ตอนที่ 51 อย่าได้กลัวและก้าวออกไป!
ภูติหิมะ(Snow Girl) ซึ่งเป็นวิญญาณระดับปานกลางในวิดีโอเกมยอดนิยมที่เซจิเคยเล่นมาก่อนในชีวิตที่ผ่านมาของเขา ซึ่งการโจมตีหลักๆของ AOE คือการควบคุมฝูงชน... (AOE (Area of Effect) ผลกระทบต่างๆ ที่เกิดขึ้นเป็นวงกว้าง)
'คิดถึงเรื่องนี้แล้ว เธอเป็นตัวละครตัวแรกที่ฉันได้รับมาฟรีๆในเกมนี้เลย' เซจิคิดเกี่ยวกับความทรงจำที่ผ่านมาของเขา
*แฮะ แฮ่ม * เขาหลงคิดนอกเรื่องอีกแล้ว
ในเกาะซากุระภูติหิมะเป็นวิญญาณที่ทุกคนเคยได้ยินเรื่องราวมาก่อน ตามตำนานเธอจะมีความงามที่น่าทึ่งบวกกับความโหดร้าย ไร้ความปรานี เธอจะไม่ลังเลที่จะเอาชีวิตมนุษย์ ความน่ากลัวนั้นตรงข้ามกับความงดงามโดยสิ้นเชิง
อัตราการปรากฏตัวของเธอในอนิเมะในโลกนี้ก็สูงมากถึงเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ในอนิเมะที่เกี่ยวกับภูตผีหรือวิญญาณ
สำหรับเซจิภูติหิมะเองก็เป็นตำนานที่เหมือนกับญี่ปุ่นจากโลกก่อนหน้าของเขา เกี่ยวกับ สาวหิมะ (yuki-onna) (ภูติหิมะ)
ถึงอย่างนั้นภูติหิมะก็ถูกพิจารณาว่าเป็นสิ่งทีชีวิตที่งดงามและยังคงมีชีวิตอยู่
"เราจะได้เจอกับภูติหิมะ ถ้าเรายังคงสืบต่อไป... ถึงแม้จะดูเหมือนเป็นเรื่องล้อเล่น แต่ผมคิดว่าพวกเขาน่าจะเชื่อผม" เซจิถูคาง "ลองทำตามที่คุณพูดก็แล้วกัน ผมจะบอกพวกเขาเลิกเอง ในขณะที่พยายามอย่างดีที่สุดเพื่อไม่ให้เปิดเผยมากเกินไป แต่... เท่าที่ดูพวกคุณสองคนสามารถจัดการกับศัตรูได้หรือไม่"
เซจิเผชิญหน้ากับหญิงสาวสองคนตรงหน้าเขา
ทั้งสองยังคงเงียบอยู่
"ดูเหมือนว่าพวกคุณคงมีโอกาสสูง... งั้นผมขอถามต่างออกไปหน่อยก็แล้วกัน พวกคุณคิดว่าสถานการณ์นี้จะดีขึ้นไหม?"
เขายังคงได้รับความเงียบอีกครั้ง
เซจิรู้สึกที่ว่าเขาจะไม่ได้รับคำตอบ
ในขณะที่เขากำลังจะออกจากไป ก็มีคนกระโดดขึ้นไปบนหลังเขาและกอดเขาไว้!
"เอ่อ... คิริน?" เซจิงงมากจนกระทั่งเขารู้ว่าคนที่กอดเขาคือสาวหูแมวที่ชอบโผล่มาจากที่ไหนก็ไม่รู้!
"รานา?" ฮิตากิประหลาดใจเมื่อได้เห็นภาพนี้ "ทำไมเธอ... "
เหมือนกับว่านัทสึยะและฮิตากิจะไม่ได้รู้สึกแปลกใจที่ได้เห็นสาวหูแมวคนนี้อยู่ใกล้ชิดกับผู้ชายที่เธอเพิ่งเคยเจอ
รานา คิริน ยังคงเกาะกับหลังของเซจิไว้เหมือนหมีโคอาล่า และเธอวางหัวบนไหล่ของเซจิ ขณะมองไปที่นัทสึยะและฮิตากิโดยไม่กระพริบตา
"รานา... " นัทสึยะดูเหมือนจะพบอะไรบางอย่างเข้าจากแววตาของเธอ
ความเงียบกลับเข้ามาปกคลุมอีกครั้ง
"รานารีบลงมาและออกไปจากเขา!" ฮิตากิบอกสาวหูแมวนี้ให้ลงมา
แต่แทนที่จะปล่อย เธอกลับปิดตาของเธอแทนและถูใบหน้าของเธอกับที่ใบหน้าของเซจิ
เซจิรู้สึกจักจี้เล็กน้อย
เขาไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงทำตัวเป็นมิตรกับเขา แล้วเขาควรตอบสนองต่อเธอยังไงดี เขาควรจะยืนอยู่ตรงนี้ดีไหม?
นัทสึยะ โยรุฮานะถอนหายใจ
"รานา เธอรู้สึกว่าฮารุตะคุงจะให้ความช่วยเหลือพวกเราได้งั้นเหรอ?"
"เอ๊ะ?" ฮิตากิรู้สึกประหลาดใจเกี่ยวกับเรื่องนี้
"เมี้ยว~" รานาร้องออกมาขณะที่เธอยังคงถูใบหน้ากับเซจิอยู่
‘น่ารักโว๊ยยยยย!’ เซจิเองก็กำลังจมอยู่กับความโมเอะอันแสนน่ารักนี้
"นายหญิง?" ฮิตากิมองไปที่นัทสึยะ
"ชั้นก็ไม่รู้ว่ารานาคิดอะไรเหมือนกัน แต่ดูเหมือนว่าเธอเชื่อว่าเราควรปล่อยให้ฮารุตะคุงรู้เรื่องนี้มากขึ้น"
"จะทำแบบนั้นได้ยังไงค่ะ... ถึงแม้ว่าเขาจะเป็น 'ฮารุตะ' แต่เขาก็เป็นแค่... "
"ชั้นรู้" นัทสึยะถอนหายใจ
จากนั้นเธอก็จ้องไปที่เซจิอีกครั้ง
"ราน่าน่าจะเชื่อว่านายควรจะได้ยินรายละเอียดเพิ่มเติม... นายอยากจะฟังไหม?"
จากแววตาของนัทสึยะ เซจิรู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่เขาสามารถฟังได้แล้วลืมไปได้
เขาควรก้าวเข้าสู่โลกของผู้ใช้ความสามารถลึกลับดีไหม?
เซจิหัวเราะในใจ
ความลังเลที่อยู่ภายในตัวเขาเป็นศูนย์
แม้ว่าจะไม่ใช่เพราะประธานสภานักเรียนคอยที่จะช่วยเขาที่อาจตกอยู่ในอันตราย และไม่คำนึงถึงความจริงที่ว่าเขาเป็นสมาชิกของครอบครัวฮารุตะ ด้วยความอยากรู้อยากเห็นตามธรรมชาติของเซจิแล้วทำให้เขาอยากเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับพลังลึกลับนี้
หลังจากที่กลับมากเกิดใหม่และได้รับสูตรโกง เขาอาจจะสามารถช่วยคนอื่นๆได้จากสูตรโกงนี้ก็ได้!?
ไม่จำเป็นต้องกลัว เขาเพียงแค่ก้าวไปข้างหน้าเท่านั้น!
"ช่วยบอกผมด้วยครับ แม้ผมจะไม่แน่ใจว่าผมสามารถช่วยอะไรได้บ้าง... ผมไม่ต้องการจะดู โดยไม่ได้อะไรเลย!" เซจิพูดออกมาอย่างเฉียบขาด ด้วยรูปลักษณ์ที่มั่นคงในสายตาของเขา
นัทสึยะเบิกตาของเธอกว้างขึ้นเล็กน้อย
ฮิตะกิเองก็ยังแสดงท่าทางประหลาดใจออกมา
ท่าทางที่สง่างามของเซจิในตอนนี้ทำให้ทั้งหญิงสาวเหล่านี้ราวกับตกอยู่ในพลังอันลึกลับของเขา
"เอาล่ะ... ตามที่นายต้องการ"
นัทสึยะพยักหน้า
"ฮิตากิ เธอช่วยเทชาให้เราหน่อยได้ไหม?"
หลายนาทีต่อมา
ทั้งสามคนนั่งรอบโต๊ะกลมกันพร้อมกับชาร้อนที่กำลังต้มอยู่ข้างหน้าของแต่ละคน
เซจิอยากจะกอดสาวแมวนั้นไว้เหมือนครั้งก่อน แต่เธอหลับตาลงและหลับไปพร้อมๆกันที่หลังเขาแล้ว เธอนี้เหมือนหมีโคอาล่าจริงๆ
อืม เธอไม่ได้หนักเท่าไรกับเขา และเธอเองก็อุ่นและตัวอ่อนนุ่มน่ารักดีด้วย ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะให้เธออยู่ตรงนั้นแหล่ะ!
เซจิจิบชาของประธานเป็นครั้งที่สอง มันเป็นชาที่อร่อยแบบเดียวกับครั้งล่าสุดเลย
"ฮารุตะคุง ชั้นคิดว่านายเคยสังเกตมาบ้างแล้ว แต่เราก็ไม่มีวิธีรับมือกับมัน" นัทสึยะดื่มชาด้วยเหมือนกันก่อนที่จะพูดขึ้น ศัตรูของเราเองก็ยังไม่รู้ว่าคืออะไร และเราเองก็ยังไม่สามารถหยุดผู้ใช้ตราแห่งจิตวิญญาณบริวารของศัตรูได้ หากสถานการณ์นี้ยังคงอยู่แบบนี้ต่อไป ศัตรูเองก็คงจะใกล้จะสิ้นสุดการเตรียมพร้อมของพวกเขาแล้ว... ชั้นคิดว่าชั้นไม่จำเป็นต้องอธิบายสินะว่าหมายถึงอะไร "
เซจิพยักหน้าด้วยความเข้าใจ
"เป็นการยากที่จะป้องกันการกระทำของศัตรู ทำไมคุณถึงไม่เตรียมตัวให้พร้อมถ้าศัตรูรู้วิธีเตรียมการสร้างอาคมเวทย์ของคุณ คุณควรจะรู้เทคนิคที่คล้ายๆกันใช่มั้ย?"
"การสร้างอาคมเวทย์ของเราอยู่ที่นี้แล้ว" นัทสึยะมองทางด้านนอกหน้าต่าง "โรงเรียนมัธยมปลายเซนต์ฮานะทั้งหมดเป็นส่วนหนึ่งของอาคมเวทย์ของเรา"
‘โอ้ เธอเอาโรงเรียนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยงั้นเหรอ!’
เซจิขมวดคิ้วขึ้น
"นายก็ไม่ได้ดูตกใจอย่างที่เห็นนิ"
"ผมเองก็ยังงงอยู่นิดหน่อย... มันเป็นแค่เรื่องที่ผมสามารถจินตนาการได้เพราะเห็นพล็อตเรื่องที่คล้ายๆกันในอนิเมะมาก่อนนะครับ"
"นายพูดถูก... " นัทสึยะหัวเราะขึ้นมาเบาๆ
รอยยิ้มของเธอทำให้เซจิจำคำถามที่เขาอยากถามเธอเป็นครั้งสุดท้ายที่พวกเขาพบกันได้ แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม
"นายสามารถบอกได้ว่าโรงเรียนมัธยมปลายเซนต์ฮานะเป็นปราสาทส่วนตัวของชั้น ที่ที่ชั้นใช้ซ่อนตัวของ ชั้นคือหยินหยางมาสเตอร์ บริเวณโรงเรียนนี้ถูกปกคลุมไปด้วยบาเรียทางวิญญาณขนาดใหญ่และมีกับดักที่ซ่อนอยู่มากมายที่รอศัตรูอยู่ทุกๆที่ นอกจากนี้ยังมีวิญญาณและปีศาจมากมาย ที่คอยลาดตระเวนทั้งแบบเปิดเผยและหลบซ่อนตัวอยู่ด้วย เฉพาะผู้ที่มีความสามารถทางวิญญาณเท่านั้นถึงสามารถจะตรวจจับสิ่งเหล่านี้ได้ ฮิตากิและรานาเป็นเหมือนแขนซ้ายและแขนขวาของชั้นในขณะที่ชั้นเป็นผู้บัญชาการที่ควบคุมทุกอย่างที่นี้ ในขณะที่เบื้องหน้าเป็นสภานักเรียน ฐานะประธานนั้นเป็นแค่ฉากหน้าของที่แห่งนี้เท่านั้น ดังนั้นสถานที่แห่งนี้จึงปลอดภัย ซึ่งหมายความว่าหยินหยางมาสเตอร์จะไม่สามารถบุกโรงเรียนในสถานการณ์ปกติได้ ถึงอย่างนั้นก็มีกรณีที่ต่างกัน อย่างการต่อสู้ระหว่างหยินหยางมาสเตอร์"
"ต่อไปก็ใช้ความคล้ายคลึงกันของปราสาท ถ้าชั้นเป็นคนหนึ่งที่อยู่ในป้อมปราการที่แข็งแกร่งแล้ว สิ่งที่ศัตรูกำลังทำอยู่ก็คล้ายๆกับการสร้างอาวุธปิดล้อมและจัดกองทัพของพวกเขา เมื่อการเตรียมการเสร็จสิ้นแล้ว พวกเขาจะท้าให้ฉันต่อสู้ซึ่งเหมือนกับการเริ่มต้นการโจมตีปราสาทของฉัน ตอนนี้นายเข้าใจแล้วใช่ไหม ฮารุตะคุง? "
เซจิถูคางขณะที่พยักหน้า
ศัตรูจะโจมตีสิ่งที่คล้ายกับปราสาทของเธอ เมื่อเตรียมตัวพร้อมแล้ว ถ้าศัตรูมั่นใจเกี่ยวกับโอกาสในการชนะพวกเขา พวกเขาก็จะไม่ต้องกังวลกับการท้าทายเธอ
นี้ก็หมายความว่าเมื่อศัตรูเริ่มโจมตีจริงจะมีโอกาสสูงที่ปราสาทของเธอจะไม่สามารถทนต่อการโจมตีของศัตรูได้!
ดังนั้นทางเลือกเดียวที่ฝ่ายนัทสึยะมีอยู่ก็คือการขัดจังหวะการเตรียมการของศัตรู ซึ่งขัดขวางการเตรียมตัวของพวกเขาในขณะที่สร้างอาคมที่ใช้ในการโจมตีปราสาทของนัทสึยะ หรือค้นหาตัวตนของศัตรูและที่หลบซ่อนก่อนที่พวกเขาจะเตรียมตัวและเปิดการโจมตีก่อนที่พวกเธอจะพ่ายแพ้!
"ผมเข้าใจแล้ว... ภารกิจที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือการหยุดผู้ใช้ตราแห่งจิตวิญญาณบริวารของศัตรู ซึ่งตอนนี้กำลังเตรียมการสร้างอาคมเวทย์อยู่ ไม่ว่าเราจะต้องไปขัดจังหวะการเตรียมการหรือหาที่ซ่อนของศัตรู ผู้ใช้ตราแห่งจิตวิญญาณบริวารคือจุดสำคัญสินะ"
เซจิเหลือบไปมองที่นัทสึยะ
"ใช่แล้ว ถูกต้อง" นัทสึยะถอนหายใจก่อนที่จะพูดต่อ "แต่ตอนนี้สิ่งที่เรากำลังทำอยู่ยังไม่มีความคืบหน้าเลย"
ความเงียบเข้ามาปกคลุมอีกครั้ง
"สมมุติว่า ในทางทฤษฎี... " เซจิพูดขึ้นมาอย่างระมัดระวังอีกครั้ง "ถ้ายังคงเป็นแบบนี้ต่อไป และคุณก็ไม่สามารถหยุดศัตรูในการเตรียมการได้ สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับพวกคุณเมื่อศัตรูเริ่มโจมตีหลังจากเตรียมตัวอย่างเต็มที่แล้ว? และอะไรจะเกิดขึ้นกับโรงเรียนนี้? "