ตอนที่แล้วตอนที่ 461 ทะลุขีดความสามารถ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 463 มรดกระดับจักรวรรดิ

ตอนที่ 462 สงครามแห่งการล้างผลาญ


ตอนที่ 462 สงครามแห่งการล้างผลาญ

เมื่อซือเฟิงกลับเข้าสู่เกม ตำแหน่งที่เขาปรากฎตัวขึ้นมาในเกมก็คือ White Fog Canyon เช่นเดิม

ในขณะนี้ภายใน God domain นั้นท้องฟ้ามืดสนิทเป็นเวลากลางคืน ยังเหลือเวลาอีกราวชั่วโมงหนึ่งก่อนที่เช้าวันใหม่จะมาถึง

“มันเงียบสงบจริงๆ ….”

ซือเฟิงมองไปที่สภาพแวดล้อมเขาไม่ได้สังเกตเห็นผู้เล่นหรือมอนสเตอร์ใดๆ มีเพียงเสียงใบไม้พลิ้วไสวไปในสายลมหนาว นี่มันเป็นสถานการณ์ที่ผิดปกติใน White Fog Canyon

อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นแบบนี้ ซือเฟิงก็ไม่ได้อยู่กับที่นานเกินไป เขารีบวิ่งไปยังทางออกทันที

ในขณะนี้สภาวะอ่อนแอของซือเฟิงได้สิ้นสุดลงแล้ว เขาได้ฟื้นตัวกลับมาอยู่ในสภาพสูงสุดของเขาอีกครั้ง ถ้าใครมองเห็นซือเฟิงวิ่งในตอนนี้ พวกเขาจะไม่สามารถมองเห็นซือเฟิงได้อย่างชัดเจน พวกเขาจะเห็นเพียงเงาสีดำพุ่งผ่านพวกเขา หรือแผนที่ ตอนนี้ซือเฟิงดูราวกับเป็นเสือดาวที่น่าเกรงขามและสง่างาม

ขณะที่ซือเฟิงกำลังมุ่งหน้าไปยังทางออกนั้น ก็มีกลุ่มลิงมากกว่าหนึ่งร้อยตัวกระโดดออกมาจากบริเวณป่า และปิดกั้นเส้นทางของเขา

มอนสเตอร์ใน White Fog Canyon นั้นอันตรายมากๆ เนื่องจากพวกมันส่วนใหญ่อยู่ในสถานะบ้าคลั่ง

ตอนนี้เป็นเวลากลางคืนทัศวินศัยในการมองเห็นของผู้เล่นก็ลดลง ในขณะที่มอนสเตอร์นั้นแทบะไม่ได้รับผลกระทบ เป็นผลให้ผู้เล่นพบว่ามันยากที่จะต่อสู้ในเวลากลางคืน

เมื่อเผชิญหน้ากับมอนสเตอร์ชนิดพิเศษในเวลาแบบนี้ แม้กระทั่งปาร์ตี้ระดับสูงรวมกันหลายปาร์ตี้ก็ยังไม่แน่ว่าจะเอาชนะได้ ควรจะมีแค่เฉพาะปาร์ตี้ขนาดใหญ่กว่าหนึ่งร้อยคนเท่านั้นที่จะสามารถทนทานต่อกลุ่มลิงจำนวนมากขนาดนี้ได้ อย่างไรก็ตามมันราวกับว่าซือเฟิงมองไม่เห็นลิงนับร้อยที่ปิดกั้นเส้นทางของเขา ซือเฟิงพุ่งเข้าใส่กลุ่มลิงทันที

ขณะที่เหล่าลิงนั้นได้เตรียมตั้งรับซือเฟิงกันอย่างบ้าคลั่ง

อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกมันพยายามโจมตีโดยเล็งไปที่ร่างของซือเฟิง สิ่งที่พวกมันฟันโดนก็มีเพียงแค่ภาพติดตาและอากาศเท่านั้น

