HK ตอนที่ : 60
การขอวีซ่าสำหรับสถานกงสุลที่เชี่ยนหยูบอก ชิเล่ยงงงวยเล็กน้อย เขาลืมเรื่องนี้ไปแล้วจริงๆ อย่างไรก็ตามปัญหานี้ไม่ใช่เรื่องยากที่จะจัดการ
"เชี่ยนหยู คุณต้องช่วยเย่เฟิงกับคนอื่นๆ หาหลักฐานการยืนยันตัวตนพวกเขา ทำตามขั้นตอนปกติ ผมจะส่งหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนใหม่ของพวกเขา รวมทั้งข้อมูลที่เกี่ยวข้องจะถูกส่งไปยังอีเมลของคุณ นอกจากนี้ใช้ขื่อบริษัทของครอบครัวคุณ ในการมาเยื่ยมชมธุรกิจในเมืองชวนกิ่ง คณะของนักธุรกิจนี้จะมีหกคน โดยทุกคนต้องได้รับวีซ่าของประเทศเซี่ยทุกคน จากนั้นจัดให้ตัวตนของคนทั้งหกคนนี้ มาที่เมืองชวนกิ่ง ในความจริง ส่งมาให้ผมแค่สองคนพอ ส่วนสำหรับปัญหาอื่นๆ ผมจะแก้ไขเอง! คุณเข้าใจไหมสิ่งที่ผมบอกไหม?" ชิเล่ยถาม
"ฉันเข้าใจแล้วชิเล่ย!" เชี่ยนหยูเข้าใจว่า ถ้าชิเล่ยไม่จัดการทำตัวตนใหม่ให้เย่เฟิงอย่างถูกต้อง เชี่ยนหยูคิดว่าคงค่อนข้างลำบาก แต่ชิเล่ยได้กำหนดรหัสประจำตัวของเย่เฟิงไว้แล้ว แล้วจะให้ฉันทำอะไร?
สำหรับตัวแทนนักธุรกิจนี้ จะยิ่งง่ายดายขึ้นเพียงแค่ว่าเปิดเผยความตั้งใจที่จะลงทุนในประเทศเซี่ยที่สถานกงสุล พวกเขาก็รีบตรวจการลงทุนในประเทศแทน!
"เย่เฟิง เพื่อลดความเสี่ยงในการถูกจับ จากนี้เราจะไม่ติดต่อกันอีก เมื่อนายไปถึงซัปโปโระในวูซางแล้ว ค่อยส่งอีเมลมาหาฉัน!"
ในช่วงเวลานี้ ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์หรือการดำเนินชีวิต ชิเล่ยถูกตำรวจตรวจสอบอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นชิเล่ยจึงต้องระมัดระวังตัว!
"ได้!" หลังจากที่เย่เฟิงได้ตอบกลับมาสั้นๆ ชิเล่ยก็ได้ตัดการเชื่อมต่อห้องแชทด้วยเสียง แล้วล้างข้อมูลที่เก็บไว้ในห้องแชทด้วยเสียง
จินหยากาเด้น บนถนนเขตที่อยู่อาศัย รถตู้ได้ขับมาจอดที่ชั้นล่างอย่างช้าๆ ในกล่องด้านหลังของรถตู้ อาหลี่และต้าถง ได้ไปหาต๋ายกวงฮัวเลขานุการของสภาเทศบาลเมือง เพื่อขออุปกรณ์ดักฟังที่ทันสมัยมาก เตรียมความพร้อมที่จะดักฟังชิเล่ย
อย่างไรก็ตาม พวกเขาได้พลาดช่วงเวลาที่ดีที่สุดไปแล้ว หากพวกเขามาก่อนหน้านี้สักครึ่งชั่วโมง หรือสิบนาทีก่อนหน้านี้ พวกเขาอาจสามารถดักฟังการสื่อสารระหว่างชิเล่ยและเย่เฟิง แต่น่าเสียดายที่พวกเขามาช้าไปสิบนาที ชิเล่ยกับเย่เฟิง ได้พูดคุยเกี่ยวกับแผนการในขั้นตอนสุดท้ายของพวกเขาไปแล้ว และจะไม่มีการติดต่อกับเย่เฟิงจนกว่าเขาจะเดินทางไปถึงประเทศวูซาง!
ตอนหกโมงเย็น ชิเล่ยกำลังเตรียมที่จะทำอาหารทานด้วยตัวเอง แต่โอวหยางชางกลับมาพอดี!
"ว้าว โอวหยางเธอกลับมาแล้ว!" ชิเล่ยมองโอวหยางด้วยความแปลกใจ "คืนนี้ฉันโชคดีมาก จะได้กินฝีมือของเธอ โอวหยาง!"
โอวหยางชางยิ้มอย่างไม่เต็มใจ และมีบางอย่างในสายตาของเธอแปลกไป "ได้ ฉันจะลงมือทำมื้อเย็น"
ชิเล่ยไม่ได้สังเกตเห็นว่าแววตาของโอวหยางชางนั้นดูผิดปกติ "นั่นมันดีมากเลย! โอวหยาง เดี๋ยวฉันไปเล่นเกมก่อน ทำเสร็จแล้วค่อยมาเรียกฉันละกัน!"
"ได้ ไปเล่นเกมเถอะ!" โอวหยางชางพยักหน้าและมองไปที่หลังของชิเล่ย ภายในแววตาของเธอ มีความหวัง ความลังเลและความสับสน
ไม่มีอะไรเกิดขึ้นในตอนกลางคืน เช้าวันรุ่งขึ้นโอวหยางชางไม่ได้เตรียมอาหารเช้าไว้ให้ หลังจากที่ชิเล่ยลุกขึ้นจากที่นอน เขายังคิดถึงรสชาติของไข่อยู่
หลังจากที่อาบน้ำแต่งตัวแล้ว ชิเล่ยก็รีบมุ่งตรงไปมหาลัย แม้ว่าเฉินหมิงจะไม่อยู่ในสายตาของเขา แต่การกระทำและคำพูดของเฉินหมิง ชิเล่ยไม่อาจปล่อยให้มันผ่านไปได้
มีบุญคุณต้องทดแทน มีหนี้แค้นต้องชำระ นี่คือสไตล์ของชิเล่ย!
ในถนนด้านหลัง ชิเล่ยโทรไปหาหลิงหยูโม่ เพื่อถามว่าหลิงหยูโม่ทานอาหารเช้าหรือยัง
หลิงหยูโม่ไม่ได้ปฏิเสธ โทนเสียงเต็มไปด้วยความน่ารักและขี้เล่น "พิสดารหิน ฉันอยากกินน้ำเต้าหู้~"
"อืม?" สมองของชิเล่ยแทบจะลัดวงจรในทันที นี่หลิงหยูโม่ตัวจริง?
"ได้!"
ชิเล่ยยิ้มและหัวเราะเหมือนคนโง่ ที่หลิงหยูโม่พูดกับเขาด้วยน้ำเสียงแบบนี้ แสดงว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขากำลังดีขึ้น แม้ว่าชิเล่ยจะอ้างว่าหลิงหยูโม่เป็นแฟนของเขา หลิงหยูโม่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่คัดค้านอะไร ในความเป็นเฉพาะพวกเขาสองคนเท่านั้นที่รู้
แม้ว่าหลิงหยูโม่จะมีความรู้สึกที่ดีกับชิเล่ย แต่เธอจะไม่ให้ชิเล่ยเป็นกำบังไล่พวกผู้ชายเจ้าชู้พวกนั้นได้หรือ?
วันนี้ชิเล่ยรู้สึกว่าหลิงหยูโม่กำลังเปลี่ยนแปลงและทำให้เขามีความสุขมาก
ชิเล่ยถือน้ำเต้าหู้เข้าไปในห้องเรียน ไม่แปลกใจเลยที่ไม่มีใครมาทักทายเขา แต่เต็มไปด้วยสายตาดูถูและเย็นชา
ชิเล่ยไม่ได้สนใจ เขาเดินไปหาหลิงหยูโม่เพื่อนั่งลงข้างเธอ และยื่นน้ำเต้าหู้ให้เธอ
พลัมน้อยยังคงมีมโนธรรมเล็กน้อย เขาวิ่งมาหาและกระซิบกับชิเล่ยว่า "พี่ใหญ่หิน มีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น เฉินหมิงเขา...."
ชิเล่ยขัดคำพูดของลิไค "พลัมน้อย ฉันรู้เรื่องแล้ว!"
"พี่ใหญ่หิน พวกเราควรจัดการเรื่องนี้ยังไงดี?" ใบหน้าของพลัมน้อยเต็มไปด้วยความกระวนกระวาย แววตาเต็มไปด้วยความจริงใจเมื่อพูดคำว่า 'พวกเรา' มันทำให้ชิเล่ยรู้สึกดีใจ
ชิเล่ยโอบไหล่ของลิไค "ไม่ต้องกังวล เดี๋ยวฉันจัดการทุกอย่างเอง!"
หลิงหยูโม่ดื่มน้ำเต้าหู้ไปด้วย ขณะที่ฟังบทสนทนาของชิเล่ยและลิไค เมื่อได้ยินถึงความมั่นใจของชิเล่ย ใบหน้าของหลิงหยูโม่เผยรอยยิ้มออกมาจางๆ
'พิสดารหิน สู้สู้!' ในใจของหลิงหยูโม่ เธอกำลังแอบเชียร์ชิเล่ยอย่างเงียบๆ จากนั้นก็ดื่มน้ำเต้าหู้อย่างเอร็ดอร่อย
ใกล้เวลาเรียน เฉินหมิงก็เดินเข้ามาในห้องเรียน พร้อมกับพรรคพวกของเขา และมองหาหลิงหยูโม่เหมือนเช่น แต่ไม่คิดเลยว่าวันนี้ชิเล่ยจะมาเรียนด้วย
"เฮ้! ชิเล่ ฉันไม่คิดเลยว่านายยังจะมีหน้ากล้ามาที่มหาลัยอีกนะ?" น้ำเสียงของเฉินหมิงเต็มไปด้วยความเสียดสี
หวังโบที่ยืนอยู่ข้างๆเฉินหมิง ใบหน้าเต็มไปด้วยความรังเกียจและพูดว่า "ชิเล่ย! ฉันไม่คิดเลยว่านายจะเป็นคนแบบนั้นจริงๆ เพื่อชัยชนะ นายกล้าที่จะจัดฉากเพื่อนร่วมห้องของตัวเอง!"
ชิเล่ยมองไปที่เฉินหมิงและลูกน้องของเขา โดยที่ไม่มีการแสดงใดๆ ราวกับว่ากำลังมองพวกกลุ่มตัวตลกอยู่ ในสายตาของเขาเต็มไปด้วยความไม่แยแสและการดูถูก ทำให้ความโกรธของเฉินหมิงปะทุ
"ชิเล่ย เดิมทีฉันก็ไม่ได้เกลียดอะไรนาย แต่นายกลับใช้วิธีการสกปรกกับฉัน ฉันมองนายผิดไปจริงๆ!"
ชิเล่ยหัวเราะและยิ้ม "เฉินหมิงหยุดพูดมากได้แล้ว ความจริงของเรื่องนี้เราทุกคนก็รู้กันดี ทำไม นายมีอะไรปิดบังไว้?"
เพื่อนร่วมห้องที่กำลังมองดูกันอยู่ เมื่อได้ยินคำพูดของชิเล่ย ทุกคนก็เดาได้ทันทีว่ายังมีเบื่องหลังอีกใช่ไหม?
ใบหน้าของเฉินหมิงกลายเป็นแข็งค้าง แต่ก็กลับมาเป็นปกติเหมือนเดิมทันที "ชิเล่ย นายไม่ต้องมาเล่นลิ้น! ทุกคนในมหาลัยชวนกิ่งเขารู้กันทั้งหมดแล้ว ว่านายจัดฉากฉัน ถ้าไม่ใช่นายแล้วจะเป็นใครได้ล่ะ?"
ชิเล่ยยิ้ม "ใช่ฉันแล้วทำไมล่ะ? ฉันจัดฉากนาย! ฉันเหม็นขี้หน้านาย! แล้วนายจะทำอะไรฉันได้?"
เฉินหมิงหัวเราะสองครั้ง และตะโกนออกมาว่า "ทุกคนดู! ดูสิ! ฉันบอกแล้วว่าเป็นชิเล่ย ทุกคุณเห็นไหม เขายอมรับแล้ว!"
ชิเล่ยมองไปที่เฉินหมิงด้วยสายตาที่ไม่แยแสและพูดออกมาสองคำ
"ไอ้โง่!"
หลังจากนั้น ชิเล่ยหันไปมองไปหลิงหยูโม่ แล้วกระซิบว่า "เสี่ยวโม่ เดี๋ยวฉันออกไปก่อน ดูเหมือนเขาจะมีสารตกค้างอยู่ในสมอง ฉันไม่อยากลงมือเลยจริงๆ!"
หลิงหยูโม่กระพริบตา "พิสดารหิน สารตกค้างในสมองคืออะไร "
ปากของชิเล่ยกระตุก เกือบสำลักน้ำลายตัวเอง "ก็ กินอาหารบำรุงสมองแล้วมีสารเคมีตกค้างอยู่ในสมอง มันไม่เหมือนกับการกินโสมที่กินแล้วบำรุงสมอง! เอาล่ะ อย่าลืมลาให้ฉันด้วย ฉันไปก่อน!"
สำหรับพฤติกรรมของชิเล่ยที่ชอบหนีเรียน หลิงหยูโม่ชินกับมันแล้ว พยักหน้าโดยไม่สงสัยอะไร "อืม ฉันรู้แล้ว!"
ชิเล่ยเดินออกจากห้องเรียนโดยไม่สนใจเฉินหมิงที่กำลังดีใจเหมือนคนบ้า ในห้องเรียนเฉินหมิงราวกับผู้ชนะและพูดอย่างภูิใจว่า "ความรู้สึกของความอัปยศที่ได้รับมา ในที่สุดฉันก็เอามันออกไปจากใจได้"
นอกห้องเรียน ชิเล่ยได้ไปที่สถานีวิทยุกระจายเสียงของมหาลัย เฉินหมิงมาที่นี่เพื่อออกอากาศในช่วงเที่ยงได้ แล้วทำไมชิเล่ยจะทำไม่ได้? ผู้จัดรายการวิทยุของสถานีวิทยุช่วงกลางวัน น่าจะต้อนรับชิเล่ยเพราะเขาคือตัวละคนหลัก
ในชีวิตที่แล้ว ชิเล่ยจำได้ว่าผู้จัดรายการวิทยุหญิงซูดัน ที่อากาศตอนเที่ยงของสถานีวิทยุกระจายเสียง เป็นผู้หญิงที่มีความสามารถมาก หลังจากที่เธอจบการศึกษาไปแล้ว ได้เข้าไปทำงานที่สถานีโทรทัศน์ชวนกิ่ง และหลังจากนั้นใช้เวลาแค่หนึ่งปี ก็ได้กลายเป็นหนึ่งในเสาหลักของสถานีโทรทัศน์ชวนกิ่ง คู่กับผู้ประกาศข่าวฮูเค่อและเรียกทั้งสองคนนี้ว่าสองเสาหลักของสถานีโทรทัศน์ชวนกิ่ง!
มาถึงสถานีวิทยุกระจายเสียงของมหาลัย ชิเล่ยมาที่ห้องกิจกรรมของสถานีวิทยุกระจาย ด้วยความประทับใจในความทรงจำ แม้ว่าซูดัน จะเป็นเพียงนักศึกษาปี 2 ยกเว้นหลักสูตรวิชาชีพแล้ว ส่วนใหญ่เธอจะอยู่ในสถานีวิทยุและเป็นผู้จัดรายการตลอด
นอกห้องกิจกรรมของสถานีวิทยุ ชิเล่ยเคาะประตูด้วยความสุภาพ
ในห้อง ได้ยินเสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังออกมา "เข้ามาได้!"
ชิเล่ยผลักประตูแล้วเดินเข้าไปข้างใน ในห้องกิจกรรมมีผู้ชายและผู้หญิงหลายคนกำลังฝึกพูดภาษาจีนมาตรฐานกันอยู่
มีผู้หญิงสาวตัวเล็กน่ารัก เดินเข้ามาทักทายว่า "สุดหล่อ กำลังมองหาอะไรอยู่?"
พูดตามความจริง ชิเล่ยไม่ได้มีอะไรดูดีเลย พูดได้เลยหน้าตามีความธรรมดามากและไม่มีเสน่ห์อะไรพิเศษ แต่ด้านบุคลิกที่เปลี่ยนไปตามกาลเวลา (เหมือนอายุเยอะผ่านการขัดเกลามาแล้ว)
"ขอโทษครับ เพื่อนนักศึกษาซูดันอยู่ไหมครับ?" ชิเ่ล่ยตอบอย่างสุภาพ
หญิงสาวตัวเล็กมองชิเล่ยอย่างสงสัยและถามว่า "นายเป็นใคร? มีเรื่องอะไรกับรองประธาน?"
ชิเล่ยถอนหายใจ ไม่ได้คิดเลยว่าซูดันที่เป็นเพียงนักศึกษาปี 2 จะได้เป็นรองประธาน!
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าหลังจากจบการศึกษาแล้ว เธอก็ได้เข้าทำงานที่สถานีโทรทัศน์ชวนกิ่ง และยังต้องคลื่นลมจำนวนมาก ความสามารถของเธอดูจะเก่งมากทีเดียว!
"ผมชื่อชิเล่ย กำลังมองหาซูดัน ผมมีเรื่องบางอย่างจะพูด!"
"อ่า? นายมันสวะคนนั้นนี่!" หลังจากที่หญิงสาวตัวเล็กพูดเสร็จ ใบหน้าของเธอก็แดงขึ้นและเต็มไปด้วยความอับอาย
ชิเล่ยยิ้มให้อย่างหมดหนทางและดูเหมือนว่าแผนของเฉินหมิงนั้นจะมีประสิทธิภาพจริงๆ!
"ฉันต้องขอโทษด้วย เพื่อนนักศึกษาชิเล่ย!" เสียงที่เต็มไปด้วยความสามารถในการชักจูงก็ดังออกมา ซูดันสวมชุดสูทสไตล์ตะวันตก ท่าทางดูเป็นมืออาชีพ เดินเข้ามา "เพื่อนนักศึกษาชิเล่ย ฉันคิดว่าคุณคงไม่คิดมากกับคำพูดยูยู่น้อยที่น่ารักของเราหรอกใช่ไหม?"
ใบหน้าของชิเล่ยแกล้งทำเป็นไม่มีความรู้สึกใดๆ "ไม่ได้! ผมจะแฮกเข้าไปในคอมพิวเตอร์ของเธอ และจะเปิดหนังรักจากประเทศวูซาง!"
หญิงสาวตัวเล็ก ที่ชื่อว่ายูยู่ตาเริ่มแดงและหวาดกลัวที่จะมองชิเล่ย
ซูดันเผยรอยยิ้มออกมา "เพื่อนนักศึกษาชิเล่ย เรื่องตลกนี้คุณอย่าไปขู่ให้เธอกลัวเลย! มาคุยกันดีกว่า วันนี้คุณมาหาฉันทำไม?"
ใบหน้าของชิเล่ยกลับมามีรอยยิ้มเหมือนสายลมฤดูใบไม้ผลิ เขายิ้มให้กับหญิงสาวตัวเล็ก แต่รอยยิ้มของเขาเปลี่ยนไปในสายตาของยูยู่!
"เพื่อนนักศึกษาซูดัน ฉันต้องการเป็นแขก ในการออกอากาศตอนเที่ยงวันนี้!"