ตอนที่แล้วบทที่ 14 ออกเดินทาง 1 (2) [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 16 ออกเดินทาง 3 (1) [อ่านฟรี]

บทที่ 15 ออกเดินทาง 2 [อ่านฟรี]


บทที่ 15 ออกเดินทาง 2

เพื่อให้บรรลุตามเป้าหมายที่คาร์ลตั้งใจไว้ เขาต้องเลือกการหยุดพักค้างแรมระหว่างทางก่อน ไม่มีหมู่บ้านใดที่อยู่บริเวณนี้จนกว่าจะถึงหมู่บ้านที่อยู่ใกล้ๆกับที่คุมขังมังกรดำ

“เมี้ยว เมี้ยว”

ลูกแมวขนสีแดงจากเผ่าแมว ลูกแมวน้อย ‘ฮง’ เริ่มขยับตัวและแกว่งหางของมันราวกับตื่นเต้น นั่นเป็นเพราะกลิ่นหอมจากเนื้อที่อบอวลเต็มบริเวณนี้นั่นเอง

‘ความสุขในวันนี้ก็คงมาจากการกินมื้อเย็นที่แสนอร่อยนี่ล่ะนะ’

นั่นคือสิ่งที่คาร์ลกำลังคิด อาหารมื้อเย็นที่แสนอร่อยเหล่านี้คือสัญญาณที่บ่งบอกว่าจะสิ้นสุดวันที่เหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางที่แสนยาวนานและเริ่มต้นค่ำคืนที่ผ่อนคลาย

อาหารจานหลักในมื้อเย็นนี้ เป็นซุปเนื้อกระต่าย ซุปเนื้อกระต่าย!

“ให้ตายสิ!”

มันไม่ใช่การกระทำของรอน  คาร์ลเหลือบมองไปด้านข้างของเขา เชวฮันเป็นคนที่จัดการมัน ตอนนี้เขากำลังมีความสุขกับการทานซุปที่แสนอร่อยนั่นอยู่

“เมี้ยวววววววววว”

แปะ! แปะ! ตอนนี้ออนและฮงกำลังเอาเท้าเล็กๆของพวกมันแตะไปที่ขาของเขาเพื่อให้คาร์ลมอบซุปนั่นให้พวกมันหากเขาไม่ต้องการที่จะกินซุป ฮันส์เดินเข้ามาด้วยรอยยิ้มเต็มหน้าเมื่อเดินเข้ามาหาลูกแมวทั้งสองตัว

“ลูกแมวน้อย พวกเจ้าอยากกินอาหารที่ข้าเตรียมไว้ให้พวกเจ้าหรือไม่? มันเป็นอาหารที่ดีมีประโยชน์ต่อสุขภาพพวกเจ้ามากเลยนะมันไม่ใส่เกลือและสารกันบูดด้วย”

ออนและฮงไม่ได้สนใจฮันส์มากนัก ฮันส์ผู้ไม่รู้ว่าลูกแมวทั้งสองตัวนี้คือสัตว์อสูรจากเผ่าแมวเขายังคงมองว่าพวกมันน่ารักบอบบางจึงพยายามอยู่ใกล้พวกมันไม่ห่าง

ตรงกันข้ามกับความเป็นจริงที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นความจริงที่ว่าพวกเขาพึ่งมีการต่อสู้ปะทะกับกลุ่มโจรเป็นครั้งแรกสำหรับการเดินทางในครั้งนี้แต่บรรยากาศโดยรอบกับมีแต่ความผ่อนคลายและเงียบสงบ

แต่อย่างไรก็ตามเหล่าทหารองครักษ์กับมีบรรยากาศที่แปลกไปพวกเขาทั้งหมดยังคงจ้องมองมายังเชวฮันที่นั่งกินซุปอยู่ข้างเขา รองหัวหน้าองครักษ์ดูเหมือนจะมีท่าทีที่อึดอัดและทุกข์ทรมานพอสมควร

“เตราะ” คาร์ลเดาะลิ้นของเขาเบาๆอีกครั้ง

คณะเดินทางของเขาต้องต่อสู้กับโจรหลายสิบคนในวันนี้คนที่จัดการโจรได้ส่วนใหญ่คือเชวฮัน เขาไม่ได้ฆ่าพวกโจรเหล่านั้นแต่ก็ไม่มีปัญหาในการตัดแขน ตัดขาหรือทิ้งรอยแผลเป็นลึกบนร่างกายของพวกโจรถึงอย่างนั้นเขาก็สามารถจัดการได้ด้วยเวลาที่รวดเร็ว

‘นายน้อย..การต่อสู้ได้จบลงแล้วขอรับ’

รองหัวหน้าองครักษ์กล่าวรายงานต่อคาร์ลด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความตกใจ เขาไม่ได้คาดหวังว่ามันจะจบลงอย่างรวดเร็ว กลุ่มโจรถูกจัดการให้ออกจากพื้นที่โดยรอบด้วยความรวดเร็วพวกมันประมาทเกินไปกับการที่คิดว่าพวกมันสามารถจัดการกับทหารองครักษ์เพียงห้านายได้โดยอาศัยเพียงแค่จำนวนคนที่มากกว่า แต่เป้าหมายของพวกมันกลับต้องจบลงเมื่อรถม้าของเชวฮันมาถึง เหตุผลที่รองหัวหน้าองครักษ์ตกใจจนหน้าซีดเช่นนี้ไม่ใช่เพราะความแข็งแกร่งของโจรแต่เป็นเพราะเชวฮันเดินเข้ามาใกล้ตนที่กำลังยืนกล่าวรายงานแก่คาร์ลอยู่

‘มันเป็นการต่อสู้ที่เบามากนัก ไม่พอให้ข้าได้อุ่นเครื่องเลย’

คาร์ลเห็นรองหัวหน้าองครักษ์สะดุ้งตกใจหลังจากได้ยินคำพูดของเชวฮัน และเขายังได้เห็นเชวฮันยิ้มเต็มปากเมื่อมองไปที่รองหัวหน้าองครักษ์ที่สะดุ้งสุดตัว

‘เขาไม่ใช่คนประเภทที่จะยอมให้คนอื่นมีปัญหากับตนสินะ’

ไม่มีทางที่คนอย่างเชวฮัน ผู้ที่สามารถลงมือทำร้ายคาร์ลบุตรชายของเคานต์เดอรัชได้จะเป็นคนดีและปล่อยให้คนอื่นๆสามารถมาหาเรื่องหรือยุ่งเกี่ยวกับตนได้

“นายน้อย...หิวหรือไม่ขอรับ?”

คาร์ลรู้สึกเหนื่อยหน่ายในใจ ขณะที่รอนเดินเข้ามาหาเขาด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนตามแบบฉบับของเขา คาร์ลจ้องมองไปที่ซุปกระต่ายสลับกับรอน ก่อนจะตระหนักถึงบางอย่างได้ ตาแก่คนนี้กำลังสนุกที่ได้เล่นสนุกกับเขา

“อืม...ข้าไม่หิวเลย”

ก่อนที่เชวฮันจะเอ่ยถามขึ้น

“ท่านรู้สึกไม่สบายหรือ?”

“ไม่มีอะไรเช่นนั้นหรอก”

‘ฉันจะไม่มีปัญหาอะไรเลยถ้านายจับสิ่งอื่นมาแทนกระต่ายนั่น’

คาร์ลมองไปทางเชวฮันและโบกมือเบาๆเพื่อเป็นการยืนยันไม่ให้เชวฮันกังวลเรื่องของเขา อย่างไรก็ตามเชวฮันก็ยังคงจ้องมองเขาอยู่ด้วยสายตาที่จริงจังขึ้น

“เจ้ากำลังมองหาอะไรอยู่?”

“.......นี่เป็นครั้งแรกที่ท่านเจอการต่อสู้?......”

คาร์ลเพิ่งตั้งคำถามแก่เชวฮันก่อนที่เขาจะสวนกลับมาด้วยคำถามที่เคร่งเครียดกว่าเดิม

“ต่อสู้อะไร? เจ้าหมายถึงพวกโจรก่อนหน้านี้”

“ใช่”

“แน่นอน ข้าไม่เคยเห็นโจรจำนวนมากเช่นนี้มาก่อน”

“อ่า...ข้าเข้าใจ”

เชวฮันพยักหน้าและนั่งพึมพำกับตัวเองเงียบๆ

“....นี่ต้องเป็นครั้งแรกที่ท่านเฉียดใกล้ความตายเช่นนี้”

ห๊า....มีเสียงอุทานดังขึ้นของทหารนายหนึ่ง

ห๊า....ส่วนคาร์ลอึ้งเพราะเชวฮันทำให้เขาตกใจ

‘ครั้งแรกที่เฉียดใกล้ความตาย...ตูดแกนะสิ! นายรู้หรือไม่ว่าฉันกังวลใจในช่วง2-3วันที่ผ่านมาก็เพราะนายนั่นล่ะ’

มันไม่ได้หยุดอยู่แค่ตรงนั้นเมื่อตอนที่รอยยิ้มของรอนปรากฏขึ้นในตอนที่เห็นเชวฮันนำกระต่ายกลับมาก่อนจะมองเห็นบารอคกำลังลับมีดทำครัวของเขา คาร์ลรู้สึกกระวนกระวายใจเช่นกัน คาร์ลเริ่มคิดถึงช่วงเวลาที่หลอนประสาทที่เขามี ตั้งแต่พวกเขาเดินทางออกจากอาณาเขตเฮนิตัส

‘ตอนนี้ฉันไม่รู้สึกอยากกินอะไรเลย’

เขาสูญเสียความอยากอาหารทั้งหมดของเขาไป

เคร้ง!

ช้อนในมือของคาร์ลตกลงไปในชามซุป นั่นเป็นเหตุผลที่เขาไม่เข้าใจว่าเหล่าทหารกำลังมองเข้าด้วยความเข้าอกเข้าใจหรือเป็นเพราะเชวฮันได้หยุดความสนใจที่จะแกล้งคนที่อยู่รอบตัวเขาในตอนนี้กันแน่ ก่อนที่คาร์ลจะอยู่กับภวังค์ความคิดของตนต่อไป

“ท่านคาร์ล”

“มีอะไรรึ?”

คาร์ลกำลังคิดว่าเขาไม่จำเป็นต้องกังวลอะไรอีกต่อไปเพราะเขาพยายามหลีกเลี่ยงการถูกทำร้ายร่างกายและยังได้รับโล่นิรันดร์กาลมาไว้ที่ตัวแล้ว ก่อนที่เสียงของเชวฮันจะแทรกผ่านและดึงเขากลับสู่ความเป็นจริง

‘หมอนี่จะพูดอะไรกับเขากันนะ’

“ครั้งแรกเป็นเรื่องยากที่จะจัดการได้”

“เจ้าพูดถึงเรื่องอะไร?”

ก่อนที่คาร์ลจะเอ่ยถามกลับไป เชวฮันมีรอยยิ้มน้อยๆบนใบหน้าของเขา ก่อนที่จะจ้องมองเขาด้วยสายตาที่เคร่งเครียดยิ่งกว่าเดิม

“ท่านคาร์ล....ท่านไม่ได้เรียนรู้ศิลปะป้องกันตัวใดๆเลยหรือขอรับ?”

“ไม่จำเป็น”

“ไม่เลยสักนิดหรือขอรับที่คนแข็งแรงเช่นท่านจะเรียนสิ่งเหล่านี้ไว้ป้องกันตัว?”

มีความห่วงใยอย่างจริงใจกับเรื่องร้ายแรงดังกล่าว คาร์ลสงสัยว่าทำไมเชวฮันถึงกลายเป็นคนที่จริงจังเช่นนี้แต่ตัดสินใจที่จะตอบคำถามนี้เช่นกัน

“ข้ามีวิธีการมากมายอยู่แล้ว”

คาร์ลละสายตาของตนออกไปจากเชวฮัน และมองไปบริเวณรอบๆ เขามองไปที่ทหารจำนวน 15 นายที่แข็งแกร่งกว่าเขา เหล่าทหารองครักษ์จำนวน 5 นายที่จะทำหน้าที่ของพวกเขาให้ดีที่สุดแม้ว่าจะไปที่ใดก็ตาม เหล่าข้ารับใช้ที่ติดตามมาส่วนหนึ่งที่อยู่ข้างๆพวกเขา หรือแม้แต่รอน บารอค ลูกแมวสองตัว และฮันส์ต่างก็มีความแข็งแกร่งกว่าเขาทั้งนั้น

คาร์ลมองสบตาของแต่ละคนก่อนที่จะหันกลับไปหาเชวฮันอีกครั้ง

“เจ้าเห็นพวกเขาเหล่านี้หรือไม่?”

‘นี่คือสิ่งที่สามารถปกป้องบุตรชายของท่านเคานต์ผู้มั่งคั่ง’

คาร์ลเริ่มยิ้มเขารู้ว่าพวกคนเหล่านี้จะต้องปกป้องเขา ถึงแม้ว่าเขาจะไม่มั่นใจในตัวรอนและบารอคแต่เขาก็แน่ใจว่าอย่างน้อยสองคนนั้นอาจยังไม่ลงมือฆ่าคนได้ในเวลานี้

‘นี่ไม่ใช่แค่การปกป้องเท่านั้น’

คาร์ลตัดสินใจที่จะเปิดเผยต่อเชวฮันผู้ซึ่งกำลังนั่งจ้องเขาอยู่ไม่วางตา เขาตบลงไปที่หัวใจของตนเบาๆก่อนจะเอ่ย

“ข้าเชื่อใจหัวใจของข้า.....ข้าจะไม่ตาย”

แน่นอน.....โล่นิรันดร์กาลอยู่รอบหัวใจของเขามันจะปกป้องชีวิตเขาได้เป็นอย่างดี ตราบที่เขาหลีกเลี่ยงการปะทะจากคนอย่างเชวฮัน นั่นมัน.....เขาเหลือบมองใบหน้าของเชวฮันอีกครั้งก่อนที่จะเห็นสายตานั่น

เชวฮันกำลังมองมาที่เขาด้วยแววตาที่สั่นไหว

“เมี้ยว เมี้ยว”

“ฮืม....พวกเจ้าจะทำสิ่งใด?”

ออนและฮงเดินเข้ามาใกล้คาร์ลก่อนจะแตะมาที่ขาของเขาด้วยอุ้งเท้าเล็กๆนั่น กรงเล็บที่อยู่บนเท้าของพวกมันทำให้คาร์ลรู้สึกเจ็บก่อนจะขมวดคิ้วมุ่น ลูกแมวสองพี่น้องจากเผ่าแมวได้หยุดการกินอาหารและเริ่มถูแก้มของพวกมันไปมากับขาของคาร์ล

เคร้ง!

เชวฮันวางชามใส่ซุปที่ว่างเปล่าของเขาและลุกขึ้นยืนจากที่นั่งของตน

“.......ข้าจะฝึกดาบของข้าตอนนี้”

“หลังจากกินอาหารเสร็จนี่เหรอ?”

“ข้ารู้สึกว่าข้าต้องการที่จะแข็งแกร่งขึ้น”

‘ให้ตายเถอะ นายจะพยายามแข็งแกร่งจนสามารถระเบิดโลกนี้ทั้งใบไปเลยหรือไง?’

คาร์ลหันหน้าหนีด้วยความรังเกียจ และเวลานั้นบารอคก็เดินเข้ามาหาเขาด้วยอาหารจานใหม่

“ขอให้สนุกกับอาหารนะขอรับ”

“โอ้! ขอบคุณ”

คาร์ลมองจานที่เต็มไปด้วยเครื่องเทศที่มีคุณภาพสูงและเนื้อสเต็กชั้นเลิศก่อนจะเริ่มยิ้มออก

“อาหารและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีรสชาติเหมือนน้ำมะนาวเป็นอาหารที่ดีที่สุดในการช่วยให้นายน้อยเริ่มมีความอยากอาหารมากขึ้นขอรับ”

นี่เป็นครั้งแรกที่รอนได้ส่งน้ำมะนาวมาให้เขาตั้งแต่ครั้งที่เริ่มมีปฏิสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยดีนักในร้านชานั่น คาร์ลไม่ได้สนใจน้ำมะนาวเพราะเขารู้สึกตื่นเต้นเกี่ยวกับสเต็กที่อยู่ตรงหน้า

“ถ้าทุกคนกินเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราจะเริ่มฝึกซ้อมเพิ่มเติมในเร็วๆนี้”

คาร์ลได้ยินเสียงของรองหัวหน้าองครักษ์ดังขึ้นและเริ่มคิด

‘สงสัยได้แรงบันดาลใจมาจากเชวฮัน’

คาร์ลมองไปที่ทหารองครักษ์และทหารยามที่กำลังฝึกซ้อมกันอย่างแข็งขัน ในขณะที่เขาสาละวนอยู่กับสเต็กและซุปกระต่าย แน่นอนว่าซุปกระต่ายเป็นสิ่งที่อร่อยเมื่อเขาได้ลองทาน และแน่นอนว่าเขาปฏิเสธอย่างแข็งขันเมื่อเห็นลูกแมวมีท่าทีเชิญชวนให้เขากินซุปกระต่ายของพวกมัน ไม่มีเครื่องปรุงรสใดๆในนั้นเลย ไม่!เขาจะไม่แตะต้องมันเป็นอันขาด

***********************************************************************************************************************

‘3วัน’

คาร์ลคำนวณเวลาขณะที่พวกเขากำลังเดินทางเข้าไปในหมู่บ้าน

‘มังกรดำจะทำให้เกิดการระเบิดของพลังเวทย์ภายใน 3 วัน’

ตอนนี้พวกเขาเข้ามาอยู่ในอาณาเขตที่อยู่ติดกับอาณาเขตเฮนิตัส มีคฤหาสน์ขนาดกลางที่ท่านไวส์เคานต์สร้างขึ้นบนภูเขาทางทิศขวาของหมู่บ้านแห่งนี้เมื่อไม่กี่ปีก่อน

คนทั่วไปรู้กันว่าคฤหาสน์หลังนี้เป็นของท่านไวส์เคานต์แต่ความเป็นจริงมันเป็นของมาร์ควิสผู้สูงศักดิ์ ผู้ที่เป็นคนทำให้มังกรดำคลุ้มคลั่งอาละวาดไปทั่ว ท่านไวส์เคานต์ผู้ดูแลอาณาเขตนี้ก็คงไม่ต่างจากสุนัขรับใช้ผู้ซื่อสัตย์ของมาร์ควิสผู้นี้

‘และภูเขาเบื้องหลังคฤหาสน์นั่นมีถ้ำที่ใช้ซ่อนมังกรดำอยู่’

มังกรดำทำให้เกิดพลังเวทย์ระเบิดถ้ำและภูเขาจนเสียหายขึ้น คาร์ลมองไปที่ยอดเขาเล็กๆที่อยู่ทางขวาของภูเขาที่เขากำลังใช้ข้ามไปในตอนนี้ คาร์ลเดาะลิ้นของตนอีกครั้ง

‘เวเนี่ยน’ เป็นคนในตระกูลของมาร์ควิสสแตน คาร์ลกำลังคิดถึงบุตรชายคนที่สองของมาร์ควิสสแตน เขาเป็นโรคจิตเป็นคนที่ทำร้ายพี่ชายของตนเองจนพิการและได้ขึ้นมาเป็นผู้สืบทอดตระกูลแทน เจ้าโรคจิตบ้าคนนี้มาพักที่คฤหาสน์นี้บ่อยๆเขามาทรมานมังกรดำเพื่อความสุขและสะใจของตนเอง

“เตราะ”

ฮันส์สะดุ้งไปชั่วครู่เมื่อเห็นว่าคาร์ลเดาะลิ้นของตนเอง ก่อนจะพาเชวฮันเข้ามาหาคาร์ลและเริ่มพูด

“นายน้อย กระผมกับท่านเชวฮันจะเข้าไปหาที่พักด้านในก่อน โปรดรอสักครู่นะขอรับ”

ขณะนี้รถได้หยุดอยู่นอกประตูทางเข้าหมู่บ้าน

“อืม...ได้”

“เราจะรีบกลับมาให้เร็วที่สุด”

คาร์ลพยักหน้ากับคำพูดของฮันส์ก่อนจะละสายตาไปสังเกตเชวฮันในสายตาของเชวฮันตอนนี้มีแต่สิ่งที่ระลึกถึง ทำไมเชวฮันถึงตัดสินใจที่จะต่อสู้กับการระเบิดพลังเวทย์จากมังกรดำ? นั่นเป็นเพราะเขาไม่สามารถทิ้งหมู่บ้านเล็กๆที่เงียบสงบเช่นนี้ไปได้  หมู่บ้านที่อยู่ต่อหน้าเขาในตอนนี้มีความคล้ายคลึงกับ‘หมู่บ้านแฮร์ริส’ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่สอนให้เขารู้จักกับเกี่ยวกับความรักและความเกลียดชัง นั่นคงเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาจึงพยายามเพื่อช่วยเหลือชีวิตชาวบ้านแห่งนี้โดยที่เขาไม่เคยรู้จักมาก่อน คาร์ลเริ่มขมวดคิ้วมุ่นอีกครั้งก่อนจะเรียกเชวฮันไว้

“เชวฮัน”

“.....ขอรับ?”

“รีบกลับมา..”

อา....เสียงกระซิบเบาๆดังออกมาจากปากของเชวฮัน เด็กหนุ่มวัย 17 ปีที่อาศัยอยู่มาหลายสิบปีเริ่มมีรอยยิ้มอันสดใสอยู่เต็มใบหน้าของเขาก่อนจะพยักหน้าตอบรับ[1]

“ขอรับท่านคาร์ล.....ข้าจะรีบกลับมา”

คาร์ลขยับตัวราวกับกำลังหงุดหงิดอะไรอยู่ แต่เชวฮันก็โค้งศีรษะให้เขาก่อนที่จะเดินเข้าไปในหมู่บ้านพร้อมกับฮันส์อย่างรวดเร็ว คาร์ลยังคงจ้องมองไปที่แผ่นหลังของเชวฮันด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยก่อนจะค่อยๆเริ่มมีความขุ่นเคืองขึ้น

คาร์ลมองเห็นรถม้าที่วิ่งตรงไปยังทิศทางที่พวกเขาอยู่

‘ชักรู้สึกไม่ดีกับเรื่องนี้ซะแล้วสิ’

คาร์ลรู้สึกเหมือนมีคนที่มือเปื้อนเหงื่อยื่นแอปเปิ้ลพิษให้แก่เขา มันเป็นความรู้สึกที่หน่วงๆและขมขื่นแปลกๆ สาเหตุของความรู้สึกนี้คงได้รับการเปิดเผยในไม่ช้า

“นั่นไง......”

คาร์ลไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ

เขามองเห็นชายชราคนหนึ่งที่ไม่สามารถหลบรถม้าล้มลงไปกองกับพื้นถนน นอกจากนี้เขายังมองเห็นว่า เชวฮันกำลังวิ่งเข้าไปช่วยเหลือชายชราและรถม้าที่วิ่งมาด้วยความเร็วอย่างไม่มีทีว่าจะลดความเร็วลงได้

‘นั่นไง...ฮึ’

มีธงสีแดงแขวนอยู่บนรถม้านั่น งูสีแดงเป็นสัญลักษณ์ของตระกูลมาร์ควิสสแตน สายตาของคาร์ลเริ่มสั่นไหว มันกำลังจะเกิดขึ้น เหตุการณ์นั่นมันจะเกิดขึ้นในไม่ช้า

ปัง!

เชวฮันใช้ตัวเองเพื่อช่วยเหลือชายชราคนนั้น แรงชนจากรถม้าทำให้ตัวเขากระแทกไปที่กำแพงด้านข้าง ก่อนที่รถม้าคันสีดำของตระกูลมาร์ควิสสแตนจะหยุดลงเช่นกัน

“เฮ้อ...”

คาร์ลถอนหายใจยาวก่อนที่จะเปิดประตูรถม้าออกไป ดูเหมือนว่าเขาจะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะมุ่งหน้าไปยังสถานที่แห่งความวุ่นวายนั่น

[1]ไม่แน่ใจในอายุของเชวฮัน

 

 

5 2 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด