ตอนที่ 34 ผู้ทำลายชมรม
ตั้งแต่ที่ชิอากิบอกเขาว่าไม่จำเป็นต้องรีบตอบจดหมายพวกนั้นกลับไปในทันที เซจิก็ได้เอามันใส่ไว้ในกระเป๋าสะพายหลังไว้ชั่วคราวและตัดสินใจที่จะไปหาพวกเธอในช่วงพักกลางวัน
ในระหว่างคาบเรียน
ในขณะที่อยู่ในผลกระทบของตัวเลือก [การเรียน] ของระบบของเขา เซจิรู้สึกเหมือนถูกมองอยู่ด้วยความรู้สึกที่รุนแรง และเมื่อเขามองตามสัญชาตญาณเขาก็ได้สังเกตเห็น... ผู้ชายผมสีม่วง
เขาคนนั้นคือทาคาชิ โคบายาชิ
เขาและโคเฮ วาตาริเข้ามาเรียนเหมือนปกติ พร้อมกับผ้าพันแผลตามร่างกายของพวกเขา ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่ได้รับบาดเจ็บร้ายแรง เพื่อนร่วมชั้นก็ไม่ได้ใส่ใจพวกเขามากนัก ในฐานะอันธพาลเป็นเรื่องปกติที่พวกเขาได้รับบาดเจ็บเป็นครั้งคราว
เมื่อทากาชิสังเกตเห็นเซจิที่มองกลับมาที่เขา เขาก็หันกลับไปและทำท่ามองไปทางอื่น
เซจิรู้สึกสับสนเล็กน้อย โคบายาชิเป็นหนึ่งในเพื่อนร่วมชั้นที่เขาเคยช่วยชีวิตเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆธรรมดาๆก็ตาม แต่ที่เห็นได้ชัดว่าเขาก็ได้ช่วยเพื่อนร่วมชั้นสองคนนั้น และทำได้ดีซะด้วย
ตอนนั้นเขาสวมหน้ากากไว้อยู่... และไม่มีตำรวจหรือผู้ชายชุดสูทสีดคนไหนมาตามหาเขาในวันช่วงสุดสัปดาห์นี้เลย
เมื่อเขาได้ลองค้นหาเหตุการณ์ในอินเทอร์เน็ตดู เขาก็พบวิดีโอที่พวกคนดูบางคนได้ใช้มือถือของพวกเขาถ่ายไว้ แต่เนื่องจากภาพในวิดีโอนั้นดูเกินจริงไปหน่อย และผลสุดท้ายก็ทำให้ชาวต่างชาติส่วนใหญ่คิดสงสัยถึงความเป็นจริงในวิดีโอนี้หลายมุมมอง
แม้แต่คนที่เขียนบล็อกเองก็มีน้อยลงไปเรื่อยๆ จึงไม่ได้ทำให้เกิดระลอกใดๆขึ้นเลย
ไม่ได้มีอะไรที่พิเศษเกิดขึ้น ฮีโร่ที่สวมหน้ากากไม่ได้เป็นที่นิยมในชั่วข้ามคืนหลังจากที่ได้กระทำการเพียงแค่ครั้งเดียวหรอกน่ะ
เซจิคิดว่าเหตุการณ์แบบนี้ได้มาถึงบทสรุปอย่างสมบูรณ์แล้ว
แต่ตอนนี้ทากาชิ โคบายาชิก็กำลังมองดูเขาอย่างเงียบๆ
แล้วถ้า... เขาถูกเปิดเผยล่ะ!?
เซจิรู้สึกเครียดมาก โคบายาชิรู้ว่าเป็นเขางั้นเหรอ? นี้มันเป็นสัญชาตญาณหรือการคิดไปเองของโคบายาชิเท่านั้นเหรอ? หรือว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญ? และถ้าโคบายาชิเองก็ไม่ได้คิดอะไร ทำไมเขาถึงมองมาที่เซจิล่ะ?
แม้ว่าเขาจะรู้แล้ว... เขาก็น่าจะมาหาเขาเลยจริงไหม? เขาเป็นคนช่วยพวกเขาไว้ ดังนั้นมันจึงไม่มากไปใช่ไหมที่จะขอให้พวกเขาปกป้องความลับของเขาไว้นะ... ใช่หรือเปล่า?
'ลองสังเกตสถานการณ์ดูก่อนดีกว่า ค่อยตัดสินใจที่หลัง'
เซจิได้ตัดสินใจที่จะหยุดคิดเรื่องนี้ไว้ เพราะว่าเขาไม่รู้จักแรงจูงใจที่แท้จริงของทาคาชิ โคบายาชิ
หลังเลิกเรียน
ทาคาชิ โคบายาชิไม่ได้พยายามเข้าใกล้กับเซจิเลย เซจิลุกขึ้นมองดูสิ่งที่เขากำลังทำอยู่ และพบว่าเขาคุยกับโคเฮ วาตาริเหมือนปกติ และดูไม่มีอะไรที่ผิดปกติเลย
เซจิหยุดสังเกตพวกเขาและกำลังจะลุกขึ้นไปห้องน้ำ
ขณะที่เขาเดินออกจากห้องเรียน ก็มีผู้ชายตัวสูงและแข็งแรงเดินขึ้นเขามาที่เขา
เซจิไม่ได้แนคนตัวเตี้ย แต่นี้... รุ่นพี่เหรอ? ผู้ชายที่ตัวสูงนี้สูงกว่าเซจิอย่างน้อยครึ่งหัว และเขาก็ดูโหดเหมือนหมีเลย
เซจิมองไปที่ผู้ชายที่ตัวสูงคนนั้น แต่เซจิก็ไม่ใช่คนที่ชอบสอดรู้สอนเห็นเรื่องของคนอื่น ดังนั้นเขาจึงเดินหลบไปข้างๆ ผู้ชายที่ตัวสูงคนนั้น
ถึงอย่างนั้นเขาก็ถูกสกัดไว้
"นาย... นักเรียนที่ย้ายมาใหม่ในตำนาน เซนโจ ฮาราโนะสินะ?" รุ่นพี่ถามออกมา
ตำนาน... ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เขากลายเป็นตำนาน!? เซจิรู้สึกตกใจแบบสุดๆ
"ฉันคือกัปตันทีมฟุตบอล ไดคิ ทากากิ " ก่อนที่จะให้เซจิมีโอกาสตอบสนองได้มัน รุ่นพี่ที่ดูแข็งแรงและตัวสูงคนนี้ ก็ยังคงพูดต่อไปว่า "หลังจากได้ยินเกี่ยวกับการทำลายของนาย กับชมรมเทนนิสและบาสเกตบอลนั่นแล้ว ฉันมั่นใจว่านายต้องเป็นคนที่ชมรมฟุตบอลกำลังมองหาอยู่แน่นอน!"
"…อะไรนะ?" เซจิกระพริบอย่างกะทันหัน
* ตุบ! * รุ่นพี่ทากากิวางแขนใหญ่ๆของเขาไว้บนบ่าขอรุ่นน้อง
"เราขอให้นายช่วยเข้าร่วมกับชมรมฟุตบอลของเราด้วย เราไม่ใช่ชมรมที่ไร้ความสามารถอย่างชมรมเทนนิสและบาสเกตบอล เราทุกคนมีความกระตือรือร้นและมุ่งสู่ทีมชาติ เอาล่ะผู้ชายที่น่าหลงใหล มาเลย ไปสู่ทีมชาติร่วมกับเรา และการใช้ความเลือดร้อนของนายกับมันซะ!"
เสียงของเขาดังก้องและเต็มไปด้วยจิตวิญญาณที่ร้องแรง
ทุกคนในชั้น และบริเวณห้องโถงจะได้ยินสิ่งที่เขาพูดอย่างชัดเจน
"นั่นคือ รุ่นพี่ทากากิจากชมรมฟุตบอลนิ... เขามาที่นี้เพื่อชวนฮาราโนคุงอย่างงั้นเหรอ?"
"ตามที่คาด ตั้งแต่ที่ฮาราโนะคุง มีความสามารถทางด้านกีฬา... ฉันก็ได้ยินมาว่าเขาได้ทำให้สองชมรมนั้นพ่ายแพ้แก่ตัวเองมาด้วยนะ!"
"ฉันเองก็เคยได้ยินมาบ้างนะ อืม- เป็นความจริงหรือเปล่าที่ชมรมเทนนิสและบาสเกตบอลถูก... "
"มันถูกต้องแน่นอน มันเกิดขึ้นกับชมรมเทนนิสและทำให้ขวัญกำลังใจของชมรมบาสเก็ตบอลล่วงเป็นหินเลยล่ะ!"
"ว้าว มันฟังดูคล้ายอะไรที่มีแต่ฮาราโนะคุงเท่านั้นที่สามารถทำได้เลยล่ะ~"
"เขาเป็นคนที่ผู้ทำลายชมรมต่างๆจริงๆ... "
ตอนนี้ผู้คนรอบข้างกำลังซุบซิบกันอย่างลับๆ
'ข่าวลือแบบนั้น มันเริ่มขึ้นตั้งแต่ตอนไหนกัน?' เซจิรู้สึกแอบประหลาดใจ
เขาได้คาดการณ์ไว้ว่าเขาอาจจะกลายเป็นที่คนที่น่าขายหน้า ในการแข่งขันกับชมรมเทนนิสและบาสเกตบอล แต่ว่า... ผู้ทำลายชมรมอะไร? นั้นมันชื่อเล่นบ้าอะไรกัน!?
ดูเหมือนว่าเขาจะได้กลายเป็นสัตว์ประหลาดในตำนานแบบที่คาดไม่ถึงไปแล้ว...
รุ่นพี่ทากากิยังคงจ้องมองมาที่เซจิด้วยความหวังที่ส่องประกายอยู่ในดวงตาของเขา
เซจิค่อยๆเปิดปากและกำลังจะพูดอะไรบางอย่างออกมา ก็มีเสียงอื่นดังขึ้นเข้ามาขัดจังหวะ
"ปล่อยเขาไป ทาคากิ นักเรียนที่ย้ายมาใหม่ในตำนานนี้ควรจะอยู่กับชมรมวอลเลย์บอลของเราต่างหาก!"
ชายหนุ่มที่สูงและเรียวยาวที่อยู่ในชุดกีฬา ที่มีหน้าตาสดใสและหล่อเหลา และถักเปียผมหางม้าก็ปรากฏตัวขึ้นมา
"ชมรมฟุตบอลของนายมีทีมที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว ไม่ใช่ว่านายต้องการนักเรียนใหม่นี้ใช่หรือเปล่า นายตั้งใจจะทำให้นักเรียนปีหนึ่งคนนี้เป็นทีมตัวสำรองหรือไง คนที่พรสวรรค์อย่างฮาราโนะจะกลายเป็นตัวสำรองเนี่ยนะ?"
รุ่นพี่ผมหางม้าหัวเราะอย่างเย็นชาและใช้คำพูดเพื่อโจมตี
"ชมรมวอลเลย์บอลของเรานั้นต่างออกไป เรายังขาดความสามารถที่แข็งแกร่งและน่าเชื่อถือ ฮาราโนะคุงสามารถเข้าร่วมกับชมรมของเราได้ และแข่งขันกับผู้สมัครคนอื่นๆได้ตราบเท่าที่เขาพิสูจน์ได้ว่าเขามีพรสวรรค์เพียงพอ เราก็ไม่มีปัญหาที่จะให้เขาในการเข้าร่วมในการแข่งหลัก ทุกอย่างในชมรมของเราตัดสินตามพรสวรรค์ ฮาราโนะคุงผมคือกัปตันทีมวอลเลย์บอล โชตะ อิงูจิ ผมขอร้องให้นายได้โปรดเข้าร่วมกับชมรมวอลเลย์บอลของเราด้วยเถอะ!" รุ่นพี่อิงูจิพูดออกมาขณะที่เขาแสดงรอยยิ้มที่สดใสของเขา
เรื่องนี้ทำให้เซจิถึงกับพูดอะไรไม่ออก
"เฮ้ ดูเหมือนว่าฉันจะมาปาร์ตี้นี้ไม่ทันนะ แต่ก็คงไม่สำคัญหนอก ยังไงฉันเชื่อว่านักเรียนที่ย้ายมาใหม่ในตำนานคงจะตัดสินใจอย่างถูกต้องแน่นอน"
อีกครั้งที่มีรุ่นพี่ได้ปรากฎตัวขึ้นมา เขามีผมที่สั้น และทำผมแหลมแบบตรงปลาย
"สำหรับคนที่มีพรสวรรค์อย่างฮาราโนะที่มีความแข็งแกร่งที่น่าทึ่งแบบนี้ ชมรมกรีฑาเป็นที่ที่ดีที่สุดสำหรับเขาในการใช้ความสามารถของเขา ซึ่งแตกต่างจากทีมกีฬาเช่นวอลเลย์บอลหรือฟุตบอล กรีฑามีทั้งประเภทบุคคลและทีม กีฬาแบบนี้เป็นสิ่งที่เหมาะสมที่สุดสำหรับผู้ที่ยอดเยี่ยมอย่างฮาราโนะคุง เพื่อที่จะได้แสดงความสามารถที่แท้จริงของเขาออกมา เขาสามารถช่วยยกระดับทีมได้ทั้งหมด รวมทั้งเข้าร่วมการแข่งขันแต่ละรายการโดยไม่ต้องกังวลว่าเพื่อนร่วมทีมจะเป็นภาระให้กับเขาจะมีมากจนเกินไปได้ นั่นเป็นเหตุผลที่นายควรจะมาที่ชมรมกรีฑาของเรานะ ฮาราโนะคุง จริงๆแล้วฉันคือกัปตันทีมชมรมกรีฑา โคโกโร่ ฟูจิโมโตะ ขอให้สัญญาว่านายจะสามารถส่องประกายที่งดงามแน่ในชมรมกรีฑาแน่นอน! " รุ่นพี่ฟูจิโมโตะพูดอย่างแข็งขันและเปรี่ยมไปด้วยกำลังใจที่ยอดเยี่ยม
เซจิไม่รู้ว่าตอนนี้เขากำลังทำท่าทางแบบไหนอยู่
"วอลเลย์ บอลฟุตบอล และกรีฑา กัปตันทีมทั้งหมดมาอยู่ที่นี้... พวกเขาเป็นกัปตันทีมชมรมสำคัญๆทั้งนั้นเลยนิน่า!"
"นี้เป็นความสามารถที่แท้จริงของฮาราโนะคุงอย่างนั้นเหรอ? ผู้ทำลายชมรม... "
"ฮาราโนะคุงสุดยอดมาก นี้เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นอะไรแบบนี้เลยนะ~"
"แล้วเขาจะเลือกเข้าชมรมไหนกันล่ะ?"
ผู้ชมยังคงพูดซุบซิบกันต่อไปอีกเรื่อยๆ
"ฮาราโนะคุง! ได้โปรดเข้าร่วมกับชมรมของเราด้วย!" เสียงทั้งสามเสียงดังขึ้นพร้อมๆ กัน
รุ่นพี่แต่ละคนมีบรรยากาศที่รุนแรง ทำให้เขารู้สึกหายใจไม่ออก
'ใครก็ได้ช่วยฉันที!' เซจิตะโกนร้องในจิตใจ
...
ถึงแม้จะต้องใช้ความพยายามมาก แต่ในที่สุดเซจิก็สามารถหาเหตุได้ว่าเขาไม่ได้สนใจที่จะเข้าร่วมชมรมใดๆเลย และให้กัปตันทั้งสามคนได้ให้เขาอยู่ตามลำพัง
อย่างไรก็ตามชมรมอื่นๆยังคงมาหาเขาอยู่ดี
เบสบอล ว่ายน้ำ ฟุตบอล ปั่นจักรยาน ยกน้ำหนัก มวยปล้ำ ยิมนาสติก ปีนเขา แฮนด์บอล ปิงปอง แบดมินตัน... ทุกๆชมรมกีฬาที่เขาคิดออกก็ได้เชิญเขาไปร่วมด้วย!
กัปตันชมรมส่วนใหญ่ได้มาเชิญด้วยตัวเขาเอง ขณะที่คนอื่นๆ เป็นรองกัปตันหรือผู้จัดการทั้งหมด แม้แต่ชมรมแปลก ๆ อย่างชมรมออกกำลังกาย ชมรมไอดอล ชมรมงานสาธารณะและชมรมพ่อบ้านเองก็มาหาเขาด้วยเช่นกัน
'โรงเรียนนี้มีหลายชมรมจังเลยแฮ่ะ... ' เซจิคิดขณะที่เขาฟุบล้มลงบนโต๊ะ
"ฮ่าๆ นายนี้เป็นที่นิยมจริงๆเลยนะ เซนโจ! นายตกเป็นเป้าหมายของชมรมกีฬาทุกๆชมรมแล้ว~" ชิอากิผู้ซึ่งไม่สามารถหยุดหัวเราะ "แต่ความแข็งแกร่งของนายก็เหมือนกับสัตว์ประหลาดจริงๆล่ะนะ ทั้งปฏิกิริยาตอบโต้ที่ไม่น่าเชื่อของนาย มันเหมือนกับนายได้บดขยี้ฝ่ายตรงข้ามของนายในชมรมเทนนิสและชมรมบาสเกตบอลด้วยความสามารถทางกายของนายอย่างหมดจด แม้ว่าเทคนิคของนายจะไม่ถึงขีดสุดก็ตาม ตราบเท่าที่นายได้เข้าใจเทคนิคของการเล่นกีฬาแบบต่างๆ นายก็อาจจะกลายเป็นเอซของชมรมนั้นได้เลย หรือแม้เป็นกระทั่งเอซในหมู่เอซก็ได้! ตราบใดที่นายไม่ได้มีเพื่อนร่วมทีม นายก็น่าจะได้รับรางวัลค่อนข้างง่ายเลยนะ~"
มิกะที่อยู่ข้างๆก็พยักหน้าอน่างเงียบๆ ดูเหมือนว่าเธอเห็นด้วยกับสิ่งที่ชิอากิพูด
"แต่ตอนนี้ ผมไม่ต้องการที่จะเข้าร่วมชมรมไหนเลยจริงๆนิ... " เซจิพูดครวญครางจากบนโต๊ะ
ในฐานะที่เป็นโอตาคุ เป็นธรรมดาที่ของเขาไม่ขอบเรื่องกีฬา- การออกกำลังกายทั้งหมดที่เขาทำไว้ก่อนหน้านี้ทั้งหมดก็เพื่อเพิ่มค่าสถานะของเขาเท่านั้น การไปที่ชมรมเทนนิสเพื่อทดสอบความแข็งแรงที่เพิ่งค้นของเขา และการไปชมรมบาสเกตบอลเองก็มีจุดประสงค์ใช้ฟามก็เท่านั้น
การเข้าร่วมกับชมรมโดยไม่ได้มีเรื่องกีฬาเข้ามาเกี่ยวข้องนี้... นั่นจะทำให้เขารู้สึกแย่และรู้สึกไม่สุภาพกับสมาชิกคนอื่นๆที่ชื่นชอบกีฬานั้นๆจริงๆ
แล้วถ้า... เขาไม่ไปที่ชมรมกีฬาใดๆแล้วเขาสามารถจะทดสอบตัวเองในอนาคตได้ยังไงกัน? แต่เขายังคงต้องการที่จะฟามบางอย่างเท่าที่มีโอกาส โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสัปดาห์นี้... แล้วเขาควรจะทำยังไงดีล่ะ
เวลาเองก็ได้ผ่านพ้นไปเรื่อยๆ ในขณะที่เซจิต่อสู้กับความหงุดหงิดของเขา และตอนนี้ก็ถึงเวลาพักกลางวันแล้ว
คลื่นอีกระรอกหนึ่งกำลังจะมาถึงเซจิในอีกไม่ช้าแล้ว