ตอนที่แล้วตอนที่ 355 ป้องกัน? (FREE)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 357 ขอยืมหน่อย (FREE)

ตอนที่ 356 สละเบี้ยเพื่อรักษาราชา (FREE)


ฟาง เจิ้งจือ เคยมีประสบการณ์ที่เดินเล่นอยู่และเจอเงินตกอยู่ที่พื้น  อย่างไรก็ตาม การไปเจอกับถิ่นฐานที่ว่างเปล่า...

มันไม่แปลกไปหน่อยหรือ?

ฟาง เจิ้งจือ รู้สึกว่าข้างหน้าของเขาเต็มไปด้วยคำถาม

ข้าสื่อสารอะไรกับหัวหน้าถิ่นแสงสายฟ้าผิดไปงั้นหรือ?

ไม่น่าเป็นไปไม่ได้  หัวหน้าถิ่นได้เห็นเหรียญตราของข้าแล้ว เขายอมรับตัวตนของข้า รวมถึงข้าเองก็ไม่ได้ให้ข้อมูลเขาผิดพลาดอะไร

ฟาง เจิ้งจือ คิดว่าความเป็นไปได้มีไม่มากนัก  อย่างไรก็ตามถิ่นฐานราชสีห์คำรามที่อยู่ตรงหน้าของเขานั้นว่างเปล่าจริงๆ  และดูเหมือนแม้แต่ทหารยังไม่มี

หรืออาจจะเป็นกลยุทธ์ที่ทำให้เมืองว่างเปล่าเพื่อหลอกศัตรู?

ไม่สมเหตุสมผล

เขาไม่ได้วางแผนจะโจมตีถิ่นฐานราชสีห์คำรามเสียหน่อย จะทำแบบนั้นไปทำไมกัน?

ฟาง เจิ้งจือ งงมาก

จาก 6 ถิ่นฐานหลักในดินแดนภูเขาทางใต้ นอกจากเมืองภูเขาเซียนแล้วละก็ ถิ่นฐานราชสีห์คำรามนั้นไม่ใช่อะไรที่ถิ่นฐานแสงสายฟ้าเล็กๆจะเทียบได้

ภูมิประเทศของดินแดนภูเขาทางใต้มีเอกลักษณ์มาก

มันเต็มไปด้วยป่าทึบ ภูเขา และสัตว์ดุร้าย

ทำให้มนุษย์ไม่ปลอดภัยที่จะอยู่ที่นี่เท่าไรนัก

สิ่งที่ตามมาย่อมเป็นความตื่นกลัวและอาญชาญากรรม  อย่างไรก็ตามเรื่องพวกนี้ไม่ได้เกิดขึ้นที่ดินแดนภูเขาทางใต้เลย  เนื่องจากที่นี่ดินแดนที่ราวกับเป็นสวรรค์ 7 แห่ง

นั่นคือถิ่นฐานหลักทั้ง 6 และเมืองภูเขาเซียน

สถานที่เหล่านี้ล้วนเป็นผลจากการเลือกและสร้างอย่างพิถีพิถันโดยราชาของเมืองภูเขาเซียน มันเป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยความหวังของชาวภูเขาทางใต้

สถานที่เหล่านี้ ประชาชนของดินแดนภูเขาทางใต้สามารถอยู่อาศัยได้ ต่อให้จะเต็มไปด้วยป่าไม้และภูเขาก็ตาม

ถ้าการออกแบบถิ่นฐานราชสีห์คำรามเป็นเหมือนการสร้างหมู่บ้านๆเล็กบนภูเขา

งั้น ถิ่นฐานราชสีห์คำรามนั้นน่าจะสร้างอยู่บนหน้าผาขนาดใหญ่และสร้างบ้านเรือนติดกับต้นไม้  บริเวณใกล้ๆนั้นเตมไปด้วยหินสีเขียวสูงกว่า 5 เมตร ด้านบนของมันมีรูอยู่  เอาไว้สำหรับยิงธนู

วิธีใช้รูพวกนี้ ไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรมากนัก มันออกแบบมาสำหรับการยิงธนูโดยเฉพาะ  มันมีทั้งหมดสามชั้น

เมื่อ ฟาง เจิ้งจือ เห็นถิ่นฐานราชสีห์คำรามในครั้งแรก เขามีเพียงความคิดเดียว  ที่นี่คล้ายกับหมู่บ้านบนภูเขาเล็กๆที่เขาเคยเห็นมาก

เมื่อเขานึกถึงตอนที่จะนำทัพทหารหมาป่าเขาเงินเข้าโจมตีถิ่นฐานราชสีห์คำราม เขาก็รู้สึกขำขึ้นมาทันที

เขารู้สึกค่อนข้างอับอายเล็กน้อย

ถ้าทหารหมาป่าเขาเงินถูกนำมาใช้ในการซุ่มโจมตีในป่าทึบหรือเข้าโจมตีอย่างรวดเร็วแล้วละก็ มันจะไม่เป็นปัญหาแม้แต่น้อย  แม้แต่การโจมตีถิ่นฐานเล็กๆก็จะสามารถสำเร็จได้ง่ายๆ

อย่างไรก็ตามการเข้าโจมตีราชสีห์คำรามนั้นเป็นอีกเรื่อง

ดินแดนภูเขาทางใต้...

ฟาง เจิ้งจือ มองไปยังถิ่นราชสีห์คำราม จากนั้นเขาก็รู้สึกสงสัยในตัวของราชาเมืองภูเขาเซียนเป็นอย่างมาก  ถ้าแค่ถิ่นฐานราชสีห์คำรามยังถูกสร้างขึ้นมาแบบนี้ แล้วเมืองภูเขาเซียนละจะเป็นยังไง?

เรื่องที่เหลือหลังจากนี้ไม่มีอะไรยาก

ก่อนอื่น ฟาง เจิ้งจือ จะเรียกให้ ถัง ซือเซิง เข้าไปที่ถิ่นฐานราชสีห์คำรามกับเขา ถาม เถิง ซือเซิง ถึงตำแหน่งของหัวหน้าถิ่น เพื่อแสดงเหรียญตราของเขาให้เห็น

"ส่งกองกำลังออกไปป้องกันการโจมตีของ วู่ เฟิง?"หลังจากที่ ฟาง เจิ้งจือ ได้ฟังคำอธิบายของหัวหน้าถิ่น รอยยิ้มจางๆปรากฎขึ้นบนใบหน้าเขาทันที

ไม่เลว!

เขาคุ้นเคยกับสงครามเป็นอย่างดี!

ถ้าเขาเป็นคนนำกองทัพ มีโอกาส 50% ที่เขาจะใช้วิธีเดียวกัน  มันเป็นการแสวงหาความสำเร็จผ่านความเสี่ยงและอันตราย  จะเป็นที่ 1 ได้ยัง ?

แม่ทัพที่ดีต้องใจกล้า

การเลือกที่จะโจมตีย่อมดีกว่าตั้งรับเฉยๆ

แต่แม่ทัพที่ดีต้องสามารถจัดการศัตรูได้โดยไม่มีการสู้รบ

แม้ เฉิน เฟยยู่ จะไม่ได้มีฝีมือมากมาย แต่ดูเหมือนเขาจะรู้วิธีต่อสู้ในสนามรบเป็นอย่างดี  เจ้ากล้าโจมตีข้า?

ไม่มีปัญหา งั้นข้าจะโจมตีเจ้าก่อน

มันคือความมั่นใจ!

เฉิน เฟยยู่ กล้าที่จะทิ้งป้อมปราการของขาเพื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีของศัตรู

อย่างไรก็ตาม มีคำพูดหนึ่งเกี่ยวกับสนามรบ  ทุกอย่างสามารถเปลี่ยนแปลงได้ในพริบตา

พูดง่ายๆคือ คนหนึ่งอาจจะได้เปรียบเมื่อ 15 นาทีที่แล้ว ยืนอยู่บนยอดภูเขาก้มลงมองคนธรรมดาด้านล่าง แต่ชั่วอึดใจเขากลับถูกจัดการและจับไปยัดใส่คุกแทน

เฉิน เฟยยู่ ละเลยปัญหาใหญ่ที่สุดไป

นั่นคือการให้ผู้อื่นเอาถิ่นฐานที่ว่างเปล่าไป

นี่เป็นข้อผิดพลาดในความฉลาดของเขา  แน่นอนมันไม่ได้หมายว่า เฉิน เฟยยู่ ไม่ฉลาด  อาจจะพูดได้ว่าการปรากฎตัวของ ฟาง เจิ้งจือ เป็นช่องโหว่ในแผนการของเขา

ด้วยความแข็งแกร่งของกองทัพ เฉิน เฟยยู่ นั่นหมายความว่า เขาสามารถควบคุมผู้เข้าสอบรอบๆถิ่นฐานราชสีห์คำรามได้อย่างสมบูรณ์ รวมถึง เฉิน เฮา ที่อยู่ในถิ่นฐานแสงสายฟ้าด้วย

ความเป็นไปได้ที่ เฉิน เฮา จะโจมตีถิ่นฐานราชสีห์ครามนั้นแทบเป็นศูนย์

เฉิน เฟย มีความมั่นใจมาก

ฟาง เจิ้งจือ เองก็มั่นใจมาก  ดังนั้นเขาจึงนำกองทัพไปที่ถิ่นฐานราชสีห์คำรามโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย รับของขวัญที่สวรรค์มอบให้เขาอย่างยินดี

...

การต่อสู้ระหว่าง วู่ เฟิง และ เฉิน เฟยยู่ ค่อนข้างน่าเศร้า

ความกล้าหาญรวมถึงกลยุทธ์ของ เฉิน เฟยยู่ ได้ผลตั้งแต่ต้น  ทหารสองพันนายรวมถึงค่ายต่างๆได้ชะลอการโจมตีของทัพหลัก วู่ เฟิง เอาไว้

อย่างไรก็ตามมันไม่ได้ใช้เวลาทั้งหมด 5 วันแต่เป็น 4 วัน

เป็นเพราะหลังจากรู้ว่า เฉิน เฟยยู่ ถ่วงเวลาไว้ วู่ เฟิง ก็บ้าคลั่งขึ้นมาทันที  มันเป็นความป่าเถื่อน  ทหารนับหมื่นบุกเข้ามาราวกับพวกเขาเป็นบ้า

วู่ เฟิง ใช้การต่อสู้ที่ไร้เหตุผลและบ้าบอมากที่สุด

แบ่งทหารหมื่นนายเป็น 4 ส่วน  จากนั้นใช้แต่ละส่วนทำลายการป้องกันตลอดวันตลอดคืน

แม่ทัพตัวเล็กๆไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะต้องต่อสู้กับ วู่ เฟิง ที่บ้าคลั่ง

มันเป็นการต่อสู้ที่หมดหวัง

ทหาร 2,000 นายเผชิญหน้ากับคนที่บ้าคลั่ง  ไม่ต้องพูดถึงกำลังทหารของเขาที่ถดถอยลงเรื่อยๆ เขาไม่สามารถแม้แต่ที่จะป้องกันที่กำบังสุดท้ายไว้ได้

เพื่อให้งานที่ได้รับมาจาก เฉิน เฟยยู่ เสร็จสิ้น แม่ทัพตัวเล็กๆต้องสั่งให้แบ่งกองทัพเพื่อต่อสู้  อย่างไรก็ตามเขาก็ถ่วงเวลาได้อีก 1 วัน

กองทัพทั้ง 2,000 ถูกจับกุมอย่างสมบูรณ์ แต่เขาไม่สามารถ่วงเวลาได้ถึง 5 วัน

เวลาในหนึ่งวันสำหรับคนที่อาบน้ำนอนหลับและกินก็แค่วันอื่น

อย่างไรก็ตาม ในสงครามมีจุดเปลี่ยนตลอดเวลา

การซุ่มโจมตีทัพที่สองของ วู่ เฟิง นั้นสำเร็จอย่างราบลื่น กองทัพทั้ง 6,000 คนพ่ายแพ้โดยสิ้นซาก

แต่...

ขณะที่เขากำลังจะร้องเพลงแห่งชัยชนะและจับกุมทหารด้านหน้านั้นเอง ทันใดนั้นเขาก็เห็นทหารจำนวนหนึ่งมาจากด้านหลัง

"วู่ เฟิง!"เฉิน เฟยยู่ มองไปที่ วู่ เฟิง ผู้ที่นำทหารมา  ความตกใจปรากฎบนใบหน้าของเขา

เขาคิดไว้แล้วว่า วู่ เฟิง อาจจะมาเร็วกว่าที่เขาคาดการณ์เอาไว้

หลังจากที่เขาซุ่มโจมตีเสร็จแล้ว เขาจึงสั่งให้โจมตีต่อทันที

อย่างไรก็ตาม นี่เป็นความแข็งแกร่งของทหาร 6,000 นาย

10,000 เจอกับ 6,000 ต่อให้เขาจะซุ่มโจมตีได้สำเร็จ แต่การจะจัดการพวกเขาทั้งหมดในเวลาสั้นๆไม่ใช่เรื่องง่าย

เฉิน เฟยยู่ รู้สึกว่าตัวเองเร็วแล้ว  แต่เขาไม่คิดว่า วู่ เฟิง จะเร็วกว่า

แต่ในเมื่อมาถึงจุดนี้แล้ว  เฉิน เฟยยู่ ก็คิดด้วยความสงบ

ในฐานะคนสั่งการ ความเยือกเย็นนั้นเป็นคุณสมบัติพื้นฐาน  และเขาก็ทำมันได้ดี  ดังนั้น ใน2นาที เขาก็สามารถสร้างตัวเลือกที่ชาญฉลาดขึ้นมาได้

ยอมเสียเบี้ยเพื่อรักษาราชาไว้!

ทิ้งทหารพันคนเพื่เผชิญหน้ากับทัพของ วู่ เฟิง ที่มาจากด้านหลัง  จากนั้นก็นำทัพหลักถอยไปที่ถิ่นฐานราชสีห์คำรามตอนกลางคืน

หลังจากคำนวณแล้ว สงครามของ เฉิน เฟยยู่ น่าจะเป็นไปได้ด้วยดี

เสียทหารพันคนหรืออย่างมากก็สองพันคน เพื่อจัดการทัพทหาร 6,000 คนของ วู่ เฟิง  มันยังคงคุ้มค่า และยังพอมีทางที่จะชนะได้อยู่

ยืนอยู่ที่ทางเข้าของถิ่นฐานราชสีห์คำราม เฉิน เฟยยู่ เงยหน้าขึ้นมาเล็กน้อย ปรากฎให้เห็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ  หลังจากการต่อสู้ แทนที่กำลังทหารของเขาจะลดลง แต่กลับเพิ่มขึ้น

แต่ในการทดสอบด้านการต่อสู้ ไม่มีใครที่จะยอมเสี่ยงทำอะไรที่อันตรายต่อชีวิตหรือฆ่าผู้อื่น  ดังนั้นทหาร 6,000 นายยังมีชีวิตอยู่ มีผู้เสียชีวตเพียง 300 คน  และ เฉิน เฟยยู่ ก็ได้ทหารใหม่มาประมาณ 4,700 นาย

ทำให้จำนวนทหารของเขาในตอนนี้เป็น 14,700 นาย

อีกด้าน ทหารของ วู่ เฟิง นั้นลดลง

จาก 20,000 กลายเป็น 17,000  นอกจากนี้ เขาได้ทิ่งทหาร 4,000 นายไว้ที่ถิ่นฐานหลัก  ดังนั้นทหารที่เขามีในตอนนี้น่าจะประมาณ 14,000 นาย

15,000 สู้กับ 14,000 รวมถึงความได้เปรียบด้านภูมิศาสตร์  เฉิน เฟยยู่ ต้องกลัว วู่ เฟิง ทำไม?

ถ้าเป็นคนธรรมดาทั่วไปคงตะโกนออกมาแล้ว " เข้ามาเลย ถ้าเจ้ากล้าก็เข้ามา, ข้าจะทำให้เจ้ากลัวจนฉี่ราดเลย"

อย่างไรก็ตาม ...

เฉิน เฟยยู่ ไม่ได้ตะโกนออกไป

เขาสืบเชื้อสายมาจาก 13 กองตรวจการ เขายังจะยินดีในตอนที่การรบยังไม่รู้ผลไม่ได้

แผนการของ เฉิน เฟยยู่ คือคิดจะจัดการให้ได้ในครั้งเดียว

เขาได้วางแผนเป็นอย่างดีแล้วคือ

"การยอมเสียเบี้ยเพื่อรักษาราชาเอาไว้"

เพจหลัก : Double gate TH

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด