HK ตอนที่ : 65
ในมหาลัยชวนกิ่ง เฉินหมิงได้เสียหน้าของเขาทั้งหมดไปแล้ว ตอนนี้เฉินหมิงได้เป็นบ้าตอบโต้คืนชิเล่ยบนเว็บบอร์ดของมหาลัยทุกทาง
ถึงแม้ว่าเขาจะได้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองเรียบร้อยแล้วในรายการวิทยุช่วงเที่ยง แต่เขาก็โดนชิเลยแฉเรื่องจริงทั้งหมดกลับเหมือนกันในรายการวิทยุช่วงเที่ยง ที่จะลบล้างความล้มเหลว จากนั้นชิเล่ยก็แกล้งปลอมตัวเป็นแฮกเกอร์ที่เจาะคอมของเฉินหมิงเปิดเผยความจริงและบอกกับทุกคนว่าบริษัทที่เป็นสปอนเซอร์ในการแข่งขันประกวดซอฟต์แวร์เป็นของครอบครัวเฉินหมิง ซึ่งข่าวนี้ทำให้เฉินหมิงพ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์!
เนื่องจากไม่เหลืออะไรแล้ว เขากลายเป็นบ้าอย่างสมบูรณ์ บนเว็บบอร์ดของมหาลัย เขาได้ใช้ชื่อจริงของตัวเองสร้างโพสต์ข่าวลือที่เป็นไปได้ทุกอย่างออกมา เพื่อที่จะทำลายชื่อเสียงชิเล่ย
โพสต์ที่เฉินหมิงมีเหตุผลที่สุดก็คือ ชิเล่ยเคยพูดไว้ว่าเขาจะเชิญผู้ผลิตที่มีชื่อเสียงในวงการซอฟต์แวร์ มาเข้าร่วมเป็นกรรมการในการประกวดของมหาลัย
อย่างไรก็ตาม การแข่งขันซอฟต์แวร์มหาลัยยังคงเหลือเวลาอีกเก้าวัน ผู้ผลิตที่ชิเล่ยเชิญมาก็ยังไม่มีข่าวใดๆออกมาเลย เฉินหมิงคว้าโอกาสนี้โจมตีชิเล่ยต่อไป
ผู้คนบางกลุ่มที่ยังไม่เข้าใจสถานการณ์ที่แท้จริง ในใจของคนเหล่านี้มีแต่ความอิจฉาทำให้เกิดปัญหา จึงพากันเข้าร่วมประณามชิเล่ย
ถ้าชิเล่ยเชิญผู้ผลิตที่มีชื่อเสียงมาได้ เขาก็จะหนึ่งในคนที่มีหน้ามีตาในมหาลัย เพราะอย่างนี้จะปล่อยให้ชิเล่ยบรรลุความปรารถนาสำเร็จได้อย่างไร?
แม้ว่าชิเล่ยจะไม่ได้เป็นหนุ่มเนื้อหอม พวกเขาก็ยังไม่สามารถรับได้ ผู้คนกลุ่มนี้ก็ยังสาดโคลนใส่ชิเล่ย!
คราวนี้หลิงหยูไม่ค่อยกำลังวลมากนัก แต่เธอรู้ดีว่าผู้ผลิตที่มีชื่อเสียงจะถูกเชิญมาเข้ามาร่วมในการแข่งขันซอฟต์แวร์ในมหาลัยง่ายๆได้อย่างไร?
มันเป็นเพราะหลิงหยูโม่เชื่อว่าชิเล่ยสามารถทำมันได้!
ในออฟฟิศอาจารย์ หลี่เซี่ยหยูกำลังมองหน้าจอคอมพิวเตอร์ กำลังอ่านเว็บบอร์ดของมหาวิทยาลัย เกี่ยวกับโพสต์ของชิเล่ย เธอขมวดคิ้วเล็กน้อยดูเหมือนกำลังเป็นกังวลอยู่
'ชิเล่ย นายแน่ใจหรอว่าจะทำได้สำเร็จ? ถ้าครั้งนี้นายล้มเหลว มันจะ..."
