HK ตอนที่ : 64
ในห้องนั่งเล่น โอวหยางชางสูดลมหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นเคาะประตูห้อง แต่ไม่มีการตอบสนองจากชิเล่ย
โอวหยางชางหันกลับไปมองต๋ายกวงฮัว ในสายของเธอแฝงไว้ด้วยคำถามว่าจะทำอย่างไรต่อ
"เคาะประตูต่อไป! ถ้าไม่มีการตอบสนองอีกครั้ง เราจะบุกเข้าไป!" ต๋ายกวงฮัวกำลังสงสัยว่าชิเล่ยได้หนีไปแล้ว? แต่ถ้าไม่มีหมายค้นมา ในประเทศเซี่ย มันก็ไม่มีอะไรแปลกหรอกใช่ไหม?
โอวหยางชางเคาะประตูและตะโกนว่า "ชิเล่ยนายอยู่ข้างในไหม?"
"โอวหยาง?" เสียงของชิเล่ยดังออกมาจากห้อง
ได้ยินเสียงของชิเล่ยโอวหยางชางถอนหายใจด้วยความโล่งอก "ชิเล่ย นายช่วยเปิดประตูหน่อยได้ไหม ฉันมีเรื่องจะรบกวนนายนิดหน่อย!"
"เข้ามาสิ!"
ในห้อง ชิเล่ยมองดูหน้าจอทั้งสองอีกครั้ง หลังจากยืนยันแล้วว่าไม่มีข้อบกพร่องอะไร จึงลุกขึ้นเดินไปเปิดประตูหลัง จากนั้นรีบกลับมาที่เตียงใส่หูฟังอย่างรวดเร็วและวางมือไว้บนคีย์บอร์ดกับเมาส์เพื่อเล่นเกมต่อ
โอวหยางชางผลักประตูเดินเข้ามาและพบว่าจริงๆแล้วชิเล่ยกำลังเล่นเกมอยู่!
ชิเล่ยไม่ได้หันไปมองแต่พูดขึ้นว่า "โอวหยางทำไมวันนี้เธอถึงไม่ไปทำงานกัน? ตอนนี้พี่ชายกำลังยุ่ง เธอมีเรื่องอะไร?"
บนเวิร์กสเตชั่นกราฟิกเป็นเกม «Elder Scrolls 4: Oblivion» ที่กำลังเล่นอยู่ เกมนี้วางจำหน่ายในช่วงปลายเดือนมีนาคมของปีนี้ และเกมแบบสแตนด์อโลนนี้ได้สร้างคลื่นยักษ์ขึ้นในอุตสาหกรรมวงการเกม!
ต๋ายกวงฮัวที่ยืนอยู่ด้านหลังของโอวหยางชางได้กวาดตามองไปรอบๆห้องของชิเล่ยอย่างรวดเร็ว แต่กลับไม่พบอะไรผิดปกติ ยกเว้นเครื่องเซิร์ฟเวอร์ทั้งสอง
แม้ว่าทั้งเซิร์ฟเวอร์ทั้งสองจะเป็นเกรดเซิร์ฟเวอร์เวิร์กสเตชั่น แต่รูปลักษณ์ของมันกับคอมพิวเตอร์ธรรมดาก็ไม่มีอะไรแตกต่างกันมากนัก!
"ชิเล่ย ทำไมนายไม่เรียน?" โอวหยางชางถาม
ชิเล่ยยังคงมุ่งมั่นอยู่กับการเล่นเกม ในจอเป็นนักรบยุคกลางสวมเกราะหนัก ที่กำลังต่อสู้อยู่ภายใต้การควบคุมของชิเล่ย
ชิเล่ยยิ้ม "โอวหยาง เธอไม่เห็นพี่ชายคนนี้กำลังเล่นเกมอยู่หรอ! แค่โดดเรียนบางคาบมันจะเป็นเรื่องใหญ่อะไร?"
โอวหยางชางหันกลับไปมองต๋ายกวงฮัว ต๋ายกวงฮัวก็เดินมาข้างหน้าหนึ่งก้าวและกระแอมเสียงดัง
"สวัสดีนักศึกษาชิเล่ย!"
ชิเล่ยกดปุ่มบนแป้นพิมพ์เพื่อหยุดเกมลง แล้วหันหัวของเขาไปมองที่ต๋ายกวงฮัว ใบหน้าของเขาเหมือนกำลังนึกอะไรอยู่ จากนั้นจึงยกมือขวาของเขา ชี้นิ้วไปที่ต๋ายกวงฮัวมองขึ้นและลง แล้วพูดว่า "คุณ ... คุณ .... คุณคือเจ้าหน้าที่ต๋ายใช่ไหม?"
ต๋ายกวงฮัวยิ้มและพยักหน้า "นักศึกษาชิเล่ย ผมดีใจที่คุณยังจำผมได้!"
ชิเล่ยถอดหูฟังออกและยืนขึ้น "เจ้าหน้าที่ต๋าย ทำไมวันนี้ถึงมาหาผมได้ล่ะ? หรือว่าเกี่ยวกับเย่เฟิง คุณต้องการถามเพื่มเติมใช่ไหม?" ใบหน้าของชิเล่ยดูเป็นธรรมชาติอย่างมาก เหมือนพลเมืองที่กระตือรือร้นต้องการทำงานร่วมกับตำรวจ
ต๋ายกวงฮัวส่ายหัว "นักศึกษาชิเล่ย ที่เรามาหาคุณวันนี้ ไม่ได้มาถามเกี่ยวกับเย่เฟิงเพิ่มเติม!"
ในใจของชิเล่ยมีข้อสงสัย การแสดงออกอย่างคงสงบอยู่ "งั้นเจ้าหน้าที่ต๋าย วันนี้คุณมาเพราะเรื่องอะไร?"
ต๋ายกวงฮัวเดินไม่ได้ตอบ แต่เดินมาด้านข้างชิเล่ยแล้วสังเกตบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ทั้งสอง แล้วจึงพูดว่า "นักศึกษาชิเล่ย ผมได้ยินมาว่าคุณเก่งในด้านการประมวลผลกราฟิกมาก ดังนั้นเราจึงมาที่นี่เพื่อให้คุณช่วย!"
ชิเล่ยไม่ได้สนใจเกี่ยวกับการแสดงออกของต๋ายกวงฮัว เมื่อตอนที่เขาได้ยินเสียงที่ห้องนั่งเล่น ชิเล่ยก็ได้ใช้เวิร์กสเตชั่นกราฟิกดาวน์โหลดเกม «Elder Scrolls 4: Oblivion» มา จากนั้นหลังจากติดตั้งเสร็จแล้ว เขาก็ขโมย ID ของผู้เล่นคนอื่นมา เพื่อป้องกันโอวหยางชางที่เขามาในขณะที่เป็นอยู่ในตอนนี้!
ส่วนเซิร์ฟเวอร์นัมเบอร์วันที่มีโปรแกรมจับภาพพฤติกรรมแบบไดนามิกล็อคไว้อยู่ แล้วต๋ายกวงฮัวจะเห็นความผิดปกติได้อย่างไร?
"โอ้? งั้นคุณต้องการให้ผมช่วยประมวลผลภาพให้?" ชิเล่ยมองไปที่โอวหยางชาง พร้อมขมวดคิ้วอย่างจงใจและพูดว่า "โอวหยาง เป็นพรุ่งนี้ได้ไหม ตอนนี้ฉันกำลังยุ่งอยู่!"
โอวหยางชางโกรธขึ้นมาเล็กน้อยและพูดว่า "นายยุ่งกำลังยุ่งอะไร? เล่นเกมเนี่ยนะ!"
ชิเล่ยพยักหน้าอย่างจริงจัง "ใช่แล้ว! เธอไม่เห็นหรอว่าฉันกำลังตีบอสอยู่?"
ต๋ายกวงฮัวมองชิเล่ยอย่างอึดอัดใจ แม้ว่าเขาจะสงสัยชิเล่ยอยู่ในใจ แต่ถ้ายังไม่มีหลักฐานมันก็เท่านั้น
"นักศึกษาชิเล่ย ผมขอรบกวนเวลาแค่แปปนึงได้ไหม ช่วยทางเราจัดการกับภาพให้ที!" ต๋ายกวงฮัวปกปิดการแสดงออก ส่งซิกให้โอวหยางชาง
โอวหยางชางฮึมฮัม "ชิเล่ยถ้านายช่วยเรื่องภาพครั้งนี้ ตอนเย็นฉันจะทำหมูน้ำแดงให้กิน!"
ชิเล่ยหรี่ตาลง แลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปากของเขา "โอวหยางเธออย่ามาโกหกฉัน!"
"ไม่ต้องห่วง!" โอวหยางชางดูเหมือนจะไม่พอใจกับทัศนคติของชิเล่ย จากนั้นยื่น USB ให้ชิเล่ย
หลังจากรับ USB แล้ว ชิเล่ยกลับไปนั่งลงบนขอบเตียง ปิดเกมบนเวิร์คสเตชั่นกราฟิก แล้วเสียบ USB ลงในพอร์ท USB
ต๋ายกวงฮัวมองอย่างสนใจและพูดว่า "นักศึกษาชิเล่ยจะเป็นอะไรไหม ถ้าผมจะนั่งตรงนี้เพื่อดูคุณทำงาน?"
"นั่งลงสิ!" ชิเล่ยตบลงบนเตียงด้านข้างเขา จากนั้นพูดว่า "โอวหยาง ไปทำอะไรให้ฉันกินหน่อย ฉันยังไม่ได้กินข้าวเช้าเลย!"
โอวหยางเหลือบมองไปที่ชิเล่ย และในที่สุดก็เดินออกจากห้องเพื่อไปทำข้าวเช้าให้ชิเล่ยกิน
ขณะที่ชิเล่ยกำลังจัดการภาพ ต๋ายกวงฮัวมองไปที่หน้าจอของเซิร์ฟเวอร์นัมเบอร์วัน ที่เต็มไปด้วยโค้ดบนหน้าจอ จึงถามอย่างสงสัยว่า: "นักศึกษาชิเล่ย พวกนี้คืออะไร?"
"มันเป็นโปรแกรมที่ผมเขียนเพื่อเอาไว้เข้าร่วมการประกวดซอฟต์แวร์ของมหาลัยของผม " ชิเล่ยตอบว่าเป็นความจริง บนเซิร์ฟเวอร์นัมเบอร์วันคือโปรแกรมตรวจจับรอยยิ้ม
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ 11.00 น. แล้ว ชิเล่ยก็เสร็จสิ้นประมวลภาพเสร็จและจากนั้นก็พูดขึ้นว่า "นี่มัน เย่เฟิงใช่ไหม?"
รูปภาพที่ตำรวจให้ชิเล่ยประมวลให้นั้น ก็คือเย่เฟิง!
"ถูกต้อง นี่คือรูปเย่เฟิง!" ขณะที่ต๋ายกวงฮัวพูดก็สังเกตชิเล่ยไปด้วย แต่พบว่าชิเล่ยไม่มีความผิดปกติเลย "นี่เป็นรูปที่ได้จากกล้องรักษาความปลอดภัย ซึ่งจับภาพได้ที่ในเขตเบหยู! เวลาคือเมื่อวาน! ดูเหมือนว่าเย่เฟิงยังอยู่ในเมืองชวนกิ่ง!"
ต๋ายกวงฮัวลุกขึ้นยืนและหันไปพูดกับเหล่ยหย่าคุนที่อยู่ด้านข้างว่า "เสี่ยวเหล่ย ติดต่อไปที่หน่วยต่อต้านอาชญากรรมของสำนักงานเมืองเบหยูทันที ให้พวกเขาใช้กล้องตัวนี้เป็นศูนย์กลาง เพื่อตรวจสอบสิ่งที่น่าสงสัยโดยรอบทั้งหมด!"
ชิเล่ยเปิดเกมขึ้นมาใหม่ "เจ้าหน้าที่ต๋าย ผมยุ่งอยู่คงไม่ไปส่งนะ!"
หลังจากนั้น ชิเล่ยก็เอาหูฟังขึ้นมาใส่และกลับไปเล่นเกมต่อ ต๋ายกวงฮัวเหลือบมองชิเล่ย ดวงตาของเขาเผยให้เห็นถึงความสงสัย เขาเริ่มลังเลในใจ ชิเล่ยน่าสงสัยจริงๆ? บางทีเขาอาจจะผิด!
ต๋ายกวงฮัวส่ายหัวและออกไปพร้อมกับเหล่ยหย่าคุนกับเจ้าหน้าที่อีกสองนาย
นอกห้องนั่งเล่น โอวหยางชางที่กำลังทำไข่ดาว มองมาที่ต๋ายกวงฮัวที่กำลังเดินออกมาจากห้องของชิเล่ย เธอถามเสียงเบาว่า "เลขานุการต๋าย จัดการเรียบร้อยแล้ว?"
ต๋ายกวงฮัวพยักหน้า "ยืนยันแล้วว่าเป็นเย่เฟิง! โอวหยางชาง คุณกลับไปทำงานที่สถานีช่วงบ่ายละกัน!"
ตาของโอวหยางชางเบิกกว้างขึ้น "เขาไม่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยแล้วใช่ไหม?"
"บางทีผมอาจคิดมากเกินไป!" ต๋ายกวงฮัวหัวเราะเยาะตัวเอง หันไปมองชิเล่ยอีกครั้ง ผู้ที่กำลังเล่นเกมอยู่ จากนั้นเดินจากไปพร้อมกับคนอื่นๆ
ในใจของโอวหยางชางเหมือนได้โยนหินทิ้งออกจากอก เดินเข้าไปในห้องของชิเล่ยถือไข่ดาววางไว้บนโต๊ะคอม ภายในตาของเธอเต็มไปด้วยความอ่อนโยนและความเสียใจ
"ชิเล่ย หิวมากไหม?"
ชิเล่ยกดหยุดเกม เขาได้กลิ่นหอมของไข่ดาวแสนอร่อยและเลียริมฝีปากของเขา "โอวหยาง เธอทอดไข่ดาวมาแค่ฟองเดียว!"
โอวหยางชางเหลือบมองชิเล่ย "ใช่แล้วชิเล่ย ช่วงบ่ายฉันต้องไปทำงาน ตอนนี้ไม่ทันแล้ว นายทำอาหารกินเองละกัน!"
หลังจากชิเล่ยกินไข่ไปสองสามคำเสร็จแล้ว ถอนหายใจพร้อมกับพูดว่า "ไปไปไป พี่ชายจะเล่นเกมต่อแล้ว!"
โอวหยางมองชิเล่ย เธอยังรู้สึกไม่สบายใจ แต่ในที่สุดเธอก็หันหลังกลับเดินออกไป
ไม่นานหลังจากนั้น ก็ได้ยินเสียงล็อคจากประตูรักษาความปลอดภัยด้านนอก ชิเล่ยลุกขึ้นเดินไปล็อคประตูห้องนอนและปิดเกมทันทีจากนั้นออกจากโปรแกรมการจับภาพพฤติกรรมแบบไดนามิกของเซิร์ฟเวอร์นัมเบอร์วัน
ควบคุมเซิร์ฟเวอร์นัมเบอร์วันเชื่อมต่อกับซูเปอร์คอมพิวเตอร์สวอลโล้ว ตรวจสอบสถานการณ์ภายในของสนามบินนานาชาติเบหยู
ชิเล่ยสแกนระบบตรวจสอบภายในสนามบินอย่างใจจดใจจ่อ เพราะเขาถูกรบกวนโดยต๋ายกวงฮัว ทำให้ไม่มีเวลาที่จะแทรกแซงกล้องวงจรปิด ทำให้มันยังทำงานได้ดีอยู่
'โอ้! คลื่นแห่งความไม่สงบได้เกิดขึ้นอีกครั้ง! ดูจากสายตาของโอวหยาง เห็นได้ชัดเลยว่าพวกตำรวจได้ลดความสงสัยเกี่ยวกับฉันแล้วใช่ไหม? นี่หมายความว่าพวกเขาจับตาดูฉันมานานแล้ว! ไม่ใช่พวกเขามาช้าไป แต่ทำไมมาเวลานี้! ระบบการตรวจสอบสนามบินน่าจะจับภาพของเย่เฟิงกับคนอื่นๆได้แล้ว!'
หลังจากการตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว เที่ยวบินที่บินตรงไปโตเกียวกำลังจะเทคออฟแล้ว และชิเล่ยไม่ได้ทำลายบันทึกการตรวจสอบระบบ
เมื่อเครื่องบินเทคออฟแล้ว นั่นหมายความว่าตัวแทนจากประเทศเซี่ย พวกเขาจะไม่สามารถจับเย่เฟิงกับคนอื่นๆได้อีกต่อไป เพราะว่าประวูซางกับประเทศเซี่ยไม่ได้มีสนธิสัญญาในการส่งผู้ร้ายข้ามแดน เว้นแต่เย่เฟิงจะเดินทางกลับมาบ้านเกิดเองเพื่อยอมจำนน
สำนักงานเทศบาลเมืองเบหยู ทีมต่อต้านอาชญากรรมได้มุ่งเน้นไปที่กล้องเพื่อตรวจสอบเย่เฟิงเป็นศูนย์กลาง เริ่มการสำรวจและการตรวจสอบอย่างรวดเร็ว เร็วๆนี้พวกเขาก็พบจุดที่น่าสงสัย!
พนักงานรักษาความปลอดภัยของหมู่บ้าน แจ้งกับทางตำรวจว่ามีคนแปลกหน้าหลายคนอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งซึ่งคล้ายกับรูปถ่ายของตำรวจ
ต๋ายกวงฮัวได้นำทีมด้วยตัวเองและล้อมรอบบ้านเช่าของเชี่ยนหยูไว้ จากนั้นเมื่อพวกเขาบุกเข้าไปก็พบแต่ความว่างเปล่า เพื่อนบ้านแถวนั้นบอกว่าพวกเขาได้ย้ายกันแล้ว
แต่ก็ถึงกับไม่ได้อะไรเลย ในห้องพัก ได้พบปืนไรเฟิลที่ใช้โดยเจิ้งซานเปาและระเบิดพลาสติกจำนวนมาก
ต๋ายกวงฮัวได้ออกคำสั่งเก็บปืนไรเฟิลและปิดผนึกระเบิดพลาสติกไว้อย่างระวังระวัง และแจ้งให้แผนกการจราจรตรวจสอบถนนอย่างใกล้ชิด เพื่อตรวจสอบที่อยู่ของเย่เฟิงและอื่นๆ
อย่างไรก็ตามเย่เฟิงและเชี่ยนหยูและคนอื่นๆ ได้อยู่บนเครื่องบินเรียบร้อยแล้ว เครื่องบินได้ทำการต่อคิวอยู่บนรันเวย์ เพื่อรอรับคำสั่งเทคออฟจากหอควบคุม!
แผนกการจราจรได้รับชื่อของเชี่ยนหยูที่เช่าบ้าน ได้ตรวจสอบจากบันทึกการเช่ารถและภาพถ่าย หลังจากการวิเคราะห์ของผู้เชี่ยวชาญด้านการจราจร ก็ได้รับการยืนยันว่าเชี่ยนหยูได้เช่ารถไปและจับภาพถ่ายรถขณะที่กำลังขับด้วยความเร็วไว้ได้
"แจ้งไปทางสำนักงาน เย่เฟิงและคนอื่นๆ เป้าหมายของพวกเขาคือสนามบิน!"
หลังจากที่สำนักงานเมืองได้รับข่าว พวกเขาก็แจ้งไปทางสนามบินนานาชาติเบหยูทันทีและส่งร้องเพื่อให้พวกเขาตรวจสอบเที่ยวบินปัจจุบัน ในกรณีที่ผู้โดยสารมีชื่อเชี่ยนหยู ให้พวกเขาส่งรายชื่อผู้โดยสารทั้งหมดในเที่ยวบินของเชี่ยนหยูมาที่สำนักของเมืองด้วยเร็ว
แต่เมื่อทางสนามบินนานาชาติตรวจสอบรายชื่อแล้วส่งไปยังสำนักงานเมือง เครื่องบินก็เทคออฟออกไปแล้ว!
เที่ยวบินที่อยู่ภายใต้อำนาจของประเทศวูซาง จะไม่ถูกบังคับให้ลงจอดจากสถานีตำรวจเมืองชวนกิ่งได้!
ด้วยความช่วยเหลือของชิเล่ย การหลบหนีของเย่เฟิงจึงไม่มีความเสี่ยงใดๆ!
จากระบบภายในของสนามบินนานาชาติเบหยู เมื่อชิเล่ยเห็นเครื่องบินเทคออฟออกไปแล้ว เขาก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก
'โชคดีแล้วพบกันใหม่ เย่เฟิง!'