ตอนที่แล้วGE59 โต๊ะแสดงแต้มเกิดปัญหา? [ฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปGE61 ข้าจะฆ่าเจ้า! [ฟรี]

GE60 ข้าไม่ถอด! [ฟรี]


‘ข่ายอาคมภูผา’ ข่ายอาคมเม็ดยาขนาดใหญ่ วางข่ายอาคมผสานระหว่างภูเขาและสายน้ำ สามารถต้านทานการจู่โจมของผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำได้

หนิงฝานเลือกวางข่ายอาคมนั้นในส่วนที่ 2 ของป่า ต่อให้ภูติอย่างปีศาจกระดูกขาวปรากฏตัวอีกครั้ง มันย่อมทำลายข่ายอาคมไม่ได้

แต่ไม่นานนักกลับเกิดเรื่องประหลาดขึ้น หลังจากหนิงฝานวางข่ายอาคมเสร็จได้ไม่นาน ภูติผีในส่วนที่ 2 ของป่าดูราวกับได้รับคำสั่งบางอย่าง ทำให้พวกมันมุ่งตรงมายังตำแหน่งของหนิงฝานอย่างบ้าคลั่ง

คราวแรกมีภูติราว 10 ตน หลังจากนั้นเพิ่มขึ้นเป็นหลายร้อยตน ทั้งหมดล้วนเป็นภูติผีในขอบเขตประสานวิญญาณ หากไม่ได้ข่ายอาคมเม็ดยา หนิงฝานคงไม่รอดจากเงื้อมมือชองพวกมัน

ยากจะคาดเดาว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น แต่เมื่อขบคิดเกี่ยวโยงถึงปีศาจกระดูกขาวที่เป็นร่างแยกของภูติผีในขอบเขตไร้แบ่งแยก... บางทีอาจเกี่ยวข้องกับมัน

แต่แล้วอย่างไง? หากให้หนิงฝานเลือกใหม่ เขาย่อมเลือกที่จะสังหารปีศาจกระดูกขาวเช่นเดิม

บนตักของหนิงฝานมีสัตว์อเวจีนอนหมดสติ มันคาบหยกสีดำไว้แน่นไม่ยอมปล่อย

หนิงฝานเก็บสัตว์อเวจีเข้าไปในแหวนกระถาง เหลือไว้เพียงหยกดำ แม้หนิงฝานจะสัมผัสถึงความไม่ธรรมดาของหยกก้อนนี้ได้ แต่ยามนี้เขาไม่มีเวลาให้ตรวจสอบ

เพราะเบื้องหน้ามีภูติผีอยู่มากมายนับไม่ถ้วน หนิงฝานเก็บหยกดำไปแล้วนำโอสถรักษาออกมา เขานั่งขัดสมาธิ พับแขนเสื้อ แล้วนำชุ่ยหลิงและเยว่หลิงออกมาจากแหวนกระถาง

บนอาภรณ์ของชุ่ยหลิงอาบชุ่มไปด้วยโลหิต นางหมดสติ ใบหน้าซีดขาวราวกระดาษ กลิ่นอายของพลังอ่อนจางราวกับตกตายได้ตลอดเวลา

ส่วนเยว่หลิง น้ำตานางยังไม่หยุดไหล นางจ้องมองหนิงฝานด้วยแววตาที่เกลียดชัง

“เป็นเพราะเจ้า... เป็นเพราะเจ้าท่านพี่ถึงเป็นเช่นนี้! ท่านพี่ของข้าบาดเจ็บหนักก็เพราะเจ้า! เจ้าต้องชดใช้ให้ท่านพี่ของข้า!”

เยว่หลิงกำหมัดแน่น ชกใส่หน้าอกของหนิงฝานอย่างแรง

หนิงฝานขมวดคิ้ว เขายกมือขึ้นแล้วลูบหัวนางเบาๆ

“ข้าช่วยนางได้.. เจ้าเองก็ต้องช่วยข้าด้วย”

ไม่ว่าผู้ใดย่อมมีเวลาที่จะแสดงความอ่อนโยน อย่างน้อยหนิงฝานก็มีมุมนั้น ในเมื่ออีกฝ่ายช่วยเหลือตน ตนไม่อาจกระทำเลวร้ายตอบแทน

เมื่อถูกปลอบประโลมด้วยการสัมผัสอย่างอ่อนโยนและถ้อยคำ ทำให้เยว่หลิงสบายใจขึ้น “เจ้าช่วยท่านพี่ได้จริงๆหรือ?! หากเจ้าช่วยท่านพี่ได้ ข้าจะ...ข้าจะยอมเป็นกระถางขัดเกลาของเจ้า!”