หลังจากการโจมตีครั้งแรกล้มเหลว พวกมันก็ตั้งตัวและพยายามโจมตีซือเฟิงอีกครั้ง

คราวนี้พวกมันพยายามตีวงล้อมซือเฟิงเข้ามาให้แคบขึ้น แต่ซือเฟิงก็ไม่ได้สนใจ เขาเคลื่อนไหวดั่งสายน้ำ เมื่ออาวุธของลิงกำลังจะถูกตัวเขา ทุกอย่างก็เป็นเช่นเดิมกับครั้งแรก

ซือเฟิงใช้เวลาเพียงไม่นานในการฝ่าด่านกลุ่มลิง แม้ว่ากลุ่มลิงจะเต็มไปด้วยโกรธเกรี้ยว แต่พวกมันก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เมื่อซือเฟิงได้ทะลุผ่านบริเวณที่พวกมันเฝ้าอยู่ไปอย่างง่ายๆ

ศักยภาพของสมองที่เพิ่มขึ้นนั้นมันมีนัยยะสำคัญหลายๆอย่าง ซือเฟิงเต็มไปด้วยรอยยิ้มขณะที่เขาหันหลังกลับไปดูกลุ่มลิง

ถึงแม้เขาจะจัดการล้มลิงในกลุ่มนั้นไปได้จำนวนมาก แต่มันก็ไม่แน่ว่าเขาจะสามารถฝ่าออกมาได้ง่ายๆแบบนี้ ความสำเร็จที่เขามีนี้ เป็นผลมาจากศักยภาพของสมองที่พัฒนาขึ้นอย่างมาก การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่เพียงแค่ช่วยปรับปรุงให้เขารับรู้ถึงอันตรายได้มากขึ้น แต่มันยังช่วยให้เขาควบคุมร่างกายได้ดีขึ้นด้วย ไม่ว่าจะเป็นหลบหลีกหรือโจมตี ตอนนี้ซือเฟิงมีความแม่นยำขึ้นอย่างมาก เขาได้เข้าสู่ขอบเขตที่เรียกว่าการปรับแต่งแล้ว

ก่อนหน้านี้นั้นซือเฟิงสามารถเข้าสู่ขอบเขตนี้ได้ด้วยการใช้สกิลอย่าง Void Steps หรือกระทำบางอย่างเท่านั้น เขาไม่สามารถรักษาสภาวะนี้ไว้ได้นาน สถานะก่อนหน้านี้ของเขาคือครึ่งก้าวก่อนเข้าสู่ขอบเขตการปรับแต่ง ซึ่งก็จัดว่าเป็นเรื่องที่น่าทึ่งมากแล้ว แต่ตอนนี้เขาได้เข้าสู่ขอบเขตการปรับแต่ง ความแข็งแกร่งของเขาจะเพิ่มขึ้นไปอีกอย่างมากมาย ตอนนี้แม้ว่าเขาจะต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีของซัมเมอร์ซันไช เขาก็เชื่อว่าเขาสามารถรับมือได้โดยไม่ต้องใช้ Void Steps

หลังจากออกจาก White Fog Canyon มาได้ ซือเฟิงก็รีบใช้ม้วนคัมภีร์วาร์ปกลับเมืองทันที

ไม่นานหลังจากที่ซือเฟิงเดินทางกลับมาถึงเมืองไวท์ริเวอร์ เขาก็ได้ค้นพบว่าเมืองมีผู้เล่นมากขึ้นกว่าแต่ก่อน และผู้เล่นส่วนใหญ่ก็กำลังรับสมัครคนเข้าปาร์ตี้ตัวเอง

“ปาร์ตี้ฟาร์มหาเงิน มีสิบเจ็ดคนแล้ว ขออีกสามคนที่เป็นสายโจมตีระยะไกล ขอเลเวลยี่สิบหรือมากกว่า !!!”

