ตอนที่แล้วChapter 2: เลือดวิญญาณของสัตว์ทั้งสี่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 4: ทักษะปิศาจสวรรค์

Chapter 3: ทักษะสวรรค์


หมอนั้นมีความคิดเป็นของตัวเอง – “ทำให้ ฉินมู่ นั้นดื่มเลือดวิญญาณให้มากที่สุดเท่าจะเป็นไปได้...ถ้าจำเป็นก็ให้เขาจมไปในบ่อเลือดเลย ! แม้ว่าร่างวิญญาณนั้นจะไม่ถูกปลุกขึ้นมาแต่ร่างกายเขาก็จะแข็งแรงขึ้นทุกครั้งที่เขาดื่มเลือดวิญญาณ  ร่างกายของเขานั้นจะทรงพลังยิ่งกว่าร่างวิญญาณ !”

“เขาจะสามารถฆ่ามังกรได้ด้วยหมัดเดียว !” – ผู้ใหญ่บ้านหัวเราะออกมา – “เรื่องแบบนี้คงทำให้พวกบัดซบที่อยู่ข้างนอกนั่นกลัวได้แน่”

ทั้งสองมองหน้ากันด้วยความพอใจ  จากนั้นหมอจึงได้เดินออกจากห้องแล้วปิดประตูไป

วันต่อมาชาวบ้านนั้นต่างก็แบกเสือกระดูกเหล็ก, มังกรอสรพิษเขียว, นกสายฟ้า,และเต่าทองมา ด้วยการที่มีเป้าหมายแล้วจึงทำให้พวกเขานั้นอยากที่จะทำแบบนี้  หมอนั้นกลับโกรธขึ้นมา – “ฉินมู่ จะจมเลือดตายแน่ถ้าเขาดื่มเลือดนี่ทั้งหมดครั้งเดียว !”

ช่างตีเหล็กใบ้ที่ซึ่งลากนกสายฟ้าสองตัวมานั้นหัวเราะแบบขี้เล่นและเผยให้เห็นภายในปากที่ไม่มีลิ้น

“มู่เอ๋อ ทนมันได้แน่ !”- ท่านย่าซี เชื่อในตัว ฉินมู่

แต่หมอนั้นจ้องไปที่พวกนั้นแล้วเงียบไม่พูดอะไร เขาเอาตัวอ่อนหนอนออกมาและเอาพวกมันไปทำการปรับแต่งเลือดแต่มันกลับมีบางอย่างผิดปกติไป  จำนวนเลือดวิญญาณนั้นมากเกินไปสำหรับ ฉินมู่ ซึ่งทำให้ร่างกายเขาพองเต็มไปด้วยอากาศ ผู้อาวุโสทุกคนนหมู่บ้านนั้นเริ่มกังวลออกมาว่า ฉินมู่ คงตัวระเบิดแน่

หมอหยิบเอาเข็มเงินออกมาแล้วแทงไปที่หลังและบนหัวของ ฉินมู่  แก๊สสีแดง, ฟ้าและม่วงถูกพ่านออกมาจากรูเหล่านั้น

หลังจากนั้นสักพักแก๊สพวกนั้นก็กลายเป็นไอน้ำก่อนจะหยุดลง  หมอดึงเข็มแต่ละเล่มออกและมองไปที่ชาวบ้าน – “ค่อยๆเป็นค่อยๆไป ! พวกเราทุกคนนั้นพยายามที่จะบังคับให้เขากินเลือดเหล่านี้ซึ่งไม่ต่างอะไรกับการฆ่าเขา ! เขาแทบจะทนไม่ได้แล้ว ดังนั้นพวกเจ้าควรไปหาอะไรทำซะ  การจะช่วยให้เขาดึงประสิทธิภาพมาให้ได้มากที่สุดนั้น เขาต้องฝึกทักษะมีดกับคนฆ่าสัตว์, การใช้หมัดกับ เฒ่าหม่า และการใช้ขากับไอ้ด้วน”

“มู่เอ๋อ ได้เวลาสำหรับการฝึกมีดแล้ว !”

คนฆ่าสัตว์ใช้มือทั้งสองข้างทุบพื้นแล้วทำให้ตัวเองลอยขึ้นก่อนจะไปยืนอยู่ใกล้ๆกับกองไม้  เนื่องจากเขานั้นไม่มีร่างกายส่วนล่าง ความสูงของกองไม้และร่างกายส่วนบนของเขาจึงพอๆกับ ฉินมู่

คนฆ่าสัตว์หยิบมีฆ่าหมูสองเล่มขึ้นมาด้วยมือทั้งสองข้างแต่มีดเหล่านั้นแตกต่างจากปกติ  มีดฆ่าหมูนั้นมีใบมีดที่โค้งราวกับพระจันทร์เสี้ยวและยาวไม่เกินหนึ่งฟุต อีกอย่างด้ามจับเองก็เป็นไม้ที่เป็นวงกลมด้วย

ในมืออีกข้างเองก็มีมีดที่เหมือนกันแต่มีขนาดใหญ่กว่า  ใบมีดของมีดแต่ละเล่มนั้นยาวประมาณหนึ่งหลา ด้านหลังของใบมีดนั้นหนาส่วนด้านคมของมันนั้นบางอย่างมากและใบมีดทั้งคู่ก็ส่องแสงประกายออกมา  ใบมีดทั้งคู่นี่ดูน่ากลัวเรากับประตูนรกได้มาเยือนทุกคนที่เห็นมัน

แม้ว่าเขาจะมีมีดแค่เล่มเดียวแต่มีดฆ่าหมูของ ฉินมู่ เองก็มีขนาดพอๆกับคนฆ่าสัตว์  มันหนักกว่า 10 กก. ฉินมู่ มีแรงยกมันได้แค่เล่มเดียวเท่านั้นแต่หลังจากที่กินเลือดสัตว์วิญญาณทั้งสี่เข้าไปแล้วแรงของเขาได้เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด  การยกมีดฆ่าหมูด้วยมือเดียวนี้ไม่ได้รู้สึกฝืนเหมือนแต่ก่อนแล้ว

“ระวัง ปู่ฆ่าสัตว์ !”

ฉินมู่ ถือมีดด้วยมือเดียวและพุ่งเข้าหาคนฆ่าสัตว์ที่ซึ่งอยู่บนกองไม้  คนฆ่าสัตว์หัวเราะออกมาดังๆพร้อมเปล่งออร่าราวกับวีรบุรุษออกมาแม้ว่าจะมีร่างกายแค่เพียงครึ่งเดียวก็เถอะ

พายุทมิฬทลายเมือง !

ฉินมู่ เหวี่ยงมีดขึ้นและลงพร้อมกับขยับเข้าหาคนฆ่าสัตว์  มีดนั้นส่องประกายเร็วขึ้นเรื่อยๆสร้างเสียงเฉือนสายลมดังขึ้นมา

“ช้า ช้า ช้า ! เจ้าช้าเกินไป !”

คนฆ่าสัตว์เริ่มสะบัดมีดของตัวเองราวกับมีดเขานั้นเป็นเกราะเหล็กที่อยู่ตรงหน้า  ใบมีดของเขานั้นเข้าปะทะกับมีดของ ฉินมู่ และได้สร้างเสียงที่เหมือนพายุกำลังพัดเข้าใส่ต้นไม้ – “เร็วขึ้นอีก ! เร็วอีก ! มีดฆ่าหมูของเจ้านั้นยังเร็วได้อีก ! ความเร็วนั้นคือสิ่งจำเป็นของ ‘ พายุทมิฬทลายเมือง ‘  มีดฆ่าหมูนั้นต้องเร็วพอๆกับพายุยามค่ำคืนที่กวาดทุกสิ่งในเมือง !  ข้าอยากเห็นเจ้าเร็วกว่านี้ !”