ชายหนุ่มที่ดูเหมือนจะอายุ 27-28 ปี เดินเข้ามาในออฟฟิศอาจารย์ เห็นหลี่เซี่ยหยูกำลังขมวดคิ้ว เขาจึงรีบถามว่า "เซี่ยหยู เกิดอะไรขึ้น?"
ชายหนุ่มคนนี้ชื่อหวูบิน อายุ 28 ปี เป็นอาจารย์สอนศิลปะการประดิษฐ์ตัวอักษรจากคณะอักษรศาสตร์ นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่กำลังตามจีบหลี่เซี่ยหยู
หลี่เซี่ยหยูเงยหน้าขึ้นมองหวูบิน แสดงออกถึงความไม่พอใจ "อาจารย์อู๋ โปรดเรียกฉันว่าอาจารย์หลี่ด้วย ขอบคุณ!"
หวูบินไม่ได้แสดงออกถึงความลำบากใจใดๆ แต่ท่าทางกลับสง่างามและพูดอย่างสุภาพว่า "ไม่มีปัญอาจารย์หลี่! ขอโทษนะครับอาจารย์หลี่ คุณมีปัญหาอะไรหรือเปล่า? บางทีผมอาจสามารถช่วยคุณได้นะ"
หลี่เซี่ยหยูส่งเสียงฮืมฮัม "อาจารย์อู๋ นี่เป็นออฟฟิศเฉพาะของอาจารย์คณะวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ ตอนนี้ฉันกำลังทำงานอยู่ ถ้าหากไม่มีเรื่องอะไร ได้โปรดอย่ารบกวนฉัน!"
รอยยิ้มของหวูบินยังคงอยู่เหมือนเดิม ก้มหัวลงเล็กน้อย "ผมต้องขอโทษที่รบกวนอาจารย์หลี่ด้วยครับ งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ" หลังจากพูดเสร็จหวูบินก็หันหลังเดินออกไป เมื่อเขาเดินออกมาจากออฟฟิศอาจารย์ของคณะวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ รอยยิ้มเริ่มมลายหายไปและใบหน้ากลายเป็นขุ่นเคือง!
'หลี่เซี่ยหยู เธอมันก็แค่สินค้าราคาถูก สักวันหนึ่งฉันจะทำให้เธอต้องมาอยู่หว่างขาฉัน!'
จินหยากาเด้น ชิเล่ยเปิดดูโพสต์ในเว็บบอร์ดของมหาลัย ดูเฉินหมิงสาดโคลนใส่เขา ชิเล่ยแค่นเสียงเย็นชาออกมาคำหนึ่ง
"เฉินหมิง แกมันก็เป็นแค่เสือกระดาษ! แกมันท่าดีทีเหลว คลื่นลลมเล็กๆน้อยๆพวกนี้จะทำอะไรฉันได้ การกระทำของแกมันไร้ประโยชน์ ฉันจะเหยีบแกให้จมดินเลยคอยดู!"
ชิเล่ยเปิดโปรแกรมตรวจจับรอยยิ้มบนหน้าจอ และส่งอีเมลลับไปยังบริษัทกล้องที่มีชื่อเสียง 5 บริษัท
ในอีเมลลับของชิเล่ย ทางไอโก โกดัก และไลก้า พบว่ายังมีอีเมลที่ยังไม่ได้อ่านอยู่หนึ่งฉบับ หลังจากอ่านทั้งหมดแล้ว พวกเขาก็ถามเกี่ยวกับความร่วมมือกัน
โซนี่และนิคอน ทัศนคติของพวกเขายังคงเฉนเมยเช่นเดิม แต่แคนนอนได้ส่งอีเมลมาหลายฉบับและอีเมลแต่ละฉบับเต็มไปด้วยความต้องการมาก
ในอีเมลฉบับแรก แคนนอนบอกว่าโปรแกรมตรวจจับรอยยิ้ม ได้รับการจดทะเบียนโดยโซนี่แล้ว ในอีเมลเต็มไปด้วยความเสียใจ
อีเมลฉบับที่สอง พวกเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ พวกเขากล่าวว่าพวกเขาสามารถร่วมมือกับชิเล่ยได้ และยังสามารถช่วยชิเล่ยหลีกเลี่ยงการคุกคามจากโซนี่ได้
อีเมลฉบับที่สาม แคนนอนเปิดเผยความทะเยอทะยานของพวกเขาให้ชิเล่ยเห็นโดยตรงเลยว่า พวกเขาต้องการซื้อซอร์สโค้ดของซอฟต์แวร์ตรวจจับรอยยิ้ม!
จากมุมมองนี้ทั้งแคนนอนและโซนี่ ดูเหมือนว่าจะไม่ถูกต้อง!
ชิเล่ยตอบอีเมลจากแคนนอนเป็นอีเมลแรกว่าจะไม่ปฏิเสธความตั้งใจของพวกเขาที่จะซื้อซอร์สโค้ด แต่ส่งคำเชิญให้พวกเขามาที่ประเทศเซี่ยเพื่อเจรจากัน สำหรับแคนนอนชิเลยไม่ได้กังวลมากเกินไป
อย่างไรก็ตามแคนนอนจะไม่มาแน่นอนเพราะว่ามี ไอโก โกดัก และไลก้า ที่เป็นบริษัทยักใหญ่ของต่างประเทศ!
งั้นยกเว้น ไอโกลกัน!
ชิเล่ยตอบกลับอีเมลของทั้งสามบริษัททีละอัน แต่คิดไม่ถึงเลยว่าทางโกดักจะตอบกลับมาเร็วมาก!
ที่ประเทศเซี่ยตอนนี้เวลาสามโมงเย็น ส่วนบริษัทโกดักในประเทศลี่เจียง ตอนนี้คงเวลาประมาณตีสามใช่ไหม? ในกลางคืนแบบนี้ที่บริษัทโกดักยังมีพนักงานทำงานอยู่?
ในความเป็นจริงแล้ว ที่บริษัทโกดักไม่ได้มีพนักงานที่ทำงานตอนกลางคืน แต่โปรแกรมตรวจจับรอยยิ้มของชิเล่ย ทำให้พนักงานระดับสูงของโกดักเห็นแสงสว่างขึ้นมาทันที
บริษัทโกดักเป็นบริษัทแรกที่พัฒนากล้องดิจิทัล แต่กล้องดิจิทัลของพวกเขาไม่ได้พัฒนาโดยบริษัทของตัวเอง ตัวกล้องถูกพัฒนาโดยบริษัทจากประเทศวูซาง จึงทำให้ส่วนแบ่งในตลาดหายไปกับประเทศวูซาง
ทางบริษัทโกดักมีความกระตือรือร้นอย่างมากที่จะพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ และใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีนี้เพื่อขยายส่วนแบ่งการตลาด ดังนั้นโปรแกรมตรวจจับรอยยิ้มที่ชิเลยส่งมาทำให้พวกเขาเห็นถึงความหวัง! โดยการป้องกันการติดตามจากอีเมลจึงทำได้แค่ระบุว่าอีเมลถูกส่งมาจากประเทศเซี่ย เพื่อไม่ให้พลาดอีเมลจากประเทศเซี่ย ทางบริษัทโกดักได้จัดเตรียมบุคลากรเพื่อเฝ้าดูอีเมลไว้ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมที่จะตอบกลับอีเมลของชิเล่ยทันที
อีเมลที่ชิเล่ยได้รับจากโกดัก เข้าใจได้ง่ายและชัดเจนมาก ถามถึงที่อยู่ของชิเล่ยโดยตรงและพวกเขาจะรีบส่งทีมเจรจาธุรกิจมาเพื่อต่อรองกับเขา
สำหรับทัศนคติของบริษัทโกดักที่กระตือรือร้นอย่างนี้ จึงทำให้ชิเล่ยสับสน ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทางโกดักจะบินมาหาเขาที่เขตชวนฮูเมืองชวนกิ่งโดยตรงเลย เขาจึงทิ้งเบอร์โทรศัพท์มือถือของเขาเอาไว้
ในตอนเย็นหลังจากโอวหยางชางกลับมา เธอก็ลงมือทำหมูน้ำแดงให้ชิเล่ยกิน!
ฝีมือการทำอาหารของโอวหยางชางชั่งยอดเยี่ยมจริงๆ!
รสชาติของน้ำแดงทำให้ชิเล่ยเกือบจะกลืนลิ้นของเขาลงไป
"โอวหยาง ทำไมฝีมือเธอมันอร่อยขนาดนี้!" ชิเล่ยกำลังเลียนิ้วมือหัวแม่โป้งของเขา คราบน้ำมันที่มุมปากที่เห็นได้ชัดบนหน้าที่เต็มไปด้วยความสุข!
หลังจากรับประทานอาหารเย็นกันเสร็จแล้ว ชิเล่ยยิ้มแล้วมองโอวหยางชาง "โอวหยางเรามีเรื่องต้องคุยกัน"
ในตาของโอวหยางชางเต็มไปด้วยความสงสัย แล้วพยักหน้าพูดว่า "เรื่องอะไร?"
ชิเล่ยหยิบธนบัตรสีแดงออกมาห้าใบจากกระเป๋ากางเกงของเขา แล้ววางไว้บนโต๊ะ "โอวหยาง พี่ชายคนนี้คิดว่า พี่ชายไม่สามารถกินดื่มฟรีได้อีกแล้ว ดังนั้นทำไมพี่ชายถึงไม่ช่วยค่าอาหารละถูกไหม?"
โอวหยางชางฮึดฮัด "ชิเล่ยนายอายุ 19 ถูกมั้ย? นอกจากนี้นายยังต้องการเป็นพี่ชาย? ฉันจะบอกนายให้ว่าฉันอายุ 25 แล้ว นายควรจะเรียกฉันว่าพี่สาว!"
ชิเล่ยยิ้มแล้วพูดว่าว่า "พี่ชายขี้เกียจจะคุยกับเธอแล้ว! พี่ชายไปเล่นเกมดีกว่า!"
พูดเสร็จชิเล่ยก็ลุกขึ้นยืน ตบท้องที่ปูดออกมาบนใบหน้าแสดงถึงความพึงพอใจ ในห้องพักที่กลับมา ในตอนเย็นนี้เป็นไปไม่ได้เลยที่ชิเลยจะมาเล่นเกม เขาต้องปรับแต่งโปรแกรมจับพฤติกรรมแบบไดนามิกให้สมบูรณ์
ขั้นตอนนี้ชิเล่ยวางแผนที่จะส่งเสริมให้เป็นโครงการเริ่มต้น สำหรับการใช้งานมันเป็นไปไม่ได้ที่จะใช้ ต้องเป็นการเข้าแบบรหัสลับเท่านั้น!
ในตอนกลางคืนที่ไม่มีสาวๆเวลาชั่งผ่านไปเร็ว
ตอนเช้าโอวหยางชางเคาะประตูห้องชิเล่ยและเสียงที่เด็ดเดี่ยวก็ดังเข้าไป
"ชิเล่ยถ้านายอยากกินอาหารเช้า ฉันจะให้เวลานายสามนาทีเพื่อลุกออกจากเตียง!"
ชิเล่ยที่ได้ยินเสียงของโอวหยางชางก็สะดุุ้งตื่นขึ้นมา ลงจากเตียงใส่เสื้อผ้าทันทีแล้ววิ่งออกไป
"โอวหยาง พี่ชายต้องการกินไข่ดาวสามใบ อ่า!"
หลังจากผ่านไปเจ็ดถึงแปดนาที โอวหยางชางก็ถือถาดอาหารออกมา มีเพียงหนึ่งไข่ดาวหนึ่งใบและแฮมที่อยู่ในจากทั้งสอง บวกกับนมอุ่นๆ สลัดผักสำหรับมื้อเช้าก่อนหน้านี้ถูกแทนที่ด้วยแฮม
หลังจากที่รับประทานอาหารกันเสร็จแล้ว ชิเล่ยก็อดบ่นไม่ได้ว่า "โอวหยาง ไม่ได้ยินที่บอกหรอ พี่ชายบอกว่าสาม?"
โอวหยางชางกินขนมปังอย่างช้าๆ จากนั้นจิบนมตาม ก่อนจะเปิดปากพูดว่า "สามใบมันสิ้นเปลืองเกินไป โภชนาการที่ได้จากชุดนี้นี่สิถึงถูกต้อง!"
เมื่อเธอพูดจบ ก็เห็นว่าชิเล่ยกำลังมองมาที่เธออย่างแปลกๆ จึงทำให้โอวหยางชางสงสัยถามว่า "ชิเล่ยนายกำลังมองหาอะไร?"
ตอนนี้บนริมฝีปากบนและที่มุมปากของโอวหยางชางมีคราบนมติดอยู่นี่มันเป็นสิ่งที่ยั่วยวนล่อตาล่อใจมากกับชิเล่ยที่กำลังมองอยู่!
"โอ้! เปล่า! ไม่มีอะไร! โอวหยาง พี่ชายมีบางอย่างต้องไปทำ ไปล่ะ!" คำพูดของชิเล่ยดูไม่เป็นธรรมชาติอย่างมาก
โอวหยางชางลุกขึ้นยืนและเดินไปส่องกระจกและเห็นว่ามีนมติดอยู่บนรืมฝีปากบนของเธอพร้อมกับนมที่มุมปาก เธออายุ 25 แล้ว และเธอจะไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้ได้ยังไง แต่เธอกลับเห็นหมูที่วิ่งหนีไป ใช่ไหม?
หลังจากคิดเล็กน้อยก็จะเข้าใจถึงความคิดของชิเล่ย โอวหยางจึงตะโกนออกมาด้วยความอับอาย "ชิเล่ยไอ้ชั่ว ไอ้ลามก!"
ในห้องนอน ชิเล่ยที่ได้ยินเสียงตะโกนของโอวหยางชาง เผยรอยยิ้มออกมาแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน นั่งลงข้างเตียงและปลดล็อคโปรแกรมจับภาพพฤติกรรมแบบไดนามิกของเซิร์ฟเวอร์นัมเบอร์วัน
ชิเล่ยได้เชิญบริษัทโกดักมาเมืองชวนกิ่ง เป็นธรรมดาที่เขาต้องเตรียมความพร้อมเกี่ยวกับโปรแกรมตรวจจับรอยยิ้ม ชิเล่ยไม่ได้คิดที่เก็บไว้ในมือของเขา
เนื้อหาทางเทคนิคของโปรแกรมตรวจจับรอยยิ้มไม่ได้อยู่ขั้นสูง แต่ตอนนี้ยังไม่มีใครคิดถึงเรื่องนี้เลย!
ชิเล่ยเปิดโปรแกรมตรวจจับรอยยิ้มเพื่อแก้ไข เตรียมที่จะเพิ่มประสิทธิภาพในโปรแกรมตรวจจับรอยยิ้มอีกครั้ง และทำแพคเกจการติดตั้งการเข้ารหัส เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับพนักงานของโกดักที่มาทดสอบ
ตอนเที่ยง ชิเล่ยหาอะไรกินบางอย่างลวกๆและยังคงนั่งเพิ่มประสิทธิภาพของโปรแกรมตรวจจับรอยยิ้มอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่ว่าชิเล่ยขี้เกียจ แต่ฝีมือการทำอาหารของชิเล่ยเมื่อเทียบกับโอวหยางชางแล้ว มันยังคงห่างไกล ดังนั้นเขาเลยไม่ทำกินเอง!
เขารอให้ถึงตอนเย็นเพื่อนทานอาหารมื้อใหญ่จากฝีมือของโอวหยางชางดีกว่า
เมื่อถึงเวลาสี่โมงเย็น เสียงโทรศัพท์ที่ชิเล่ยกำลังรออยู่ก็ดังขึ้นมา!