“เจ้าและนางล้วนเป็นกระถางขัดเกลาของข้า”

หนิงฝานยิ้มเล็กน้อย นี่เป็นครั้งแรกที่หนิงฝานยิ้มให้นาง แม้จะเพียงเบาบาง แต่กลับเจิดจ้าดุจดวงตะวัน ทำให้จิตใจของนางสั่นไหว ใบหน้าแดงระเรื่อ

หนิงฝานจัดแจงท่านั่งของตน จากนั้นแผ่สัมผัสเทพแทรกผ่านอาภรณ์ เข้าสำรวจความเสียหายภายในร่างกายของชุ่ยหลิง

เส้นชีพจรฉีกขาด... กระดูกแตกหัก... อวัยวะภายในทั้งห้าปริแตก... หากเป็นมนุษย์ย่อมไม่พ้นความตาย แต่ด้วยนางเป็นผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำจึงยังไม่ตาย แต่หากไม่ได้รับการช่วยเหลือ นางก็ไม่รอดเช่นกัน

อาการบาดเจ็บของชุ่ยหลิงเหมาะที่จะใช้โอสถจักรพรรดิหยก แต่ร่างกายของนางยังอ่อนแอเกินไป นางคงไม่อาจทนกับความเจ็บปวดที่รุนแรงได้

ดังนั้นจึงต้องเริ่มจากการรักษาอวัยวะภายใน เพื่อช่วยยื้อชีวิตของนางไว้ก่อน

หนิงฝานโบกมือนำโอสถผันแปรที่ 3 นามว่า ‘โอสถไร้กำเนิด’ ออกมา โอสถนี้ได้มาจากนิกายไท่ชูไพ่ หานหยวนจี๋เป็นผู้ช่วงชิงมาเพื่อรักษาพิษให้จื่อเฮ่อ แต่ยังมีเหลือ

โอสถชนิดนี้สามารถรักษาอาการบาดเจ็บให้ผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำได้ จึงนับว่าล้ำค่า ต่อให้เป็นโอสถผันแปรที่ 4 บางชนิด ยังไม่อาจเทียบค่ากับมันได้... ในโลกแห่งการฝึกตนมีคำกล่าว ‘โอสถสำหรับปราณล้ำค่า แต่โอสถสำหรับชีวิตมิอาจประเมิณค่าได้’

เมื่อเห็นโอสถไร้กำเนิดที่หนิงฝานนำออกมา เยว่หลิงตกตะลึง

โอสถไร้กำเนิดเป็นโอสถที่โด่งดังในแคว้นเยว่ โอสถชนิดนี้เป็นโอสถลับของนิกายฝ่ายธรรมะอันดับหนึ่ง ตำรับโอสถไม่เคยแพร่งพรายสู่ภายนอก มีเพียงศิษย์ฝ่ายในเท่านั้นที่ทราบ แม้จะดั้นด้นไปร้องขอก็ยังยากจะได้ เช่นนั้นหนิงฝานได้มาอย่างไร?

โอสถชนินดี้ล้ำค่า หากนำไปประมูลขายย่อมได้ราคาสูง เหตุใดหนิงฝานต้องนำมารักษาชุ่ยหลิงให้เสียเปล่า!

ยิ่งขบคิด ความเกลียดชังที่เยว่หลิงมีให้หนิงฝานยิ่งน้อยลง

“เขาเมตตาท่านพี่ของข้า... หากเขาช่วยท่านพี่ได้ ข้าจะยกโทษให้...”

หนิงฝานไม่ได้สนใจสีหน้าของเยว่หลิง ยามนี้เขาคิดเพียงสิ่งเดียว คือช่วยเหลือชุ่ยหลิงให้ได้ โอสถช่วยรักษาอาการบาดเจ็บภายในได้ก็จริง แต่นางยังต้องรักษาเส้นชีพจร เพราะหากเส้นชีพจรเสียหาย โอสถย่อมไม่เคลื่อนไปทั่วร่าง

การรักษาชุ่ยหลิงยากกว่าที่หนิงฝานคิดไว้ แต่นั่นไม่ได้ทำให้หนิงฝานถอดใจ

ยามนี้หนิงฝานลังเลแต่ก็ตัดสินใจ เขากลืนโอสถไร้กำเนิดลงไป จากนั้นแยกเอาพลังรักษาของโอสถ ถ่ายผ่านริมฝีปากของเขา เข้าสู่ริมฝีปากของนาง

แต่ด้วยร่างกายของนางยังรับพลังรักษาจำนวนมากไม่ได้ หนิงฝานจึงถ่ายให้นางทีละน้อย

“เจ้า! เจ้าทำอะไร!”

เยว่หลิงใบหน้าแดงก่ำ นางไม่เคยเห็นผู้ใดรักษาอาการบาดเจ็บด้วยการจูบมาก่อน เช่นนั้น นางจึงคิดว่าหนิงฝานกำลังทำมิดีมิร้ายกับพี่สาวของตน

แต่ไม่นานนัก เยว่หลิงกลับเห็นสีหน้าของชุ่ยหลิงค่อยๆดีขึ้นอย่างช้าๆ

ผ่านไปชั่วธูปไหม้หมดดอก หนิงฝานก็ถ่ายพลังรักษาของโอสถเข้าไปในร่างของชุ่ยหลิงจนหมด เขากระทำอย่างระมัดระวัง กระทั่งชุ่ยหลิงที่หมดสติเริ่มขมวดคิ้ว นั่นหมายความว่านางรู้สึกตัวแล้ว

ยามนี้พลังการรักษาของโอสถเข้าเยียวยาอาการบาดเจ็บของอวัยวะภายในจนคงที่ เส้นชีพจรและกระดูกกำลังผสานตัวอย่างช้าๆ สมแล้วที่โอสถไร้กำเนิด เป็นโอสถที่มีชื่อเสียงของแคว้นเยว่

อุณหภูมิร่างกายที่บอบบางของชุ่ยหลิงเริ่มเพิ่มสูง ความเจ็บปวดจากการผสานเส้นชีพจร ทำให้ใบหน้าของนางเผยความเจ็บปวดอย่างชัดเจน

หนิงฝานขมวดคิ้ว เขาปลดชุดคลุมและอาภรณ์ของชุ่ยหลิงอย่างเบามือ เหลือไว้เพียงชั้นใจของนาง

หน้าอกของนางห่มคลุมด้วยชั้นใน เผยให้เห็นเนื้ออกขาวนวลจนไม่อาจปกปิด หนิงฝานโอบประครองร่างของนางทะยานขึ้นไปยอดเขาที่มีสายลมเย็นพัดโชย ช่วยให้นางบรรเทาความเจ็บปวด

หนิงฝานโคจรดรรนีคลายหยิน สัมผัสที่หน้าอกของนาง ทำให้ลมหายใจของนางเริ่มถี่กระชั้น ราคะและความปรารถนาพุ่งพร่าน

“เจ้า...เจ้ามันไร้ยางอาย! เจ้าทำเช่นนี้กับนาง ทั้งๆที่นางเป็นคนช่วยชีวิตเจ้า! เจ้ามันไม่ใช่มนุษย์!”

เยว่หลิงด่าทอด้วยโทสะ นางคาดไม่ถึงว่าหนิงฝานจะกระทำไร้ยางอายเช่นนี้ พี่สาวของนางกำลังจะตาย แต่หนิงฝานกลับฉวยโอกาสกับเรือนร่างนาง

“ดรรชนีคลายหยินจะช่วยให้นางไม่เจ็บ” หนิงฝานอธิบายเล็กน้อย โดยไม่ใส่ใจว่าเยว่หลิงจะเข้าใจหรือไม่

อำนาจของดรรชนีคลายหยินเมื่อครู่ราวกับปลดเปลื้องความเจ็บปวดทุกสิ่งของชุ่ยหลิง

นิงฝานพยายามผสานเส้นชีพจรที่ขาดสะบั้น และกระดูกที่แตกหักของชุ่ยหลิง นางย่อมเจ็บปวดเป็นเรื่องธรรมดา

ความเจ็บปวดเช่นนี้ หนิงฝานเข้าใจดี เพราะเมื่อยามที่เขากินโอสถจักรพรรดิหยกเข้าไป เขาก็ประสบกับความเจ็บปวดในลักษณะเดียวกัน เขาคาดไม่ถึงว่าร่างกายที่นุ่มละมุนและบอบบางของชุ่ยหลิง จะทนกับความเจ็บปวดระดับนี้ได้

เยว่หลิงเข้าใจหนิงฝานผิดไป นางไม่เคยได้ยินการรักษาเช่นนี้มากก่อน

“ถ้าเจ้ารักษาท่านพี่ของข้าไม่ได้ ข้าจะ...”

นางขบคิดหาถ้อยคำข่มขู่หนิงฝาน แม้จะคิดได้แต่นางกลับไม่กล้ากล่าว

และในยามนนั้นเอง คำกล่าวของหนิงฝานกลับทำให้นางเป็นฝ่ายหน้าแดง

“เยว่หลิง เจ้าถอดอาภรณ์แล้วกอดพี่ของเจ้าไว้ ข้าจะช่วยต่อกระดูกให้นาง”

“ข้าไม่ถอด!”

เยว่หยิงกล่าวตะคอก ใบหน้าแดงก่ำ

นางไม่กล้าถอด หากเพื่อช่วยรักษาอาการบาดเจ็บของพี่สาว นางแค่กอดพี่สาวของนางไว้ก็พอ

แต่ช่างน่าเศร้า แม้นางไม่ถอดอาภรณ์ แต่ด้วยอาภรณ์ของนางบางเบา เมื่อต้องลมสัมผัส อารณณ์ก็แนบชิดเรือนร่าง เผยให้สัดส่วนเว้านูนที่ขาวนวลและงดงาม

เรือนร่างของนางงดงามและต้องตายิ่งนัก

แต่หากถอดอาภรณ์ออกย่อมสำราญตากว่านี้...

เยว่หลิงโน้มตัวกอดพี่สาวของนางที่นอนอยู่บนพื้น แต่หนิงฝานกลับจ้องมองนางไม่วางตา

ใบหน้าและเรือนร่างของนางงดงามเย้ายวน หากได้นางเป็นกระถางขัดเกลา ใครเล่าจะไม่ต้องการ ยิ่งยามที่เหงื่อบนร่างของนางไหลริน ทำให้อาภรณ์ที่เบาบางสัมผัสแนบชิดเรือนร่าง ต่อให้เป็นนักบวชยังต้องหวั่นไหว นับประสาอะไรกับหนิงฝาน

“เจ้าคนมากตัญหา!” เยว่หลิงด่าทอ นี่เป็นครั้งแรกที่นางถูกจ้องมองเช่นนี้

นางนับเป็นสตรีที่งดงามคนหนึ่ง เหตุใดหนิงฝานจะไม่สนใจ

ในยามนั้น หนิงฝานโคจรปราณไว้ที่มือ จากนั้นทาบมือลงบนบริเวณที่กระดูกหักเพื่อช่วยชุ่ยหลิงประสานกระดูกใหม่ แม้ชุ่ยหลิงจะมีอำนาจของดรรชนีคลายหยินข่มความเจ็บ แต่การเชื่อมต่อกระดูกยังทำให้ครางออกมาด้วยความเจ็บปวด

เยว่หลิงเข้าใจแล้วว่าดรรชนีคลายหยินของหนิงฝานช่วยบรรเทาความเจ็บปวดได้จริง

แม้จะรักษาชุ่ยหลิง แต่หนิงฝานเองก็บาดเจ็บหนักไม่แพ้กัน ใบหน้าเขาซีดขาว มุมปากปรากฏคราบโลหิต

ภาพที่เห็นทำให้หัวใจของเยว่หลิงสั่นไหว

“เขาก็บาดเจ็บ แต่ยังทนรักษาให้พี่สาวข้า...”

แม้ยามที่หนิงฝานสังหาร เขาจะกลายปีศาจไร้หัวใจ แต่เมื่อยังเป็นมนุษย์ ย่อมยังมีด้านที่อ่อนโยน

หากเทียบกับปีศาจแล้ว หนิงฝานดีกว่าพวกมันล้านเท่า อย่างน้อยๆเยว่หลิงยังมีโอกาสได้เห็นปีศาจที่อ่อนโยนเช่นนี้ แม้นางจะต้องเป็นกระถางขัดเกลาให้คนผู้นี้ นางก็ยอม

แววตาของเยว่หลิงเผยความอบอุ่น ในเส้นทางการฝึกฝนที่หนาวเหน็บ...กลับยังมีความอบอุ่นแอบแฝง

แม้หนิงฝานจะเป็นคนเย็นชา โหดเหี้ยม แต่ในใจยังเหลือความอบอุ่น และอ่อนโยน...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด