ตอนที่ 147 ผ่าครึ่งรถม้ากลางถนน
“เชิญคุณหญิงพูดมาได้เลย ถ้ามันอยู่ภายในความสามารถของข้า ข้าจะไม่ปฏิเสธแน่นอน แต่ถ้าข้าไม่สามารถช่วยเหลือได้... ข้าก็ไม่กล้าที่จะรับของขวัญที่มีค่าเช่นนี้ไป” หลิงฮันพูดอย่างสงบนิ่ง
หญิงสาวมีท่าทีประหลาดใจ หลังจากได้ยินประสิทธิภาพของกำบังดาบนี้แล้ว หลิงฮันก็ยังรักษาความเยือกเย็นเอาไว้ได้ ชายหนุ่มคนนี้ใช่รุ่นเยาว์จริงๆรึ? ทำไมเขาถึงได้ดูเหมือนปีศาจเฒ่าที่ผ่านมรสุมความยากลำบากมานับไม่ถ้วนขนาดนี้?
คุณหญิงหยานยิ้มและพูด “ในเมื่อมันเป็นสิ่งที่ข้าต้องการไหว้วานเจ้า แน่นอนว่ามันต้องอยู่ในความสามารถของเจ้าอยู่แล้ว นายน้อยหลิง สิ่งที่ข้าต้องการไหว้วานนายน้อยคือการรบกวนนายน้อยไปขอให้บุคคลที่อยู่เบื้องหลังของท่านหลอมเม็ดยา ‘เม็ดยาคงกระพัน’ ให้กับข้า”
“เม็ดยาคงกระพัน?” ใบหน้าของหลิงฮันมีท่าทีประหลาดใจ “คุณหญิงมีสหายที่ตกอยู่ในสภาพกึ่งเป็นกึ่งตายรึ?”
“เจ้ารู้ได้อย่างไร?” คุณหญิงหยาน มีท่าทางตื่นเต้นขึ้นมาทันที
เม็ดยาคงกระพันเป็นเม็ดยาระดับดำขั้นสูง แต่ระดับของมันนั้นเรียกได้ว่าใกล้เคียงกับระดับปฐพีอย่างมาก จำนวนนักปรุงยาระดับดำขั้นสูงที่สามารถหลอมมันได้สำเร็จนั้นสามารถนับได้เพียงมือเดียว ในอดีต คุณหญิงหยานเคยไปขอความช่วยเหลือจากฟูหยวนเชิงและหวู่ซงหลินแล้ว แต่ทั้งสองคนไม่มีความมั่นใจที่จะหลอมมันได้สำเร็จแม้แต่น้อยและปฏิเสธการร้องขอของนาง
แต่ตอนนี้ หลิงฮันกลับสามารถคาดเดาเหตุผลที่นางต้องการเม็ดยาคงกระพันได้เพียงเพราะได้ยินชื่อ ตอนนี้นางเชื่อแล้วว่าเบื้องหลังของหลิงฮันมีปรมาจารย์นักปรุงยาที่เหนือกว่าฟูหยวนเชิงและหวู่ซงหลินอยู่
...นักปรุงยาระดับปฐพี!
อะไรก็ตามที่เกิดขึ้นภายในศาลาบุปผางามล้วนแต่ไม่สามารถหลุดพ้นสายตาของนางไปได้ ดังนั้นเมื่อนางได้ยินว่าหลิงฮันมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับสองตัวตนที่ยิ่งใหญ่แห่งศาสตร์ปรุงยา นางจึงคาดเดาว่าเบื้องหลังของหลิงฮันจะต้องมีนักปรุงยาที่ยิ่งใหญ่กว่าทั้งสองคนคอยช่วยเหลืออยู่ ไม่เช่นนั้นฟูหยวนเชิงและหวู่ซงหลินคงไม่ลดตัวลงมาเป็นสหายกับรุ่นเยาว์ที่อายุน้อยกว่าขนาดนี้
ด้วยเหตุนี้เองนางถึงได้ตัดสินใจสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับหลิงฮัน และลองดูว่านางจะสามารถได้รับความช่วยเหลือจากปรมาจารย์นักปรุงยาที่อยู่เบื้องหลังของหลิงฮันให้หลอมเม็ดยาคงกระพันให้นางได้หรือไม่
“ข้าแค่เดา” หลิงฮันตอบไปอย่างสงบนิ่ง เขาคงไม่บอกนางไปหรอกว่าเขาเคยเป็นถึงจักรพรรดินักปรุงยาในชีวิตที่แล้ว และไม่มีสูตรเม็ดยาอันใดที่เขาไม่เคยเห็นหรือไม่เคยได้ยินมาก่อน
ยิ่งหลิงฮันสงบนิ่งมากเท่าไหร่ สถานะของหลิงฮันในใจของคุณหญิงหยานก็ยิ่งสูงขึ้น นั่นหมายความเขามีความมั่นใจอย่างมาก!
“นายน้อยหลิง นักปรุงยาที่อยู่เบื้องหลังนายน้อยมีความมั่นใจว่าจะหลอมเม็ดยาคงกระพันได้สำเร็จหรือไม่?” คุณหญิงหยานถามด้วยเสียงที่สั่นเครือเล็กน้อย
“แน่นอน” หลิงฮันพยักหน้าและยิ้ม
ในความเป็นจริง ถ้าเป็นเมื่อหลายวันก่อน เขาอาจจะไม่มีความมั่นใจว่าจะหลอมได้สำเร็จ เพราะว่าเม็ดยาชนิดนี้นั้นมีระดับใกล้เคียงกับเม็ดยาระดับปฐพี และอย่างมากที่สุดเขาก็คงหลอมสำเร็จได้เพียงเม็ดยาระดับเหลืองขั้นสูง อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เขาผสานเข้ากับจิตวิญญาณเปลวเพลิงแล้ว เขามีความมั่นใจอย่างยิ่งว่าเขาจะสามารถหลอมเม็ดยาที่มีระดับต่ำกว่าเม็ดยาระดับปฐพีทุกชนิดได้สำเร็จ
ใครใช้ให้ในชีวิตที่แล้วเขาเป็นจักรพรรดิปรุงยากันล่ะ?
“จริงรึ?” ความสุขที่จู่ๆก็พรั่งพรู่ขึ้นมา ทำให้คุณหญิงหยานรู้สึกราวกับทุกอย่างเป็นความฝัน
“อืม!” หลิงฮันพยักหน้า
“ขอบคุณนายน้อยหลิงมาก!” คุณหญิงหยานก้มหัวเล็กน้อย ดวงตาอันงดงามของนางเอ่อล้นไปด้วยแสงสะท้อนจากหยาดน้ำตา
หลิงฮันพูด “นำวัตถุดิบสมุนไพรที่จำเป็นมาให้ข้า และอีกสามวันค่อยไปรับเม็ดยาที่สำนักหู่หยาง”
สามวัน... ปัญหาที่ก่อกวนใจนางมามากกว่าสิบปีสามารถแก้ไขได้ภายในเวลาเพียงสามวัน? สีหน้าของ คุณหญิงหยานทั้งมีความสุขและเหม่อลอย นางชะงักไปชั่วขณะก่อนที่จะพูดขึ้นมา “ชวงชวง ไปรวบรวมสมุนไพรมาให้ข้า”
“เจ้าค่ะ คุณหญิง!” หญิงสาวที่อยู่อยู่ข้างกายนางตอบรับอย่างรวดเร็ว ชื่อของนางคือ หยุนชวงชวง นางคือเด็กกำพร้าที่คุณหญิงหยานรับมาเลี้ยงตั้งแต่เด็ก คุณหญิงหยานรักและเอ็นดูนางราวกับเป็นลูกแท้ๆ
ภายในเวลาไม่นาน หยุนชวงชวงก็กลับมาพร้อมกับกล่องไม้ใบหนึ่งที่มีขนาดใหญ่กว่าอันก่อน
“งั้นข้าคงต้องขอตัวก่อน” หลิงฮันพูดและหยิบกล่องไม้ขึ้นมา
“ได้โปรดให้ข้าได้ใช้รถม้าส่วนตัวพานายน้อยกลับไปส่ง!” คุณหญิงหยานชี้นิ้วไปยังกล่องไม้ในมือของหลิงฮัน การจะให้เขาเดินกลับไปโดยมีกล่องไม้อยู่ในมือคงไม่สะดวก
จริงอยู่ที่หลิงฮันมีแหวนมิติ แต่เขาไม่ได้ใช้มันต่อหน้าคุณหญิงหยาน เขาพยักหน้าและพูด “งั้นข้าคงต้องขอรบกวน คุณหญิงหยานแล้ว”
“ยินดีเป็นอย่างยิ่ง!” คุณหญิงหยานแก้ปัญหาใหญ่ของนางได้สำเร็จ และอดที่จะแสดงรอยยิ้มที่แสนมีความสุขออกมาไม่ได้ “ชวงชวง คอยคุ้มกันนายน้อยหลิงด้วย”
“เจ้าค่ะ คุณหญิง!” หยุนชวงชวงตอบรับอย่างสุภาพ
หลิงฮันเดินออกจากศาลาบุปผางามโดยมีหยุนชวงชวงติดตามมาด้วย ตรงทางเข้าได้มีรถม้ามาจอดรอเอาไว้แล้ว และม้าที่คอยลากรถม้านั้นทั้งสง่าและมีร่างกายเป็นสีขาว อย่างไรก็ตาม บนหน้าผากของม้าตัวนั้นได้มีเขากวางงอกออกมา
นั่นคือม้าขี่เมฆา เป็นสัตว์อสูรประเภทหนึ่ง แม้จะไม่แข็งแกร่งมากนัก แต่เพราะมันมีรูปร่างที่ดูสง่า มันจึงถูกใช้เป็นสัตว์ลากรถม้า แถมยังมีราคาสูงมากอีกด้วย
แม้แต่ภายในรถม้าเองก็หรูหรา มันมีเตียงที่สามารถให้คนนอนพักผ่อนได้ รวมทั้งยังมีผลไม้สดและไวน์ชั้นเลิศที่ทำให้ผู้เดินทางรู้สึกสนุกไปกับความหรูหราขณะเดินทาง
“เชิญนายน้อยฮัน!” หยุนชวงชวงพูด นางรู้สึกสงสัยในตัวหลิงฮันมาก เด็กหนุ่มเช่นเขาสามารถแก้ปัญหาที่คุณหญิงของนางพบเจอมาตลอดหลายสิบปีได้อย่างไร
หลิงฮันขึ้นไปบนรถม้า เขาหยิบกำบังดาบออกมาและเริ่มหลอมมัน
หยุนชวงชวงที่นั่งอยู่อีกฝั่งรู้สึกหดหู่มาก นางเป็นหญิงสาวที่งดงาม จะมีผู้ชายคนใดที่สามารถละสายตายไปจากนางได้? แต่เด็กหนุ่มคนนี้กลับเมินเฉยตัวตนของนางโดยสิ้นเชิง และให้ความสนใจทั้งหมดไปกับกำบังดาบนั่น
นางยอมรับว่ากำบังดาบนั่นมีค่าอย่างมาก แต่ยังไงมันก็เป็นของเขาไปแล้ว เขาจะหยิบมาดูเมื่อไหร่ก็ได้ แต่นางเป็นคนที่เขาสามารถมองดูเมื่อไหร่ก็ได้ที่เขาต้องการงั้นรึ?
เป็นเด็กหนุ่มที่ไม่ฉลาดเอาเสียเลย
หลิงฮันไม่รู้เลยว่าเขาได้กลายเป็นชายหนุ่มที่ไร้ความรู้สึกด้านความรักในสายตาของหญิงสาวไปแล้ว เขายังคงตรวจสอบกำบังดาบต่อไปเรื่อยๆ และเมื่อฝ่ามือของเขาลูบไปโดนลวดลายที่ประทับเอาไว้บนผิวของกำบังดาบ ใบหน้าของเขาได้เปลี่ยนเป็นจริงจัง
โดยปกติอาวุธวิญญาณจะใช้เพื่อเพิ่มพลังต่อสู้ของผู้ใช้ แต่ยังไงพลังที่เพิ่มขึ้นนั้นก็มาจากอาวุธวิญญาณ อย่างเช่น ถ้าอาวุธวิญญาณมีพลังเหมันต์ผนึกเอาไว้อยู่ เมื่อมันถูกปลดปล่อยออกมา มันจะสามารถสร้างน้ำแข็งพันไมล์และทำให้หิมะตกไปทั่วบริเวณหมื่นไมล์ได้ ซึ่งเป็นความสามารถที่ทรงพลังอย่างมาก
แต่ถึงอย่างไรมันก็ไม่ได้เพิ่มพลังต่อสู้ของจอมยุทธโดยตรง
แต่กำบังดาบนี่สามารถเพิ่มพลังต่อสู้ของผู้ใช้ได้ถึงหนึ่งดาว ซึ่งดึงดูดความสนใจของหลิงฮันเป็นอย่างมาก เขาอยากจะตรวจสอบคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมของอาวุธวิญญาณชิ้นนี้ให้แน่ชัด ถ้ามันสามารถนำมาใช้เป็นพลังของเขาได้ถาวร มันจะไม่ยอดเยี่ยมยิ่งกว่าเดิมรึไงกัน?
หลิงฮันนั่งนิ่งอย่างจริงจังราวกับว่าเขาเป็นนักบวช แม้จะมีสาวงามล่มเมืองนั่งอยู่กับเขา เขาก็ไม่ชำเลืองมองแม้แต่น้อย
ใบหน้าของหยุนชวงชวงไม่อาจหยุดกระตุกได้เพราะโดนเมินเฉย นางไม่อาจยอมรับเรื่องนี้ได้
นี่มันจะเป็นการดูถูกกันเกินไปแล้ว! นางเป็นสาวที่งดงามมากเลยนะ!
“ปัง” ในตอนนั้นเอง ตรงกลางของรถม้าได้แยกออกจากกันเพราะลำแสงของกระบี่ที่ทรงพลังราวกับว่ามันสามารถสะบั้นสวรรค์และทำลายผืนปฐพีได้ ลำแสงกระบี่นั่นได้ฟันรถม้าออกเป็นสองส่วน!
ใครกันที่ช่างอุกอาจถึงขนาดกล้าลงมือในเมืองจักรพรรดิแบบนี้?
หลิงฮันและหยุนชวงชวง กระโดดออกมาจากรถม้าที่พลิกคว่ำก่อนที่จะร่อนลงสู่พื้นอย่างมั่นคง คนคุมม้าไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมาก มันขี่ม้าที่ลากรถม้าครึ่งหนึ่งไปไกลสักพักก่อนที่จะหยุดลงมาดู
หลิงฮันและหยุนชวงชวงแหงนหน้ามอง และไม่ห่างไปไกลมากนัก มีชายหนุ่มคนหนึ่งถือกระบี่ยืนอยู่บนกำแพง พร้อมกับปลดปล่อยแรงกดดันที่ราวกับจะสามารถปกครองได้ทุกสิ่งออกมา
เฟิงหยาง!
“หลิงฮัน ข้าบอกไปก่อนหน้านี้แล้วไม่ใช่รึว่าข้าจะต้องทุบตีเจ้าในคืนนี้ให้ได้!” มันเผยรอยยิ้มออกมา สีหน้าของมันยังคงเยือกเย็นปลดปล่อยแรงกดดันที่น่าสะพรึงกลัว
‘นี่คือคนประเภทที่ชอบทำลายกฎ’
หลิงฮันคิดในใจ ในชีวิตที่แล้วเขาก็เคยเป็นคนประเภทนี้ เป็นคนประเภทที่จะไม่ยอมถูกผูกมัดด้วยกฎเกณฑ์หรือข้อบังคับใดๆ นั่นเพราะเขามีอำนาจมากพอที่จะทำแบบนั้นได้ ในฐานะที่เป็นหนึ่งในจอมยุทธระดับสวรรค์ของโลก แต่สถานะของเขายังไม่สูงส่งพอรึไง?
เฟิงหยางไม่ใช่คนโง่ ก่อนหน้านี้มันกล้าที่จะต่อต้านองค์ชายสามอย่างโจ่งแจ้ง และตอนนี้ยังฟันรถม้าออกเป็นสองส่วนในที่สาธารณะอีก นี่ไม่ใช่ความยิ่งยโสเพียงอย่างเดียว จะต้องมีอะไรบางอย่างที่ทำให้มันมีความมั่นใจขนาดนี้อยู่แน่ๆ
“เฟิงหยาง เจ้าจะล้ำเส้นเกินไปแล้ว เจ้าไม่คิดจะไว้หน้าคุณหญิงเลยรึ?” หยุนชวงชวงถามด้วยความโกรธ นี่คือการท้าทายศาลาบุปผางามอย่างโจ่งแจ้งใช่รึไม่?
*ติดตามข่าวสารได้ที่ เพจ*