“Frozen Waterfall ปาร์ตี้ผู้เล่นอิสระ มีสิบสองคนแล้ว ขาดอีกแปด พวกเรายินดีต้อนรับผู้เล่นระดับสูง !! พวกไก่อ่อนไปไกลๆ !! ขอเลเวลยี่สิบเอ็ดหรือมากกว่า อุปกรณ์ขั้นต่ำเป็นระดับทองแดง”

“Twilight Lighthouse ปาร์ตี้ผู้เล่นอิสระ ปาร์ตี้นี้ถูกควบคุมโดยผู้เล่นระดับสูง พวกไก่อ่อนที่คิดจะมาสมัครไปไกลๆ !!! ขอรับเฉพาะผู้เล่นเลเวลยี่สิบขึ้นไปเท่านั้น และอุปกรณ์ต้องเป็นระดับทองแดงขึ้นไป !!! ไอเทมที่ดรอปออกมา จะถูกประมูลกันระหว่างสมาชิกภายในปาร์ตี้ !!!”

ผู้เล่นหลายคนกำลังรับสมัครคนเข้าปาร์ตี้เพื่อลุยดันเจี้ยนเลเวลยี่สิบ นี่ทำให้ซือเฟิงรู้สึกประหลาดใจมากจริงๆ

ทั้ง Frozen Waterfall และ Twilight Lighthouse จัดว่าเป็นดันเจี้ยนเลเวลยี่สิบที่มีความยากอยู่ในระดับกลาง แม้กระทั่งปาร์ตี้ทั่วไปของกิลใหญ่ๆยังยากที่จะผ่านดันเจี้ยนนี้ แต่ตอนนี้กับมีผู้เล่นอิสระมากมายที่มารับสมัครด้วยเงื่อนไขที่สูง เพื่อเตรียมคนเข้าลุยดันเจี้ยนพวกนี้ สถานการณ์นี้ทำให้ซือเฟิงสับสนอย่างมาก

เขาออฟไลน์ไปแค่วันเดียว …

เมื่อไหร่กันที่ผู้เล่นทั้งหมดในไวท์ริเวอร์ทรงพลังมากขนาดนี้ ?

นอกเหนือจากการตะโกนรับสมัครคนเขาปาร์ตี้กัน ซือเฟิงยังได้ยินข่าวเกี่ยวกับสงครามเต็มรูปแบบระหว่างสภาสิบแปดปีกกับ Overwhelming Smile

จนถึงตอนนี้ทั้งสองฝ่ายสูญเสียผู้เล่นกันไปเป็นจำนวนมาก ยิ่งไปกว่านั้นการสู้รบระหว่างทั้งสองฝ่ายยังทวีความรุนแรงขึ้นอย่างมาก เมื่อเวลาค่อยๆผ่านไป ในตอนแรกการต่อสู้ที่เกิดขึ้นนั้นมีแค่เฉพาะกับผู้เล่นนับสิบคนเท่านั้น ก่อนจะค่อยๆขยายเป็นนับร้อย และเมื่อมาถึงตอนนี้ทั้งสองกิลก็ได้เข้าสู่สงครามอย่างเต็มรูปแบบ

“สภาสิบแปดปีกนี่น่ากลัวจริงๆ พวกเขาจัดการฆ่าล้างผู้เล่นของ Overwhelming Smile ไปกว่าห้าพันคนแล้ว ขณะที่พวกเขาสูญเสียไม่ถึงสองพันด้วยซ้ำ”

“ฉันได้ข่าวมาว่าเพียงแค่แอสซาซินคนเดียวของสภาสิบแปดปีกอย่างไฟเออร์แดนซ์ ก็ฆ่าผู้เล่นของ Overwhelming Smile ไปกว่าสามร้อยรายแล้ว ผู้เล่นหลายคนตกตายภายใต้น้ำมือเธอ อีกทั้งเธอก็ยังสามารถฆ่าโลนไทแร๊นซ์ได้ ซึ่งทำให้ Overwhelming Smile ปวดหัวมากๆ ตอนนี้ชื่อเสียงของเธอมีมากพอๆกับแบล๊คเฟรมแล้ว”

“นอกเหนือจากไฟเออร์แดนซ์ ยังมีแอสซาซินอีกคนของสภาสิบแปดปีกอย่างฟลายอิ้งชาโด้ว จำนวนผู้เล่นของ Overwhelming Smile ที่ตกตายภายใต้น้ำมือเขาน้อยกว่าไฟเออร์แดนซ์เล็กน้อย เขาฆ่าไปราวสองร้อยราย นอกจากนี้ยังมีอควาโรส ไวโอเล็ทคลาวด์ แบล๊คกี้ และคนอื่นๆอีกจำนวนมาก ที่ฆ่าไปมากกว่าหนึ่งร้อยราย นอกเหนือจากสมาชิกแกนหลักพวกนี้ สภาสิบแปดปีกยังมีผู้เชี่ยวชาญระดับสูงอีกมากมาย ในหมู่พวกเขา มีเบอเซิกเกอร์ที่ชื่อชาโด้วซอร์ด ซึ่งฆ่าไปอีกกว่าห้าสิบราย ฉันได้ยินมาว่าตอนนี้เขาสามารถแลกอุปกรณ์ระดับไฟน์โกล โดยใช้คะแนนกิลได้แล้วด้วย”

“Overwhelming Smile เองก็มีผู้เชี่ยวชาญมากมาย ทำไมพวกเขาถึงไม่ใช่คู่มือของสภาสิบแปดปีกเลย ? ทำไมผู้เชี่ยวชาญของสภาสิบแปดปีกถึงแข็งแกร่งขนาดนี้ …?”

“นายไม่รู้หรอ ? ฉันได้ยินมาว่าสมาชิกแกนหลักทั้งหมดของสภาสิบแปดปีกได้เปลี่ยนขั้นของตัวเองเป็นขั้นหนึ่งแล้ว ในแง่ของค่าสถานะและสกิล พวกเขาทรงพลังกว่าผู้เล่นขั้นศูนย์มากๆ หากผู้เล่นขั้นหนึ่งที่มีอุปกรณ์เท่ากับผู้เล่นขั้นศูนย์ต่อสู้กัน ผู้เล่นขั้นหนึ่งสามารถจะบดขยี้ผู้เล่นขั้นศูนย์นับสิบคนได้ราวกับมดปลวก นอกจากนี้ฉันยังได้ยินมาว่าสภาสิบแปดปีกมีผู้เล่นขั้นหนึ่งมากกว่าห้าสิบคนแล้ว Overwhelming Smile นั้นยากที่จะต่อกรกับสภาสิบแปดปีกมากๆ …”

“มันเป็นไปไม่ได้ดิใช่มั้ย ?!! ฉันได้ยินมาว่าเควสเปลี่ยนขั้นนั้นมันยากอย่างมาก มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำเควสสำเร็จ ถ้าไม่มีเลเวลยี่สิบเจ็ด หรือยี่สิบแปด หลายคนเคยลองมาแล้ว และก็ล้มเหลว นอกจากนี้หากล้มเหลวเควสเปลี่ยนขั้น พวกเขาจะต้องรอเป็นระยะเวลาหนึ่งก่อนที่พวกเขาจะสามารถทำเควสได้ใหม่ ผู้เล่นของสภาสิบแปดปีกเปลี่ยนขั้นกันได้สำเร็จมากขนาดนั้นได้ยังไง ?”

ผู้เล่นที่กำลังคุยกันบนถนนเต็มไปด้วยความประหลาดใจในเรื่องของสภาสิบแปดปีก ในเวลาเดียวกันนั้น พวกเขาก็ได้รู้แล้วว่าขั้นหนึ่งนั้นทรงพลังกว่าขั้นศูนย์มากขนาดไหน

เมื่อซือเฟิงได้ยินคำพูดเหล่านี้ เขาก็ปรากฎรอยยิ้มจางๆขึ้นมา หลังจากพยายามมานาน ในที่สุดความพยายามของเขาก็ผลิดอก ออกผล

ผู้เล่นขั้นหนึ่ง มากกว่าห้าสิบคนของเขา มีบทบาทสำคัญและสร้างปัญหาต่อผู้เล่นระดับสูงขั้นศูนย์นับพันอย่างมาก แต่น่าเสียดายที่นี่เป็นเพียงการต่อสู้ระหว่างทั้งสองกิลเท่านั้น หากเป็นสงครามขนาดใหญ่จริงๆ ศักยภาพที่เหนือกว่าของผู้เล่นขั้นหนึ่งจะสามารถแสดงออกมาได้มากกว่านี้อีก

นอกจากนี้เมื่อเปรียบเทียบกับภูมิหลัง และเงินทุนแล้ว สภาสิบแปดปีกของเขาเทียบ Overwhelming Smile ไม่ติดเลยแม้แต่นิดเดียว

แม้ว่าจำนวนผู้เล่นที่เสียไปในการสู้รบของ Overwhelming Smile จะมากกว่าสภาสิบแปดปีกถึงสองเท่า แต่ Overwhelming Smile ก็ได้รับการสนับสนุนจากอันเดอร์เวิล เงินทุนของพวกเขานั้นมีมากกว่าสภาสิบแปดปีกนับสิบเท่า ฉะนั้นพวกเขาจะสามารถหาคนมาทดแทนได้อย่างง่ายดาย หรือแม้กระทั่งจ่ายค่าชดเชยได้โดยไม่ต้องคิดมากแบบสภาสิบแปดปีก

นี่เป็นเหตุผลที่ซือเฟิงไม่อยากจะเริ่มสงครามเต็มรูปแบบ เพราะมันอาจส่งผลกระทบต่อรากฐานของกิลได้

ซือเฟิงได้รีบติดต่ออควาโรส เพื่อถามไถ่และทำความเข้าใจถึงสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งมันทำให้ซือเฟิงตัดสินใจอย่างไม่มีทางเลือกด้วยการเพิ่มคะแนนกิลเมื่อฆ่าศัตรูลงได้ และเพิ่มค่าชดเชยให้ผู้เล่นของกิลที่ตายจากการรบมากขึ้นไปอีก ในเวลาเดียวกันเขาได้เริ่มวางแผนที่จะพิชิตดันเจี้ยนขนาดห้าสิบ และหนึ่งร้อยคน

“หัวหน้ากิล ตอนนี้เราอยู่ในสภาวะสงครามเต็มรูปแบบกับ Overwhelming Smile ถ้าเราเพิ่มค่าชดเชย และคะแนนตอบแทนเข้าไปอีก กิลจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นหลายเท่า หากสงครามยืดเยื้อออกไป มันจะทำให้กิลเราดิ่งเหว นอกจากนี้ค่าชดเชยและคะแนนตอบแทนทั้งหมดที่เราให้ในตอนนี้ก็จัดว่าสูงมากแล้ว แม้แต่สมาชิกทั่วไปของกิลก็รู้สึกว่ามันดีมากๆ มันไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเพิ่มค่าใช้จ่ายในส่วนนี้เลย” อควาโรสรู้ว่าซือเฟิงร่ำรวย แต่เขาก็ไม่ควรใช้เงินแบบนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้เงินไปในของรางวัลเหล่านี้ โดยรวมแล้วมันเท่ากับว่าหากสมาชิกกิลสังหารศัตรูหนึ่งหมื่นคน กิลก็จะต้องจ่ายเพิ่มอีกหนึ่งหมื่นคะแนน ซึ่งนี่เองมันจะทำให้ค่าใช้จ่ายต่างๆเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล

“ไม่ต้องห่วง ฉันจะจัดการกับเรื่องเงินเอง” ซือเฟิงพูดพลางส่ายหัว

เหตุผลที่ซือเฟิงทำแบบนี้ไม่ใช่เพราะต้องการเพิ่มความพึงพอใจให้สมาชิกกิล มันเป็นเพราะเขาต้องการเร่งอัตราการจ่ายเงินในการทำสงครามของทั้งสองฝ่าย

ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ ซือเฟิงคงไม่กล้าที่จะทำแบบนี้ แต่ตอนนี้เขามีแร่สตาร์ไฟร์จำนวนมากอยู่ในมือแล้ว เขาจะทำให้ Overwhelming Smile รู้ว่าการครอบงำด้วยการเงินที่แท้จริงมันเป็นยังไง …

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด