอยู่นอกประตูทางเข้าหมู่บ้าน
“อืม...ได้”
“เราจะรีบกลับมาให้เร็วที่สุด”
คาร์ลพยักหน้ากับคำพูดของฮันส์ก่อนจะละสายตาไปสังเกตเชวฮันในสายตาของเชวฮันตอนนี้มีแต่สิ่งที่ระลึกถึง ทำไมเชวฮันถึงตัดสินใจที่จะต่อสู้กับการระเบิดพลังเวทย์จากมังกรดำ? นั่นเป็นเพราะเขาไม่สามารถทิ้งหมู่บ้านเล็กๆที่เงียบสงบเช่นนี้ไปได้ หมู่บ้านที่อยู่ต่อหน้าเขาในตอนนี้มีความคล้ายคลึงกับ‘หมู่บ้านแฮร์ริส’ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่สอนให้เขารู้จักกับเกี่ยวกับความรักและความเกลียดชัง นั่นคงเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาจึงพยายามเพื่อช่วยเหลือชีวิตชาวบ้านแห่งนี้โดยที่เขาไม่เคยรู้จักมาก่อน คาร์ลเริ่มขมวดคิ้วมุ่นอีกครั้งก่อนจะเรียกเชวฮันไว้
“เชวฮัน”
“.....ขอรับ?”
“รีบกลับมา..”
อา....เสียงกระซิบเบาๆดังออกมาจากปากของเชวฮัน เด็กหนุ่มวัย 17 ปีที่อาศัยอยู่มาหลายสิบปีเริ่มมีรอยยิ้มอันสดใสอยู่เต็มใบหน้าของเขาก่อนจะพยักหน้าตอบรับ[1]
“ขอรับท่านคาร์ล.....ข้าจะรีบกลับมา”
คาร์ลขยับตัวราวกับกำลังหงุดหงิดอะไรอยู่ แต่เชวฮันก็โค้งศีรษะให้เขาก่อนที่จะเดินเข้าไปในหมู่บ้านพร้อมกับฮันส์อย่างรวดเร็ว คาร์ลยังคงจ้องมองไปที่แผ่นหลังของเชวฮันด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยก่อนจะค่อยๆเริ่มมีความขุ่นเคืองขึ้น
คาร์ลมองเห็นรถม้าที่วิ่งตรงไปยังทิศทางที่พวกเขาอยู่
‘ชักรู้สึกไม่ดีกับเรื่องนี้ซะแล้วสิ’
คาร์ลรู้สึกเหมือนมีคนที่มือเปื้อนเหงื่อยื่นแอปเปิ้ลพิษให้แก่เขา มันเป็นความรู้สึกที่หน่วงๆและขมขื่นแปลกๆ สาเหตุของความรู้สึกนี้คงได้รับการเปิดเผยในไม่ช้า
“นั่นไง......”
คาร์ลไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ
เขามองเห็นชายชราคนหนึ่งที่ไม่สามารถหลบรถม้าล้มลงไปกองกับพื้นถนน นอกจากนี้เขายังมองเห็นว่า เชวฮันกำลังวิ่งเข้าไปช่วยเหลือชายชราและรถม้าที่วิ่งมาด้วยความเร็วอย่างไม่มีทีว่าจะลดความเร็วลงได้
‘นั่นไง...ฮึ’
มีธงสีแดงแขวนอยู่บนรถม้านั่น งูสีแดงเป็นสัญลักษณ์ของตระกูลมาร์ควิสสแตน สายตาของคาร์ลเริ่มสั่นไหว มันกำลังจะเกิดขึ้น เหตุการณ์นั่นมันจะเกิดขึ้นในไม่ช้า
ปัง!
เชวฮันใช้ตัวเองเพื่อช่วยเหลือชายชราคนนั้น แรงชนจากรถม้าทำให้ตัวเขากระแทกไปที่กำแพงด้านข้าง ก่อนที่รถม้าคันสีดำของตระกูลมาร์ควิสสแตนจะหยุดลงเช่นกัน
“เฮ้อ...”
คาร์ลถอนหายใจยาวก่อนที่จะเปิดประตูรถม้าออกไป ดูเหมือนว่าเขาจะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะมุ่งหน้าไปยังสถานที่แห่งความวุ่นวายนั่น
[1]ไม่แน่ใจในอายุของเชวฮัน