Chapter 21: พลังของยา
สวนสมุนไพรด้านนอกหมู่บ้านนั้นมีขนาดใหญ่อย่างมากและข้างในนั้นก็ปลูกสมุนไพรวิญญาณที่ปู่หมอเจอจากดินแดนหายนะ ชาวบ้านต่างก็หมายตาสมุนไพรนี้แต่ปู่หมอกได้ปล่อยแมลงที่อันตรายไว้ในสวนแห่งนี้ด้วยทำให้ไม่มีใครกล้าเข้าไป
เพราะการที่ทุกคนต่างก็กลัวทำให้ในสวนแห่งนี้มีสมุนไพรเหลืออยู่มากมายซึ่งมันก็มีค่าอย่างมากด้วยเช่นกัน กว่าหลายปีที่ผ่านมาปู่หมอได้รวบรวมสมุนไพรหายากนับไม่ถ้วนกลับมาปลูกที่นี่ เขาไม่ค่อยได้ใช้สมุนไพรเหล่านั้นและในที่สุดเขาก็ตัดสินใจที่จะใช้มันกับ ฉินมู่ !
สิ่งที่สำคัญที่ควรจะรู้คือด้วยมาตรฐานที่สูงของปู่หมอทำให้สมุนไพรที่เขามีนั้นมีค่าอย่างมาก การเอาสมุนไพรเหล่านี้มาขายนั้นจะได้ราคาดีอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้ปู่หมอกลับยินดีที่จะใช้มัน !
เพราะกองไฟค่อยๆมอดดับลง ชาวบ้านต่างก็ทยอยเข้าบ้านตัวเองเพื่อพักผ่อน ฉินมู่ เองก็กลับไปที่ห้องตัวเองและหลับลงอย่างรวดเร็ว ย่าซี ได้เอาผ้าห่มมาห่มให้เขาและมองไปที่ใบหน้าของเด็กน้อยที่หลับใหลก่อนจะเผยรอยยิ้มเอ็นดูออกมา
“มู่เอ๋อ ของข้า....ไม่ว่าเจ้าจะมีร่างราชันย์รึไม่ เจ้าก็ยังเป็นเด็กน้อยที่ข้าเลี้ยงดูมาอยู่ดีและข้าไม่ยอมไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายเจ้าแน่ ! ”
เธอยังคงฉลาดและสามารถเห็นหลายอย่างจากสีหน้าที่ผู้ใหญ่บ้านและปู่หมอแสดงออกมาตอนที่กำลังฉลองรอบกองไฟแต่เธอแค่ไม่ได้บอกเรื่องนั้นให้คนอื่นๆฟัง
เธอค่อยๆเดินกลับห้องตัวเองไปเพื่อกลับไปพักผ่อน
วันต่อมาปู่บอดได้แบกท่อนไม้ของเขามาและรีบวิ่งเข้ามาในบ้าน – “มู่เอ๋อ ตื่นเร็วเข้า เช้าแล้ว ปู่หมอนั้น...”
“ข้ายังไม่ได้ลุกออกจากเตียงเลย เจ้ากล้าดียังไงถึงได้เข้ามา !”
เมื่อได้ยินเสียงทะเลาะกัน ฉินมู่ ก็ลืมตาขึ้นและเห็นปู่บอดนั้นกระเด็นออกมาจากห้องของ ย่าซี ปู่บอดกระเด็นจนไปตกด้านนอกหมู่บ้านเลยทีเดียว
“ปู่บอดนี่น่าประทับใจจริงๆ !”
ฉินมู่ ชมออกมาในตอนที่เห็นปู่บอดนั่งขัดสมาธิพร้อมกับถือไม้ไผ่ในตอนที่กระเด็นออกไป
ฉินมู่ ตื่นขึ้นมาและได้ไปล้างหน้าก่อนที่จะกินข้าวเช้ากับ ย่าซี หลังจากล้างถ้วยชามเสร็จ เขาก็เห็นปู่บอดวิ่งจากนอกหมู่บ้านกลับมาด้วยความตื่นเต้นและตะโกนออกมา – “ผู้หญิงเฮงซวย ลูกเตะนี่มันอะไรกัน ข้าแทบหาทางกลับมาไม่ได้ ! มู่เอ๋อ มานี่เร็วเข้า ปู่หมอนั้นกำลังทำยาให้กับเจ้า !”
ย่าซี แสดงสีหน้าแปลกใจและหันกลับไปค้อนปู่บอดก่อนที่จะลุกขึ้นด้วยท่าทีโซเซ – “ข้าจะไปเมืองเขตแดนมังกรเพื่อทำการค้าสักหน่อย ไอ้บอด ข้าจะให้เจ้าดูแล มู่เอ๋อ ในตอนที่ข้าไม่อยู่ ถ้าข้ากลับมาแล้วรู้ว่าเขาเสียเส้นผมแม้เพียงสักเส้นเดียว เจ้าต้องตอบคำถามข้าแน่ ! เฒ่าหม่า เกวียนของเจ้าพร้อมรึยัง ? ไอ้ด้วน เจ้าทำแพที่นั่งดีรึยัง ?”
ฉินมู่ ตามปู่บอดไปที่โรงยาของปู่หมอทันทีและได้กลิ่นยาแรงๆก่อนที่จะเดินเข้าไปด้วยซ้ำ จากนั้นเขาก็ได้เห็นหม้อต้มขนาดใหญ่ลอยอยู่กลางอากาศพร้อมกับมีวิหคสีชาตหลายตัวบินอยู่รอบๆ ระหว่างขนของนกพวกนั้นมีเปลวไฟที่ร้อนระอุปะทุออกมาและความร้อนจากหม้อก็ได้แผ่ออกมาจนรู้สึกได้ ส่วนสิ่งที่อยู่ในหม้อเองก็กำลังเดือดจนส่งเสียงออกมา
“มู่เอ๋อ นี่คือยาของเจ้า”
เมื่อเห็น ฉินมู่ มาถึง ปู่หมอก็เอาสมุนไพรอันสุดท้ายซึ่งมีใบสีเขียวโยนลงไปในหม้อต้ม ในตอนที่ใบไม้แตะเข้าที่น้ำของยา น้ำเดือดๆนั้นได้เริ่มเหนียวขึ้นมาทันที
ปู่หมอล้างมือตัวเองและวิหคสีชาติก็ได้บินไปที่นอกหน้าต่างแล้วหายไป
ในตอนที่หม้อยาตกลงมาถึงพื้น ฉินมู่ ก็ถึงกับหมดคำพูด – “ปู่หมอ ข้าต้องกินยามากขนาดนี้เลยรึ ?”
“ถ้าเจ้ากินมันทั้งหมดเจ้าได้ตายแน่”
ปู่หมอพูดขึ้นมา – “ยาในหม้อนี้ทำมาจากสมุนไพรวิญญาณชั้นสูง แม้ว่ามันจะเป็นแค่ยาเสริมสร้างความอึดระดับต่ำแต่แค่เม็ดเดียวนั้นก็ดีกว่ายาเป็นร้อยเม็ดที่หมอคนอื่นทำ เจ้ากินแค่หนึ่งถึงสองเม็ดต่อครั้งห้ามมากกว่านั้น”
ฉินมู่ เริ่มสงสัย ปู่หมอนั้นเลี้ยงดูเขาด้วยวิธีแปลกๆอีกทั้งยังให้เขากินยาที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนแต่ทุกครั้งมันมักจะส่งผลดีต่อเขา ตอนนี้เขาต้องกินยานี่แค่เพียงเม็ดเดียว พลังงานของยานี่มันมากขนาดนั้นเลยรึ ?
ปู่บอดเองก็ถามออกมาอย่างสงสัย – “คนอื่นเองก็บอกว่ายาตัวเองนั้นดีกว่ายาคนอื่นร้อยเม็ด ยาของเจ้าดีจริงๆงั้นรึ ? แต่ข้าต้องบอกว่ากลิ่นของยานี่ก็หอมน่าดูเลย”
ปู่หมอหัวเราะออกมาด้วยท่าทีเจ้าเล่ห์ – “ทำไมเจ้าไม่ลองกินทั้งหม้อดูล่ะ ?”
“มู่เอ่อ เจ้าลองก่อนเป็นไง ?” – ปู่บอดพยายามที่จะยุเขา
แต่ ฉินมู่ น่ะไม่มีทางโดนปู่บอดยุขึ้นง่ายๆอยู่แล้วและเขากินยาเข้าไปเพียงแค่เม็ดเดียว
ในตอนที่ยาวิญญาณเข้าไปในท้องของเขา เขาก็รู้สึกถึงบางอย่างที่แปลกไป เขารู้สึกเหมือนว่ามังกรไฟ,น้ำ,ทองและไม้นับพันกำลังแหวกว่ายอยู่ในท้องของเขา ทำให้ตัวเขาคอยสูง, เตี้ย, อ้วน,ผอมสลับกันไปมา บางครั้งเขาก็รู้สึกหนาวจนมีน้ำแข็งขึ้นตามตัว บางครั้งก็ร้อนซะจนมีควันออกมาจากเสื้อผ้าของเขา บางครั้งเสื้อผ้าก็ได้มีรากงอกออกมาและมีขนของสัตว์อสูรที่เสื้อผ้าเขาด้วย นี่มันบ้าอะไรกัน ในบางครั้งเสื้อผ้าเขาเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหล็กแม้แต่ผิวเขาเองก็ยังหนาไปด้วยราวกับว่าตัวเขานั้นทำขึ้นมาจากเหล็ก !
ที่น่ากลัวกว่านั้นคืออาการต่างๆนั้นระเบิดออกมาพร้อมกันทำให้ ฉินมู่ เจ็บปวดอย่างมาก
เขาครางออกมาเบาๆและใช้ทักษะร่างราชันย์สามชีวิตเพื่อควบคุมฤทธิ์ยาผ่านพลังฉีของเขา !
ปู่บอดได้เปลี่ยนสีหน้าทันทีและร้องออกมา – “ไอ้หมอ ยาของเจ้าดูเหมือนว่าจะต่างจากยาปกติ !”
“ถูกต้อง ยาเสริมสร้างทั่วไปนั้นแบ่งออกเป็นสี่ชนิด, เสริมไฟ,น้ำ,ทอง,และไม้”
ปู่หมอยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา – “ยาเสริมสร้างนั้นจะส่งผลโดยตรงกลับพลังฉีของร่างวิญญาณทั้งสี่เพื่อที่จะให้พลังงานกับพลังฉีของร่างนั้นๆแต่ร่างราชันย์ของ ฉินมู่ นั้นไม่ได้มีคุณสมบัติเหล่านั้น ดังนั้นข้าจึงคิดวิธีนี้ออกและทำการปรุงยาที่มีคุณสมบัติทั้งสี่ขึ้นมา บางทีมันอาจทำการเพิ่มพลังให้กับพลังฉีของร่างราชันย์ได้ มีแค่ร่างราชันย์เท่านั้นที่สามารถดูดซับพลังของยานี่ได้ ถ้าเจ้ากินมันเข้าไปทั้งหม้อตะกี้ล่ะก็ ฮี่ฮี่...”
ปู่บอดอดไม่ได้ที่จะขนลุก ถ้าเขากินมันเข้าไป ความขัดแย้งระหว่างคุณสมบัติทั้งสี่อาจจะลดพลังเขาลงเหลือ 20-30% แน่นอนเรื่องนี้มันจะเกิดขึ้นถ้าเขากินมันเข้าไปทั้งหม้อ การกินแค่เม็ดเดียวนั้นไม่ได้ส่งผลเสียต่อเขามากนัก
“ไอ้หมอ เจ้าปรุงยาพิษขึ้นมารึเปล่า ?” – ปู่บอดพึมพำ
ทันใดนั้น ฉินมู่ ก็ตะโกนออกมาอย่างดังและเริ่มวิ่งออกไปอย่างกับคนบ้าก่อนจะหายไปจากสายตาของทั้งคู๋
ปู่หมออดไม่ได้ที่จะกังวล – “คุณสมบัติทั้งสี่นั้นขัดแย้งกัน มู่เอ๋อ จะไม่เป็นไรรึ ?”
“ไม่มีอะไรต้องกังวล เขาจะได้รับพลังจากยานั่นอยู่ดี”
ปู่หมอเองก็รู้สึกไม่สบายใจในตอนที่พูดแบบนั้น ยังไงซะนี่ก็เป็นครั้งแรกที่เขาทำยาแบบนี้ขึ้นมา เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ ฉินมู่ ลองกินยาเข้าไป ปู่หมอเองก็ไม่แน่ใจว่าพลังในยานี่มามากเท่าไหร่และยังไม่แน่ใจอีกว่ายานี่จะมีผลข้างเคียงยังไงรึคนที่กินไปนั้นจะตายหรือไม่
แน่นอนเขาไม่ได้พูดสิ่งนี้ออกมา ไม่งั้นแล้ว ย่าซี ได้มาฆ่าเขาแน่ๆ
ในป่าที่อยู่ไกลออกไป เสียงคำรามของ ฉินมู่ ได้ดังก้องพร้อมกับต้นไม้ที่ถล่มลงไปที่ละต้นๆจนเกิดเสียงดังสนั่น
หางตาของปู่หมอกระตุกขึ้นมาพร้อมกับพูดขึ้น – “มันต้องไม่เป็นไรแน่ ไม่ต้องกังวล ฟังนะ เขาน่ะกำลังแข็งแรงและมีชีวิตชีวามากกว่าเดิม !”
ปู่บอดถอนหายใจออกมา – “เด็กหนุ่มนี่ช่างแรงเยอะกันซะจริงๆ”
ในป่านั้น ฉินมู่ ได้วิ่งต่อไปเรื่อยๆ หมัดและเท้าของเขานั้นเร็วราวกับสายฟ้า เขาต่อยและเตะเข้าไปในต้นไม้ใหญ่ๆหลายต้น ต้นไม้ใหญ่ๆเหล่านั้นต้องใช้กว่าสองคนโอบแต่กลับรับหมัดของเขาได้เพียงสามครั้งและลูกเตะอีกสองครั้งก่อนจะหักครึ่ง !
ไม่น่าเชื่อ
มันแทบไม่น่าเชื่อเลย !
พลังงานของยาที่ปู่หมอปรุงขึ้นมานั้นแข็งแกร่งจริงๆ แม้ว่าจะใช้ทักษะร่างราชันย์สามชีวิตในตอนที่วิ่งอยู่แต่เขาสยบพลังของยานี่ไม่ได้ เขารู้สึกว่าตัวเขาจะระเบิดออกมา เขาทำได้แต่ใช้ทักษะต่อสู้ที่ปู่ด้วนและเฒ่าหม่าสอนเขามาเพื่อระบายพลังของยานี่ออกมา !
ในจุดแก่นวิญญาณสวรรค์นั้น แก่นวิญญาณรูปร่างมนุษย์นั้นได้กระสับกระส่ายและดูดซับพลังฉีที่เพิ่มขึ้นมาก่อนที่จะทำให้มันบริสุทธิ์ ฉินมู่ ตัวเล็กนี้ดูเหน็ดเหนื่อยเหลือเกินในตอนที่หายใจ
“ตาย เด็กน้อย !”
ทันใดนั้นป่าก็ได้สั่นสะเทือนพร้อมกับได้มีลิงปิศาจโผล่ขึ้นมาตะโกนออกมาด้วยความคลั่ง หมัดขนาดเท่ากับภูเขาได้บินตรงเข้ามาหา ฉินมู่ ที่ซึ่งเป็นผู้ทำลายป่าแห่งนี้ !
มันกลับเป็นว่ายาที่กินเข้าไปนี่ได้ทำให้ ฉินมู่ คลั่งซะจนเข้ามาในอาณาเขตของลิงปิศาจอีกครั้ง เมื่อเห็นเด็กน้อยเข้ามาในอาณาเขตของมัน มันก็เริ่มหงุดหงิดที่เจอกับศัตรูเก่าและเข้าโจมตีโดยไม่รอฟังแม้แต่คำอธิบาย
ตาของ ฉินมู่ นั้นเป็นสีแดงเข้มพร้อมกับที่เขาเงยหน้าขึ้นมาทันที พลังงานที่ไหลเวียนอยู่ในตัวเขาได้ทำให้พลังฉีได้ระเบิดออกมา ฉินมู่ วิ่งไปข้างหน้าและต่อยเข้าใส่หมัดของลิงปิศาจ !
ตูม ---
เสียงอันดังสั่นระเบิดดังก้องพร้อมกับที่ ฉินมู่ กระเด็นกลับหลังออกไปและทำให้ต้นไม้ด้านหลังหักตามไปด้วย ลิงปิศาจได้กระโดดมาข้างหน้าด้วยความตื่นเต้นและได้ยกขาของมันเพื่อจะเตะเข้าใส่ ฉินมู่ ที่ซึ่งนอนอยู่ที่พื้น ขาอันใหญ่โตของมันนั้นเหมือนกับเสาสีดำที่กำลังจะบดขยี้เขา !
ทันใดนั้น ฉินมู่ ก็ตะโกนออกมาพร้อมกับเตะเข้าใส่ข้อต่อขาของลิงปิศาจนับครั้งไม่ถ้วน ลิงปิศาจรู้สึกได้ว่าแรงขาของมันได้หายไป มันจึงรีบต่อยสวนกลับมาอีกครั้งหนึ่ง
ฉินมู่ ยกแขนขึ้นกันการโจมตีเอาไว้และทำให้กระเด็นกลับออกไปอีกครั้ง
การสู้ระยะใกล้กับ ฉินมู่ นั้น หมัดและการเตะของลิงปิศาจนี่ได้ทำให้เกิดเสียงอันดังสนั่นขึ้นมา ฉินมู่ ดูเหมือนจะสนุกกับมันและเริ่มที่จะสู้กับสัตว์อสูรตัวนี้กลับไป แม้ว่าเขาจะเสียเปรียบแต่เขาไม่ได้แสดงวี่แววความกลัวออกมาเลยสักนิด
ลิงปิศาจนั้นหงุดหงิดมากกว่าเดิมและเริ่มสนุกกับการต่อสู้นี้ด้วย ทุกการโจมตีที่มันใช้ออกไปเริ่มหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ
มนุษย์และลิง, ตัวใหญ่และตัวเล็ก ทุกที่ที่ทั้งคู่ไปนั้นต้นไม้ต่างก็ต้องพังลงมาแตกออกเป็นชิ้นๆ
ทันใดนั้น ฉินมู่ ก็กระโดดขึ้นไปกลางอากาศราวกับบินได้และเริ่มวิ่งขึ้นไปตามแขนของลิงจนไปถึงหน้าของลิงนั่นในเวลาเสี้ยววินาที
พุทธองค์พันกร !
แขนทั้งสองข้างของเขาได้เปลี่ยนไปราวกับมีเป็นร้อย พร้อมกันนั้นก็ได้มีหมัดเป็นร้อยอัดเข้าใส่จมูกของลิงปิศาจนั้น
ลิงปิศาจได้ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดก่อนที่จะล้มหงายลงไป มันเหวี่ยงฝ่ามืออันใหญ่โตของมันไปมาเพื่อปัด ฉินมู่ ออกไปจากใบหน้าของมัน
มันหันตัวกลับมาคลายและมองไปที่จมูกตัวเองที่ยังคงเลือดไหลอยู่ เมื่อเห็น ฉินมู่ นั้นกระเด็นไปฝังที่หน้าผา ลิงปิศาจก็อดที่จะดีใจไม่ได้ – “เด็กน้อย ตาย”
ทันใดนั้นเด็กน้อยที่โดนฝังอยู่ที่หน้าผานั้นก็ดันตัวเองออกมาจากหลุมแล้วพุ่งเข้าใส่ลิงด้วยความหงุดหงิด
ลิงปิศาจเองต้องสะดุ้งด้วยความตกใจและตีอกตัวเองก่อนที่จะคำรามพร้อมกับพุ่งเข้าหา ฉินมู่ – “ตาย ! เด็กน้อย !”