บทที่ 90 - คนแปลกหน้า (9) [อ่านฟรีวันที่ 14/12/2561]
บทที่ 90 - คนแปลกหน้า (9)
กองทัพสวรรค์ได้ปกป้องกำแพงแห่งความโกลาหลจากเหลานักล่าจำนวนมากที่พยายามจะบุกรุกพวกเขาและพิชิตโลกที่อยู่ใต้การคุ้มครองของทูตสวรรค์
จนกว่าที่กำแพงแห่งความโกลาหลจะฟื้นพลังคืนกลับมาได้โดยสมบูรณ์เพื่อที่จะป้องกันเหล่านักล่าแล้ว ทูตสวรรค์จะไม่มีทางเป็นอิสระเลย
[อ๊าาา อยากเจออิลฮานจัง]
ทูตสวรรค์ลิต้า ไม่สิเลียร่าที่ได้รับความแข็งแกร่งและพลังใหม่ผ่านการเสริมพลังขึ้นก่อนที่จะเกิดสงครามก็ไม่ได้เป็นข้อยกเว้นใดๆ เพราะแบบนี้เองจึงทำให้เธอมักจะพูดชื่อของยูอิลฮานออกมาเสมอๆในตอนที่พัก
[มันโจมตีแล้ว ทางตะวันตกที่ 47!]
[หน่วยจู่โจมที่ 11 เคลื่อนไหว ฉันข้อย้ำหน่วยจู่โจมที่ 11 เคลื่อนไหว]
ภายในฐานที่ค่อนข้างจะห่างไกลจากกำแพงแห่งความโกลาหลที่กว้างใหญ่ไพศาล เลียร่าที่กำลังพึมพัมชื่อของยูอิลฮานอยู่ภายในห้องที่ถูกจัดไว้ให้เธอก็เงยหน้าขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินคำสั่งที่กระจายไปทั่วฐาน
หน่วยจู่โจมที่ 11 นั่นก็คือเธอ หน่วยของเธอนั่นประกอบไปด้วยเธอเพียงลำพัง มันไม่ใช่ว่าเธอนั้นติดเชื่้อโดดเดี่ยวมาจากยูอิลฮานเพราะว่าอยู่กับเขานานเกินไป แต่มันเป็นเพราะว่าเธอมีพลังการต่อสู้ที่โดดเด่นมากแม้แต่ในหมู่ทูตสวรรค์ด้วยกันเอว
[ตอนนี้ฉันต้องไปแล้ว ช่วยเปิดพอร์ทัลที!] (เลียร่า)
[ท่านเลียร่าทางนี้ค่ะ!]
เลียร่าได้วิ่งออกไปในขณะที่ติดอาวุธทันที เธอได้เอาชุดเกราะออกมาใส่และหยิบอาวุธออกมาจากช่องเก็บของ ภาพๆนี้มันไม่ได้ดูต่างไปจากการที่ยูอิลฮานเอาอุปกรณ์ออกมาจากช่องเก็บของเลย
เธอได้ถามขึ้นเสียงดังกับทูตสวรรค์ที่นำทางเธอไปพอร์ทัลทันที
[ที่นั่นมีกี่ตัว]
[คลาส 5 200 คลาส 6 7 ตัวค่ะ! กองกำลังป้องกันกำลังกันพวกมันอยู่ แต่ว่านั่นคือทั้งหมดที่พวกเขาทำได้แล้ว]
คลาส 5 ที่กำลังพูดถึงกกันนี้คือก้าวแรกของสิ่งมีชีวิตชั้นสูง เมื่อพวกมันการเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นสูงก็จะเกิดสิ่งที่มหัศจรรย์ขึ้นหลังจากการเก็บสะสมบันทึกมาเป็นเวลานาน
เอิลต้าก็เป็นคลาส 5 และเลียร่าก็เพิ่งจะเป็นคลาส 6 แล้วเธอจะไปต่อสู้กับกองทัพพวกมันได้ยังไงล่ะในเมื่อเธอเพิ่งจะเป็นคลาส 6
ก็เพราะเธอทรงพลังกว่าระดับของตัวเองยังไงล่ะ เพราะแบบนั้นมันจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้พวกเบื้องบนของกองทัพสวรรค์ไม่ต้องการให้เธอไปอยู่ในโลกชั้นต่ำนั้นเอง
ไม่นานนักเลียร่าก็ได้วิ่งมาจนถึงพอร์ทัล สภาพแวดล้อมได้เปลื่ยนแปลงไป มันได้เปลื่ยนเป็นทางตะวันตกที่ 47 ไปแล้ว ที่ที่เกิดการปะทะกันขึ้นบ่อยครั้งภายในกำแพงแห่งความโกลาหลนี้และเป็นที่ที่มีช่องว่างขนาดใหญ่ของกำแพงแห่งความโกลาหลอยู่
ดังนั้นกองกำลังป้องกันจึงจำเป็นจะต้องปักหลักอยู่ในจุดๆนี้อย่างถาวรเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น
[เธอมาที่นี่แล้ว?]
[เธออยู่นั่น! เลียร่ามานั่นแล้ว!]
[ตอนนี้พวกเราชนะแล้ว!]
เลียร่าได้พุ่งตัวออกไปโดยไม่สนใจในคำพูดพวกนั้นเอง เมื่อเธอได้ต่อยหมัดเข้าด้วยกันด้วยถุงมือสีขาว หอกแสงยาวแหลมคมก็ถูกสร้างขึ้น
[แหลกไปซะ!] (เลียร่า)
เธอได้ขว้างหอกของเธอออกไป มันได้ทำลายนักล่าคลาส 5 นับสิบที่เพิ่งจะทำลายเวทย์ป้องกันแล้วเข้ามาโจมตีทูตสวรรค์
[เวรเอ้ย นั่นมันทูตสวรรค์บ้าเลือด]
[เธอกับสเปียร่าได้อารวาดไปรอบๆเลย]
นักล่าระดับสูงบางส่วนที่ด้อยกว่าเธอถึงแม้ว่าพวกมันจะอยู่คลาส 6 ก็ได้ถอยกลับไป เลียร่าได้ยืนยันถึงการปรากฏตัวของพวกมันและแยกเขี้ยวเข้าใส่
[กองทัพปีศาจแห่งการทำลายในที่สุดพวกแกก็เคลื่อนไหว] (เลียร่า)
[หึ่ม มันก็เหมือนกับอีกไม่นานกำแพงแห่งการทำลายจะปิดตัวลง พวกเราจะต้องถอยกลับไปมือเปล่าในทุกๆครั้ง แต่ว่าเราก็อยากจะโลภมากขึ้นอีกนิดในคราวนี้]
นักล่าระดับสูงได้พูดออกมาอย่างไม่ใยดีในขณะถอยกลับ เลียร่าได้พุ่งเข้าไปโดยไม่พูดอะไรอีกและยิงคลื่นแสงที่ทรงพลังออกไป มันเป็นพลังที่แข็งแกร่งที่จะทำให้พื้นที่รอบๆเกิดเสียงดังรวบกวนในขณะที่คลื่นมานาได้กระจ่ายถ่ายโอนเป็นพลังงายไปทั่วพื้นที่
[อั๊ก เร็วอะไรแบบนี้!]
ทั้งนักล่าคลาส5 และ 6 ต่างก็พยายามจะหลบอย่างรวดเร็ว แต่ว่าการหลบการโจมตีของเลียร่ามันไม่ได้จบลงเพียงแค่นั้น
และน่าเสียดายที่นักล่านับสิบที่ไม่รู้และป้องกันกับมันทำให้พวกมันทั้งหมดล้มลงไปกับที่ในทันที
[เป็นพลังที่บ้ามากจริงๆ ความลงตัวกันระหว่างพลังเวทย์และพลังทางกายภาพได้กลายเป็นคมเขี้ยวที่สวยงาม]
คลาส 6 ที่ตอบกลับเธอในตอนแรกได้หัวเราะออกมา แต่ว่าบนหน้าผากของมันก็มีเหงื่อตกออกมาแล้ว
[ฉันก็รู้แค่นี้แหละ อ่า ถ้าจริงด้วยฉันอยากจะได้ยินว่า 'โลกมากอีกนิด' ของแกนะมันคืออะไร มากับฉันซะ] (เลียร่า)
เลียร่าได้หัวเราะออกมาในขณะที่นำหมัดของเธอมาชนกัน นี่มันไม่ใช่การกระทำเล่นๆ แต่ว่าเป็นการเสริมพลังให้กับสกิลต่อไปของเธอ
ยังไงก็ตามชายคนนั้นก็ได้ก้าวถอยไปพร้อมส่ายหัว นักล่าคนอื่นๆก็ยังแสดงสัญญาณให้เห็นว่ามันจะหนีทันทีราวกับเจอสัตว์ที่ดุร้าย ภาพลักษณ์ของเลียร่าดูน่าหวาดหวั่นมากในสายตาของพวกมัน
[โอ้ ข้าหมายถึงว่าข้าไม่อยากจะสู้กับเจ้า ข้าไม่อยากจะสู้กับเจ้าในที่ที่สว่างแบบนี้ แต่เป็นภายใต้แสงจันทร์และในที่ที่เป็นส่วนตัว อ่อนไหว แต่รุนแรง]
[โอ้ ได้สิ ยังไงก็ได้] (เลียร่า)
เธอได้ยิ้มอย่างสดใสในขณะที่กระทบหมัดเข้าด้วยกันอีกครั้งหนึ่ง ในตอนนี้คลื่นได้ถูกยิงออกมาโดยไม่มีสัญญาณใดๆ
[อั๊ก!]
[อ๊าาาา!]
นักล่าก็ได้ร่ายเวทย์ออกมาป้องกันเช่นกัน แต่ว่ามันก็ได้แตกกระจายออกไปโดยที่ไม่อาจจะทนต่อพลังของเลียร่าได้เลย นี่มันเป็นเพราะว่าทุกๆสิ่งมีชิวตที่ป้องกันกำแพงแห่งความโกลาหลก็ยังได้รับการสนับสนุนจากบันทึกแห่งอคาชิคและได้รับพรจากสวรรค์
ใช่แล้ว ทูตสวรรค์ได้อยู่ในพื้นฐานที่ได้เปรียบกว่าในสงครามนี้ หากไม่เช่นนั้นแล้วกำแพงแห่งความโกลาหลคงถูกตีแตกไปนานแล้ว
[อ๊ากกกกกกก!]
[ข้าคิดว่าตอนนี้ข้าต้องถอยแล้ว]
[ชะ ช่วยด้วย! ข้าไม่ได้เข้ามาในกองทัพปีศาจแห่งการทำลายเพื่อถูกทูตสวรรค์ฆ่าที่นี่....!]
พวกนักล่าก็ดูจะรู้ว่าพวกมันกำลังเผชิญหน้ากะบอะไรอยู่ ในขณะที่เลียร่าโจมตีพวกนักล่าคลาส 6 ส่วนใหญ่ได้หลบไปหลังกำแพงแล้วและเจ้านั่นก็ถูกปล่อยไว้กันคลื่นการโ๗มตีของเธอ
[ฟูววววว]
ชายคนนั้นได้มองไปที่พลังของเลียร่าด้วยควาทึ่ง
[พวกเขาบอกว่า 'เมื่อคุณเจอเข้ากับทูตสวรรค์กระหายเลือด คุณจะต้องเสียสละทุกๆอย่างเพื่อเอาตัวรอดหรือไม่ก็ตายไปซะ']
[นายนี่พูดมาจังเลยนะ] (เลียร่า)
เลียร่าไม่ได้หยุดแค่นั้น เธอได้เปลื่ยนพลังเวทย์ของเธอให้กลายไปเป็นรูปแบบของพลังชั้นสูงพลังของสวรรค์ด้วยปีกทูตสวรรค์ของเธอ เธอได้ใช้พลังนี้ในการผลักดันตัวเธอเองไปด้านหน้าในขณะที่ขโมยพลังเวทย์มาจากกองกำลังป้องกันที่เอาแต่มองดูเธออย่างตกตะลึง
[ทะ ท่านเลียร่า!]
[สำหรับตอนนี้นายไม่จำเป็นต้องใช้เวทย์ป้องกันแล้ว] (เลียร่า)
พลังเวทย์ที่เธอได้ขโมยมาดูเหมือนจะไหลเวียนไปกับวงแหวนทูตสวรรรค์บนหัวของเธอเป็นศูนย์กลางและมันดูเหมือนจะวังวนที่สร้างขึ้นมาจากพลัง เลียร่าได้พุ่งไปข้างหน้าทั้งแบบนี้เข้าหานักล่าที่อยู่ด้านหน้าทั้งหมด
แม้อย่างนั้นพวกเขาทั้งหมดต่างก็เคยเป็นตำนานในโลกของตัวเองและได้ทะลวงผ่านเข้ามาเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นสูงกันทั้งหมด พวกเขาแต่ละคนต่างก็ใช้วิธีการของตัวเองทั้งหลบ ป้องกัน หรือโจมตีสวนกลับไป มันไม่ได้ใช้เวลานานมากนักจนกระทั่งนักล่าอื่นๆนอกเหนือไปจากคลาส 6 ได้ตายลงไป
หากว่าพวกคลาส 6 ยังพยายามจะต่อสู้อย่างสุดพลังในด้านหลัง งั้นฝั่งทูตสวรรค์ก็จะต้องได้รับความเสียหายอย่างหนัก แต่ว่าพวกเขาทำเพียงแค่มองดูสิ่งที่เกิดขึ้นมาเท่านั้น ไม่สิ พวกเขากระทั่งใช้พรรคพวกของตัวเองที่อยู่ด้านหน้าเป็นตัวบังการโจมตีของเลียร่า
[คุณแข็งแกร่งกว่าข่าวลือซะอีกนะ! ถึงแม้ว่าเมื่อก่อนหน้นี้คุณจะเป็นที่รู้จักเล็กน้อยในด้านศิลปะการต่อสู้ก็ตาม]
[ฉันก็รู้ว่านายเป็นคลาสต่อสู้ระยะประชิด ตอนนี้ก็เข้ามาสิ] (เลียร่า)
ยังไงก็ตามถึงแม้จะถูกเลียร่ายั่วยู แต่เขาก็ยังคงใจเช่นเช่นเดิม อย่างน้อยก็ในภายนอก หลังจากนั้นเขาก็พูดในสิ่งต่อมา
[คุณกลายเป็นแข็งแกร่งได้ยังไงกันล่ะ! อ๊า นั่นมัน สหัสวรรษที่หายไปสินะ?] (TL: อันนี้คือหมายถึงเหตุการ 1000 ปีบนโลกที่ยูอิลฮานใช้ชีวิตบนโลกนะครับ)
[นาย] (เลียร่า)
เลียร่าได้เหวี่ยงหมัดของเธอ นักล่าได้พยายามจะกระโดดถอยหลับหมัดของเธอ แต่ว่าเลียร่าเร็วกว่ามากและคว้าคอเขาไว้ก่อน ท่าทางของชายแทบจะเปลื่ยนไป แต่ว่าเขาก็ยังทนไว้สำเร็จ
[เป้าหมายของนายคือการมาหาฉันตั้งแต่แรกแล้วใช่ไหม?]
[บิงโก]
ชายคนนั้นได้ยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน
[มาร่วมกันเราสิ สำหรับเรากองกำลังแห่งการทำลายจะได้รับชัยชนะเหนือกว่าในความโกลาหลที่กำลังจะมาถึง พวกเราจำเป็นต้องการพลังของเทวทูตที่รู้จักกันดีในฐานะเลียร่า]
[หากว่านั่นคือทุกสิ่งที่นายจะพูดงั้นฉันก็คงต้องผิดหวังแล้ว] (เลียร่า)
เธอได้ปล่อยมือของเธอออกมากำเป็นหมัดและเหวี่ยงมันออกไป เขาได้ยกแขนทั้งสองข้างป้องกันแรงจะหมัดของเธอทันทีซึ่งมันก็ดูจะเป็นศิลปะการต่อสู้เฉพาะตัวของเขาเอง แต่ว่าบางทีอาจจะเป็นเพราะว่าพลังของเขาด้อยกว่าลิต้าทำให้เขาไม่สามารถป้องกันได้โดยสมบูรณ์
[อ๊าา เราต้องการคุณ คุณที่รู้เรื่องโลกมนุษย์เป็นอย่างดี]
[ทำไมนายถึงได้สนใจในโลกเล็กๆแบบนั้นกัน?]
[สหัสวรรษที่หายไปกับการเชื่อมต่อโลกนับไม่ถ้วน โลกเล็กๆนั่นคือศูนย์กลางของทุกๆสิ่ง ทุกๆอย่างมันเปลื่ยนไป!]
ดวงตาของเลียร่าได้สั่นไหวเมื่อได้ยินแบบนี้ แต่ว่าหมัดของเธอไม่ได้หยุดลง จนกระทั่งได้ยินคำพูดต่อไปของชายคนนั้น
[คุณรู้ไหมว่าในตอนนี้้สิ่งมีชีวิตชั้นต่ำที่เป็นคนรักของคุณอยู่ที่ไหนกันน่ะ?]
หมัดของเธอได้สั่นข้นมา มั่นสั่นอย่างมากจนเกิดคลื่นออกมานับไม่ถ้วนซึ่งทั้งหมดต่างก็ระเบิดขึ้นบนร่างของชายคนนั้น
[แค่ก!]
ชายคนนั้นได้ไอเป็นเลือดออกมาในขณะที่ถอยกลับ ในตอนนี้ธอได้ยืนยันถึงศิลปะการต่อสู้ที่ชายคนนั้นมีได้ด้วยการหลบหลีกแล้ว นี่มันเห็นได้จากการที่ชายคนนั้นเพียงแค่ไอออกมาถึงแม้ว่าจะเจอการโจมตีชุดใหญ่ของเธอไปตรงๆ
[ฉันได้รู้แล้วว่าคุณรักเขาจริงๆสินะ? สิ่งมีชีวิตชั้นต่ำที่ทำให้อารมณ์ของสิ่งมีชีวิตชั้นสูงสั่นไหว? มันน่าจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้นี่นา]
[แก หุบปาก!] (เลียร่า)
[มีอีกอย่างนึงนะ]
ชายคนนั้นได้จับหน้าของเขาและยิ้มออกมา
[ความพิเศษของฉันไม่ใช่การต่อสู้ระยะประชิด แต่มันเป็นการเคลื่อนไหว]
[อะไรนะ?] (เลียร่า)
เพียงแค่เธอถามกลับไป ชายคนนั้นก็ได้หายไปแล้ว ปัญหาก็คือเลียร่าได้ตามเขาไป
[เจ้าเวรนี่....!] (เลียร่า)
[ฉันไม่ได้ป้องกันการโจมตีของคุณ ฉันเพียงแค่ส่งพลังนั่นไปที่อื่นเท่านั้นเอง สกิลนี้มันใช้หลอกศัตรูได้ดีทีเดียวดังนั้นข้าจึงต้องเติมเต็มเงื่อนไขบางอย่าง....]
ฉันได้เติมเต็มเงื่อนไขเหล่านั้นจากการคุยกันของเราจนถึงตอนนี้ - ชายคนนั้นได้หัวเราะออกมา
[แก นั่นมันแผนของแก] (เลียร่า)
เลียร่าตระหนักได้ในทันทีว่าพวกเขาอยู่ที่ไหน มันอยู่เหนือกำแพงแห่งความโกลาหล มันดูเหมือนว่ามันจะเป็นไปไม่ได้เลยที่ชายคนนั้นจะเคลื่อนที่ไปด้วยระยะทางไกลมากจนมองเห็นได้แค่จางๆเท่านั้น
[ฉันได้ซ่อนมันเอาไว้จนถึงตอนนี้เพื่อเข้าหาคุณ เป็นไงล่ะ ยอดเยี่ยมใช่ไหม เอาล่ะถ้างั้นฉันขอถามอีกครั้งหนึ่ง]
นักล่าได้มารวมกันจากในทุกกๆด้าน
[มาร่วมมือกับเราเลียร่า มิติทั้งหมดกำลังรอคอยการเปลื่ยนแปลง ความโกลาหลจะกลายมาเป็นกฏเกณฑ์ ชายที่คุณรักมากๆ โอ้ ฉันผิดเอง อย่ามองฉันด้วยหน้าตาน่ากลัวแบบนั้นสิ ตอนนี้เขาอยู่ในกำมือพวกเราแล้ว]
[มังกรในดาเรย์ได้เคลื่อนไหวภายใต้คำสั่งของเรา ในตอนนี้คุณรู้สถานการณ์แล้วสินะ?]
คนทีข่มขู่เธอขึ้นมาในขณะที่มายืนข้างๆชายคนแรกก็คือนักล่าคลาส 6 ที่ถอยไปในคราวก่อน เลียร่าได้แต่หัวเราะออกมาเท่านั้น ตอนนี้เธอรู้แล้วว่ายูอิลฮานอยู่ไหน
[คุณทั้งสองคนสามารถจะมีชีวิตอยู่ได้ เราต้องการจะสนิทกับคุณ ฉันหมายถึงแบบนั้น]
[....ถ้าหากว่าคนรักของฉันถูกจับ งั้นฉันก็ทำอะไรไม่ได้]
เลียร่าได้คลายแขนของเธอออกมา นักล่าทั้งหมดต่างก็ยิ้มขึ้น
[พวกเราจะกลายเป็นพรรคพวกที่ยอดเยี่ยม]
[พวกเรามั่นใจที่จะในตัวคุณ ตอนนี้ก็มาทำมันให้ถูกต้องการไหม?]
เมื่อพวกเขาได้เข้ามาใกล้เลียร่า เธอได้ถอดถุงมือกมาในขณะที่ถอนหายใจ พวกเขาได้โล่งอกที่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่มีเจตนาการต่อสู้เหลืออยู่เลย พวกเขาไม่เคยคิดว่าสกิลมันจะใช้งานได้โดยไม่มีถุงมือ
[ติดคริติคอล!]
พรึบ
เนื่องจากแรงระเบิดขนาดใหญ่ของคลื่นที่ถูกบีบอัดในพื้นที่ระหว่างมัดกับถุงมือทำให้นักล่าคลาส 6 ส่วนมากได้หายไปโดยไม่มีร่องรอยเหลือไว้เลย
นักล่าที่บอกกับเธอว่าเขาสามารถเคลื่อนย้ายพลังงานได้กับนักล่าที่ข่มขู่เธอรวมไปถึงนักล่าคนอืนๆที่อยู่รอบๆเธอได้ถูกทำลายไป มีเพียงคนที่อยู่ไกลเท่านั้นที่เหลืออยู่ เขาได้มองด้วยความตกใจกลัว
[โอ้ โชคดีแหะ] (เลียร่า)
ด้วยข้อความติดคริติคอลที่หน้าต่างข้อความรวมไปถึงค่าประสบการณ์และความสำเร็จของเธอทำให้เลียร่ากระพริบตาและยิ้มออกมาเมื่อพวกนั้นได้หายไป รอมยิ้มของเธอดูน่ากลัวเป็นอย่างมากสำหรับคนที่เฝ้ามองอยู่
[ตอนนี้คุณมีแผนจะทำอะไร?]
นักล่าคลาส 5 ที่รอดอยู่ได้ถามเธออย่างไม่สบายใจ ถึงแม้ว่านับล่าที่ล้อมเธอจำนวนมากเมื่อกี้นี้ก็ยังหายไปได้ในการระเบิดเพียงครั้งเดียวเท่านั้นเอง
เลียร่าก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยดีนักเมื่อดูจากมือที่สั่นของเธอ ทำไมเธอถึงทำเรื่องบ้าบิ่นแบบนั้นกันล่ะ? ถึงแม้ว่าคนรักของเธอจะถูกจับเป็นตัวประกันอยู่นะ!
[อิลฮานของฉันจะไม่มีทางถูกใครจับแน่] (เลียร่า)
เธอได้พูดออกมาแบบนี้เพราะเธอเป็นคนที่ได้ยืนยันถึงพลังในการปกปิดตัวตนของยูอิลฮานเป็นคนแรกในจักรวาลนี้เอง
[อิลฮานกำลังรอฉันอยู่ ดังนั้นฉันจะถูกพวกนายจับไปไม่ได้ไงล่ะ] (เลียร่า)
มือของเธอดูเหมือนจะส่องแสงออกมาอีกครั้งหนึ่งก่อนที่หอกยาวจะถูกสร้างขึ้นมา มันเป็นหอกที่สร้างขึ้นจากพลังที่เหลืออยู่ของเธอ ในเวลาเดียวกันมันก็เป็นแก่นแท้ของพลังสวรรค์
'ถ้าฉันรู้แบบนี้ ฉันก็น่าจะขออาวุธใหม่จากอิลฮานก่อน'
เลียร่าไดโยนถุงมือพังๆทิ้งไปในขณะที่จับหอกด้วยมือของเธอ จากนั้นเธอก็พุ่งเข้าไปในหมู่นักล่าด้วยความกล้าหาญ
[เข้ามาเลย! ฉันจะเปลื่ยนพวกแกให้เป็นขี้เถ้าให้ดู] (เลียร่า)
ในขณะเดียวกันยูอิลฮานที่ม่เคยรู้เลยว่าลิต้ากำลังอยู่ในวิกฤติก็กำลังดึกหอกออกมาอย่างเงียบๆในขณะที่มองไปที่ป้ายที่มังกรปักไว้
[มันบอกว่า 'พูดคุย'] (เอิลต้า)
"มันน่าสงสัยนะ! มันเป็นเรื่องน่ารำคาญแน่นอนเลย ปกติฉัเป็นคนที่ไม่ชอบรับพวกเควสย่อยด้วยสิ เจ้านี่อาจจะเป็นหนึ่งในคนที่เชื่อมโยงเรื่องทุกอย่างก่อนจะเป็นแบบนี้"
[ข้าก็ยังอยากจะทำลายมังกรทั้งหมดทิ้งไป แต่หากมังกรนี่เป็นคนที่ซ่อนเอลฟ์เอาไว้ งั้นข้าก็คิดว่ามันมีค่าพอที่จะคุย] (เรต้า)
[สถานการณ์ในตอนนี้ของคุณไม่ได้ดีนักนะ อย่างน้อยก็ไม่ใช่ว่าคุณควรจะฟังเรื่องราวก่อนหรอ?]
"หืมมม เอลฟ์สินะ"
เรต้ากับเอิลต้าได้พยายามโน้วน้าวให้ยูอิลฮานพูดคุยและพวกเธอก็อยู่ถูกข้าง หากว่าเขาฆ่ามังกรที่นี่งั้นจำนวนมังกรก็จะลดลงแต่หนึ่ง แต่ว่าหากเขาได้อะไรบางอย่างจากมันถ้างั้นสถานการณ์อาจจะเปลื่ยนไปก็ได้
ยูอิลฮานก็ยังคงเชื่อมั่นว่าจะไม่คุยกับมอนสเตอร์จนถึงตอนนี้ แต่ว่าเขาก็ยังไม่คิดที่จะเก็บความเชื่อเอาไว้หากว่าเขาต้องอยูในสถานการณ์ที่ต้องเสี่ยงตาย
นอกไปจากนี้ยังมีเรื่องของสวนอาทิตย์อัสดงอีกด้วย มันคงจะเป็นการโกหกแน่หากจะพูดว่าเขาไม่ได้สนใจในสิ่งที่พวกนั้นกำลังทำในดาเรย์
"ดีล่ะ ไว้ค่อยตัดสินใจหลังจากได้ฟังล่ะกัน"
ยูอิลฮานได้พูดจบและหยิบเอาเสาเข็มขนาดใหญ่ออกมาจากกระเป๋าสะพายทันที... มันคือเสากับฉมวกที่เอาไว้สำหรับล่ามังกรโดยเฉพาะ
[ฮิ้!] (เอิลต้า)
[คุณพิถีพิถันมากจริงๆ.... เท่มากๆ] (เรต้า)
[เท่!? เรต้าเธอปกตินะ!?] (เอิลต้า)
เขาได้ตอกเสาเข็มที่เชื่อมต่อกับฉมวกลงไปรอบๆมังกรที่นอนหลับอยู่ ด้วยการถ่ายโอนน้ำหนักลงไปในเสาทำให้เขาใช้เวลาไม่ถึง 30 วินาทีในการติดตั้งเสาทั้ง 12ต้นลงไปในพื้นดิน จากด้านบนมังดูเหมือนกับวงเวทย์ที่ใช้อัญเชิญอะไรสักอย่างโดยการใช้มังกรเป็นเครื่องสังเวย
"เรียบร้อย"
ยูอิลฮานได้เล็งฉมวกไปที่ตาของมังกรข้างหนึ่ง จากนั้นเขาก็ยกเลิกการปกปิดตัวตน
[อืมมม..... โอ้ววว?]
เมื่อยูอิลฮานได้แสดงตัวตนออกมา มังกรก็ได้ตื่นจากการหลับไหลทันทีและก็ตระหนักได้ถึงสถานการณ์ในตอนนี้
[นี่มันเป็นคำทักทายที่โหดร้าย]
มังกรก็ดูเหมือนจะใช้น้ำเสียงได้เป็นอย่างดีและเสียงของเธอก็เป็นของเพศหญิง แถมยูอิลฮานยังไม่จำเป็นต้องใช้สกิลแปลภาษาเลยเนื่องจากว่าเธอได้ใช้ภาษาอังกฤษของโลก
ดูเหมือนว่ามังกรตัวนี้จะคาดเอาเอาไว้ว่ายูอิลฮานมาจากโลกและเรียนภาษาอังกฤษ แต่ว่าเธอก็ไม่ได้รู้ในพลังของยูอิลฮาน ถ้าแบบนั้นเธอคงไม่เป็นเช่นนี้
ยูอิลฮานได้ตอบกลับไปเป็นภาษาอังกฤษอย่างคล่องแคล่ว
"มังกร ทำไมเธอถึงได้อย่างจะคุยล่ะ?"
[มาปาร์ตี้กันเถอะ]
เมื่อยูอิลฮานได้ตั้งท่าจะขว้างฉมวกมังกรก็ได้ตื่นตระหนกและเหวี่ยงเล็บหน้าของมัน นี่คือคลาส 4 ที่หวาดกลัวคลาส 2
[ฉะ ฉันจะ ฉันจะอธิบายดังนั้นโปรดอย่าโยนมันมาเลย!]
"ฉันกำลังยุ่ง"
[การที่มังกรทั้งหมดพิชิตดาเรย์ได้เกิดขึ้นภายใต้คำสั่งของกองทัพแห่งการทำลาย! ฉันได้รับการเปิดเผยจากสวนอาทิตย์อัสดงที่ได้ให้ความสำคัญกับความสามัคคีและได้ตัดสินใจว่าดาเรย์นั่นจะต้องไม่ถูกทำลาย จึงเกิดการรวมมังกรและเผ่ามังกรที่ติดตามฉันทำการซ่อนเหล่าเอลฟ์เพื่อป้องกันการที่ดาเรย์จะถูกทำลายลงไปโดยสมบูรณ์!]
ยูอิลฮานได้ซึมซับในสิ่งที่ได้ยินมาอย่างรวดเร็ว งั้นมังกรนี่ก็อยู่ฝั่งสวนอัสดงจริงๆ ไม่ เดี๋ยวก่อน ก่อนหน้านั้นล่ะ
"กองกำลังแห่งการทำลาย?"
[ใช่แล้ว องค์กรปีศาตนัก่าที่ใช้ชีวิตอยู่เหนือกำแพงแห่งความโกลาหล - กองกำลังแห่งการทำลาย! พวกมันได้ทำลายดาเรย์ในอดีตและตอนนี้กำลังมุ่งเป้าไปที่โลก!]
ยูอิลฮานได้วางฉมวกลงอย่างระมัดระวัง เขาได้ยืนยันแล้วว่าไม่มีใครอยู่รอยๆอีกก่อนที่จะพูดกับมังกรขึ้น
"มาคุยกันอีกหน่อยเถอะ"