แสงประกายจากมีดเริ่มเร็วขึ้นอีกราวกับมังกรสีเงินกำลังสะบัดตัวขึ้นลงไปมารอบๆกองไม้ เสียงเฉือนลมดังขึ้นเรื่อยๆและในตอนนั้นก็ได้มีพลังงานของใบมีดวนเวียนออกมา  ในตอนที่พลังงานจากใบมีดนั้นอัดเข้าที่พื้นจะมีรอยเฉือนลึกเกิดขึ้นมา

นี่คือรอยที่เกิดจากใบมีดของทั้งคู่

“วิเศษ ! นี่แหละ ! ยิ่งมีดเจ้าเร็วมากเท่าไหร่ยิ่งมีพลังใบมีดออกมามากเท่านั้นแต่เจ้านั้นยังเร็วไม่พอ  เจ้าต้องเร็วพอจนใบมีดนั้นเปลี่ยนเป็นภูเขาไฟอันบ้างคลั่งที่เผาทำลายทุกสิ่ง !”

คนฆ่าสัตว์เหวี่ยงมีดไปมาเรื่อยๆจนทำให้ดูเป็นภาพติดตาซึ่งทำให้ ฉินมู่ งงงวย

“เผาไหม้ ! เผาไหม้ ! ให้มีดของเจ้าเผาไหม้ ให้ออร่าของเจ้าเผาไหม้และให้วิญญาณของเจ้าเผาไหม้ ! เมื่อเจ้าทำให้มีดติดไฟได้แล้วตอนนั้นเจ้าจะรู้เองว่าเจ้าได้สำเร็จทักษะสวรรรค์ได้แล้ว !”

ฟู่----- !

คนฆ่าสตัว์เริ่มฟันมีตัวเองไปเรื่อยๆ แรงเสียดสีทำให้มีดทั้งคู่เริ่มมีประกายไฟออกมาจนในที่สุดก็ติดไฟขึ้นมา ใบมีดทั้งคู่นั้นขยับไปข้างหน้าข้างหลังอย่างกับมังกรไฟสร้างภาพอันน่าตกตะลึงออกมา

มังกรไฟนั้นม้วนตัวเข้าใส่ ฉินมู่ ที่ซึ่งชัดแล้วว่าคงไม่สามารถกันการโจมตีได้ในตอนนี้ ในตอนสุดท้ายก่อนที่มันจะเข้าปะทะตัวเขา มังกรไฟได้บิดตัวขึ้นบนและฉีกความมืดมิดด้านบนหมู่บ้านนี้เป็นชิ้นๆ

ฉินมู่ มองไปด้านบนด้วยสีหน้าที่ว่างเปล่าและเข้าใจความน่ากลัวของมีดที่คนฆ่าสัตว์ได้ใช้

ไม่นานความมืดก็กลับมาครอบคลุมอีกครั้งพร้อมทั้งกลืนกินมังกรไฟและพลังงานใบมีดไป

ความมืดด้านบนนั้นดูเหมือนจะทำให้คนฆ่าสัตว์โกรธจนได้ยกมีดขึ้นมา  หลุมดำได้ทะลักเข้ามาด้านบนหมู่บ้านราวกับจะกลืนกินทุกสิ่ง

แต่รูปปั้นหินทั้งสี่ของหมู่บ้านนั้นได้ส่องแสงสว่างออกมาเรื่อยๆผลักความมืดมิดนั้นให้ถอยกลับไป

“ท้องฟ้าเฮงซวย !”

คนฆ่าสัตว์ได้กวัดแกว่งมีดทั้งสองข้างของตนพร้อมกับตะโกนขึ้นไปบนท้องฟ้า – “ข้าจะฟันความมืดมิดนั่นและหาทางกลับไปให้ได้ ! เอวของข้าถุกสับทิ้งแต่ไม่ใช่หัวของข้า ! ข้าอาจจะเสียขาไปแต่ข้าก็ยังฆ่ามันได้...”

“ปู่ฆ่าสัตว์บ้าอีกแล้ว มีดของเขานั้นเร็วเกินไปจริงๆ  ข้าต้องฝึกนานแค่ไหนกันถึงจะให้มีดของข้าเข้าสู่ทักษะสวรรค์ได้ ?”

ฉินมู่ มองไปที่คนฆ่าสัตว์ด้วยความเคารพ  จากนั้นเขาก็ได้เก็บมีดฆ่าหมูลงไปและเดินไปหาชายแขนเดียว เฒ่าหม่า

“ตอนที่ปู่ฆ่าสัตว์เหวี่ยงมีดที่จำเป็นในการสร้างเปลวไฟขึ้นมาก่อนที่จะถือเป็นทักษะสวรรค์นั้น หมัดของข้าเองก็ต้องสร้างเสียงที่ราวกับสายฟ้าเพื่อให้ถือว่าเป็นทักษะสวรรค์ !”

เฒ่าหม่ากำหมดแน่นและแสดงสีหน้าจริงจังพร้อมกับมีเสียงกระดูกดังขึ้นตามตัวของเขา – “มู่เอ๋อ ตอนเจ้าสามารถจับสายฟ้าด้วยมือของเจ้าได้ หมัดของเจ้านั้นจะถือว่าประสบความสำเร็จได้เล็กน้อย  มีดของคนฆ่าสัตว์นั้นเร็วอย่างมากแต่หมัดระเบิดของข้าก็หาใครเทียบมิได้จนกล้าข้ามข้อจำกัดของเสียงไป ! แขนข้างเดียวนั้นสามารถฝึกเพื่อเป็นหมัดได้, แขนข้างเดียวสามารถเป็นได้ถึงพันแขน, แขนข้างเดียวสามารถสร้างเสียงของสายฟ้าได้ !”

ตูม ----- !

เสียงรเบิดดังขึ้นมาพร้อมกับเสียงฟ้าร้องดังขึ้นจากหมัดของ เฒ่าหม่า ในตอนที่เขาต่อยหมัดออกไปตรงหน้า

ตูมๆๆๆ !

ฉินมู่ บอกไม่ได้ว่าหมัดของ เฒ่าหม่า นั้นเร็วแค่ไหนเพราะเขาต่อยออกมาเป็นชุด  ถ้ามองดูด้วยตาเปล่าแล้ว ฉินมู่ เห็นเพียงแค่ภาพติดตาของหมัดตาเฒ่านี้ ทำให้ดูเหมือนกับว่าตาเฒ่านี่มีพันแขนแทนที่จะมีแค่แขนเดียว

หมัดของ เฒ่าหม่า นั้นเริ่มเร็วขึ้นเรื่อยๆ  สายฟ้าสว่างวาบออกมาจากฝ่ามือนับพันของชายแก่พร้อมกับเสียงคำรามของสายฟ้าดังขึ้นในทุกการโจมตีและได้มีประกายไฟกระเด็นออกมาทุกทิศทาง !

“นี่คือ 8 อัสนีของพุทธองค์พันกร ! ตราบใดที่หมัดของเจ้านั้นเร็วยิ่งกว่าเสียง เจ้าจะสามารถควบคุมเสียงของสายฟ้าได้  ทุกหมุดและฝ่ามือที่โจมตีออกไปในทักษะสวรรค์นี้นั้นสามารถทำลายร่างกายและวิญญาณของคู่ต่อสู้ได้ เปลี่ยนพวกมันเป็นเศษเสี้ยวและกันไม่ให้พวกนั้นกลับมาเกิดได้อีก !”

เฒ่าหม่า ได้หยุดหมัดลงและพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม – “ใช้ 8 อัสนีที่ข้าสอนเจ้าโจมตีข้าซะ  ควบคุมสายฟ้าในมือของเจ้าในตอนที่เจ้าโจมตี !”

ฉินมู่ ยังคงสงบ  ความสามารถของ ปู่หม่า และ ปู่ฆ่าสัตว์ ที่สอนเขาวันนี้นั้นแตกต่างจากปกติ  ครั้งสุดท้ายที่เขาฝึกับทั้งคู่นั้นเขาเรียนรู้แค่การใช้มีดและการต่อยแบบธรรมดา  ครั้งนี้ทั้งคู่นั้นกลับกลับสอนสิ่งนี้ให้กับเขา----

--- ทักษะสวรรค์ !

เนื่องจากนี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้เรื่องนี้ทำให้ ฉินมู่ นั้นยังไม่คุ้นชินนัก

ฉินมู่ ใช้ 8 อัสนีเข้าโจมตี เฒ่าหม่า  แม้ว่าจะมีแค่แขนเดียวแต่ก็ยังกันการโจมตีของ ฉินมู่ ได้อย่างง่ายดาย

แม้ว่าคนฆ่าสัตว์จะดูเหมือนคลั่งในตอนฝึกให้ ฉินมู่ แต่ในการปะทะทุกครั้งนั้นได้ถูกคำนวณอย่างแม่นยำ จนเขาไม่มีทางที่จะทำให้เด็กน้อยได้รับบาดเจ็บ  แต่เฒ่าหม่า นั้นเข้าโจมตีโดยไม่ปราณี  เมื่อ ฉินมู่ เผยให้เห็นช่องว่างจะมีหมัดลอยเข้ามาปะทะกับเขา แม้ว่าหมัดนั้นจะไม่ได้หนักหน่วงอะไรแต่จมูกของเขาก็ยังคงเลือดไหลออกมาอยู่ดี

เฒ่าหม่า นั้นให้ ฉินมู่ พักในตอนที่เขาสู้ไม่ไหวเท่านั้น

“ขานั้นก็เหมือนลม,ผืนดิน,และรากของความแข็งแกร่ง” – ชายขาด้วนพูดขึ้นพร้อมกับพิงที่เก้าอี้

แม้ว่าเขาจะมีขาซ้ายแค่ขาเดียวแต่ชายขาด้วนก็ยังคงสอนเทคนิคการใช้ขาให้กับ ฉินมู่   ฉินมู่ นั้นคิดว่าชายขาด้วนนี้เป็นคนธรรรมดาที่สุดในหมู่บ้าน  ชายแก่มักจะยิ้มอย่างอบอุ่นและให้ความรู้สึกว่าพึ่งพาได้มาโดยตลอด

แต่ตั้งแต่ที่ชายขาด้วนได้แทงผู้หญิงคนที่โผล่มาจากตัววัวต่อหน้าเขา แม้ว่าจะมีรอยยิ้มแบบเดิมแต่ ฉินมู่ นั้นก็ไม่คิดแบบเดิมกับชายคนนี้แล้ว

ชายขาด้วนนั้นเก่งเรื่องการซ่อนมีดใต้รอยยิ้มนั้น  ไม่มีใครรู้ว่ารอยยิ้มนั้นเป็นของจริงหรือไม่

ชายขาด้วนยิ้มให้กับ ฉินมู่ – “มู่เอ๋อ  คนฆ่าสัตว์ได้ชมการใช้มีดของเจ้า ส่วน เฒ่าหม่า นั้นชมเรื่องหมัดของเจ้าแต่ทักษะสวรรค์ของจริงนั้นอยู่ที่ข้า  ในตอนที่เจ้าไม่สามารถสับรึอัดศัตรูเจ้าได้  เจ้าจะทำยังไง ? เจ้าต้องหนี ! การมีชีวิตรอดอยู่ต่อนั้นคือเรื่องที่สำคัญที่สุด ! ชีวิตน่ะไม่ได้สดใสเหมือนสายรุ้ง ทุกอย่างอาจผิดจากที่คาดได้ตลอด  นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมการมีชีวิตอยู่นั้นจึงถือว่าเป็นชัยชนะ ! ตราบใดที่เจ้าวิ่งได้เร็วพอ เจ้าจะสามารถไต่กำแพง,น้ำ,และแม้แต่ท้องฟ้าได้ ! ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นไฟรึอากาศจะกลายเป็นพื้นให้กับเจ้าถ้าเจ้าวิ่งได้เร็วพอ ! ในตอนที่เจ้าวิ่งได้เร็วยิ่งกว่าเสียงคือตอนนที่เจ้ารู้ระดับพื้นฐานของการวิ่งที่จำเป็นสำหรับทักษะสวรรค์”

“มา มู่เอ๋อ เอาเหล็กนั่นใส่กับตัวเจ้าซะ”

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด