ตอนที่ 359 ไร้เดียงสา (FREE)
เมื่อแม่ทัพคนอื่นๆได้ยินเสียงนั้น พวกเขาถึงได้สติกลับมาอีกครั้ง ทุกคนรีบวิ่งไปที่บ้านหินอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม ...
ตอนที่พวกเขาเข้าใกล้บ้านหินแล้วนั้น พวกเขากลับไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องหยุด
เนื่องจากด้านหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยคนของดินแดนภูเขาทางใต้ พวกเขาแต่ละคนมีผิวสีดำและสวมชุดเกราะหวาย
"หลบไป!" แม่ทัพที่นำทุกคนมาตะโกนทันที
"ทำไม? พวกเจ้าต้องการอะไร?"ผู้อาวุโสอายุราว 50 ปี สวมเกราะหวายและสวมหมวกหนังสัตว์เดินเข้ามา
"ข้ารู้ว่าท่านคือหัวหน้าถิ่น แม่ทัพของพวกเราถูกซุ่มโจมตีโดยคนอื่น ท่านช่วยบอกให้พวกเขาหลีกทางไปหน่อย!"เมื่อแม่ทัพเห็นหน้าของผู้อาวูโสคนนี้ก็รู้ในทันทีว่าเขาเป็นหัวหน้าถิ่นฐาชสีห์คำราม น้ำเสียงของเขาสุภาพขึ้นมาทันที
"แม่ทัพเฉิน ถูกลอบโจมตี? งั้นท่านก็ควรรีบอ้อมไปทางตะวันออก" เมื่อหัวหน้าถิ่นได้ยินคำพูดของแม่ทัพคนนี้ เขากังวลขึ้นมาในทันที
"อ้อม!?"การแสดงออกของแม่ทัพเต็มไปด้วยความสับสนและตกใจ
"ถูกต้อง ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ขณะนี้เรากำลังทำพิธีขอฝนอยู่ มันจะเป็นตัวกำหนดผลผลิตของเราในปีนี้ พวกท่านก็รู้ว่านี่เป็นวัฒนธรรมของดินแดนภูเขาทางใต้ ถ้า ... " หัวหน้าถิ่นอธิบายด้วยความอดทน
"หยุด! ตอนนี้เราก็ลังรีบไปช่วยแม่ทัพของพวกเรา ข้ามั่นใจว่ามันคงไม่สายเกินไปที่จะหยุดพิธี ท่านค่อยเริ่มใหม่หลังพวกเราผ่านไปแล้วก็ได้!"
"ข้าเกรงว่าคงเป็นไปไม่ได้ พีธีกรรมของพวกเราได้เริ่มไปแล้ว เราจะรู้ได้ยังไงว่าแม่ทัพของพวกท่านถูกโจมตี?เมื่อพิธีเริ่มต้นแล้ว ไม่สามารหยุดกลางคันได้ แท่นบูชาเองกก็ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ ไม่งั้นพวกเราคงถูกสวรรค์ลงโทษแน่นอน นอกจากนี้..." หัวหน้าถิ่นยังคงพูดความคิดของตัวเองออกมาเรื่อยๆ
"เข้าใจแล้ว เข้าใจแล้ว ท่านไม่ต้องพูดอะไรอีก!"
แม่ทัพแต่ละคนเหลือบมองหน้ากันด้วยความพูดไม่ออก เพราะพวกเขาไม่มีอำนาจที่จะพูดอะไรออกมาที่เป็นการขัดแย้งต่อดินแดนภูเขาทางใต้ได้
ถึงแม้ดินแดนภูเขาทางใต้นั้นจะเป็นรัฐบรรณาการของอาณาจักรเซี่ย และต้องส่งของบรรณาการให้ทุกปี ห้ามให้มีการเรียกว่าจักรพรรดิ เรียกได้แค่ราชาเท่านั้น แต่ที่นี่นั้นต่างจากรัฐบรรณาการทั่วๆไป
ดินแดนภูเขาทางใต้นั้นเต็มไปด้วยนักรบที่กล้าหาญละน่าหวาดหวั่น พวกเขาถือเป็นพันธมิตรที่ดีที่สุดของอาณาจักรเซี่ย
แน่นอน...
ว่าพวกนี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญที่สุด สิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้คือพวกเขาจะมามัวเสียเวลาเถียงกับหัวหน้าถิ่นไปไม่ได้อีกแล้ว
"เร็วเข้า อ้อมไปทางตะวันออกด้านข้างบ้านหิน!"
"รับทราบ!"
ทหารทุกคนเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่รู้เลยว่าที่ฝั่งตะวันออกของบ้านหินเอง ก็มีพิธีการสำคัญอีกอย่างหนึ่ง
...
ฟาง เจิ้งจือ มองไปที่ เฉิน เฟยยู่ ที่กำลังหลบและกระโจนไปมาอย่างต่อเนื่อง ใบหน้าของเขาปรากฎรอยยิ้มจางๆ ก่อนจะนำเก้าอี้ตัวหนึ่งออกมา
"ไม่เลว เป็นการเคลื่อนไหวที่งดงาม!"
"ระวังด้านซ้ายของเจ้าให้ดี ... โอ้ ข้าเตือนเจ้าแลวนะ!"
"มีหมาป่าเขาเงินสองตัวกำลังรอซุ่มโจมตีเจ้าอยู่ ระวังด้วยละ! เห้อ ...โลกนี้ช่างตลกจริงๆ? เจ้าเชื่อในสิ่งที่ศัตรูพูด? ไม่ไร้เดียงสาไปหน่อยรึ?"
ฟาง เจิ้งจือ ให้คำแนะนำอยู่ด้านข้าง เขาดูไม่ได้รีบร้อน
ในหัวใจของ เฉิน เฟยยู่ การกระทำของ ฟาง เจิ้งจือ นั้นเหมือนเป็นการลอบโจมตี อย่างไรก็ตามในใจของ ฟาง เจิ้งจือ กลับคิดอีกแบบ
อะไรคือการลอบโจมตี?
เขาจะใช้มันเมื่อโจมตีในดินแดนของคนอื่นเท่านั้น!
ถิ่นฐานราชสีห์คำรามเป็นของ เฉิน เฟยยู่ งั้นรึ? แน่นอนว่าไม่! คนที่ควบคุมหัวหน้าถิ่นคือ ฟาง เจิ้งจือ ดังนั้นเขาจึงถือเป็นเจ้าของที่แท้จริง
ดังนั้น
การที่เข้าโจมตีใครในดินแดนของตัวเองนั้นเรียกว่าการลอบโจมตี?
แน่นอนว่าไม่! มันเรียกว่าการจับผู้ทำผิดเข้าคุกต่างหาก
เฉิน เฟยยู่ รู้สึกเสียใจอย่างมากในตอนนี้ เขากัดฟันแน่น พยายามเอาชีวิตรอดให้นานที่สุดต่อให้ร่างกายของเขาจะเจ็บปวดแค่ไหนก้ตาม
อย่างไรก็ตาม เขาเชื่อว่าทหารของเขาจะมาทันเวลา
แต่หลังจากผ่านไปกว่าครึ่งชั่วโมง แม้แต่เงาของทหารสักคนเขาก็มองไม่เห็น
พวกเขาหลับกันไปหมดแล้ว?
เฉิน เฟยยู่ ไม่สามารถยอมรับเรื่องนี้ได้ เขาไม่สามารถรับได้จริงๆ
ตอนแรกเขาเชื่อว่าคนที่อยู่ในระดับอภินิหารนั้นราวกับคนที่ยืนอยู่บนยอดเขาและก้มลงมองคนธรรมดาๆที่ด้านล่าง
อย่างไรก็ตามในความเป็นจริง?
เขาไม่มีเวลาแม้แต่จะอธิบายพลังของตัวเองต่อนหน้าทหาร แต่ดูเหมือนเขาจะถูกจับ? ยิ่งกว่านั้นเขากำลังจะถูกจับโดยกลุ่มทหารหมาป่าเขาเงินของดินแดนภูเขาทางใต้
"ตัวต่อตัว ข้าต้องการจะสู้ตัวต่อตัว ข้าอยู่ในระดับอภินิหาร!"เฉิน เฟยยู่ ตะโกนดังขึ้น
"เห้อ...เจ้ามันไร้เดียงสาจริงๆ!" ฟาง เจิ้งจือ ส่ายหัวเบาๆ จากนั้นเขาก็เหลือบมองไปทาง เฉิน เฟยยู่ ในชั่วพริบตาหมาป่าทั้งหมดก็หอนออกมาพร้อมกัน
"อ๊าก!!!""เสียงกรีดร้องดังตามมา
เลือดที่ไหลออกมาอย่างไม่สามารถควบคุมได้จากมือของ ฟาง เจิ้งจือ เพราะมีหมาป่า 4 ตัวกัดที่ขาและแขนของเขาอยู่ ขณะเดียวกันโซ่สีดำก็ถูกโยนออกมา
การที่ถูกมัดมือไว้ที่หลัง ยังไม่เพียงพอที่จอธิบายความเวทนาของ เฉิน เฟยยู่ ในตอนนี้ได้
ร่างกายของเขาถูกมัดด้วยโซ่สีดำ ถ้าไม่มีใครสังเกตุให้ดีๆ เขาไม่มีทางรู้เลยว่านี่คือมนุษย์ที่ยังมีชีวิตอยู่
"เอาเขาลงมา" ฟาง เจิ้งจือ โบกมือเบาๆ
"ไม่ ฟาง เจิ้งจือ เจ้าทำแบบนี้ไม่ได้ ข้าอยู่ในระดับอภินิหารนะ ข้าเป็นที่ 1 ของการทดสอบต่อสู้ระดับสภา!" เฉิน เฟยยู่ ยังคงพยายามพูดออกมา อย่างไรก็ตามเขารู้ชัดเจน
แม้เขาจะใช้ความแข็งแกร่งของตัวเองทำลายโซ่ที่มัดอยู่ได้ แต่เขาก็จะถูกจัดการอีกครั้งแน่นอน
มันไม่มีประโยชน์!
ตอนที่ ฟาง เจิ้งจือ ได้สั่งให้ทหารหมาป่าเขาเงินทั้ง 500 นายโจมตี เขารู้ว่าทุกอย่างได้จบลงแล้วความฝันของเขาถูกทำลายอีกครั้ง
อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถยอมรับเรื่องนี้ได้
ตั้งแต่เด็กเขาไม่เคยเก่งที่สุดเลย เขาไม่เคยได้รับความสนใจจากคนอื่นแม้แต่น้อย เขาต้องทนทุกข์ทรมารมาหลายปี เขาคิดว่าครั้งนี้ทุกอย่างจะเปลี่ยนไป
เพราะเขาได้เข้าสู่ระดับอภินิหารแล้ว มันเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขที่แท้จริง
อย่างไรก็ตาม ...
ดูเหมือนสวรรค์จะส่งกำปั้นหนึ่งมาชกหน้าเขาอย่างจัง
เขาวางแผนทุกอย่างไว้เรียบร้อย เขากำลังรอการมาถึงของช่วงเวลาที่จะได้จัดการ วู่ เฟิง แต่ทันใดนั้น ฟาง เจิ้งจือ ก็โผล่มา
ความฝันของเขาที่จะทำให้ชื่อเสียงของตัวเองกระจายไปทั่วโลกแตกสลายไปในพริบตา
เขาตกลงมาจากยอดเขาสู่พื้นดิน มันเจ็บปวดมาก เจ็บมาก...
"ฟาง เจิ้งจือ ได้โปรด มาคุยดีๆกันก่อน... ตราบเท่าที่เจ้าไม่กำจัดข้าออกจากการทดสอบ ข้ายินดีทำทุกอย่างตามที่เจ้าต้องการ!" เฉิน เฟยยู่ พูดในสิ่งที่เป็นความหวังสุดท้ายของตัวเองออกมา
"จริงรึ?" ฟาง เจิ้งจือ มอง เฉิน เฟยยู่ ด้วยความสนใจ
"ใช่ตราบเท่าที่เจ้าคือถิ่นฐานราชสีห์คำรามและกองทัพให้ข้า ข้าจะยอมรับข้อตกลงทุกอย่างของเจ้า!"ดวงตาของ เฉิน เฟยยู่ เป็นประกายอีกครั้ง เมื่อเห็น ฟาง เจิ้งจือ ถามกลับมา
"เจ้ามันไร้เดียงสาจริงๆ ทหารพาเขาไปไกลๆข้าที!"
"ไม่! ข้าจะมอบถิ่นฐานราชสีห์คำรามให้เจ้า ข้าไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว เพียงแค่เจ้าให้กองทัพของข้าคืน " ท่าทีของ เฉิน เฟยยู่ เปลี่ยนไปทันที ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความกังวลอีกครั้ง
"พาเขาไป!"
"แม้แต่กองทัพข้าก็ไม่ต้องการ ข้าไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น ข้าหาทางเองได้ ข้าสามารถลุกขึ้นยืนอีกครั้งด้วยตัวเอง ข้ายังจะมอบเงินให้เจ้าด้วยนะ เจ้าไม่ชอบเงินหรือ? ไม่ว่าเจ้าต้องการมากแค่ไหน ข้าจะหามาให้เจ้า ข้าเป็นผู้สืบทอดจาก 13 ตรวจการ เป็นลุงของเหล่าองค์ชาย ข้ามีเงิน มีเงินเป็นจำนวนมาก" น้ำเสียงของ เฉิน เฟยยู่ ราวกับกำลังวิงวอนข้อร้อง ฟาง เจิ้งจือ
เขาต้องการเป็นคนที่ทุกคนรู้จัก เขารอมานานแล้ว ตอนนี้เขาต้องมองโอกาสของเขาหลุดลอยไปกับตา
เขาจะยอมรับได้อย่างไร!
"ลุงขององค์ชาย?"เมื่อ ฟาง เจิ้งจือ ได้ยิน ดูเหมือนเขาจะเปลี่ยนความคิดเล็กน้อย
"ใช่แล้ว พี่สาวของข้าเป็นสนมขององค์จักรพรรดิ ซึ่งเขารักพี่สาวข้ามาก ข้ามีศักดิ์เป็นลุงขององค์ชาย ฟาง เจิ้งจือ ถ้าเจ้ากล้าตัดข้าออก ข้าจะไม่มีทางปล่อยเจ้าไว้แน่ถ้ากลับไปที่อาณาจักรเซี่ย!" เฉิน เฟยยู่ มองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ เพราะเขาได้นึกบางอย่างออกในทันที
"เจ้ากล้าขู่ข้า? ฟาดเขาซะ ฟาดจนฟันทุกซีกของเขาตกลงมาที่พื้น!"
"อ่า ... ไม่นะ ข้าไม่กล้าข่มขู่เจ้าแล้ว ฟาง เจิ้งจือ เรามาเป็นพันธมิตรกัน ด้วยความสามารถของข้าต้องสามารถช่วยเจ้าได้แน่นอน เจ้าเชื่อข้าได้!"เฉิน เฟยยู่ ไม่เคยเห็นคนแบบ ฟาง เจิ้งจือ มาก่อน
เขากล้าที่จะสั่งให้ทหารทำร้ายข้าทั้งๆที่รู้ว่าข้าเป็นลุงของเหล่าองค์ชายในวัง?
เขาหาญกล้าเกินไปแล้ว!
"โอ้? เจ้าจะช่วยข้ายังไงละ?"ฟาง เจิ้งจือ หันไปหา เฉิน เฟยยู่ ด้วยความสนใจอีกครั้ง
"ข้าสามารถท้าทาย วู่ เฟิง ต่อสู้ได้ จากนั้นต่อหน้าทหารนับหมื่น สัญญากันว่าใครแพ้จะต้องเสียทหารของตัวเองไป สิ่งที่เจ้าต้องทำคือรอรับผลประโยชน์เท่านั้น เป็นยังไงล่ะ?"
"แล้วหลังจากที่เจ้าชนะ วู่ เฟิง ก็หันหลังกลับมาสู้กับข้าต่ออย่างนั้นรึ?"
"ไม่ ข้าจะไม่โจมตีเจ้า หลังจากที่ข้าได้รับทหารของ วู่ เฟิง มาแล้ว ข้าจะถอยไปที่ เหยียน เยว่ และ ฉือ ซุน ข้าจะไม่เป็นศัตรูกับเจ้าแน่นอน!"เฉิน เฟยยู่ พูดอย่างมั่นใจ
"เข้าใจแล้ว" เมื่อ ฟาง เจิ้งจือ ได้ยินเรื่องนี้ เขาก็พยักหน้าเบาๆ
"เจ้า...เจ้าเห็นด้วย?"
"ไม่ ข้าแค่รู้สึกว่าแผนของเจ้าค่อนข้างแย่ คงไม่มีใครเชื่อเจ้าหรอก" ฟาง เจิ้งจือ ยิ้มออกมาเล็กน้อย
"... " ดวงตาของ เฉิน เฟยยู่ หมุนติ้วก่อนจะจ้องที่ ฟาง เจิ้งจือ อีกรอบ ปากของเขาเดี๋ยวปิดเดี๋ยวเปิด อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้พูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว
"พาเขาไปขังไว้ อย่าลืมให้ขนมปังทุกมื้อแก่เขาด้วยนะ พวกเราจะทำร้ายแขกของตัวเองได้ยังไงล่ะ?" ฟาง เจิ้งจือ พูดด้วยความใจกว้าง
"ฟาง เจิ้งจือ...ข้า เฉิน เฟยยู่ ขอสาบานว่าไม่เจ้าก็ข้า...!"
"ลุงขององค์ชาย? ไร้เดียงสาจริงๆ... " ฟาง เจิ้งจือ มองไปที่ เฉิน เฟยยู่ ที่หน้ากลายเป็นสีแดงด้วยความโกรธแต่ก็ไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้ จากนั้นเขาก็ส่ายหัวเบาๆ
เพจหลัก : Double gate TH