GE61 ข้าจะฆ่าเจ้า! [ฟรี]
หนิงฝานใช้เวลาทั้งวันในการต่อเชื่อมกระดูกให้ชุ่ยหลิง ส่วนเยว่หลิงนั่งพับเพียบ ให้ขาทั้งสองข้างของนางเป็นหมอนให้ชุ่ยหลิง
ด้านนอกข่ายอาคม ภูติผีในขอบเขตประสานวิญญาณนับพันรายล้อมรอบด้าน เสียงโหยหวนของพวกมันทำให้เยว่หลิงสั่นสะท้าน นางหันมองหนิงฝานที่นั่งรักษาตน การที่มีหนิงฝานอยู่ทำให้นางสบายใจขึ้น
ผ่านไป 3 วัน อาการบาดเจ็บของหนิงฝานก็ฟื้นฟูด้วยโอสถไร้กำเนิด ยามนี้ เขานำสัตว์อเวจีที่หมดสติออกมา วางร่างของมันนอนไว้บนตัก พร้อมกับสำรวจดูหยกสีดำในมือ
หนิงฝานลูบสัมผัสสัตว์อเวจีอย่างแผ่วเบา ใบหน้าเผยความอ่อนโยน ทำให้เยว่หลิงที่มองเข้าใจว่าหนิงฝานชอบมัน
“เจ้าคงประสบเรื่องราวร้ายแรงมาไม่น้อย...” สัตว์อเวจีดูคล้ายสุนัขสีดำ ลำตัวขนาดเล็ก
มันดูเหมือนสุนัขที่ถูกฆ่าในตระกูลหนิง เมื่อยามที่หนิงฝานเป็นเด็ก...
ดวงตาของหนิงฝานเผยความโศกเศร้า แต่ก็ต้องซ่อนมัน หากถามว่าระหว่างสุนัขดำทั่วไปกับสัตว์อเวจีตัวนี้ต่างกันที่ใด พวกมันต่างที่ดวงตา
ยามนี้มันยังนอนไม่ได้สติ
หนิงฝานนำโอสถไร้กำเนิดแบ่งให้มันกิน ทำให้อาการบาดเจ็บของมันดีขึ้น
“สัตว์อสูรในขอบเขตประสานวิญญาณ ระดับของมันช่างเหมาะกับข้า” หนิงฝานพึมพัม แต่เยว่หลิงยังได้ยิน นั่นทำให้นางหวั่นไหว
นางคิดว่าหนิงฝานจะห่วงใจเพียงพี่สาวของนาง แต่ยามนี้ หนิงฝานกำลังใส่ใจสิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆนั่น...
ขณะที่หนิงฝานหวนคิดเรื่องตระกูล แววตาของเขาพลันเย็นชา
‘หากข้าได้กลับไปเมื่อใด...ข้าจะทำลายตระกูลหนิงให้สิ้นซาก หากข้าได้กลับไป...ข้าจะมอบความตายให้พวกมัน’
ผู้ที่ออกจากตระกูลหรือก้าวเท้าเข้าสู่โลกแห่งการฝึกตน นับว่ากลายเป็นคนไร้บ้าน
หนิงฝานเลิกคิดเรื่องตระกูล ยามนี้เขาหันมาสนใจหยกดำในมือ เพราะสร้อยหยินหยางในตันเถียนของเขากำลังสั่นไหว
หยกดำนี้เป็นหยกศิลาโบราณ ในความทรงจำของจักรพรรดิสวรรค์ได้กล่าวไว้ว่า มันคือ ‘ผลึกวิญญาณโบราณ’ ที่ประกอบด้วยสัมผัสเทพของเซียนโบราณ วิชา หรือกระทั่งเต๋าแห่งการฝึกตน
บนหยกก้อนนี้มีรอยปริแตก ราวกับมันถูกแบ่งเป็นสองส่วน
สัตว์อเวจีถูกปีศาจกระดูกขาวตามล่า ทำให้มันได้หยกครึ่งนี้มา หนิงฝานพยายามใช้สัมผัสเทพอ่านสิ่งที่อยู่ในหยก แต่ไม่สามารถทำได้
หนิงฝานไม่เห็นสิ่งใด ราวกับสัมผัสเทพของเขายังแข็งแกร่งไม่พอ หรืออาจต้องใช้วิธีการพิเศษเฉพาะ?
หนิงฝานยังใช้สัมผัสเทพผสานกับวิชาหลายๆชนิดเพื่อเข้าสำรวจ
แต่สุดท้ายต้องส่ายหน้ายอมแพ้ เพราะเขาไม่อาจเห็นสิ่งใด
แต่ยามนี้เอง สัตว์อเวจีน้อยที่หมดสติได้ขยับเคลื่อนไหว มันลืมตาหาว แล้วพลิกตัวไปมาบนตักหนิงฝาน
ในขณะที่มันเริ่มสังเกตุรอบข้าง ดวงตาของมันกลับแปรเปลี่ยนเป็นหวาดกลัว เพราะมันรู้ว่ามันกำลังนอนอยู่บนขาของมนุษย์ ทั้งร่างกายยังถูกมนุษย์ลูบสัมผัส
“สารเลว เจ้ารนหาที่ตาย!” แววตาของมันเผยโทสะ มันตะโกนกล่าว เพียงแต่ความจริงแล้วมันกำลังเห่าหนิงฝาน ช่างน่าเศร้าที่มันอยู่ในร่างของสัตว์อสูร คำกล่าวทั้งหมดออกมาเป็นเสียงเห่าเท่านั้น
สัตว์อเวจีตัวนี้คือผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกที่ต่อสู้กับจักรพรรดิปีศาจไป๋กู่... ยามนี้ มันไม่อยากชื่อสายตาตน เพราะมือของหนิงฝานไม่อยู่สุข!
หนิงฝานลูบหลังมัน ลูบก้นมัน เคลื่อนผ่านหว่างขามาถึงบริเวณหน้าอกแล้วเคลื่อนมือหมุนวนซ้ำไปมา
“หยุดนะ! ไร้ยางอาย ข้าคือ ‘จักรพรรดิอสูร’ ข้าคือองค์หญิงเหม่ย เหตุใดเจ้ากล้าล่วงเกินข้าเช่นนี้!”
แววตาของนางเผยความขมขื่น แม้นางจะฟื้นฟูจากอาการบาดเจ็บ แต่ร่างกายของนางยังคงอ่อนแอ ถึงนางจะเห่าได้แต่ไม่อาจสลัดหลุดจากมือของหนิงฝาน จนต้องยอมให้หนิงฝานลูบสัมผัส
นางเป็นผู้รักนวลสงวนตัว แต่หนิงฝานกลับลูบคลำอย่างไร้ยางอาย แต่ยังโชคดีที่นางอยู่กับหนิงฝาน หากนางอยู่กับยุ่ยฉี นางจะโดนอะไรบ้างก็ยากจะจินตนาการ!
“ตื่นแล้วหรือทมิฬน้อย...” หนิงฝานยิ้ม วางหยกดำในมือลง แล้วอุ้มกอดสัตว์อเวจี พลางลูบสัมผัสมันอย่างอ่อนโยน แต่นั่นกลับทำให้องค์หญิงเหม่ยไม่พอใจ
‘ตัวข้าเป็นถึงจักรพรรดิอสูร แต่บุรุษน่ารังเกียจผู้นี้กลับกล้าล่วงเกินข้า... ทมิฬน้อย! มันทำอย่างกับข้าเป็นสัตว์เลี้ยง!’
นางพยายามดิ้นรนขัดขืน แต่ไม่สามารถผละออกจากอ้อมกอดของหนิงฝานได้... ในยามนั้นเอง นางมองไปเห็นหยกดำที่วางอยู่บนพื้น แววตาเผยความเต้น
“เศษเสี้ยววิญญาณจักรพรรดิ! โชคดีที่จักรพรรดิปีศาจไป๋กู่ไม่ได้มันไป!”
นางเริ่มฟื้นคืนสติและขบคิด
‘ข้าหลบหนีมาจากที่แห่งนั้น วิ่งหนีอย่างไร้ทิศทาง กระทั่งพบแสงสว่าง...ข่ายอาคมขนาดใหญ่ ข้ากระโดดเข้าไปแล้วจำอะไรไม่ได้อีก’
‘ข้าถูกร่างแยกของจักรพรรดิปีศาจไป๋กู่ตามล่า... เหตุใดข้ายังไม่ได้ตาย เหตุใดหยกดำยังอยู่... หรือบุรุษผู้นี้เป็นผู้สังหารมัน?’
‘เป็นไปไม่ได้... ตัวตนระดับนั้นใช่ว่าจะสังหารกันง่ายๆ แม้มันจะเหลือพลังเพียงขอบเขตประสานวิญญาณขั้นสูง แต่บุรุษผู้นี้สังหารมันได้อย่างไร?’
“เด็กน้อย... ส่งหยกดำนั่นคืนให้ข้า แล้วข้าจะไว้ชีวิตเจ้า!”
องค์หญิงเหม่ยจ้องมองหนิงฝานด้วยแววตาข่มขู่ จิตสังหารปรากฏแต่กลับถูกหนิงฝานสลายไป
หนิงฝานเป็นมนุษย์ ย่อมไม่เข้าใจเสียงขู่ครางของสัตว์อเวจีน้อยตัวนี้
เมื่อเห็นว่าสัตว์อเวจีเริ่มได้สติสมบูรณ์ หนิงฝานจึงโคจรปราณไว้ที่นิ้ว เคลื่อนสัมผัสร่างของมันเพื่อคลายปราณที่ถูกสกัดไว้
“อย่าขยับ แผลของเจ้ายังไม่หายดี”
ยามนี้ พลังวิญญาณในเส้นชีพจรของหนิงฝานยกระดับครบทั้ง 100 เส้นแล้ว แม้ไม่ได้โคจรดรรชนีคลายหยิน แต่ปราณของหนิงฝานยังให้ผลใกล้เคียงกัน เมื่อปราณของเขาโคจรไปทั่วร่างของสัตว์อเวจี มันก็เริ่มรู้สึกแปลกๆ เพราะสัตว์อเวจีตัวนี้เป็นตัวเมีย
“ปล่อยข้า!”
“สัมผัสตรงนั้นไม่ได้!”
“หากกล้าเคลื่อนมือไปตรงนั้น ข้าจะฆ่าเจ้า!”
คำกล่าวทั้งหมดของนางคือการเห่า หนิงฝานไม่เข้าใจ เขายังเคลื่อนนิ้วสัมผัสไปทั่วร่างของนาง ทำให้นางรู้สึกอบอุ่นและสบายจนอยากนอน
วิชาการนวดของหนิงฝานล้ำเลิศ...
นิ้วมือเคลื่อนสัมผัส นางนอนอยู่อ้อมแขน ขาทั้งสองข้างดิ้นผลักดัน ราคะในใจเริ่มปรากฏ
“วิชาเย้ายวลของมัน... ข้าจะฆ่าเจ้าให้ได้... ข้า... อื้ม~~ อื้ม~~”
ร่างกายของนางไร้เรี่ยวแรง ปราณภายในร่างไม่อาจโคจร เมื่อหนิงฝานเริ่มบีบนวดส่วนต่างๆให้นาง อาการบาดเจ็บภายในร่างจึงเริ่มสลายไปอย่างช้าๆ
กระทั่งสุดท้าย เรื่องที่หนิงฝานคาดไม่ถึงก็เกิดขึ้น
ของเหลวอุ่นๆของนางพุ่งออกจากหว่างขาจนเปียกรดอาภรณ์ของหนิงฝาน... ทั้งกลิ่นของมันยังทำให้ทราบบางสิ่ง
“แท้จริงเจ้ากลับเป็นตัวเมีย! ข้าสัมผัสเจ้าไปหลายที่กระทั่งเจ้า...”
หนิงฝานไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ หนิงฝานทำให้นางถึงจุดสุดยอดโดยไม่ได้ตั้งใจ
เมื่อหนิงฝานแหวกขาของนางดู ความจริงก็เปิดเผย และนั่นทำให้นางอยากตาย
“เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้! ครั้งแรกของข้า...ถูกพรากไปตลอดกาล!”
“มนุษย์ผู้อ่อนแอ... ข้าเป็นถึงองค์หญิงเหม่ย เป็นผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกที่ 3 แต่เจ้ากลับข่มเหงข้า!”
“ทมิฬน้อย เจ้าหายดีแล้ว...” หนิงฝานกล่าวอย่างจริงจัง
“หายดีกับน้องสาวเจ้าสิ! ข้าจะฆ่าเจ้า!” เมื่อหนิงฝานปล่อยนางลง นางหันกลับมากัดเข้าที่นิ้วของเขาทันที เพียงแต่นางกัดไม่แรงมากนัก ท่าทางของนางราวกับสัตว์เลี้ยงที่ไม่พอใจเจ้าของ...
ในขณะที่นางตื่นเมื่อครู่ หนิงฝานไม่ได้สังเกตุว่าหลังจากที่ปีศาจกระดูกขาวตาย ภูติผีในขอบเขตประสานวิญญาณจำนวนมากได้เข้าประชิดข่ายอาคมของตน
และองค์หญิงเหม่ยไม่รู้เลยว่า หนิงฝานคือตัวตนที่น่าหวาดกลัวสำหรับภูติผีเหล่านั้น...