ตอนที่แล้วบทที่ 11 เอามันออกมา 4 (1) [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 12 เอามันออกมา 5 (1) [อ่านฟรี]

บทที่ 11 เอามันออกมา 4 (2) [อ่านฟรี]


 

บทที่ 11 เอามันออกมา 4 (2)

สำหรับคนที่ชอบเรื่องราวเกี่ยวกับพลังศักดิ์สิทธิ์โบราณเช่นเขานับว่าเป็นสิ่งสำคัญในการหาข้อมูลเพิ่มเติมแต่ข้อมูลเหล่านี้กลับจบลงอย่างรวดเร็ว มันกลับมาพูดเรื่องอาหารและเรื่องไร้สาระอื่นๆ คาร์ลจะต้องตัดบทการสนทนาให้เร็วที่สุด

~ ข้าไม่คิดว่าข้าจะยอมแพ้ต่อการได้ทดลองลิ้มลองรสชาติแสนอร่อยต่อให้ข้าจะอ้วนเพียงใดก็ตามแต่มันไม่ยุติธรรมที่ข้าได้กินเพียงแต่ของสกปรกและจบลงด้วยความตาย ~

“ใช่ มันเป็นการทดลองที่ยอดเยี่ยมและเป็นมืออาชีพมาก  เพียงแค่...........”

เสียงอันน่าสะพรึงนั่นตัดบทสนทนาของคาร์ลทันที

~โอ้ว.......เจ้าเข้าใจในสิ่งที่ข้าต้องการจะทดลอง เจ้าเป็นคนดีจริงๆ ขอบคุณ!ขอบคุณ!~

คาร์ลไม่สามารถบอกได้ว่าเขาสามารถสื่อสารกับวิญญาณได้หรือไม่? เขาคิดไม่ออกกับสถานการณ์ที่กำลังเผชิญอยู่แต่เสียงน่าสะพรึงนั่นก็เงียบไปหลังจากที่มันกล่าวขอบคุณเขาจบ คาร์ลจ้องมองไปยังต้นไม้กินคนตรงหน้าเขา

“น่าสนใจมาก!!!!”

ต้นไม้กินคนจากเดิมที่เป็นสีดำตอนนี้มันเปลี่ยนเป็นสีขาวก่อนจะค่อยๆมีใบไม้สีเขียวผุดขึ้นบางส่วนบนกิ่งก้านของมัน ฉากที่ปรากฏขึ้นตอนนี้คงเป็นภาพที่ดูลี้ลับมากขึ้นเพราะตัวเขาถูกล้อมรอบด้วยหมอกทึบ

~อร๊างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง~

เสียงที่ดังกึกก้องมันดูรุนแรงต่างจากเดิม คาร์ลคุกเข่าลงด้านข้างและทิ้งตัวลงนั่งใต้ลำต้นของต้นไม้มีแสงสีขาวสว่างจ้าออกมาจากโพรง คาร์ลยื่นมือเข้าไปในแสงสีขาว จากนั้นก็หลับตาลง

‘นี่ต้องได้แบบนี่’

พลังอันอบอุ่นและรุนแรงค่อยๆโอบรอบมือของเขาไว้ เขาเริ่มยิ้มก่อนที่จะได้ยินเสียงอีกครั้ง มันเป็นเสียงที่กังวานบริสุทธิ์และอบอุ่น

~มันจะปกป้องเจ้า~

ชิ๊ง!

เพียงพริบตาแสงสว่างจ้าก็โอบรอบตัวของคาร์ล มันเป็นแสงสีเงินบริสุทธิ์และมันก็ถูกดูดกลืนเข้าสู่ร่างกายของคาร์ลก่อนจะไปรวมกันที่ตำแหน่งหัวใจ

“เฮือกกกกกกกกก” คาร์ลถอนหายใจยาวก่อนลืมตาขึ้น มันไม่ได้รู้สึกเจ็บ มันอบอุ่นและพลังบริสุทธิ์นี้ทำให้คาร์ลมีความสุข เขารีบเปิดเสื้อที่เขาใส่ไว้ออกจากตัวเพื่อดูมัน

‘ฉันทำมันได้....’

มีโล่เงินขนาดเล็กที่ถูกสลักเป็นเครื่องหมายอยู่เหนืออกด้านซ้ายซึ่งเป็นตำแหน่งเดียวกับหัวใจของเขา มันต่างจากรอยสักทั่วไปมันดูสวยงามและเหนือจินตนาการ โล่จะเป็นสิ่งที่บอกความสำคัญถึงความปลอดภัยของเจ้าของเหนือสิ่งอื่นใด มันก็เหมือนกับว่าโล่ที่ล้อมรอบหัวใจเขาตอนนี้จะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องเขา

พลังศักดิ์สิทธิ์โบราณเช่นนี้จะมีเครื่องหมายที่ไม่ซ้ำกันและมันจะเริ่มทำงานเมื่อมีการเปิดใช้งานขึ้น

คาร์ลได้ใช้วิธีการที่เขียนขึ้นในนิยายเพื่อเรียกใช้พลังศักดิ์สิทธิ์โบราณอย่างรวดเร็ว

ผ่างงงงงงงง......

โล่นิรันดร์กาลได้ปรากฏอยู่ตรงหน้าของคาร์ล มันเป็นโล่เงินที่มีขนาดใหญ่พอที่จะปกคลุมร่างกายส่วนบนของคาร์ลได้ มันมีปีกเงินอยู่ด้านข้างทั้งสองด้านของโล่ ทำให้โล่สามารถเคลื่อนย้ายได้ภายในรัศมีร่างกายของคาร์ลและขนาดของมันก็สามารถควบคุมได้

คาร์ลเริ่มควบคุมขนาดของโล่ที่เป็นส่วนหนึ่งของร่างกายตนได้แล้ว ความกลมกลืนนี้เป็นหนึ่งในลักษณะพิเศษของพลังศักดิ์สิทธิ์โบราณ นั่นเป็นเหตุผลที่เหล่าวีรบุรุษใช้มันแม้จะเป็นเพียงแค่ใช้สนับสนุนพลังหลักของตนเท่านั้น

คาร์ลเริ่มยิ้มออกมา

‘มากสุดได้เพียงสองครั้ง’

คาร์ลกำลังคิดถึง เชวฮันซึ่งเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดที่อยู่ข้างกายเขา โล่ควรจะสามารถป้องกันการโจมตีจากเชวฮันได้

‘ความแข็งแรงของโล่นี้แข็งแกร่งกว่าที่ฉันคาดไว้ ทำไมพวกวีรบุรุษถึงไม่ใช้มันตลอดกัน?’

โล่นิรันดร์กาล เป็นชื่อเรียกของโล่ที่มีความเป็นอมตะยากแก่การทำลาย แต่คุณสมบัติมันก็ยังต่างกับชื่อ มันสามารถหายไปได้เมื่อถูกทำลายได้เช่นกัน หากโล่ได้รับการโจมตีที่แข็งแกร่งกว่าความสามารถของมัน โล่นี้จะเก็บสะสมพลังของมันไว้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อปกป้องหัวใจของเจ้าของก่อนจะหยุดพักไปหลังจากนั้นโล่จะฟื้นตัวและสามารถกลับมาใช้งานได้อีกครั้ง ความแข็งแรงของโล่ก็มาจากหัวใจของเจ้าของ

หัวใจที่กำลังเต้นกระหน่ำนั้นกลายเป็นพลังของโล่ หัวใจที่แข็งแกร่งของเจ้าของในขณะที่โล่พยายามปกป้องหัวใจ มันจะเกิดสิ่งใดขึ้นเมื่อในขณะนั้นเจ้าของมีหัวใจที่แข็งแกร่ง...?

‘มันก็ยิ่งทวีความแข็งแกร่งขึ้น’

มีหลายวิธีในการเสริมสร้างพลังศักดิ์สิทธิ์โบราณนี้ คาร์ลจะต้องเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับโล่บนเส้นทางสู่เมืองหลวง เมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ เขาควรจะสามารถสร้างโล่ที่สามารถฟื้นตัวได้ภายใน 10 นาทีไม่! นานไป....ต้องน้อยกว่า 5 นาที เมื่อคนที่มีพรสวรรค์เช่นเชวฮันจะพยายามฆ่าเขาด้วยพลังทั้งหมดที่เขามี  พลังศักดิ์สิทธิ์โบราณเช่นเดียวกับที่พบในต้นไม้กินคนนี้เป็นเรื่องยากที่จะหามันพบยกเว้นแต่จะสามารถรู้หรือพบมันได้ด้วยความบังเอิญ ‘ความบังเอิญ’ที่มีระบุในนิยายตั้งแต่เล่ม1ถึงเล่ม5 นั่นคือสิ่งที่คาร์ล เฮนิตัสรับรู้มันเป็นอย่างดี

คาร์ลเริ่มยกยิ้มอีกครั้ง เขาเอื้อมมือไปสัมผัสกับโล่ที่อยู่ตรงตำแหน่งหัวใจของตน เขารู้สึกดีกับสิ่งที่ได้รับแต่มีอยู่สิ่งหนึ่งที่เขารู้สึกไม่ชอบใจ

“มันดูเหมือนพระเจ้าเกินไป”

มันมีลักษณะเหมือนโล่ศักดิ์สิทธิ์ที่เหล่าอัศวินของพระเจ้าใช้ถือคู่กับดาบตามตำนาน  แน่นอนว่าเจ้าของเดิมของโล่นี้เป็นนักบวชที่เบื่อหน่ายกับคำสอนของพระเจ้าและเจ้าของคนปัจจุบันเช่นคาร์ลก็ไม่ชื่นชอบพระเจ้า

‘ไม่ใช่ว่าจะมีเหตุผลมากมายที่ฉันจะใช้โล่นี้’

เขากำลังวางแผนที่จะหลีกเลี่ยงการต่อสู้ไปให้คนอื่น ความน่ากลัวของการโจมตีในเมืองหลวงนั้นเขาอาจจะต้องใช้มันหากมีสิ่งที่เป็นอันตรายเกิดขึ้นต่อตนเอง แต่เขาจะทำให้แน่ใจว่ามันจะต้องมีขนาดเล็กและเป็นเพียงเงาบางเบาเพื่อไม่ให้คนอื่นสังเกตเห็นมัน

คาร์ลกลับไปสนใจโล่ที่อยู่บนตำแหน่งหัวใจของตนอีกครั้งและตบเบาๆไปที่ต้นไม้สีขาวที่อยู่ตรงหน้าก่อนจะเริ่มเดินออกไปจากบริเวณนี้ หมอกทึบเริ่มคลายลงก่อนจะเริ่มกลายเป็นสายฝนที่เริ่มตกกระทบใส่ไหล่ของคาร์ลให้เปียกชื้นขึ้น คาร์ลชอบหมอกแต่ไม่ชอบฝน เขาเริ่มเดินให้เร็วขึ้นเขาต้องไปยังคฤหาสน์ให้เร็วที่สุด ตอนนี้เขาต้องการเพียงรถม้าเท่านั้น

ตอนนั้นเอง

“เมี้ยว เมี้ยว”

คาร์ลรู้สึกเย็นวาบไปทั่วต้นคอ มันเป็นซอยด้านขวามือที่อยู่ด้านนอกของคฤหาสน์เฮนิตัส เขามองเห็นดวงตาสีทองสองคู่ที่จ้องมองเขาอยู่ ก่อนที่อาการขุ่นเคืองจะเริ่มปรากฏขึ้น

มีลูกแมวสองตัวอยู่ตรงหน้าคาร์ลพวกมันดูน่าสงสารและร่างกายต่างเปียกโชกไปด้วยสายฝน พวกมันก้าวช้าๆมาหาคาร์ลก่อนจะเอาแก้มของพวกมันถูไถไปกับเท้าของเขา

“เฮ้อ.....”

คาร์ลถอนหายใจยาวและออกเดินต่อ ลูกแมวทั้งคู่ต่างวิ่งตามหลังคาร์ลไป พวกมันออกวิ่งตามคาร์ลไปอีกครั้งเหมือนกับว่าไม่มีอะไรจะมาขัดขวางความตั้งใจของพวกมันได้แม้จะมีขาที่สั้นเพียงใดก็ตาม

“นายน้อยเกิดอะไรขึ้นขอรับ?”

คนที่ทักคาร์ลคือรองพ่อบ้านฮันส์ เขามีท่าทางสับสนและดวงตาเบิกกว้างต่อสิ่งที่อยู่เบื้องหน้า ท่าทางฮันส์จะตกใจมาก คาร์ลเดาะลิ้นของตนเองก่อนที่จะส่งสิ่งที่อยู่ในมือตนยื่นให้แก่ฮันส์

“อย่าถามอะไรโง่ๆ มาเอามันไป...”

ดวงตาของฮันส์เริ่มพราวระยับ

“ลูกแมวนี่ขอรับ? มันช่างน่ารักเหลือเกิน...”

รองพ่อบ้านฮันส์ทำตัวได้สมเป็นพ่อบ้านผู้ใสซื่อจริงๆ? เขาวางลูกแมวทั้งสองตัวใส่ในมือฮันส์ที่กำลังตื่นเต้นยินดีด้วยความระมัดระวัง

ลูกแมวทั้งสองที่ห้อยต่องแต่งอยู่ในมือของฮันส์ยังคงจ้องมองมาที่คาร์ลอยู่แม้ว่าพวกมันจะอยู่ในมือของฮันส์แล้วก็ตาม

“นายน้อย กระผมขอเป็นคนเลี้ยงลูกแมวน่ารักสองตัวนี้เองนะขอรับ?”

“แล้วแต่เจ้าเถิด...” ฮันส์ยิ้มกว้างขึ้นด้วยความยินดี คาร์ลเดินผ่านฮันส์ที่กำลังตื่นเต้นไปอย่างช้าๆ

“อ้อ! มีบางอย่างที่เจ้าต้องรู้...พวกมันจะเงียบสงบเมื่อเจ้าเอาอาหารให้มันกินและพวกมันทั้งคู่เป็นพี่น้องกัน”

ลูกแมวทั้งสองต่างสะดุ้งและเริ่มสั่นไปทั้งตัว ตาสีทองของพวกมันเบิกกว้างขึ้นขณะที่ยังจ้องมองไปที่คาร์ล

“อะไรนะขอรับ?”

ในตอนที่คาร์ลถามขึ้นด้วยความสับสน เขาก็เดินกลับไปหาฮันส์จากนั้นก็ก้มศีรษะของตนลงก่อนจะลูบเบาๆไปที่ศีรษะของพวกมัน นี่คือสิ่งที่เขาสงสัยอยู่ตลอดในช่วง 2-3 วันมานี้และมันทำให้เขาคาใจมาโดยตลอด

ลูกแมวขนสีเงินมีกลิ่นเหม็นของสมุนไพรชนิดเดียวกับที่เขาเคยให้เด็กหญิงและตอนที่เขาอุ้มลูกแมวทั้งคู่เมื่อก่อนหน้านี้เขาก็ได้กลิ่นสเต็กเนื้อและเบคอนพาสต้าครีมที่เขาเคยให้แก่สองพี่น้องนั่นเช่นกัน

สิ่งเหล่านี้ทำให้ความสงสัยและความคาใจทั้งหมดของเขาได้รับการแก้ไขในทันที

“พวกเจ้าคิดว่าข้าไม่รู้งั้นหรือ?”

ตาสีทองของลูกแมวทั้งสองตัวยังคงสั่นไหวรุนแรง เขามองไปที่สองพี่น้องที่เคยมอบอาหารให้เมื่อไม่นานมานี้ก่อนจะยิ้มออกมา

 

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด